|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เอกสาร เจ้าปัญหา
เอกสารที่ต้องมีในการขอวีซ่า
ข้อ 1 หนังสือเดินทางที่ยังมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน และมีหน้าว่าง อย่างน้อย 2 หน้า
เอาละสิ แค่ข้อ 1 ผมก็ไม่ผ่านแล้ว ก็เพราะผมยังไม่มีพาสปอร์ตเลยน่ะสิ
"ไม่มีก็ต้องไปทำ"
ว่าแล้วก็เข้าสู่ กูเกิล พิมพ์คีย์เวิร์ด " หนังสือเดินทาง วิธีทำ" ผมเลือกเข้าไปดูในเวปของกระทรวงการต่างประเทศ ได้รู้ว่าเขามีที่ให้ทำพาสปอร์ตอยู่สามที่ด้วยกัน คือสำนักงานกงสุลที่แจ้งวัฒนะ เซนทรัลปิ่นเกล้า และเซนทรัลบางนา
ที่ไหนใกล้สุด ผมอยู่บางกะปิ ก็เลยไปบางนาดีกว่า รถไม่ติดด้วย พอผมมีเวลาว่างจากที่ทำงาน เลยแวบออกไปบางนาทันที
เอ แล้วมันอยู่ชั้นไหนหว่า ผมมาเซนทรัลบางนาหลายทีแล้ว แต่ไม่เคยเห็นสำนักงานที่ว่านี้เลย
"ฮัลโหล เออ พี่เอง" ผมโทรถามน้องคนที่จองที่พักที่เกาะช้าง เพราะคิดว่ามันกว้างขวางน่าจะรู้จัก
"ที่ทำพาสปอร์ต ของเซนทรัลบางนามันอยู่ชั้นไหนอ่ะ" "เอ ไม่รู้นะพี่ เดี๋ยวโทรถามเพื่อนให้"
มันก็เงียบไปพักนึง ผมกำลังขับรถเข้าที่จอดรถแล้ว
"ตรู๊ดๆๆๆๆ" มันโทรมาแล้ว
"เออ ว่าไง"
"ชั้น 5 พี่"
"ขอบใจว่ะ" แล้วผมก็วางทันที ตอนขับรถเข้าไปชั้น B1 ตอนที่วางผมเห็นป้ายสีน้ำเงินขนาดใหญ่เขียนว่า "สำนักงานหนังสือเดินทาง" นั่นแน่มิผิดแน่นอน เอที่จอดรถมันเต็ม
แต่เราจะไปชั้น 5 นี่หว่า ไม่เกี่ยว
ว่าแล้วผมก็เลี้ยวซ้ายขึ้นทางวนสู่ชั้น 5 ทันที ถึงเป็นชั้น5 แต่ทางวนรถเนี่ยมันแบ่งเป็น 1A 1B 2A 2B... ไล่ไป ดังนั้นถ้าขึ้นชั้น 5 ก็วนรถ 10 รอบ เออเอาวะอดทนหน่อย
พอชั้นสาม ชั้นสี่ ทำไมไม่มีรถจอดเลยฟะ
ระหว่างทางผมเห็นป้ายเล็กๆบอกว่าสำนักงานหนังสือเดินทางแล้วมีลูกศรชี้ขึ้น ผมมั่นใจว่ามันจะอยู่ชั้น 5 แน่นอน ถึงแม้ผมจะเห็นว่าไม่มีรถจอดอยู่ที่ชั้นสาม และ สี่
พอถึงชั้น 5 อ๋อ เค้ามาจอดกันที่นี่นี่เอง
มีรถจอดอยู่เยอะครับที่ชั้น 5 ผมเลยหาที่จอดแล้วเดินสะพายย่าม เดินเข้าห้างไป
ชั้น5 เป็นชั้นที่มีทางเดินต่อไปยังเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ขึ้นไปอีกชั้น มีร้าน กล้องถ่ายรูป ร้านหนังสือ ร้าน บลาๆๆๆๆ เยอะแยะเลย
แล้วสำนักงานหนังสือเดินทางมันอยู่ไหนวะเนี่ย
"ทางอยู่ที่ปาก" อยู่เมืองไทยยังหลง ไปญี่ปุ่นมึงตายแน่
ผมเลือกคนที่น่าที่จะช่วยผมได้มากที่สุดตอนนั้น รปภ.ห้าง
"เอ่อ สำนักงานหนังสือเดินทาง อยู่ที่ไหนครับ"
"B1"
อ้าวโดนเล่นแล้วกู สอบถามแล้วสำนักงานมันอยู่เลยไอ้ป้ายสีน้ำเงินที่ผมเห็นเข้าไป มันจะอยู่บริเวณโดมสีขาวๆ กลม ด้านล่างเลย ถ้าตามป้ายน้ำเงินไปไม่หลงแน่
"แล้วจอดรถชั้นไหนได้ครับ"
"ได้ทุกชั้นแหละครับ ชั้น 5 นี่ก็ได้ แล้วก็เดินลงไป!!"
ไม่น่าถามเลยผม ถ้าเค้าตอบว่าจอดที่ไบเทคบางนาก็ได้แล้วเดินมา ผมว่ามันก็ยังน่าจะถูกของพี่เค้าอยู่ดี
ผมเลยเดินลงลิฟท์มาที่ B1 แล้วมุ่งตรงไปยังป้ายสีน้ำเงินที่เห็น มีลูกศรส่งต่อไปยังป้ายสีน้ำเงินถัดไป ถัดไป จนส่งผมมาอยู่หน้าโถงในโดมกลมซึ่งเป็นที่จัดขายของ สำนักงานอยู่ด้านซ้าย
มีคนต่อแถวอยู่แล้วบ้างพอสมควร ผมเข้าไปต่อแถวที่เขียนว่า
"ทำหนังสือเดินทางใหม่" และเตรียมบัตรประชาชนตัวจริงไว้ 1 ใบก็พอ ทำหนังสือเดินทางเนี่ยถ้าอายุไม่ถึง 20 ต้องมีผู้ปกครองมาด้วยนะครับ ทำให้เด็กนักศึกษาที่อยู่หน้าผมเสียเวลาไปเรียกแม่มายื่นบัตรอีกคนด้วย
"จะรับเอง หรือส่งทางไปรษณีย์คะ" "รับเองกี่วัน ส่งไปรษณีย์กี่วันครับ"
"รับเองก็ 2 วัน ไปรษณีย์ก็อาทิตย์นึงค่ะ"
ส่งทางไปรณีย์ก็ได้มั้ง ผมแจ้งเจ้าหน้าที่ เลยได้ใบสีขาวมาสามใบ ใบเล็กๆเป็นบัตรคิว และ กระดาษฟอร์มขอทำหนังสือ ใบใหญ่เป็นใบคำขอส่งไปรษณีย์ซึ่งผมไม่ได้ใช้ คิดว่ามาเอาเองเร็วกว่า
เสร็จแล้ววัดส่วนสูงค่ะ
"1.66" คือตัวเลขความสูงที่จะปรากฏในพาสปอร์ตของผม ผู้ชายตัวเล็กๆ (เฉพาะความสูง) ที่จะออกไปผจญภัยนอกแผ่นดินแม่ ตามที่ฝันไว้
"รอเรียกคิวนะคะ" เจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่คอยให้บริการ คอยบอกให้คนที่มาใช้บริการนั่งรอด้านหน้าบูททำหนังสือ
ที่ต้องมีคนบอกเพราะจากโถงด้านหน้าที่มีเก้าอี้เยอะๆ แล้ว บูททำหนังสืออยู่ลึกเข้าไปด้านในและมีหลายบูทมาก คนที่ไม่รู้ก็จะเดินไปเดินมาไม่รู้จะเข้าตรงไหน ป้ายเรียกคิวก็อยู่โน่นผนังด้านในสุด
ด้วยความที่ต้องชั่งสังเกต ผมเทียบบัตรคิวกับป้ายเรียกคิวพบว่า ยังเหลืออีก 5 คิวก่อนจะถึงผม แล้วคนที่เรียกคิวก็จะเข้าไปบูทที่ว่างตามที่ป้ายเรียก
"หมายเลย 493 เชิญช่อง 21 ค่ะ"
ผมก็ลุกไปที่บูท 21 ทันที
ในบูทแต่ละบูทจะมีอุปกรณ์เหมือนกันคือ เจ้าหน้าที่ คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เครื่องสแกนเอกสาร ที่สแกนนิ้ว กล้องถ่ายรูป และ มีบูทให้เข้าไปนั่งเพื่อที่จะถ่ายรูป
ยื่นบัตรประชาชนให้อย่างเดียวครับ
เจ้าหน้าที่กดคีย์บอร์ด แกรกกๆๆๆๆ ผมแอบมองที่หน้าจอ โอ ข้อมูลผมขึ้นมาเต็มเลย มีรูปด้วย เอเป็นรูปที่ผมเคยทำบัตรประชาชนนี่นา ตอนนั้นผมทำที่ต่างจังหวัด
เดี๋ยวนี้ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ออนไลน์หมดแล้วครับ สะดวกดีจริงๆ
"สแกนนิ้วซ้าย ขวานะคะ" เจ้าหน้าจับมือผมไปสแกน
"แล้วถ่ายรูปค่ะ เสื้อขาวใส่สูทด้วยค่ะ" เจ้าหน้าที่ยื่นสูทมาให้
"แชะ" อ้าว ถ่ายแล้วเหรอ ยังไม่ได้เก๊กหล่อเลย
"เสร็จแล้วค่ะ จ่ายเงินด้านโน้นนะคะ"
ผมได้ใบรับหนังสือเดินทาง นัดให้มารับในอีกสองวัน คือวันมะรืน ไปจ่ายเงินที่ช่องจ่ายเงินตรงทางออก
"1000 บาท" คือค่าตัวของหนังสือเดินทาง การลงทุนครั้งแรกก็ได้ออกสตาร์ทไปแล้วครับ
อีกสองวันผมก็เดินทางไปรับ นำใบรับไปยื่นที่ช่องรับ แล้วรับบัตรคิว รอสักพักเจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ผมเข้าไปรับ ตอนรับมีถ่ายรูปไว้ด้วยว่าใครมารับ
"แชะ" แหม โดนถ่ายรูปบ่อยเหลือเกิน
ถือซะว่าเป็นการซ้อมก่อนไปถ่ายที่ญี่ปุ่นละกัน อิอิอิ...
Create Date : 22 กันยายน 2551 |
Last Update : 24 กันยายน 2551 8:41:09 น. |
|
3 comments
|
Counter : 542 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ทีโอดอร์ วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:10:22:13 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:23:18:28 น. |
|
|
|
โดย: annieake วันที่: 26 ตุลาคม 2551 เวลา:12:30:53 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แต่ไม่อดยาก เพราะเค้าชอบบอกกันว่าญี่ปุ่นแพง
แต่ตอนนี้เสียดายน่าจะใช้กินใช้เที่ยวให้เต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เพราะผมเป็นคนที่สนุกกับกินเป็นที่สุด...
//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/09/E5790960/E5790960.html
และ
//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/09/E5796937/E5796937.html