ความทรงจำเกี่ยวกับยูโดในปี2012ของผม
1.ดีใจที่ได้ไปซ้อมยูโดฤดูหนาวที่โคโดกังตอนช่วงต้นเดือนมกราคมเป็นเวลา10วัน เพราะมันถือว่าเป็นการวัดใจ ที่จะต้องตื่นตั้งแต่ตี3ครึ่งปั่นจักรยานไปนั่งรถไฟรอบเช้าสุดเพื่อที่จะให้ไปทันซ้อมตอนตี5ครึ่งอากาศที่ญี่ปุ่นเดือน1 ไม่ต้องพูดถึงหนาวทุเรศ 2.ดีใจที่ไปซ้อมทั้ง10วันจนครบถึงแม้ว่าตอนซ้อมเสร็จแต่ละวันจะอ่อนเพลียหน้าตาและร่างกายเป็นซอมบี้ก็ตามบางวันซ้อมเสร็จไปเรียนต่อจนถึงเย็นแล้วไปซ้อมต่อช่วงเย็นอีก (บ้าไปแล้ว) 3.ดีใจได้กินข้าวต้มฟรีทั้ง10วันในการมาซ้อมที่โคโดกังช่วงเหนื่อยล้าหลังซ้อมเสร็จได้ข้าวต้มร้อนๆบนวงสนทนาเกี่ยวกับผู้สนใจในยูโดแล้วถือว่าสุดยอดมาก 4.ดีใจที่ไปซ้อมฤดูหนาว10วันนี้ ได้เทคนิคเนวาซะมาเกือบ30ท่าถือเป็นการยกระดับเทคนิคเนวาซะแบบก้าวกระโดดเลย 5.เสียใจ สิ่งที่ได้เรียนมาในการซ้อม10วันนี้ไม่ค่อยได้เอามาทบทวนจนลืมหายไปตามกาลเวลา 6.ดีใจที่รู้ว่าถ้าไม่ทบทวน มันจะต้องถูกลืมแน่ๆ ก็เลยมีการจดไว้ทุกท่าทุกจุดที่สำคัญในสิ่งที่อาจารย์สอนทั้ง10วันนี้ 7.ดีใจ ที่ได้มาช่วยในงานคากามิ บิรากิ ของโคโดกังรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของโคโดกัง ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เศษฝุ่นเล็กๆก็ตามงานนี้กินโมจิถั่วแดงไป2ชามกับส้มไปประมาณ5ลูก 8.ดีใจที่ในงานคากามิ บิรากิ ได้เห็นการแสดงกาต้า ทุกชนิดของโคโดกังโดยอาจารย์ผู้สอนเป็นผู้แสดง ดูในระยะประชิดแล้วพลังและท่าทางสุดยอดมาก 9.เสียใจที่ในงานนี้ อดได้เป็นตัวแทนไปรันโดริโชว์กับทีมชาติญี่ปุ่นด้วยเหตุผลที่ว่ายังไม่สายดำ 10.ดีใจที่ในช่วงของการซ้อมฤดูหนาว10วันช่วงเช้ามีเปิดให้ซ้อมในช่วงเย็นด้วย2วัน 11.ดีใจที่มาซ้อมช่วงเย็น2วัน ได้พื้นฐานเนวาซะที่สำคัญของโคโดกัง(เปิดสอนปีละครั้งเท่านั้น) 12.ดีใจที่ได้เรียนรู้พื้นฐานเนวาซะหรือที่เรียนว่า เซไกอิดชูของโคโดกัง และสิ่งนี้ช่วยให้ผมเข้าใจการกดนอน โอไซโกมิ ได้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะการใช้ต่อเนื่อง หรือว่าการดิ้นให้หลุดจากการโดนกด (ใครไม่รู้จักท่าเนวาซะชุดนี้ไม่ใช่เด็กโคโดกัง) 13.ดีใจที่ท่าเซไกอิดชูนี้ ถึงจะผ่านมานานแต่มันก็ไม่ลืมเลือนหายไปคงจะคล้ายๆกับการขี่จักรยานคนที่ขี่ได้แล้วนานไปอาจจะลืมไปหน่อยแต่ก็ยังสามารถขี่ได้เหมือนเดิม 14.ดีใจได้เลื่อนเป็น1คิวในเดือนมกราคม 15.ดีใจได้กลับเมืองไทย ไปแข่งในงานชิงแชมป์ประเทศไทย(ขอขอบคุณน้องๆเพื่อนๆและอาจารย์ที่ให้โอกาสในครั้งนี้)ถือเป็นการหาประสบการณ์ครั้งแรก และเป็นการเล่นยูโดครั้งแรกที่ไทย 16.ดีใจได้มีโอกาสไปซ้อมกับน้องๆ ที่โรงเรียนกีฬาชลบุรีเป็นครั้งแรกเป็นสนามยูโดแรกที่เหยียบเลยครับ 17.ดีใจน้องๆอัธยาศัยดีมากๆ ซ้อมสนุก ใสซื่ออาจารย์ให้ลองแข่งกับน้องๆดูด้วยครับ 18.ดีใจที่แพ้ในการแข่งขันกับเด็กน้อย โดยรวมผมถือว่าทำได้ดีแล้วครับและถือเป็นการเก็บประสบการณ์ครั้งแรกด้วยครับ 19.ดีใจที่ไปแบบไม่รู้เรื่องแล้วจะสามารถหาเบาะยูโดของม.ธุรกิจบัณฑิตย์เจอจนได้ 20.ดีใจอาจารย์ที่นั้นใจดี บรรยากาศการซ้อมก็เป็นไปด้วยดี 21.ดีใจได้ลงแข่งรอบแรก แต่ตกรอบสอง 22.เสียใจที่แพ้เพราะโอกาสผ่านเข้ามาเยอะแต่ไม่สามารถคว้าเอาไว้ได้เอง 23.ดีใจกลับมาสอบสายครั้งสุดท้าย ในเดือนเมษายนจะได้จบหลักสูตรรับสายดำซะที 24.ดีใจการแข่งสอบสายรอบแรก ทำได้ดีสามารถชนะคู่ต่อสู้ที่หนักกว่าถึง30กว่ากิโลได้ไม่ยาก 25.ดีใจการแข่งสอบสายรอบที่สอง ก็เดินเกมส์ได้ดีจนคิดว่าชนะแน่นอน 26.เสียใจแพ้ในรอบที่สอง เพราะขาหักทำให้การแข่งนัดสุดท้ายไม่สามารถเก็บชัยชนะไว้ได้ 27.ดีใจกับการช่วยเหลือต่างๆของเพื่อนและอาจารย์จนมาถึงโรงพยาบาลโดยเฉพาะอาจารย์แปดดั้งที่เป็นผู้ปฐมพยาบาลเข้าเฝือกแบบหาเอาทรัพยากรแถวนั้นมาใช้ 28.เสียใจต้องเจาะเลือด ที่แน่ๆเจ็บและนอกจากเจ็บแล้วเจาะที่ไหนไม่เจาะต้องถอดกางเกงแล้วเจาะตรงขาหนีบอายพยาบาลจังเลย 29.ดีใจอยู่ห้องรวม6คนของโรงพยาบาลอย่างน้อยก็ไม่ต้องเจอกับจูออนตัวต่อตัวแล้วในห้องเดียวกันมีคนบาดเจ็บเพราะยูโดถึง4คน 30.เสียใจ ต้องผ่าตัดเพราะไม่มีประสบการณ์การผ่าตัดเลยหมอก็ไม่อยากอธิบายเยอะเพราะพูดไปก็ไม่รู้เรื่องกันอยู่ดี สรุปแล้วว่าหน้าที่ผ่าเป็นของหมอ ส่วนหน้าที่ผมคืออดอาหารและนอนเฉยๆตอนผ่าเป็นใช้ได้ 31.ดีใจ ต้องผ่าตัด เพราะคิดว่าหมอคงเลือกทางออกที่ดีสุดให้แล้ว 32.ดีใจอาจารย์ที่มหาลัยมาเยี่ยมรู้ได้ไงก็ไม่รู้ทั้งๆที่ไม่ได้บอกใคร ที่สำคัญอาจารย์เอาข่าวดีมาให้ด้วยว่าที่มหาลัยเลือกคนที่ได้รับทุนและผมก็เป็น1ในคนที่ถูกเลือก (เซ็นเอกสารกันบนเตียงที่โรงพยาบาลกันเลยทีเดียว) 33.ดีใจเพื่อนมาเยี่ยมพร้อมขนมน่ากินหลายอย่างเลย 34.ดีใจอาหารโรงพยาบาลทำให้ผอมลงอย่างเห็นได้ชัด 35.ดีใจไม่ต้องเดินเอง มีรถเข็นส่วนตัว ไปไหนแสนสบายจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้แขนช่วงไหล่ผมโตขึ้นก่อนแต่ก่อน 36.เสียใจไม่ต้องเดินเองด้วยระยะเวลาเพียงแค่2อาทิตย์ทำให้กล้ามเนื้อขา(ข้างขวา)ลีบลงไปผ่านมาแล้วครึ่งปีกว่าก็ยังไม่สามารถกลับคืนมาเหมือนเก่าได้ 37.ดีใจเพื่อนให้หนังสือยูโดมาศึกษา2เล่มเล่มนึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการช่วงชิงจังหวะจับส่วนอีกเล่มนึงเป็นเรื่องเนวาซะผมแปลเล่มชิงจังหวะจับไปแล้ว ส่วนอีกเล่มศึกษาเองแต่ยังไม่มีโอกาสได้สรุปเป็นเรื่องเป็นราวซะที 38.ดีใจได้ออกจากโรงพยาบาล และได้ของแถมมาเป็นไม้เท้า2อันคราวนี้กลับไปเรียนต่อได้แล้ว 39.เสียใจหลังจากออกจากโรงพยาบาล มาถึงโรงเรียนกลายเป็นจุดเด่นใครๆก็รู้จัก อาจารย์ เพื่อน และ ร้านอาหารแถวบ้านจำได้จนถึงทุกวันนี้ 40.เสียใจอดไปซ้อมยูโดประมาณ3เดือนหลังจากขาหัก ช่วงนั้นเหมือนมีเวลาว่างเยอะมากๆแล้วรู้สึกขาดๆอะไรไปโดยเฉพาะสีสันในชีวิต 41.เสียใจอ้วนมากๆเพราะการเผาพลาญทำงานน้อยลงเนื่องจากไม่ได้ออกกำลังกาย ทั้งๆที่ตอนออกจากโรงพยาบาลอุตส่าห์หุ่นดีออกมาเชียว 42.ดีใจได้สายดำหลังจากขาหักมาได้2เดือนเพราะความพยายามก่อนหน้านี้ที่อาจารย์แอบเห็น 43.เสียใจได้สายดำ มาในเวลาที่ไม่พร้อมที่ไม่พร้อมก็คือสภาพร่างกายไม่สามารถลงแข่งเก็บแต้มเพื่อไปดั้ง2ในเวลาที่กำหนดเอาไว้เรื่องนี้แอบเก็บความเครียดมาจนถึงบัดนี้ 44.ดีใจกลับมาซ้อมได้อีกครั้งในเดือนสิงหาคมทันกับการซ้อมยูโดภาคฤดูร้อนพอดีเลย แต่ยังล้มตัวตบเบาะไม่ได้ 45.ดีใจขาเริ่มฟื้นคืนมาได้ประมาณ 50เปอร์เซนต์ทำให้ขยับตัวได้เยอะขึ้น และสามารถตบเบาะตอนซ้อมยูโดได้ 46.ดีใจที่ขาหักแล้วทำให้สามารถดิ้นรนเรียนรู้วิธีการทุ่มโดยไม่ฝืนแรงหรือใช้แรงอย่างเดียวในการทุ่มทำให้มีเวลาศึกษาเรื่องจังหวะเวลา และการถ่ายน้ำหนักได้มากขึ้น 47.เสียใจที่ขาหักในครั้งนี้ทำให้ผมพลาดการแข่งใหญ่ของคันโตไปอีกครั้งนึง(จัดแค่ปีละครั้ง ได้แต่บอกตัวเองว่าปีหน้าต้องไปพลาดครับ) 48.ดีใจที่รู้สึกว่าฝีมือพัฒนาขึ้นถึงแม้จะขาหักก็ตามแต่ก็ยังสามารถรันโดริและพอใจในผลของการรันโดริอยู่เสมอๆ 49.ดีใจที่ตลอดการซ้อมที่ผ่านมาไม่ได้เกิดอุบัติเหตุซ้อนขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องขาที่หัก 50.ดีใจที่มหาลัยมีเพื่อนเพิ่มมา1คนในชมรม เป็นคนที่มีระเบียบวินัยรักษาเวลาได้ดีในการมาซ้อมแต่ละครั้ง ถึงแม้ว่าฝีมือยังไม่เท่าไหร่ก็ตามที 51.ดีใจที่เพื่อนคนนี้ เข้าใจอะไรง่ายๆและอ่านจังหวะการเคลื่อนไหวและการถ่ายน้ำหนักได้ดี 52.เสียใจตอนรันโดริกับเพื่อนคนนี้ บางครั้งคนที่เพิ่งเล่นใหม่ๆชอบเน้นผลแพ้ชนะมากเกินไปจนออกท่าที่ดูน่ากลัวอยู่บ่อยๆ เช่นการเอาหัวปักพื้น การล้มแบบไม่ตบเบาะหรือว่าการล้มแบบมั่วๆ 53.ดีใจที่ผมมีโอกาสได้เซฟตัวเพื่อนคนนี้หลายต่อหลายครั้งในลูกเล่นการออกท่าที่อันตรายของเพื่อนคนนี้ถึงจะไม่มีใครรู้หรือคนเห็นแต่ผมก็ภูมิใจที่ไม่ได้ทำให้เค้าเจ็บจากการรันโดริกับผม(ส่วนจะไปรันโดริกับคนอื่นแล้วจะเป็นยังไงก็ไม่อาจทราบได้) 54.ดีใจในที่สุดก็สามารถเอาชนะรุ่นพี่2ดั้งที่เป็นอาจารย์สอนผมในปีที่แล้วถือว่าเป็นการพัฒนาขึ้นอีกขึ้น ก่อนขาหักผมยังแพ้เค้าอยู่เลยแต่พอขาหักแล้วกลับเล่นได้ดีกว่าเดิม (หรือรุ่นพี่ยอมให้ไว้หายดีแล้วลองมาเจอกันแบบฟูลพาวเวอร์ดูดีกว่า) 55.ดีใจที่ตอนนี้เจอพวกจับซ้ายแล้วเริ่มออกท่าได้ไม่เหมือนแต่ก่อนจอดสนิท ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอเวลาล้มแล้วตบเบาะ 56.ดีใจได้มีโอกาสไปช่วยในการแข่งขันเก็บแต้มของโคโดกังได้มีโอกาสในการเรียนรู้เทคนิคที่ผู้แข่งขันใช้จริงได้มีโอกาสได้เห็นคนเก่งๆว่าเค้าเล่นกันยังไง 57.เสียใจที่สภาพร่างกายไม่พร้อมที่จะไปลงแข่งได้ตอนนี้ถึงจะไปแข่งก็แพ้อย่างแน่นอน ทางที่ดีคือรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อนจะดีกว่า 58.ดีใจที่อาจารย์เอาชื่อใส่เพิ่มเข้าไปในคอร์สยูโดพิเศษอีกคอร์สนึงเป็นการซ้อมและเรียนในระดับสูงขึ้นไปกว่าการเรียนปกติ (รับเฉพาะลูกศิษย์โคโดกังที่เรียนรู้ตั้งแต่ต้นจนได้สายดำ)เรียกได้ว่าเป็นการเรียนลึกลงไปโดยอาจารย์ที่ถนัดในท่านั้นๆเป็นผู้สอน (แต่ก่อนเรียนพื้นฐานกว้างๆแต่ตอนนี้เจาะลึกเป็นท่าๆไป) 59.ดีใจได้เรียนรู้ท่าเนวาซะเพิ่มเติม1ท่าที่สำคัญท่านี้สามารถใช้เป็นท่าเปิดเกมส์เนวาซะของผมได้เลยในทุกๆของการเล่นเนวาซะ 60.ดีใจได้บัตรแกรนสแลมมาฟรีทำให้มีโอกาสไปในสนามแข่งระดับประเทศจริงๆซะทีแต่ก่อนเคยมีโอกาสไปดูงานแข่งแค่แข่งระดับจังหวัดเท่านั้นเอง 61.ดีใจได้ใส่ชุดยูโดของมหาลัย พร้อมกับสายดำเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าผมในชุดยูโดก็ดูเท่ห์เหมือนกันนะครับ 62.ดีใจที่เวลาเรียนในเทอมนี้แบ่งได้อย่างลงตัวสามารถไปซ้อมทั้งที่โคโดกัง ซ้อมที่มหาลัย และยังมีเวลาลงล๊อคสำหรับการเล่นฟิตเนทฟื้นฟูกล้ามเนื้อ 63.ดีใจที่ตอนนี้ยกน้ำหนักเบนเพรสไต่ระดับขึ้นไปที่ละนิดสิ้นปีนี้น่าจะจบที่75กิโลกรัมแบบสบาย (เป้าหมายคือประมาณ90-100 ก่อนเดือนเมษายนต้องทำให้ได้ครับ) 64.ดีใจที่ช่วงท้ายๆของปี เพื่อนที่ชมรมมีใจจะซ้อมยูโดกันแล้วจากที่ซ้อมกันแค่2คนก็เป็น4คนยูโดคนเยอะซ้อมแล้วจะสนุกมีพัฒนาการมากกว่านั้นจ่ำจี้กันแค่2คน 65.เสียใจที่พอเพื่อนคนอื่นมีใจจะเล่นแล้ว ผมกลับต้องถอยห่างออกมาเนื่องจากติดธุระต่างๆในวันที่เค้าซ้อมกันหวังว่าปีหน้าจะเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป เรียกได้ว่า ถ้าเธอพร้อมฉันก็พร้อมไม่ว่าจะคนนึงหรือกี่คนมีใจมาซ้อมผมซ้อมด้วยเต็มที่ 66.ดีใจที่ไปซ้อมและเรียนรู้ยูโดเพิ่มเติมกับอำเภอแถวบ้านเป็นการปูทางและเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันที่ผมกะไว้ว่าจะเป็นการแข่งครั้งแรกของผมในเดือนเมษายน2013 67.เด็กๆที่อำเภอน่ารัก ผู้คนเป็นมิตร ส่วนพวกสายดำก็เก่งกันมากๆถือว่าเป็นที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถให้ผมได้อีกแห่งนึงนอกเหนือจากโคโดกัง 68.ดีใจที่หมอตอบรับวันผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากผ่าหวังว่าจะกลับมาซ้อมได้แบบว่าไม่ต้องไปเริ่มจากศูนย์กันใหม่ 69.ดีใจที่ผมกลับมาสานต่อเรื่องนาเกโนะกาตะ จนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบใน9ท่าสำหรับโชดั้ง 70.เสียใจที่ขาออกแรงได้แค่ครึ่งเดียวทำให้ม้วนตัวตบเบาะยืนยังทำได้ไม่ดีนัก ทำให้6ท่าที่เหลือของนาเกโนะกาตะ ยังไม่สมบูรณ์ ต้นปีหน้าหวังว่าจะเก็บได้อย่างสมบูรณ์ครบทั้ง15ท่า 71.ดีใจที่ได้ไปช่วยงานแข่งเก็บแต้มที่จัดขึ้นในทุกๆเดือนที่โคโดกังไปช่วยอยู่หลายครั้งอยู่เหมือนกันทำให้สามารถแอบเก็บข้อมูลคู่แข่งที่คาดว่าคงต้องเจอกันในปีหน้า (เรียกว่ารู้เขารู้เรา) 72.เสียใจที่ไม่สามารถไปลงแข่งเหมือนกับคนอื่นเค้าได้เรียกได้ว่าใจพร้อมที่จะแข่งตั้งนานแล้ว แต่ร่างกายไม่พร้อม ถ้าไปแข่งสภาพนี้โอกาสชนะมีแค่20เปอร์เซนต์สายดำคนอื่นๆความสามารถในเรื่องยูโดและทางร่างกายเก่งและเหนือกว่าผมทั้งนั้น ถ้าผมเอาร่างกายที่สมบูรณ์เพียงครึ่งเดียวไปแข่งมันดูถูกคู่แข่งกันชัดๆ 73.ดีใจที่เพื่อนอีกคนนึงจะได้สายดำก่อนปีใหม่ปีหน้าคงได้เจอกันในสนามแข่ง 74.ดีใจที่ช่วงปลายๆปี อาจารย์แต่ละท่านปล่อยของเด็ดๆออกมาทั้งนั้นเลยแล้วสิ่งที่อาจารย์สอนออกมานั้น มันตรงและไปกันได้กับท่าของผมจริงๆ เช่นการปรับฮาเนโกชิมาเป็นอุจิมาตะ การใช้จังหวะต่อเนื่องของท่าโออุจิการปัดในจังหวะต่างๆของโอคุริอาชิบารัยการใช้ฮาเนโกชิในจังหวะต่างๆทั้งแบบเดินหน้าถอยหลังหรือสเต็ปไปด้านข้าง 75.เสียใจที่ปีนี้ไม่ใช่ปีที่ดีของผม เจ็บนานและเจ็บแบบน่ารำคาญปกติผมจะวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าจะทำอะไรบ้างพอมาเจอกับขาสภาพนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดเลยได้แต่หวังว่าปีหน้าผมจะสามารถทำทุกอย่างให้มันกลับมาลงล๊อคตามแผนที่วางไว้เหมือนเดิม
Create Date : 15 ธันวาคม 2555 |
|
12 comments |
Last Update : 15 ธันวาคม 2555 21:45:47 น. |
Counter : 1840 Pageviews. |
|
|
|
ดีใจด้วยค่ะ