Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
งาน "มหัศจรรย์ประเพณีท่องเที่ยวไทย" [เชียงใหม่ 5 - 8 กรกฎาคม 2555]

7 กรกฎาคม 2555 : งาน "มหัศจรรย์ประเพณีท่องเที่ยวไทย" [เชียงใหม่ 5 - 8 กรกฎาคม 2555]


งาน "มหัศจรรย์ประเพณีท่องเที่ยวไทย"
สถานที่จัดงาน : เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต
กำหนดการจัดงาน : วันที่ 5 - 8 กรกฎาคม 2555

งาน "มหัศจรรย์ประเพณีท่องเที่ยวไทย" นี้ได้รวบรวมความโดดเด่นของประเพณีไทย ทั้ง 12 เดือน ในแต่ละภูมิภาคมานำเสนอให้ดูแปลกใหม่ และทันสมัย ตื่นตาตื่นใจ และมหัศจรรย์มากขึ้น โดยในงานจะมีหลากหลายกิจกรรม เช่น

- นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฎราชกุมาร เนื่องใน 3 โอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา

- นิทรรศการส่งเสริมภาพลักษณ์ และภารกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

- มหัศจรรย์เรือสุพรรณหงส์จำลอง

- โชว์วงดนตรีลูกทุ่งจากโรงเรียนชื่อดังใน จ.เชียงใหม่ อาทิ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย, โรงเรียนสันทรายวิทยาคม, โรงเรียนสารภีพิทยาคม, โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ

- การจำลองเทศกาลสุขสันต์ ประเพณีหรรษา 12 เดือนทั่วไทย ภาคเหนือ, ภาคกลาง, ภาคอีสาน, ภาคใต้ และภาคตะวันออก

- ตื่นตากับแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม ประเพณี 5 ภาค คือ
ภาคเหนือ การจำลองเสามะน่าวเรืองแสงศิลปะจากงานมงคลของชนเผ่าคะฉิ่น จังหวัดเชียงใหม่

ภาคกลาง การจำลองหุ่นฟางนกเรืองแสง จากจังหวัดชัยนาท

ภาคอีสาน การจำลองรถเทียน จากจังหวัดอุบลราชธานี

ภาคใต้ การจำลองเรือกอและ และพุ่มแสง จากจังหวัดปัตตานี

ภาคตะวันออก การจำลองประเพณีวิ่งควาย จังหวัดชลบุรี

และพิเศษสุดสำหรับทุกๆ วัน มีนักร้องชื่อดังมาร่วมสร้างความสนุกสนาน ขับร้องบนเวทีให้ฟังกันด้วย ตั้งแต่เวลา 17.00 - 18.00 น.
วันที่ 5 ก.ค. 55 พบกับ ขนมจีน กามิกาเซ่
วันที่ 6 ก.ค. 55 พบกับ เฟย์ ฟาง แก้ว
วันที่ 7 ก.ค. 55 พบกับ เป๊ก ผลิตโชค
วันที่ 8 ก.ค. 55 พบกับ อ๊อฟ ปองศักดิ์




งานนี้มีโอกาสไปเดินถ่ายภาพมานิดหน่อยในของวันแรกวันเปิดงาน แต่ไม่ได้ไปในช่วงพิธีเปิดงาน เลยได้ภาพบรรยากาศของงานมาให้ชมกันตามนี้


















งานนี้เดินไปทางโน้นที ทางนี้ที ถ่ายภาพไม่ได้เรียงลำดับของแต่ละภาคเลย แต่จะพยายามจับกลุ่มมาร้อยเรียงภาพให้ชมกันครับ
มาเริ่มชมกันกับภาคเหนือกันก่อนเลยครับ

มหัศจรรย์ ประเพณีภาคเหนือ




การทำตุงล้านนา
ศิลปะการตัดกระดาษ ภูมิปัญญาของชาวล้านนา ตุงมีการตัดในหลายรูปแบบ มีสีหลากหลายสลับกันสวยงามมาก ใช้ได้หลายงานเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ความสงบสุข ถือว่าเป็นตุงเคื่องหมายถึงศิริมงคลแก่ผู้ถวาย ส่วนใหญ่จะเห็นกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมือง โดยเฉพาะในวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี ซึ่งทางภาคเหนือถือว่าเป็นวันพญาวัน หรือวันเถลิงศก จะมีการตักบาตรทำบุญ ที่วัด และประเพณีทางเหนือ จะนำตุงไส้หมูดังกล่าวนี้ไปปักที่กองเจดีย์ทรายในวัด เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของคนในครอบครัว




ในส่วนของภาคเหนือมีการสาธิตการทำร่ม เพ้นท์ร่มให้ชมกันด้วย
ร่มบ่อสร้าง เป็นสินค้าที่สร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดเชียงใหม่มาช้านานหลายชั่วอายุคนแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ เดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ส่วนใหญ่จะต้องแบ่งเวลาแวะเวียนไปที่อำเภอสันกำแพง เพื่อชมและเลือกซื้อร่มบ่อสร้าง ที่“บ้านบ่อสร้าง”เป็นที่ระลึกติดมือกลับมา ถือเป็นสินค้าพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สาเหตุที่เรียกว่าร่มบ่อสร้างเพราะร่มนี้ผลิตกันที่บ้านบ่อสร้าง สมัยก่อนชาวบ้านจะ ทำร่มกันใต้ถุนบ้าน แล้วนำออกมาวางเรียงรายเต็มกลางลานบ้านเพื่อผึ่งแดดให้แห้ง สีสันและลวดลายบนร่มนั้น สะดุดตาผู้พบเห็น มีทั้งหมด 3 ชนิดด้วยกัน คือ ร่มที่ทำด้วยผ้าแพร ผ้าฝ้าย และกระดาษสา แต่ละชนิดมีวิธีทำ อย่างเดียวกัน หากนักท่องเที่ยวประสงค์จะชมขั้นตอนการผลิต ไปชมได้ที่ศูนย์อุตสาหกรรมทำร่ม








แม่อุ๊ย สอนการทำโคมขนาดเล็ก ขนาดใหญ่




ประเพณียี่เป็ง









แอบถูกใจกับภาพวิวถนนที่มีต้นนางพญาเสือโคร่งบานสองข้างทาง
มุมนี้เลยเป็นมุมถ่ายภาพที่โดนใจของใครๆ หลายๆ คน


มีภาพดอกปลอมๆ มาให้ชม และมาให้ถ่ายภาพกันเล่นๆ ด้วย




แว๊บไปภาคอีสานกันต่อครับ

มหัศจรรย์ ประเพณีภาคอีสาน









การแห่ปราสาทผึ้ง เป็นประเพณีโบราณอีสาน มุ่งทำเป็นพุทธบูชา หรือเกี่ยวข้อง กับความเชื่อทางศาสนา คำว่า "ปราสาทผึ้ง" ในภาษาอีสานจะออกเสียง "ผาสาทเผิ่ง"
ความเชื่อเรื่องการแห่ปราสาทผึ้ง เกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมทางพุทธศาสนา โดยเริ่ม พิธีกรรมนี้ ในภาคอีสาน ตั้งแต่เมื่อใดนั้นไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ในตำนาน เรื่องหนองหาน (สกลนคร) กล่าวไว้ว่า ในสมัยขอมเรืองอำนาจ และครองเมืองหนองหานในแผ่นดินพระเจ้าสุวรรณภิงคาราช ได้โปรดให้ ข้าราชบริพารทำต้นผึ้งหรือปราสาทผึ้งในวันออกพรรษา เพื่อห่คบงันที่วัดเชิงชุม (วัดมหาธาตุเชิงชุมวรวิหาร) จากนั้นเมืองหนองหานได้จัดวันปราสาทผึ้ง ติดต่อกันมาทุกปี

ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง จัดขึ้นในช่วงออกพรรษา ระหว่างวันขึ้น 12 -15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ในตอนกลางคืนของวันขึ้น 13 ค่ำ ก่อนวันทำการแห่ขบวนปราสาทผึ้ง ชาวคุ้มต่างๆ จะนำปราสาทผึ้ง ของตนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ประดับโคมไฟ หลากสีมาตั้งประกวดแข่งขันกัน ณ สนามมิ่งเมือง เพื่อให้ประชาชน ได้ชมความสวยงามอย่างใกล้ชิด

สำหรับวันขึ้น 14 ค่ำ จะเป็นวันแห่ขบวนปราสาทผึ้ง ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยง ามของคุ้มวัดต่างๆ ไปตามถนนในเขตเทศบาล ไปสู่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิ หาร ปราสาทผึ้งแต่ละขบวน จะนำมาตั้งไว้เป็นพุทธบูชา ณ บริเวณวัดรพระธาตุเชิงชุม ด้วยความศรัทธาของชาวอีสาน ที่เชื่อว่าในเทศกาล ออกพรรษาพระพุทธ่เจ้า จะเสด็จลงมาจากสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์เพื่ อมาโปรดเวไนยสัตว์ ในโลกมนุษย์ให้พ้นทุกข์

ขออนุญาตคัดลอกข้อความส่วนนี้มาให้อ่านกันด้วยครับ //allknowledges.tripod.com/beepalace.html







ที่ได้ชมภาพถ่ายกันของงานนี้ เป็นเพราะภาพนี้ ที่หยิบกล้องคอมแพคขึ้นมาถ่ายภาพ
ตั้งแต่แรกที่เดินชมงาน พอเห็นหุ่นจำลองของผีตาโขนที่ตั้งอยู่หน้างาน ก็อยากถ่ายภาพอยู่แล้ว แต่ยังคิดว่าเดินชมเล่นของงานนี้ดีกว่า

แต่พอมาเจอผีตาโขนสี่ตัวนี้เล่นฮูลาฮุปอยู่ด้วย
อดใจไม่ได้ที่จะหยิบกล้องคอมแพคขึ้นมาถ่ายภาพ
หลังจากนั้นจึงได้เดินถ่ายภาพกันทั่วงานแบบวนไปวนมา เล่นเอางง ตอนมาทำภาพให้ชมกันนี่ล่ะ


มีการสาธิตทำส่วนหัวของผีตาโขนให้ชมกัน กับการเพ้นท์สีวาดลวดลายให้ชมกันด้วย













ประเพณีแห่เทียนพรรษา และงานแกะสลักประติมากรรมเทียนนานาชาติ จัดงานในช่วงวันเข้าพรรษา เดือนกรกฎาคม ณ บริเวณทุ่งศรีเมือง ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี้


งานประเพณีทางภาคอีสาน ยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวชมเที่ยวถ่ายภาพด้วยตัวเอง ชักอยากมีโอกาสไปเดินเที่ยวถ่ายภาพศิลปวัฒนธรรมดีๆ ที่สวยงามของภาคอีสานสักครั้งอยู่เหมือนกัน



ลงมาที่ภาคกลาง

มหัศจรรย์ ประเพณีภาคกลาง








ภาคกลางมีการสาธิตการทำหัวโขน เพ้นทีสีหัวโขน ให้ชมกันครับ























จากที่หยิบกล้องคอมแพคมาถ่ายภาพหุ่นผีตาโขนเล่นฮูลาฮูป ในภาคอีสานกันแล้ว ที่ภาคกลางยังมาถูกใจกับการปั้นดินชุดการละเล่นของไทยชุดนี้ด้วย งานนี้ยอมลงไปนั่งถ่ายภาพกับภาพชุดนี้มาอย่างตั้งใจ แต่อย่างว่ากล้องคอมแพคที่มีติดตัวก็ทำภาพได้แค่นี้

ภาพชุดนี้ชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง ได้ฉากหลังเบลอๆ มาแบบกล้องคอมแพค
แต่ถ่ายภาพไปๆมาๆ หลายรูป ดูแล้วฉากหน้าจะเบลอตามไปด้วย 555





ดูภาพแล้วงงตัวเอง
ตอนถ่ายภาพไปโฟกัสการละเล่นตัวไหนกันแน่ ถึงได้ภาพมาแบบนี้


ดูภาพแล้วก็สนุกดีไปอีกแบบ ต้องมาเพ่งดูว่าอยากนำเสนอการละเล่นตัวไหนกันแน่ 5555


เปลี่ยนมาชมมุมกว้างๆ กันใหม่ ชักเมื่อย
เดี๋ยวกลับไปก้มๆ ถ่ายภาพกันอีกสักชุด




ก่อเจดีย์ทราย



หัวล้านชนกัน



เดินกะลา



ขี่ม้าก้านกล้วย



ภาพนี้จะใช่การเป่าหนังยาง เป่ากบ หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
ดูว่าหนังยางมันวงใหญ่ไปหน่อย



หนูน้อยอ่านหนังสือ ก ข ค



การละเล่นชุดนี้ นึกไม่ออกว่าเป็นการละเล่นอะไร
ต้องกลับไปถามคนปั้นมาในอีกวัน
ถึงได้รู้ว่าเป็นการละเล่น กาหวงไข่ หรือ กาฟักไข่
ไหนๆ การละเล่นนี้ ทำให้นึกไม่ออกในตอนแรก เลยขอคัดลอกวิธีการเล่นมาให้อ่านกันด้วย
กาฟักไข่
ความเป็นมา

กาฟักไข่เป็นการละเล่นพื้นเมืองเก่าแก่ ที่เล่นสืบเนื่องต่อกันมาเป็นเวลานานแล้วแต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีเล่นมาตั้งแต่เมื่อใด พบว่ามีการเล่นกีฬากาฟักไข่กันแล้วในช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กาฟักไข่นิยมเล่นกันในจังหวัดต่างๆ ของภาคกลางสมัยก่อน เช่น นครปฐม กรุงเทพฯ ธนบุรี และกาญจนบุรี เป็นต้น การเล่นกาฟักไข่เป็นการเล่นเลียบแบบชีวิตสัตว์ คือ กา ซึ่งหวงไข่เมื่อมีคนมาแย่งไข่ก็จะป้องกันรักษาไข่ของตนไว้

ในภาคอื่นๆก็มีการเล่นที่มีลักษณะเหมือนกับการละเล่นกาฟักไข่เช่นกัน แต่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น เช่น ภาคเหนือ เรียกว่า “แย่งไข่เต่า” ก็มี “ซ่อนไข่เต่า” ก็มี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกว่า “เต่าฟักไข่” ภาคใต้เรียกว่า “จระเข้ฟาดหาง” บ้าง “ยั่วกระทิง” บ้าง หรือเรียกว่ากระทิงก็มี เป็นต้น สมัยก่อนกีฬากาฟักไข่มักเล่นกันในงานขึ้นปีใหม่ เทศกาลตรุษสงกรานต์และงานรื่นเริงอื่นๆของชาวบ้าน เพื่อเป็นการออกกำลังกาย สามานสามัคคีในหมู่คณะ และได้สนุกสนานร่วมกัน ปัจจุบันการเล่นกาฟักไข่ยังคงมีเล่นอยู่โดยทั่วไป แต่หลายคนไม่ทราบกติกา โดยวิธีการเล่นก็คือ ใช้อะไรก็ได้ลักษณะกลม ๆ เท่าจำนวนคนเล่น ยกเว้นผู้ที่เป็นกา 1 คน มาสมมติว่าเป็น “ไข่” แล้วเขียนวงกลมลงบนพื้น 2 วง วงแรกเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ฟุต และอีกวงหนึ่งอยู่ข้างในวงแรก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ฟุต วาง “ไข่” ทั้งหมดไว้ในวงกลมเล็ก ให้คนใดคนหนึ่งเป็นกา ยืนในวงกลมวงใหญ่ หรือนั่งคร่อมวงกลมเล็ก นอกนั้นทุกคนยืนรอบนอกวงกลมวงใหญ่ คอยแย่งไข่ คนเป็นกามีหน้าที่ป้องกันไข่ ไม่ให้ถูกแย่งไป

บางแห่งเรียกกว่า “ซิงไข่เต่า” ผู้เล่นเป็นอีกาหรือเต่าจะเข้าไปอยู่ในวงกลมที่ขีดไว้ คนอื่นๆอยู่นอกวงกลม พยายามแย่งเอาก้อนหินที่สมมุติว่าเป็นไข่มาให้ได้ อีกาหรือเต่าจะปัดป่ายแขนขาไปมา ถ้าโดนผู้ใดผู้นั้นจะต้องมาเล่นเป็นอีกาแทนทันที แต่ถ้าไข่ถูกแย่งหมด อีกาหรือเต่าจะต้องไปตามหาไข่ที่ผู้อื่นซ่อนไว้ หากหาไม่พบจะถูกจูงหูไปหาไข่ที่ซ่อนไว้ เป็นการลงโทษ

หรือ โทกเทก อาจเรียกชื่อแตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น เป็นการละเล่นที่ใช้อุปกรณ์ที่ทำมาจากไม้ไผ่ ประกอบด้วยท่อนไม้สั้นซึ่งเป็นที่เหยียบสำหรับยืน มีผ้าพันเพื่อไม่ให้เจ็บง่ามเท้า ไม้ท่อนยาวสำหรับใช้เป็นตัวยืนจับ เวลาเล่นต้องพยายามทรงตัวเดินจะทำให้รู้สึกว่าขายาวขึ้น เด็กๆ อาจจะแข่งขันกันว่าใครสามารถเดินได้เร็วกว่ากัน

วิธีเล่น

1. ผู้เล่นทั้งหมดเสี่ยงเพื่อหาตัวผู้เป็นกาหนึ่งคน จากนั้นให้นำเอาวัตถุที่สมมติว่าเป็นไข่กา จำนวนเท่ากับผู้เล่นทั้งหมด (ยกเว้นกา) มาวางกองรวมกันไว้ที่กลางวงกลม ผู้เป็นกาจะคอยเฝ้าไข่กาไว้ มิให้ผู้เล่นคนหนึ่งคนใดมาแย่งเอาไปได้

2. ผู้เล่นคนอื่นๆ จะอยู่รอบๆวงกลม และหาโอกาสแย่งไข่กาออกจากวงกลม คนหนึ่งๆจะหยิบไข่กากี่ฟองก็ได้ แต่ต้องระวังอย่าให้ผู้เป็นกาถูกตัวได้ถ้ากาถูกตัวผู้ใดได้ ผู้นั้นจะต้องทำหน้าที่เป็นกาแทน ส่วนผู้เป็นกาอยู่เดิมจะออกมาเป็นผู้แย่งบ้าง

3. ถ้าผู้เล่นสามารถแย่งไข่กาออกมาได้หมด ต้องให้ผู้เล่นส่วนหนึ่งช่วยกันปิดตาผู้เป็นกา อีกส่วนหนึ่งนำไข่กาไปซ่อนภายในขอบเขตบริเวณที่กำหนดไว้ เมื่อซ่อนเสร็จจึงเปิดตาผู้เป็นกาเพื่อให้ออกหาไข่กา ขณะที่ผู้เป็นกาออกหาไข่กานั้น ผู้เล่นคนอื่นๆจะต้องเดินตามผู้เป็นกามาด้วยเพื่อหยอกล้อผู้เป็นกา แต่ต้องระวังเพราะถ้าผู้เป็นกาหาไข่กาพบและใช้ไข่กานั้นขว้างถูกผู้เล่นคนใด ผู้เล่นคนนั้นจะต้องเป็นกาแทน และเริ่มเล่นใหม่ต่อไป แต่ถ้าผู้เป็นกาขว้างไม่ถูกใครเลย ผู้เป็นกานั้นก็ต้องเป็นกาต่อไป

4. หากผู้เป็นกาหาไข่กาไม่พบและยอมแพ้ จะถูกผู้เล่นทุกคนช่วยกัน จูงหูไปยังที่ซ่อนไข่กา เมื่อถึงที่ซ่อนไข่กาแล้ว ถ้ากาสามารถใช้ไข่กาขว้างถูกผู้เล่นคนใดได้ ผู้เล่นคนนั้นก็จะต้องเป็นกาแทนและเริ่มเล่นใหม่ต่อไป

5. ถ้าผู้เป็นกาคนเดียวกันถูกแย่งไข่กาได้หมดถึง 3 ครั้งติดต่อกัน จะต้องถูกปรับให้นอนลง แล้วผู้เล่นจะช่วยกันหามไปวางห่างจากวงประมาณ 20 เมตร ผู้เป็นกาจะต้องลุกขึ้นวิ่งไล่แตะให้ถูกผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง ถ้าแตะถูกผู้เล่นคนนั้นจะต้องเป็นกาแทน ถ้าแตะไม่ถูกและผู้เล่นหนีเข้าวงกลมได้หมดทุกคนเสียก่อน ผู้เป็นกาจะต้องเป็นกาต่อไป

6. ผู้เล่นคนใดเป็นกามากครั้งที่สุดจะถือว่าเป็นผู้แพ้ ผู้เล่นคนใดเป็นกาน้อยครั้งที่สุดหรือไม่เคยเป็นกาเลยจะถือว่าเป็นผู้ชนะ

ขออนุญาตคัดลอกมาให้อ่านกันด้วยครับ
จาก web site //www.chaware.com/




มีชุดที่เป็นวิถีชีวิตชาวบ้านกันอีกชุดหนึ่งด้วยครับ
แต่ถ่ายภาพชุดนี้มาน้อยไปหน่อย




อีกหนึ่งชุดของการปั้นดิน

ภาพชุดนี้คงเข้ากับสำนวนไทยที่ว่า
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น


ว่าแล้วสาวสวยที่แต่งชุดประจำภาคกลาง ก็ได้มาลองช่วยปั้นตุ๊กตากันด้วย


















ประเพณีทำขวัญข้าว
เป็นพิธีสำคัญของชาวนาในการบูชาและขอบคุณแม่โพสพ เพื่อเป็นสิริมงคลและบันดาลให้มั่งมียิ่งขึ้น ประเพณีทำขวัญข้าวส่วนใหญ่ทำกันในจังหวัดแถบภาคกลางในจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ในช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน





จบจากภาคกลางไปที่ภาคตะวันออก
แต่ที่ภาคตะวันออกดูเหมือนจะได้ภาพมา 2 ภาพ

ภาคตะวันออกมีแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง


รวมถึงผลไม้ที่ขึ้นชื่อของภาคตะวันออก

และก็มีประเพณีวิ่งควายของจังหวัดชลบุรี
บ้านเกิดตัวเอง แต่ก็ไม่มีภาพมาให้ชมกัน ไว้อาจตามไปแก้มือใหม่




ไปชมกันที่ภาคใต้ ซึ่งก็ได้ภาพมาไม่มากนักเช่นกัน

มหัศจรรย์ ประเพณีภาคใต้



ประเพณีทั้ง 12 เดือนของภาคใต้
ถ่ายภาพมุมกว้างๆ แบบนี้มาไว้ก่อน
ยังคิดว่าจะกลับไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นข้อมูลของแต่ละภาค ทั้ง 12 เดือนมาเก็บไว้เป็นข้อมูลของตัวเองด้วย
เผื่อว่ามีโอกาสไปท่องเที่ยวในแต่ละภาคในช่วงเวลาการจัดงานนั้นๆ ด้วย



ประเพณีชักพระลำน้ำตาปี
เมื่อถึงวันออกพรรษาของทุกปี จ.สุราษฎร์ธานี จะมีงานบุญที่สำคัญและยิ่งใหญ่ ได้แก่ ประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว ซึ่งอนุรักษ์สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษนับร้อยปี จนนับได้ว่าเป็นมรดกแห่งศิลปวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของจังหวัดโดยเฉพาะ

"การชักพระ" ทางวัดจะถือเอาวันออกพรรษา ซึ่งตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 11 อัญเชิญพระพุทธรูปให้พุทธศาสนิกชนชักลากแห่ไปบำเพ็ญกุศล และสมโภชเพื่อความเป็นสิริมงคล เรียกว่า "ชักพระทางบก" และ "ชักพระทางน้ำ"



ปรเพณีแห่นก

เป็นประเพณีพื้นเมืองของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ซึ่งได้กระทำสืบเนื่องกันมาเป็นเวลานาน จัดขึ้นเป็นครั้งคราวตามโอกาสเพื่อความสนุกรื่นเริง เป็นประเพณีที่แสดงออกเกี่ยวกับความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในศิลปะ และอาจจัดขึ้นในโอกาสเพื่อเป็นการแสดงคารวะ แสดงความจงรักภักดีแก่ผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือ หรือในโอกาสต้อนรับแขกเมือง บางทีอาจจะจัดขึ้นเพื่อความรื่นเริงในพิธีการเข้าสุหนัด หรือที่เรียกว่า “มาโซะยาวี” หรือจัดขึ้นเพื่อการประกวดเป็นครั้งคราว

จากตำนานบอกเล่ากล่าวถึงความเป็นมาของประเพณีแห่นกว่าเริ่มที่ยาวอ (ชวา) กล่าวคือ มีเจ้าผู้ครองนครแห่งยาวอพระองค์หนึ่ง มีพระโอรสและพระธิดาหลายพระองค์ พระธิดาองค์สุดท้องทรงเป็นที่รักใคร่ของพระบิดาเป็นอย่างยิ่ง จึงได้รับการเอาอกเอาใจทั้งจากพระบิดาและข้าราชบริพาร ต่างพยายามแสวงหาสิ่งของและการละเล่นมาบำเรอ ในจำนวนสิ่งเหล่านี้มีการจัดทำนกและจัดตกแต่งอย่างสวยงาม แล้วมีขบวนแห่แหนไปรอบ ๆ ลานพระที่นั่ง เป็นที่พอพระทัยของพระธิดาเป็นอย่างยิ่ง จึงโปรดฯ ให้มีการจัดแห่นกถวายทุก 7 วัน



อีกตำนานหนึ่งว่า ชาวประมงได้นำเหตุมหัศจรรย์ที่ได้พบเห็นมาจากท้องทะเลขณะที่ตระเวนจับปลามา เล่าว่า พวกเขาได้เห็นพญานกตัวหนึ่งสวยงามอย่างมหัศจรรย์ ผุดขึ้นมาจากท้องทะเลแล้วบินทะยานขึ้นสู่อากาศแล้วหายลับไปสู่ท้องฟ้า พระยาเมืองจึงซักถามถึงรูปร่างลักษณะของนกประหลาดตัวนั้น ต่างคนต่างก็รายงานแตกต่างกันตามสายตาของแต่ละคน พระยาเมืองตื่นเต้นและยินดีมาก ลูกชายคนสุดท้องก็รบเร้าจะใคร่ได้ชม พระยาเมืองจึงป่าวประกาศรับสมัครช่างผู้มีฝีมือหลายคนให้ประดิษฐ์รูปนกตามคำ บอกเล่าของชาวประมงซึ่งได้เห็นรูปที่แตกต่างกันนั้น ช่างทั้งหลายประดิษฐ์รูปนกขึ้นรวม 4 ลักษณะ คือ

1. นกกาเฆาะซูรอ หรือนกกากะสุระ นกชนิดนี้ตามการสันนิษฐานน่าจะเป็น “นกการเวก” เป็นนกสวรรค์ที่สวยงามและบินสูงเทียมเมฆ การประดิษฐ์มักจะตกแต่งให้มีหงอนสูงแตกออกเป็นสี่แฉก นกชนิดนี้ชาวพื้นเมืองเรียกว่า “นกทูนพลู” เพราะบนหัวมีลักษณะคล้ายบายศรีพลูที่ประดับในถาดเวลาเข้าขบวนแห่ ทำเป็นกนกลวดลายสวยงามมาก มักนำไม้ทั้งท่อนมาแกะสลักตานก แล้วประดับด้วยลูกแก้วสี ทำให้กลอกกลิ่งได้ มีงายื่นออกมาจากปากคล้ายงาช้างเล็ก ๆ พอสมกับขนาดของนก

2. นกกรุดาหรือนกครุฑ มีลักษณะคล้ายกับครุฑที่เห็นโดยทั่วไป

3. นกบือเฆาะมาศหรือนกยูงทอง มีลักษณะคล้ายกับนกกาเฆาะซูรอมาก การประดิษฐ์ตกแต่งรูปนกพญายูงทองนั้น ต้องทำกันอย่างประณีตถี่ถ้วน และใช้เวลามาก

4. นกบุหรงซีงอหรือนกสิงห์ มีรูปร่างคล้ายราชสีห์ ตามคตินกนี้มีหัวเป็นนกแต่ตัวเป็นราชสีห์ ตามนิทานเล่ากันว่ามีฤทธิ์มาก ทั้งเหาะเหินเดินอากาศ และดำน้ำได้ ปากมีเขี้ยวงาน่าเกรงขาม

ในการประดิษฐ์นกนิยมใช้ไม้เนื้อเหนียว เช่น ไม้ตะเคียน ไม้กายีร นำมาแกะเป็นหัวนก เนื้อไม้เหล่านี้ไม่แข็งไม่เปราะจนเกินไป สะดวกในการแกะของช่าง ทั้งยังทนทานใช้การได้นานปี สำหรับตัวนกจะใช้ไม้ไผ่ผูกเป็นโครง ติดคานหาม แล้วนำกระดาษมาติดรองพื้น ต่อจากนั้นก็ตัดกระดาษสีเป็นขน ประดับส่วนต่าง ๆ สีที่นิยมได้แก่ สีเขียว สีทอง (เกรียบ) สีนอกนั้นจะนำมาใช้ประดับตกแต่งเพื่อให้สีตัดกันแลดูเด่นขึ้น

ขออนุญาตคัดลอกข้อมูลบน web มาให้อ่านกันด้วยครับ และตัวเองจะได้ศึกษาเผื่อไปด้วย
//123.242.179.85/webptn/index.php?option=com_content&view=article&id=133:2011-02-11-07-09-03&catid=17:2011-02-11-08-18-23&Itemid=17






มีเรือกอและ จำลองมาให้ชมกันด้วย

เรือกอและ
กอและ แปลว่าเรือหาปลาของชาวประมงในท้องที่หมู่บ้านชาวทะเล ทางภาคใต้ของประเทศไทย มีมากในจังหวัดปัตตานี และนราธิวาส
เรือ “กอ และ” มีรูปร่างลักษณะ และส่วนประกอบที่ผิดแปลกจากเรือ อื่น ๆ ความสวยงามของเรืออยู่ที่การใช้ลวดลาย และสีสันต่าง ๆ ปัจจุบันนี้เรือ กอ และถูกดัดแปลงจากการใช้ใบมาเป็นการใช้เครื่องยนต์ เพื่อความเหมาะสม กับภาวะของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการรักษาสัญลักษณ์ของเรือ ประมง และศิลปะพื้นเมืองเอาไว้ให้แขกบ้านแขกเมืองที่มาเที่ยวหมู่บ้านชาย ทะเลชม จึงได้มีการทำเป็นเรือกอ และจำลองขายเป็นที่ระลึก โดยมีรูปร่าง และ ลักษณะคล้ายของจริงมากที่สุด
วัตถุดิบที่สำคัญในการประดิษฐ์เรือกอ และคือ “ไม้ฆายอแร” ซึ่งเป็น พันธุ์ไม้ชอบขึ้นอยู่ตามริมแม่น้ำ เป็นไม้เนื้อละเอียดอ่อน มีน้ำหนักเบา ง่ายต่อ การนำมาประดิษฐ์




ภาพถ่ายที่นำมาให้ชมกัน หวังว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนเพื่อนๆ ได้มีโอกาสมาชมงาน "มหัศจรรย์ประเพณีท่องเที่ยวไทย" และรวมถึงได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปชมประเพณีศิลปวัฒนธรรมของไทย ในทุกๆ จังหวัดที่มีการจัดงาน และร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันดีของชาวไทยด้วยครับ

สำหรับเพื่อนๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ หรือจากจังหวัดอื่นๆ ที่มีโอกาสแวะเวียนมาเชียงใหม่ในช่วงเวลาการจัดงานอยู่นี้ จะแวะเวียนไปชมงาน "มหัศจรรย์ประเพณีท่องเที่ยวไทย" กันได้ครับที่เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต กับกำหนดวันจัดงาน 5 - 8 กรกฎาคม 2555 นี้


ขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะมาชมภาพถ่ายงาน "มหัศจรรย์ประเพณีท่องเที่ยวไทย" กันด้วยครับ



สุดท้ายของ blog นี้เลือกภาพของนักร้องสาวสวย ขนมจีน กามิกาเซ่ มาให้ชมกันเป็นตัวอย่างกันก่อน ไว้เลือกไปนำภาพที่เหลือไปให้ชมกันอีก blog หนึ่งครับ





ให้ชมกัน 3 ภาพแค่นี้ก่อนครับ
จาก 3 ภาพนี้ทำให้นึกขึ้นได้ว่าเคยถ่ายภาพของนักร้องสาวสวย ขนมจีน กามิกาเซ่มาครั้งหรือสองครั้งแล้ว
ลองค้นดูจาก blog ตัวเองแล้ว ดูเหมือนจะหาไม่เจอ
ทำให้ต้องกลับไปเริ่มค้นภาพที่เคยถ่ายภาพมาด้วย
หวังว่าคงจะเจอ และนำภาพมาให้ชมกันด้วยครับ


Create Date : 07 กรกฎาคม 2555
Last Update : 9 กรกฎาคม 2555 6:26:56 น. 16 comments
Counter : 28294 Pageviews.

 


HAVE A NICE WEEKEND ^_^


โดย: andrex09 วันที่: 7 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:11:00 น.  

 
ขอบคุณ คุณนกที่แวะมาเจิม blog. ให้ด้วยนะครับ
สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์ ด้วยครับ


โดย: เบิร์ท IP: 110.49.224.50 วันที่: 7 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:03:13 น.  

 
งามทั้งประเพณี งามทั้งสาวๆ ทุกภาคเลยค่ะ สวยน่าเที่ยวจริงๆ


โดย: ประกายพรึก วันที่: 7 กรกฎาคม 2555 เวลา:17:05:16 น.  

 
แหล่มค่ะคุณเบิร์ด


โดย: อุ้มสี วันที่: 7 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:43:42 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่เบิร์ท


เป็นงานที่น่าสนใจครับพี่
น่าไปเดินถ่ายรูป

แต่คนข้างกายผมคงไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ 555

ตอนนี้เสื้อผ้า cc-oo ลดครึ่งราคา
ส่วนหมิงหมิงก็ตรงดิ่งไปที่แผนกของเล่นครับ 5555










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กรกฎาคม 2555 เวลา:5:39:40 น.  

 
หลายเล่มที่ลงไว้ในบล้อกนี้
ก็เป็นเล่มที่ผมซื้อมาอ่านให้หมิงหมิงฟังครับพี่เบิร์ท
เพราะหมิงหมิงยังอ่านไม่ไ่ด้่ครับ 555


ตอนนี้เจ้าตัวชอบสามก๊กครับ 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กรกฎาคม 2555 เวลา:6:24:10 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะพี่
งานแบบนี้ดี.อยู่ด้วยได้ทั้งวันจริงๆเลย
กว่าจะเลื่อนมาถึงตรงนี้ได้
เพลินไปพักใหญ่เลยค่ะ^^


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:17:59 น.  

 

ในเฟส ดี.เข้าไปดู ดี.ว่ามันดูยากนะคะ
สงสัยว่าพอไปขึ้นหน้าเพจพี่มันรกมั้ยคะ

แต่โดยภาพรวม มันเป็นช่องทางสื่อสาร ก็ว่ากันไป
แต่ในเฟสดีกว่าหน่อยตรงที่ เราลงรูปทั้งแผ่นได้เลยค่ะ
ในบล็อกดี.ต้องเอามาตัดครึ่ง
ไม่งั้นมันเกิน 150
อย่างตอนที่ดี.เขียนบันทึก
ปรับไซด์เหนื่อยเลยค่ะ มันเกิน 150 บางที 150.1 งี้ เซ็งเลย
ต้องมาทำใหม่
อยากให้พื้นที่ต่อรูปตรงบล็อกเพิ่มเป็นสัก 300 คราวนี้จะใส่รุปให้ล้นบล็อกเลย
ดี.ไม่อยากเอารูปไปฝากที่อื่นด้วย
ดี.เข้าไปดูบล็อกเก่าๆ ของพี่ๆเพื่อนๆคนอื่น
รูปหายไปตรึมเลยค่ะ ^^



โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:52:51 น.  

 

แวะมาทักทาย ยามสายของวันครอบครัว เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

########################
มาทักทายเหมือนเช่นเคย ภาพงานน่าตื่นตามากเลยค่ะโดยเฉพาะหัวโขนนางอากาศตะไลคุณเบิร์ดถ่ายภาพได้งดงามมาก วันหยุดได้นอนเต็มที่กันไหมคะ วันนี้ที่อ่างทองอากาศเย็นสบายมาก ฝนตกติดต่อกันมาหลายวันแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณเบิร์ด คงสบายดี


โดย: เกศสุริยง วันที่: 8 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:54:26 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต มัชชาร Movie Blog ดู Blog โอน่าจอมซ่าส์ Travel Blog ดู Blog ถปรร Photo Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
สร้างกริตเตอร์

---------------------------
วันนี้ตั้งใจทำกริ๊ตเตอร์โหวตให้กับblogสวยถูกอกถูกใจเป็นการส่วนตัวค่ะคุณเบิร์ด


โดย: เกศสุริยง วันที่: 8 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:50:11 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่เบิร์ท
แวะมาชมภาพงามๆอย่างจุใจ

มีความสุขกับวันหยุดนะคะ


โดย: pantawan วันที่: 8 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:27:03 น.  

 
น่าไปเที่ยวจัง


โดย: ดา ดา วันที่: 8 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:06:16 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่เบิร์ท

เมื่อวานไปสองห้างเลยครับ 555
เสียดายไม่ได้เดินที่งาน
ไปขลุกอยู่ที่ชั้นของเล่นครับ
ไม่ได้ดูอะไรอย่างอื่นเลยครับ 555








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กรกฎาคม 2555 เวลา:7:12:56 น.  

 
น่าไปชมค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:46:11 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่เบิร์ท








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:6:22:04 น.  

 
ได้ข้อมูลเกี่ยวกับภาคแต่ละภาคได้เลยอะค่ะ


โดย: ด.ญ.ชลธิชา. หว่อง IP: 110.168.232.185 วันที่: 17 มิถุนายน 2559 เวลา:20:35:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ถปรร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ถปรร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.