~::: สึนามิ….. สอนให้รู้จักการเป็นผู้ให้…. และให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน (ตอนจบ) :::~
เมื่อมาถึงที่บริเวณวัดย่านยาว…. ขณะที่ยังไม่ทันก้าวลงจากรถ… สิ่งที่แรกที่ทำให้อิชั้นเริ่มจะเขว ๆ แล้วก็คือ… กลิ่นค่ะ… คงไม่ต้องบอกว่าขนาดไหน เป็นยังไงนะคะ….

….. เมื่อก้าวลงจากรถและนำศพไปรวมตรงที่เก็บรวบรวม เพื่อรอพิสูจน์ต่อไป…. แม้จะแค่ได้กลิ่นที่ไม่มีอะไรมาบรรยายได้ สักพักอิชั้นก็ฮึดสู้ค่ะ….. ไหน ๆ ก็มาถึงขณะนี้แล้ว… อีกอย่างเราตั้งใจมุ่งมั่น แน่วแน่มาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมาช่วยจริง ๆ….

….. เมื่อเดินเข้ามาด้านใน…. วูบแรกที่เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า…. อิชั้นขาเริ่มสั่น เข่าเริ่มจะอ่อนก้าวต่อไปไม่ไหวแล้วค่ะ…. น้ำตาจะไหล…. ทำใจไม่ได้ค่ะ



..… ทั้ง ๆ ที่เตรียมตัว เตรียมใจมาดิบดี เตรียมมาพร้อมแล้ว…. แต่…..

….. แต่…. อิชั้นไม่คิดว่า จะมาเจออะไรที่มากมายขนาดนี้….. ศพนับพันวางเรียงราย ซ้อน ๆ กันจนแทบจะไม่มีที่ให้เดิน…..

…… อิชั้นทำอะไรไม่ถูกค่ะ…. ในใจตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่า…. ใครก็ได้ พาอิชั้นกลับบ้านหน่อยเถอะ….




…… ถ้าถามว่ากลัวไม๊….. บอกตรง ๆ ว่าอิชั้นกลัวมาก ๆ เนื่องจากอะไร ๆ หลาย ๆ อย่าง ทั้งคน ทั้งกลิ่น ทั้งผู้สูญเสีย อิชั้นเห็นแล้วทำใจไม่ได้จริง ๆ มันน่าสลดหดหู่ใจมาก ๆ ถึงมากที่สุด …. แบบว่าไม่รู้จะบอกยังไงดี

เคยเห็นแต่ในข่าว ตามทีวี หนังสือพิมพ์ มันก็หดหู่มาก ๆ แล้ว แต่นี่ คือภาพจริง เสียงจริง ที่เราสามรถสัมผัสได้ด้วยสายตา และความรู้สึกของกันและกันโดยไม่ได้ผ่านสื่อใด ๆ มันช่างเป็นภาพที่สะเทือนใจ เศร้าใจ จนไม่รู้จะบอกยังไง

มันเป็นอะไรที่สุดยอดแล้ว สุดยอดจริงๆ ของทุกความรู้สึกในขณะนั้น……….. ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้มาเจออะไรแบบนี้ ต้องมาเจอสภาพแบบนี้………

เวลานั้นเราอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด …….. อิชั้นสงสารเค้า ไม่อยากเห็นคนร้องไห้น่ะ เพราะเสียงร้องของเค้ามันแบบว่า…. ขนลุกอ่ะ ขนลุกจริง ๆ ใจตอนนั้นมันเหลือนิดเดียวเอง มันเหมือนกับว่า ใจเราจะขาดตามเค้าไปด้วยยังไงยังงั้น

……. ขณะที่อิชั้นกำลังเริ่มถอย….. จู่ ๆ … ก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า… แล้วถ้าเป็นญาติเราล่ะ…. เราก็อยากเจอญาติของเรา แล้วนี่คนอื่นเค้าก็ต้องรอคอย เค้าต้องมีความหวัง ว่าจะได้พบญาติของเค้าเช่นกัน…. แต่สภาพตอนนั้น เค้าไม่มีแรง ไม่มีพลังพอที่จะค้นหา เค้าคงฝากความหวังไว้ที่พวกเรา…..

….. แล้วเราล่ะ….. เรายังมีแรงกาย และพลังใจ….. ทำไมเราถึงไม่สู้…. ไหนว่าอยากมาช่วยพวกเค้าไม่ใช่หรอ… เจอแค่นี้ ก็จะไม่สู้ซะแล้ว…. ไหนล่ะ สิ่งที่เราตั้งใจ…. เรายังทำมันไม่สำเร็จ ไม่เต็มที่เลย…..

….. เมื่อคิดได้ดังนี้…. อิชั้นก็กลับมาฮึดสู้อีกครั้ง…. สู้ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะสู้ได้สักแค่ไหน… ((ยังไงก็ขอได้ลองก่อนแล้วกัน))…

….. จากนั้นก็สูดดดดดดดดดด……. สูดให้เต็มปอดอีก 3 -4 เฮือกใหญ่….

….. และเดินไปรอบ ๆ บริเวณวัดย่านยาว…. เดินไปในศาลา เดินไปตรงตู้คอนเทนเนอร์ เดินไปรอบ ๆ …. ที่เก็บศพ…. เดินให้เกิดความคุ้นเคย ให้ชินสายตา สูดกลิ่นให้ชินจมูก

…… แต่ยิ่งสูด ก็ยิ่งแย่ค่ะ เพราะฟอมาลีนเริ่มทำให้แสบจมูก แสบตา จนดวงตาอันอันน้อยนิดของอิชั้นเริ่มหรี่ลง…. หรี่ลง… น้ำตาพาลจะไหลค่ะ….

ฮีโร่ของอิชั้นค่ะ… เมื่อเห็นคุณหญิงหมอทำงานแบบไม่ได้หยุด ไม่ได้พักแล้ว อิชั้นจะอยู่เฉยได้ยังไงล่ะค่ะ…..

….. แม้ว่าสีหน้าของท่านจะอิดโรย แต่แววตาคุณหญิงยังคงฉายประกายแห่งความหวังและความสุขอย่างเต็มเปี่ยมค่ะ




.. พวกเราอยู่ช่วยกันที่วัดย่านยาวจนค่ำ…. ตอนนั้นเริ่มปวดท้องหิวข้าว…เพราะพวกเรากินกันมาตั้งแต่ตอนเช้าที่มาถึงภูเก็ตแค่นั้น แล้วยังไม่ได้กินอะไรอีกเลย….

….. สักพักทางทีมอาสาด้วยกัน เอาอาหารเจ ที่เป็นโปรตีนเกษตรอบคล้าย ๆ หมู กับข้าวเหนียวมาให้คนละ 1ชุด…. แต่ตอนนั้นอิชั้นกินไม่ลงจริง ๆ ค่ะ ไม่ได้รังเกียจเลยนะคะ แต่มันบอกไม่ถูกจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่หิวจนตาลาย….

….. เมื่อความมืดเข้ามาเยือน อิชั้นก็ยิ่งอยากร้องไห้กลับบ้านมาก ๆ เลยอ่ะ ใครจะรู้บ้างไม๊เนี่ย ว่าอิชั้นกลัวผีขนาดไหน บอกพี่ชายมันก็ไม่เชื่อ …… เพราะถ้าคนกลัวผีจริงๆ คงจะไม่เสนอหน้ามาแบบนี้แน่นอน

ยิ่งมืดมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้นเท่านั้น ……. ที่สำคัญมันยิ่งกระวนกระวายและหวาดระแวงหนักเป็นทวีคูณ เมื่อรู้ว่า คืนนี้เราจะต้องนอนกันที่นี่……. ก็แถวที่เก็บศพนี่แหล่ะ

ตายล่ะ ตายแน่ ๆ อิชั้นต้องตายแน่ ๆ ….. ไม่อาววววว ไม่ไหวจริง ๆ อ่ะ ….. ตอนนั้นอิชั้นเหมือนคนวิตกจริตไปแล้วค่ะ หวาดระแวง กลัว กระวนกระวาย กระสับกระส่าย แบบว่ามันรุมเร้ามาก ๆ จนบอกไม่ถูก…. รู้แต่เพียงว่า ตอนนั้นอิชั้นรู้สึกไม่ดีแน่ ๆ …..

…… อยากร้องไห้มาก ๆ เลยค่ะ …. อิชั้นไม่ได้รังเกียจศพ หรือกลัวศพนะคะ แต่อิชั้นกลัวผีค่ะ… กลัวชนิดที่หัวหด ขี้ขึ้นสมองเลยล่ะค่ะ….

…… ใกล้ ๆ กันเป็นโรงเรียนวัดบางม่วง เค้าจะให้พวกอาสาส่วนหนึ่งมาพักอยู่ที่นี่…. แต่…… เนื่องจากไฟฟ้าไม่มี…. ทุกอย่างมืดตึ๊ดตื๋อ…. ห้องน้ำก็ไม่มี…. อิชั้นเข้าห้องน้ำครั้งสุดท้ายตอน 9 โมงเช้าในตัวเมืองภูเก็ต จนป่านนั้นเกือบ 5 ทุ่มแล้วค่ะ….

…… ในใจอิชั้นก็กังวลตลอดเวลาว่า… เราจะมาเป็นภาระของพวกเค้าเปล่านะ… เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียว จะทำอะไรก็ไม่สะดวก เราเลยเหมือนกลายเป็นคนเรื่องมาก… แบบบอกไม่ถูก….


….. 5 ทุ่มกว่า ๆ …. อิชั้นก็ทนฝืนความรู้สึกต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ อิชั้นจะบ้าตายแล้วอ่ะ …. อิชั้นกลัวผี จนวิตกจริต ไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว ใครเดินผ่านก็ระแวง สะดุ้งตกใจไปหมด เพราะมันมืดมากจริง ๆ นะ มองไม่เห็นอะไรเลย …วังเวงสุด ๆ

……. อิชั้นเฝ้าร้องขอ อ้อนวอนพี่ชายให้พาอิชั้นออกจากที่นี่หน่อยก่อนที่อิชั้นจะเสียสติ….

สุดท้าย….พวกเราจึงต้องอพยพกันลงไปภูเก็ต ตีรถลงไปภูเก็ตอีก 100กว่ากม. เพื่อหาที่อาบน้ำ ที่นอน เพราะเราเหนื่อยกันมาก นี่ขนาดวันเดียวเองนะ……. แล้วพวกเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่เค้าอยู่กันมาตั้งแต่แรกล่ะ แบบว่าสุดยอดมาก ๆ เลย…. อิชั้นนับถือพวกเค้าจริง ๆ …. จิตใจเกินร้อยมาก ๆ ค่ะ

….. .ใครไม่ไปเจอ ไม่ไปอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้…. อาจไม่เข้าใจหรอกค่ะ…..

……ถึงตัวเมืองภูเก็ต ตอนตี 1 กว่า ๆ …. โรงแรมที่พักเต็มหมด… ขับรถวัน ๆ เวียน ๆ หาที่พัก เพียงแค่เพื่อล้างหน้า อาบน้ำอาบท่าก็ยังดี… เพราะตอนนั้นพวกเราไม่ได้หวังว่าจะได้นอนแล้วล่ะค่ะ เพราะตี 5 ต้องรีบกลับไปที่เขาหลักอีกครั้ง…. เพราะมีงานรอพวกเราอยู่อีกมาก….

…… สุดท้าย…. ตัวเลือกที่ดี และเหมาะกะพวกเรามากที่สุดเท่าที่เราหากันได้คือ…. ปั๊มน้ำมันค่ะ….

…… ทยอยกันไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันในห้องน้ำของปั๊มนี่ล่ะค่ะ…. ดีที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้…..


…… ตี 5 กว่า ๆ แวะหาอะไรกินกันไปให้พร้อมก่อน…. เช้าวันนี้โชคดีมาก ๆ …ขณะที่อิชั้นกำลังบ่น ๆ อยู่ว่าอยากใส่บาตรมาก ๆ ….จู่ ๆ ก็มีหลวงพ่อรูปหนึ่งมาโปรดสัตว์โลกอย่างพวกเรา …ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ…. อิชั้นและพลพรรคก็รีบซื้ออาหาร ดอกไม้ ใส่บาตรหลวงพ่อกันยกใหญ่….. และไม่ลืมอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่สูญเสียกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยล่ะค่ะ

…… มันช่างเป็นเช้าของวันที่สดชื่น แจ่มใส และมีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ

….. เสร็จสิ้นภารกิจส่วนตัว พวกเราก็เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่วนรวมกันต่อค่ะ…..

…… เช้านี้…. เป้าหมายต่อไปของพวกเรา คือ บ้านน้ำเค็ม ที่ท้ายเหมืองค่ะ เพราะได้รับการประสานงานว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่นี่นับพัน แล้วตอนนี้ยังสูญหายอีกนับไม่ถ้วน…………. พวกเราจึงรีบมุ่งหน้าไปบ้านน้ำเค็มอย่างเร็วที่สุด

……ระหว่างทาง ถ้าเจอชาวบ้านที่ประสพภัย พวกเราก็จะลงไปแจกเสื้อผ้า ข้าวของที่จำเป็นกันเรื่อย ๆ …… เพราะเห็นจากสภาพที่เค้าเอามากองกันข้างทางแบบเมื่อวานแล้ว กลัวว่าของบริจาคต่าง ๆ จะไม่ถึงมือผู้เดือดร้อนจริง ๆ





ที่บ้านน้ำเค็ม…. อิชั้นเจอเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งสะเทือนใจสุด ๆ และประทับใจสุด ๆ….

….. กองเสื้อผ้า ข้าวของที่คนใจดีร่วมกันส่งมาให้ผู้เดือดร้อนค่ะ…. กองมหึมามาก ๆ




….. ยังมีผู้มาบริจาคสิ่งของ เครื่องใช้อย่างต่อเนื่องค่ะ…. น่าดีใจแทนผู้ประสบภัยค่ะ ว่าอย่างน้อยก็ยังโชคดีที่มีผู้ยื่นมือมาช่วยเหลือ…. ถึงแม้บางอย่างจะไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่มันก็เทียบกับน้ำใจและความตั้งใจของผู้ให้ไม่ได้เลยค่ะ



.......................................................................




….. ที่นี่…. รู้สึกว่าจะเดือดร้อนกันมาก ๆ และมีผู้เสียชีวิตที่ยังสูญหายอยู่จำนวนมาก ถึงมากที่สุด…. มาถึงที่นี่ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันออกสำรวจและค้นหา ขณะที่อิชั้นเดิน ๆ ลงไป (คิดว่า) กลางทุ่ง กับน้องชาย วัย 17 ปี ที่ตามมาด้วย ….. เดินออกไปได้สัก 500 เมตร ก็จะมีแอ่งน้ำขังเเฉะ ๆ ซึ่งตรงนี้ จริง ๆ ไม่ใช่พื้นดิน แต่มันเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ ที่ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ บ้านเรือนจำนวนมากลงมาถมอยู่ในบ่อนี้ จนกลายเป็นพื้นดินธรรมดา

….. ขณะที่เดินออกค้นหาอยู่นั้น…. ในใจอิชั้นท่องอยู่ตลอดเวลาว่า…. “ข้าพเจ้ามาดีนะคะ ตั้งใจมาช่วยพวกคุณทุกคนด้วยความบริสุทธิ์ใจนะคะ หากข้าพเจ้าได้ล่วงเกินสิ่งใดไป หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เดินข้าม เดินเฉียด หรือเหยียบพวกท่านไป พวกข้าพเจ้าต้องขอโทษจริง ๆ ค่ะ และพวกท่านโปรดยกโทษให้พวกเราด้วยนะคะ พวกเรามิได้มีเจตนาจะไปลบหลู่ ดูหมิ่นพวกท่านเลยแม้แต่น้อย…. พวกเราอยากช่วยพาพวกท่านไปพบญาติค่ะ” …. อิชันก็จะนึกถึงอยู่แบบนี้ตลอดเวลา….. ที่ก้าวเท้าออกไป

เดินผ่านรถแบ็คโฮ ที่กำลังถาก ๆ คุ้ย ๆ อยู่ ก็รู้สึกว่าขนลุกซู่ หวิว ๆ แล้วมีกลิ่นวูบเข้าใส่หน้าอย่างแรงจนผงะ…….

จึงชะงักแล้วตะโกนบอกน้องชายว่า… “น้องนัด ชัวร์เลยว่ะ แถวนี้ชัวร์ เจ๊ว่าเจอแน่ ๆ ช่วยกันหาเร็ว”….

……..อิชั้นกะน้องชายก็ช่วยกัน…. สักพักเจ้าน้องชายก็ตะโกนขึ้นว่า ….. “เจ๊รัตน์นั่น ๆ เหมือนขาคนเลยอ่ะ” …..

…… พอให้รถฯ มาตักขึ้น แล้วก็เจอพี่ผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ…. อิชั้นดีใจ และตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะ…. พี่เค้าจะได้กลับบ้านแล้วค่ะ….

….. อิชั้นจึงโทรไปบอกพี่ชายให้มาช่วยตรงนี้หน่อย….



….. วินาทีนั้น…. ไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งสี แบ่งฝ่ายกันหรอกค่ะ… ใครบอกว่าปอฯ กับร่วมฯ มีปัญหากัน ทำงานร่วมกันไม่ได้… จริง ๆแล้วมันไม่ใช่เลยค่ะ…. ทุกคน ทุกฝ่ายต่างร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดีค่ะ…..




………. จำนวนชาวบ้านที่มายืนดูนับร้อยนี้ อย่าคิดว่าเป็นไทยมุงนะคะ เพราะตอนแรกอิชั้นก็เข้าใจว่าไทยมุง…….แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่หรอกค่ะ พวกเขาเหล่านี้ คือคนที่รอดชีวิตจากที่นี่ และญาติผู้เสียชีวิตที่มาจากที่อื่น เค้าก็มารอญาติเค้าเหมือนกัน ……….. เค้ามาดูกันว่า ศพที่หาขึ้นมาได้นั้น….. จะใช่ญาติเค้ากันหรือเปล่า…..

สักพักยังไม่ทันแบกศพผู้หญิงคนนี้ไปถึงรถเลยมั๊ง ก็เจอศพเด็กอีกแล้ว….. อีกแล้ว…. และอีกแล้ว….

((จริง ๆ แล้วมีรูปอีกมากค่ะ แต่เกรงว่าจะไม่เหมาะสม และอาจทำให้สะเทือนใจได้ เลยไม่ลงนะคะ..))

….. ทุกครั้งที่พวกเราพบเค้า มันยิ่งเป็นการเพิ่มกำลังใจ และความมุ่งมั่นของพวกเราเข้าไปอีกว่า…. ยังมีคนที่รอพวกเราอยู่ เค้ายังรอให้เรามาพาพวกเค้ากลับบ้าน….

….. ช่วงเวลานั้น ลืมหิว ลืมเหนื่อย ลืมร้อน ((ทั้ง ๆ ที่แดดออกเปรี้ยง ๆ ))… ลืมเรื่องส่วนตัว ลืมอะไรต่อมิอะไรไปเสียหมดทุกอย่างค่ะ…. คิดอยู่อย่างเดียวว่า… เราต้องพาเค้ากลับบ้านให้ได้ และให้ได้มากที่สุดค่ะ….

….. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ… ก็บาดเจ็บกันบ้างค่ะ…. แต่เรื่องแค่นี้มันก็ไม่ได้ทำให้พวกเราท้อเลยค่ะ…. เมื่อเทียบกับผู้ประสบภัยอื่น ๆ …. โอ๊ยยยยย ขี้ประติ๋วค่ะ… มันไม่ได้ทำให้พวกเรารู้สึกเจ็บ หรือระคายเคืองได้หรอกค่ะ….



…… เจ้าหน้าที่อาสาฯ จะต้องเดินหามกันแบบนี้ ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ เลย …ถึงพวกเราจะเหนื่อยกันขนาดไหน ก็ไม่มีใครปริปากบ่นสักคำ แต่พวกเรายังคงมุ่งมั่นช่วยกันค้นหาผู้สูญหายกันต่อไป

ยอมรับค่ะว่า คนที่ไม่ดีจริง ๆ ก็มี ที่มาเพื่อหาอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผู้สูญหาย แต่นั่นมันส่วนน้อยจริง ๆ ค่ะ….คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาช่วย เค้ามากันด้วยใจจริง ๆ ค่ะ…. มาด้วยศรัทธาอันแรงกล้า มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ….. เหมือนอิชั้น ที่จริง ๆ แล้วจะกลัวผีขึ้นสมอง แต่ด้วยศรัทธาในการอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ …. พวกเราจึงต้องทำ… และทำให้ได้มากที่สุดค่ะ..…





พลังน้ำมันยิ่งใหญ่มหาศาลจริง ๆ ค่ะ…แต่ยังไงซะก็ไม่เท่าพลังน้ำใจที่พวกเราคนไทยมีให้กันหรอกค่ะ….



........................................................................




……อิชั้นรู้สึกว่าเรื่องมันคงไม่จบง่าย ๆ แน่ค่ะ ถ้าจะให้เล่ากันจริง ๆ เพราะมันหลากหลายรสชาติ หลากหลายอารมณ์ และความรู้สึก หลากหลายเรื่องราวความประทับใจอย่างยิ่งค่ะ ที่อิชั้นมีโอกาสได้ไปเจอะไปเจอ ได้รับรู้ และสัมผัสมา ……


งั้นขอสรุปแบบให้จบแบบรวดเร็วและสวยงามที่สุดเลยละกัน จะได้ไม่เสียเวลา

…… แม้ว่าเรื่องราวทุกอย่างจะจบลงแค่ในนี้ ….. แต่อิชั้นรับรอง และยืนยันได้เลยว่า ยังไงซะ เรื่องนี้ มันจะไม่จบลงในความรู้สึกและความทรงจำของอิชั้นอย่างแน่นอนค่ะ …… ทุกเรื่อง ทุกรส ทุกสัมผัส มันจะยังคงฝังแน่นอยู่ในทุกห้วงเวลาและก้นบึ้งของหัวใจของอิชั้นตลอดไป……..

…… ทุกวันนี้ทุกครั้งที่ได้เห็นและนึกย้อนไปถึงวันนั้น ภาพและเสียงต่าง ๆ ยังวนเวียนอยู่รอบ ๆ ตัวอิชั้นตลอดเวลา ยิ่งเวลาเปิดทีวีแล้วเจอเหตุการณ์นี้ ยิ่งทำให้อิชั้นนั่งคิด นอนคิดทบทวน ลำดับเหตุการณ์ ไล่เรียงความรู้สึกทุก ๆ อย่าง ที่มีทั้งน้ำตา และรอยยิ้ม ……

……ที่เป็นสุดยอดที่สุดในชีวิต ของผู้หญิงธรรมดาคนนึง.... ที่มีโอกาสได้ทำอะไรเพื่อเพื่อนมนุษย์บ้าง… อย่างที่อิชั้นตั้งใจไว้….

นอกจากความอิ่มเอิบใจ ความภาคภูมิใจ ความประทับใจแล้ว ยังมีผลพลอยได้ทางกายที่เป็นน่าพอใจอีกด้วย…

…….. เนื่องจากกลับมาคราวนี้ น้ำหนักหายไปเกือบ 5 กิโล เจ้าค่ะ ส่วนเกินต่าง ๆ หายไปในบัดดล เพราะอิชั้นกินอะไรไม่ลงอ่ะ บางวันก็ลืมหิวไปเลย… และนอนไม่หลับเลย แถมขากลับ ต้องคอยนั่งบอกทางคนขับ เพื่อพาพวกเราทุกคนกลับมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย…..


…….. หลังจากผ่านงานนี้ไป อิชั้นรู้สึกว่า… ในโลกนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับอิชั้นอีกแล้ว ((นอกจากกลัวผีเหมือนเดิมค่ะ..เหอ ๆ))

……ความกลัวมันเลยเปลี่ยนเป็นความปลง ปลงซะยิ่งกว่าปลงเสียอีก…..

….. การที่อิชั้นได้ไปร่วมทุกข์ร่วมสุขครั้งนี้ด้วยกันกับใครหลาย ๆ คน ทำให้อิชั้นได้คิดอะไรได้เยอะแยะมากมายเลยค่ะ ……

….. กลับมาถึงบ้าน…. อิชั้นเคยโกรธใคร เคยทะเลาะกับใคร…. อิชั้นจึงรีบไปขอโทษเค้าก่อน ((ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเรา))… อิชั้นกล้าที่จะเอ่ยปากขอโทษ…. ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ โดยไม่ต้องลังเล….หรือคิดมากใด ๆ

….. สิ่งต่าง ๆ ที่ได้แต่คิด แต่ไม่ได้ลงมือทำสักที อิชั้นก็รีบลงมือทำ… เริ่มทำ… ทำซะก่อนที่อิชั้นจะไม่มีโอกาสจะได้ทำมันเลยก็ได้ค่ะ…..


…… และอย่างน้อยที่สุดก็คือ…. 2 พี่น้อง ที่โคจรมาเจอหน้ากันทีไร ก็ทะเลาะกันทุกที ((แม่บอกว่ากัดกันยิ่งกว่าหมา))… หน้ามันอิชั้นก็ไม่อยากจะมอง….

…… แต่จากงานนี้…. เป็นอย่างไร ภาพนี้คงยืนยันได้เป็นอย่างดีค่ะ….






….ชีวิตคนเราเกิดมาก็เท่านี้แหล่ะค่ะ จะยาก ดี มี จน หรือจะรวยล้นฟ้าสักแค่ไหน สุดท้ายทุกคนก็หนีไม่พ้นสภาพเน่าเหม็นเเบบนี้ไปได้

….. แต่พวกเราที่มีชีวิตอยู่ตอนนี้ยังโชคดีกว่าคนพวกนั้นอีกมากมายนัก…. โชคดีที่เรายังมีเวลาเหลือพอให้คิด ให้ฝัน ให้ทำอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย (ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้หรอกว่าอีกนานเท่าไหร่) ……………

เพราะฉะนั้น…. เราจะมาโกรธ มาเกลียดกันทำไม อะไรจะเกิดขึ้นอีกข้างหน้า เราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลย …… ดังนั้น เราเอาเวลาที่มีเหลือกันอยู่น้อยนิด มาคิดแต่สิ่งดี ๆ ทำแต่เรื่องดี ๆ รู้สึกดี ๆ ต่อกันดีกว่า……

…… ก่อนที่มันจะสายเกินไป…… และก่อนที่เวลาของเราหมดลงไปอย่างไม่ทันตั้งตัว


อิชั้นขอร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์สินามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2548 และผู้ที่สูญเสียทุกท่านค่ะ…..

และขอเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คนบนโลกใบนี้…. ให้สู้และเข้มแข็งต่อไปนะคะ… ไม่ว่าเหตุการณ์เลวร้ายอะไรก็ตามจะผ่านเข้ามา…. ขอให้ทุกคนมีใจพร้อมที่ลุกขึ้นสู้… ทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ…..




ขอขอบพระคุณ…คุณคุณหญิงหมอพรทิพย์ ผู้เป็นฮีโร่ของทุก ๆ คน และผู้ที่เป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือครั้งนี้…. และยังเป็นกำลังใจให้เหล่าอาสาฯ ทุกคน มีแรงกายและแรงใจ ที่จะเสียสละ และช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์….. ((สุดจะบรรยายค่ะ))…. รวมถึงทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายด้วยค่ะ

และขอขอบคุณทุก ๆ น้ำใจอันงดงามของเหล่าอาสาสมัครทุก ๆ คน อีกทั้งคลื่นน้ำใจของคนไทยทุก ๆคน ที่ได้มีส่วนช่วยเหลือ และมอบสิ่งของให้กับผู้ประสบภัยทุก ๆคน

….. อิชั้นก็ไม่รู้จะบอกยังไงอ่ะนะคะ….. เป็นอันว่า…. ทุกเหตุการณ์ ทุกเรื่องราว ทุกความรู้สึกที่ผ่านมา…. อิชั้นเชื่อว่าทุก ๆ คน สามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเองค่ะ


…………… ขอขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ที่ติดตามเรื่องราวจนจบ…………







Create Date : 04 มิถุนายน 2557
Last Update : 4 มิถุนายน 2557 22:26:38 น.
Counter : 2863 Pageviews.

0 comments

largeface
Location :
กระบี่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



บางครั้ง..... เปรี้ยวอย่างมะนาว....
บางคราว..... หวานปานน้ำผึ้ง....
บางที..... ก็ทะลึ่งอย่าบอกใคร... อิอิ










Group Blog
มิถุนายน 2557

1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add largeface's blog to your weblog]