|
|
| | 1 | 2 |
| 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
| 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
| 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
| 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
เชียงใหม่เฟสต์ 2011 [การบรรเลงโกโตะ โดยโนริโกะ ทซึโบอิ และคณะ]
13 เมษายน 2554 : เชียงใหม่เฟสต์ 2011 [การบรรเลงโกโตะ โดยโนริโกะ ทซึโบอิ และคณะ]
งานนี้จัดในช่วงระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2554 (เป็นการแสดงของวันที่ 9 เมษายน 2554)
งานมหกรรมศิลปะและดนตรีนานาชาติ เป็นครั้งแรกของผสาน 4 ศาสตร์แห่งงานศิลป์จากศิลปินไทย-ต่างชาติ จะจัดขึ้นที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และ หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ นอกจากการแสดงตระการตาบนเวทีแล้ว ยังมีผลงานศิลปะที่เอามาโชว์ในเทศกาลนี้ และอาหารนานาชาติเลิศรส ผลงานศิลปะที่ห้ามพลาดได้แก่ งานเครื่องปั้นเซรามิก โดยสมลักษณ์ ปันติบุญ บ้านดอยดินแดง ภาพวาดสีน้ำฝีมืออิงอร หอมสุวรรณ์ ศิลปะเครื่องจักรสาน สบเมยอาร์ท และงานศิลปะของกิลเบิร์ต เมแด ชื่อผลงานว่า ฟัง ดู เรียนรู้ รัก ใช้ชีวิต ศิลปะกระดาษเอเซีย (กระดาษาสาและโอมากิ) รวมทั้งศิลปินลานนาที่มีชื่อเสียง และมีผลงานเป็นที่รู้จักกันในแวดวงศิลปินร่วมสมัยของไทย อาทิศิลปินแห่งชาติ พิชัย นิรันดร์ ศิลปินอาวุโส สงัด ปุยอ๊อก-พิศาล ทิพารัตน์ และศิลปินล้านนารุ่นสหม่ ศรัณ สุวรรณโชติ จะเปิดให้ผู้รักงานศิลปได้ชื่นชมกันตลอดสามวัน พร้อมรายการบันเทิงอื่นๆอีกหลายหลายที่จะมาสร้างประวัติการณ์บนแผ่นดินเชียงใหม่ เมืองแห่งดนตรี ศิลปะ ศิลปิน และวัฒนธรรมล้านนา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ ชวนชมเทศกาลงานดนตรี ศิลปะและวัฒนธรรมนานาชาติ เชียงใหม่เฟสต์ 2554 ในวันที่ 8-10 เมษายน ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งถูกประดับตกแต่งใหม่กลายเป็นเวทีในสวนที่สวยงาม โดยการแสดงดนตรีจะเริ่มเวลา 17.00 - 22.00 น. ส่วนงานแสดงศิลปะจะถูกจัดที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 8 - 30 เมษายน เวลา 08.30 - 17.00 น. โดยงานแห่งนี้ถือเป็นงานเริ่มต้นก่อนเทศกาลสงกรานต์ เพิ่มเติมให้เชียงใหม่มีสีสันช่วงเทศกาลสงกรานต์มากขึ้น เป็นกิจกรรมต่อเนื่องทางช่วงเวลากับ ถนนคนเดิน โดยนักท่องเที่ยวสามารถวางแผนท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้ทั้งวัน
นายยุทธ วาณิชชานนท์ ที่ปรึกษา บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ ซึ่งเป็นผู้จัดงาน เชียงใหม่เฟสต์ 2554 ในครั้งนี้เผยว่า กิจกรรมนี้นับได้ว่าเป็นกิจกรรมระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่และแปลกใหม่ที่สุด โดยมีศิลปินและนักแสดงทั้งจากไทยและต่างประเทศมาร่วมกันแสดงฝีมือบนเวทีเดียวกันตลอดทั้ง 3 วัน ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายนนี้ ในงาน Chiang Mai Fest 2011 โดยเปลี่ยนลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ให้เป็นเวทีในสวนสวยงามให้ผู้ชมสนุกสนานกับการแสดงดนตรี การเต้นรำหลากหลายรูปแบบ รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิดในรูปแบบ ดนตรีและนาฏศิลป์ในสวน - Music and dance in the garden ตลอดจนการแสดงงานศิลปะของศิลปินไทยและต่างชาติ ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ โดยเชื่อมั่นว่างานนี้จะสร้างชื่อให้กับเมืองเชียงใหม่และจะกลายเป็นมหกรรมประจำปีที่นักท่องเที่ยวรอคอย
ตลอดช่วงเย็นจนยามค่ำคืน มีศิลปินมาร่วมแสดงหลากหลายสไตล์ นันทิดา แก้วบัวสาย ลานนา คัมมินส์ ศิลปินไทยมากฝีมือ อย่าง วงช้างสะตน ป๋อม บอยไทย บางกอกไซโลโฟน และ วงกำไล นอกจากนี้ เตรียมพบกับการร่ายรำศิลปะ ของอนุชา สุมามาลย์ Play with Mask
ศิลปินนานาชาติที่จะมาร่วมแสดงครั้งนี้ได้แก่ นักดนตรีโกโตะชื่อดังอย่างโนริโกะ ทซึโบอิ วงดนตรีจากเนเธอร์แลนด์ จิ๊กเกอร์ บิ๊กเกอร์ แบนด์ นักกีต้าร์ชื่อก้องโลก กิลเบิร์ต เมแดม และ เดอะ ไอทินเนอร์แลนซ์ เซลติก แบนด์ โลน ไพเพอร์ ฟราน บรูม นักร้องคาบาเร่ ชมการเต้น บอลลีวูด โดยเทรนเนอร์และกลุ่มนักเต้นชาวอินเดียบนเวทีแห่งนี้และผู้ร่วมงานสามารถเข้าร่วมการเต้นในครั้งนี้ได้ด้วย
นอกจากการแสดงบนเวทีแล้ว ยังมีผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่ามาให้ชื่นชม โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงและมีผลงานเป็นที่รู้จักกันในแวดวงศิลปินร่วมสมัยของไทย อาทิ ศิลปินแห่งชาติ พิชัย นิรันด์ ศิลปินอาวุโส สงัด ปุยอ๊อก พิศาล ทิพารัตน์ ภาพวาดสีน้ำฝีมืออิงอร หอมสุวรรณ์ งานออกแบบศิลปะเครื่องจักรสาน โดยคุณเค้น เกรโกรี่ ผู้ก่อตั้งสบเมยอาร์ต งานเครื่องปั้นเซรามิก โดย สมลักษณ์ ปันติบุญ บ้านดอยดินแดง
งานศิลปะกระดาษสาและโอกามิ ของ เคร้าท์ ดิทริช ซึ่งมีเวิร์คช็อประหว่างการจัดแสดงและงานมินิเจอร์ ดาท์ ภาพวาดสีน้ำขนาดเล็ก ของกิลเบิร์ต เมแดม ชื่อผลงานว่า Art of the 5L: Listening, Looking, Learning, Loving, Living (ฟัง ดู เรียนรู้ รัก ใช้ชีวิต) และศิลปินรุ่นล้านนารุ่นใหม่ อังกฤษ อัจฉริยโสภณ เสงี่ยม ยารังสี ทรงเดช ทิพย์ทอง และ ศรัณ สุวรรณโชติ
ทางด้านอาหารและเครื่องดื่มจะมีบูทออกงานซึ่งมาจากกลุ่มโรงแรมและผู้สนับสนุน ภายในงานจึงเต็มไปด้วยอาหารนานาชาติหลากชนิดและมีเครื่องดื่มหลากหลาย
ด้านนายสุวรรณชัย ฤทธิรักษ์ ที่ปรึกษา 10 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่ามหกรรมศิลปะและดนตรีนานาชาติครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ ให้ปฏิทินท่องเที่ยวทุกปีจะต้องมีหมายเหตุงานนี้ไว้ว่าเป็นงานที่พลาดไม่ได้ และให้ผู้เข้าร่วมได้อิ่มเอมไปกับดนตรีและศิลปะที่ไม่เหมือนงานไหน เพียงได้เห็นรายชื่อศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในปีนี้ก็ยากจะอดใจรอ ทั้งนี้ต้องการที่จะให้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าจดจำแห่งปี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะมาท่องเที่ยวยัง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีเวลาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง โดยคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนและนักท่องเทีายวเข้าร่วมงานกว่า 100,000 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนช่วงเทศกาลประมาณ 1,000 ล้านบาท
งานเชียงใหม่เฟตส์ 2554 จัดโดย บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด ผู้สร้างสรรค์งานเทศกาลนานาชาติ ด้วยการสนับสนุนหลักโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่
การแสดงผลงานศิลปะเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่ วันที่ 8-30 เมษายน เวลา 8:30 น. ถึง 17:00 น. ณ ภายในอาคารหอศิลปวัฒนธรรม และ การแสดงบนเวที ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน ตั้งแต่เวลา 17:00 น. จนถึง 22:00 น. ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ (ด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรม) ไม่เสียค่าเข้าชมดนตรี โดยในวันที่ 8 เมษายน พิธีเปิดเวลา 15:00 น. วางแผนการเดินทางและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชียงใหม่เฟสต์ 2554 Call Center 0-5321-5983
ชุดนี้ชมการบรรเลงโกโตะ โดยโนริโกะ ทซึโบอิ และคณะ
โกโตะ หรือ โคโตะเป็นเครื่องดีดชนิดหนึ่งที่มีสัณฐานยาว ทำจากไม้เพาโลเนีย หรือเป็นที่รู้จักกันในนามของ Empress Tree (kiri) ขุดภายในให้เว้าตามส่วนโค้งด้านนอก วางราบไปกับพื้น รูปร่างคล้ายจะเข้ มีความยาวประมาณ 6 ฟุต (180 ซ.ม.) กว้างประมาณ 14 นิ้ว (25 ซ.ม.) มองดูรูปร่างลักษณะคล้ายมังกร และส่วนประกอบอื่น ๆ ของโกโตะก็มีชื่อเรียกเป็นอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของมังกรด้วย ขึงสาย 13 เส้นพาดไปบนตัวสะพานที่มีชื่อว่า "จิ" ที่ขยับเข้า-ออกได้ ดึงให้ตึงตามต้องการแล้วผูกขมวดไว้ตรงส่วนปลายตัวโคโตะ เส้นเหล่านี้ เดิมทีใช้เส้นไหม แต่สมัยใหม่มักใช้ไนลอน หรือเทตลอน ปรับเส้นเสียงตามตำแหน่งของสะพานที่จัดวางไว้โดยปรับให้เข้ากับเพลงแต่ละเพลง ในขณะที่เล่นอยู่นั้น นักดนตรีสามารถขยับปรับตำแหน่งของสะพานนี้ได้ตามเสียงโน้ตที่ต้องการ นับเป็นสิ่งท้าทายความสามารถของผู้เล่นเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังช่วยทำให้เครื่องดนตรีมีชีวิตชีวา สามารถปรับตัวเข้าหาสภาพแวดล้อมทางดนตรี และวัฒนธรรมได้โดยไม่จำกัดกาลและสถานที่
โกโตะ 13 สาย มีที่มาจาก "กักคุโซ" ดนตรีในราชสำนัก ในศตวรรษที่ 16 พระเคนจุน (1547-1636) นักบวชในพระบวรพุทธศาสนาซึ่งจำพรรษาอยู่ทางภาคเหนือของเกาะกิวชิว ได้ริเริ่มแต่งเพลงสำหรับโกโตะขึ้น เรียกรูปแบบเช่นนี้ว่า "ทสึคุฉิ" ตามชื่อภูมิภาค ต่อมา ยาทสึฮะฉิ เคงเงียว (1614-1685) นักดนตรีตาบอดแต่มีพรสวรรค์แห่งเมืองเกียวโตที่เป็นลูกศิษย์พระเคนจุน ก็ได้นำมาดัดแปลงเป็นเพลงนิทาน โดยการใส่เทคนิค การให้เสียงใหม่ ตลอดจนแต่งเพลงใหม่ขึ้นมาด้วย เพลงที่สร้างชื่อเสียงให้เขา คือ "โรคุดัง โนะ ชิบาเระ" (หกขั้นตอนของการเรียนรู้) เพลงนี้ยังคงเป็นที่นิยมแสดงในหมู่นักดนตรีโคโตะอยู่จวบจนทุกวันนี้ ระหว่าง ยุคเอโดะ (1603-1867) เครื่องดนตรีโคโตะได้พัฒนาจากดนตรีในราชสำนักไปสู่ดนตรีที่โดดเด่นของญี่ปุ่นด้วยคุณสมบัติของ เสียงที่ไม่ซ้ำแบบใคร และกลายมาเป็นความประณีตทางสุนทรีของศิลปะและวัฒนธรรมญี่ปุ่น
อ่านต่อ : //writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=510758&chapter=23#ixzz1JLBSYQK6
ท่านกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ นายคะซึโอะ ชิบะตะ และ คุณยุทธ วาณิชชานนท์ ที่ปรึกษา บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มล.ปนัดดา ดิศกุล ก็ได้มาร่วมชมและเป็นประธานภายในงานนี้ด้วยครับ
โนริโกะ ทซึโบอิ
เริ่มศึกษาโคโตะตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยเรียนเพลงญี่ปุ่นขนานแท้ ต่อมาในปี 1987 ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพจากสถาบันดนตรีซาวาอิ และได้เข้าศึกษาเป็นนักศึกษาวิจัยของสถาบัน เธอจบหลักสูตรดนตรีแบบประเพณีของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค และต่อหลักสูตรเข้มข้นสองปีของสถาบันดนตรีซาวาอิ ขณะเดียวกันก็ออกคอนเสิร์ตหลายครั้ง ทั้งยังได้ร่วมตระเวนแสดงในต่างประเทศหลายโอกาส เธอมิได้จำกัดตัวเองอยู่กับการเล่นโคโตะแบบประเพณีเท่านั้น หากยังเปิดโลกทัศน์ โดยได้ร่วมเล่นกับนักดนตรีแขนงอื่นๆ เช่น การด้นสดในคอนเสิร์ตต่างๆ
ในปี 1992 โนริโกะได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซาน ดิเอโก เป็นอาจารย์พิเศษสอนดนตรีโคโตะ การสอนของเธอเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง มีการจัดแสดงโคโตะ โดยรับหน้าที่เป็นทั้งผู้ฝึกสอนและวาทยกรให้กับนักเรียนของเธอเอง และเปิดการแสดงอองซอมเบิลในแคลิฟอร์เนีย นอกจากการสอนแล้ว โนริโกะยังแสดงเดี่ยวอีกหลายรายการ โดยร่วมงานกับคีตศิลปินหลากหลายสาขา หลังจากกลับประเทศญี่ปุ่นในปี 1998 เธอยังคงแสดงดนตรีหลายรูปแบบทั้งในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา เธอย้ายมาอยู่ประเทศไทยในปี 2001 ในปี 2005 เธอเชิญนักโคโตะและชาขุฮาจิจากญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกามาร่วมคอนเสิร์ตที่จัดโดยเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ซึ่งจัดที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ เธอยังเป็นผู้ประสานงานจัดคอนเสิร์ต Sawai Koto Orchestra Asia Tour ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก the Agency for Cultural Affairs ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดินทางแสดงที่กรุงเทพฯ กัวลาลัมเปอร์ และ นิวเดลี ในปี 2007 เธอเป็นสมาชิกของ Lantana และแสดงดนตรีร่วมสมัยที่ซานฟรานซิสโก เบย์ แอเรีย ทุกปีตั้งแต่ปี 2008
ปัจจุบัน โนริโกะสอนโคโตะที่กรุงเทพฯ และยังคงศึกษาและทำกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรีอันไร้พรมแดนในหลายๆ ประเทศในภูมิภาค
การแสดงโกโตะครั้งนี้มีร่วมการเล่นร่วมพร้อมกับฟลู้ตด้วยครับ
ฮิโรชิ มัทซึชิมา นักดนตรีที่มากความสามารถ และอาจารย์สอนฟลู้ตที่ยอดเยี่ยม
เคอิโกะ ซูซูกิ มาเล่นโกโตะให้ฟังกันในเพลงที่ 2
เพลงชุดที่ 3 ที่มีเล่นโกโตะพร้อมกันทั้ง 2 คน โนริโกะ-เดอิโกะ
ช่วงที่เล่นในทำนองที่รวดเร็ว มีการรัวกันอย่างสนุกสนาน ในตอนจบเพลง
และจบกันในชุดสุดท้ายที่ร่วมเล่นพร้อมกันทั้ง 3 คน
ท่านกงศุลญี่ปุ่น ร่วมกับ ท่านผู้ว่าจังหวัด มล.ปนัดดา ดิศกุล ได้ร่วมกันมอบช่อดอกไม้ให้กับนักดนตรีโกโตะ คุณโนริโกะ คุณเคอิโกะ และคุณฮิโรชิ มัทซึชิมา
ภาพหมู่เป็นภาพปิดท้าย
แอบตามไปขอถ่ายภาพทั้ง 3 ท่านมาเป็นการปิดท้ายครับ
ขอบคุณนักดนตรีจากญี่ปุ่นทั้ง 3 ท่านคุณโนริโกะ ทซึโบอิ คุณเคอิโกะ ซูซุกิ และคุณฮิโรชิ มัทซึชิมา
ขอบคุณท่านกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่นายคะซึโอะ ชิบะตะ
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มล.ปนัดดา ดิศกุล
คุณยุทธ วาณิชชานนท์ ที่เป็นแบบถ่ายภาพไว้ด้วยครับ
ขอบคุณทีมงานผู้จัดงานเชียงใหม่เฟสต์ 2011 ทุกๆ ท่าน
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่าย set นี้ด้วยครับ
****คุยกันท้าย blog
ได้ชมการแสดงโกโตะเป็นครั้งที่สองแล้ว เป็นที่ชื่นชอบและประทับใจมากๆ
ภาพการแสดงครั้งแรกที่ถ่ายภาพมาก็เป็นการบรรเลงโกโตะ โดยคุณโนริโกะ ทซึโบอิ เช่นกันครับ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=abird&month=29-11-2010&group=12&gblog=206
ภาพชุดแรกที่ได้ถ่ายภาพมา
| Create Date : 13 เมษายน 2554 |
| Last Update : 13 เมษายน 2554 8:14:32 น. |
|
13 comments
|
| Counter : 2733 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: KeRiDa  วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:5:43:49 น. |
|
|
|
| โดย: kobnon วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:7:30:39 น. |
|
|
|
โดย: yyswim  วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:14:37:16 น. |
|
|
|
| โดย: NET-MANIA วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:14:55:12 น. |
|
|
|
โดย: โสดในซอย  วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:22:28:27 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร  ) วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:9:13:39 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ  วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:10:22:19 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง
ทำให้คนเฒ่าคนแก่สุขใจที่ได้เห็นลูกหลานด้วยน๊า