Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
6 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
ประเพณี ปอยส่างลอง [วัดป่าเป้า : เชียงใหม่]

ปอยส่างลอง วัดป่าเป้า : เชียงใหม่ 4 - 6 เมษายน 2552


คำว่า "ส่างลอง" เป็นภาษาไทยใหญ่ เกิดจากคำผสมระหว่าง "ส่าง" แปลว่า สามเณร และคำว่า "ลอง" แปลว่า ผู้เป็นใหญ่เหนือมนุษย์หรือเทพบุตร หรือผู้เป็นหน่อเนื้อของผู้วิเศษ คำเต็มคือ "อลอง" เมื่อผสมกับคำว่า "ส่าง" เสียงอะที่อยู่หน้ากร่อนหายไป สันนิษฐานว่าเป็นภาษาพม่าที่นำมาใช้ภาษาไทยใหญ่

อีกนัยหนึ่งคำว่า "ส่างลอง" เทียบได้กับคำว่า "ลูกแก้ว" ในภาษาถิ่นล้านนา ประเพณีทำบุญส่างลอง เรียกว่า ปอยส่างลอง คำว่า "ปอย" คือ งานอันเป็นมงคลยิ่งใหญ่ในการบรรพชา หรือ บวชลูกแก้วของชาวล้านนา
ส่วนประวัติความเป็นมามีกล่าวไว้หลายเรื่อง เรื่องหนึ่งคือ ในสมัยอดีตกาล ณ เมืองหนึ่งมีพระมหากษัตริย์ มีโอรสทรงพระนามว่า "จิตตะมังชา" ครั้นโอรสมีอายุได้ 10 ชันษา พระบิดาก็มุ่งหวังจะให้โอรสได้ผนวชเป็นสามเณร แต่พระองค์ไม่ทรงบังคับแต่อย่างใด ความนี้ล่วงรู้ไปถึง "จิตตมังชาโอรส" จึงได้ตัดสินใจขอผนวชเอง ทำให้พระราชบิดาทรงปลาบปลื้มมาก รับสั่งให้มีการฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตลอด 7 วัน 7 คืน ได้แห่ส่างลองจิตตะมังไปรอบเมือง และไปหาพระพุทธเจ้า
สามเณรจิตตมังชาผนวชอยู่กับพระพุทธเจ้าเป็นเวลานาน ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างแตกฉานและได้สำแดงบุญบารมีเป็นที่ประจักษ์ไปทั่ว เช่นครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเสร็จไปเยี่ยมพระประยูรญาติ ณ เมืองกบิลพัสดุ์ พระนางปชาบดีโคตมีได้ทอผ้าจีวรด้วยเส้นทองคำ 2 ผืน ถวายแด่ พระพุทธเจ้า พระองค์ทรงรับผืนเดียวที่เหลือไม่มีสาวกองค์อื่นกล้ารับ แต่สามเณรจิตตมังชากล้ารับทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เป็นอันมากว่า สามเณรจิตตะมังชายังเยาว์วัยเกินไปไม่สมควรรับ ความทราบถึงพระพุทธเจ้า จึงจัดให้สาวกมาประชุมกัน แล้วพระองค์ทรงโยนบาตรขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับตรัสว่า สาวกองค์ใดจะมีความสามารถรับบาตรนี้ได้ ปรากฏว่าผู้ที่สามารถรับบาตรนี้ได้คือ สามเณรจิตตะมังชาได้เหาะไปรับบาตรมาถวายพระพุทธเจ้า แสดงให้เห็นว่า เหมาะที่จะรับจีวรด้ายทองคำ และเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป
อีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า สมัยพุทธกาลที่เมืองแห่งหนึ่งมีงานปอยส่างลอง โดยคหบดีเศรษฐีผู้มีเงินทองหลายคนร่วมกันจัดงาน แต่มีครอบครัวหนึ่งกำพร้าพ่อเหลือแม่กับลูกชายที่มีรูปร่างอัปลักษณ์น่าเกลียดไม่มีใครอยากคบด้วย ลูกชายอยากเป็นส่างลองมาก แต่แม่ยากจนไม่สามารถหาเงินมาจัดงาน "ปอยส่างลอง" ได้ พร้อมทั้งถูกพูดจาถากถางตลอดว่า "ยากจนแล้วอย่างเป็นส่างลอง" ยิ่งใกล้ถึงวันรับส่างลอง เสียฆ้องกลองบ้านเจ้าภาพทำให้ทั้งแม่และลูกเป็นทุกข์มาก ครั้นหมดปัญญาจะหาเงินมาร่วมจัดงานด้วยเรื่องนี้ร้อนไปถึง "บุนสาง" หรือพระพรหม ผู้มีหูตาทิพย์ เมื่อทราบจึงมีความคิดที่จะช่วยทั้งสอง จึงแปลงร่างเป็นชายแก่มอบเงินทองให้ แต่ก็ติดขัดที่ลูกชายรูปร่างอัปลักษณ์ พระพรหมก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงจะช่วยเอง
จนถึงวันรับส่างลอง เมื่อแต่งชุดส่างลองแล้ว พระพรหมก็เนรมิตรูปร่างให้ใหม่กลายเป็นส่างลองที่สวยงาม แต่งคล้ายเจ้าชายมีเครื่องประดับสวยงาม เพื่อแห่ส่างลองไปรอบๆ เมือง ผู้คนพบเห็นต่างก็ประทับใจ กล่าวชมความสวยงามและน่ารักของส่างลองเป็นอันมาก จวบจนเมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วก็อยู่ในเพศบรรพชิตต่อไป
นอกจากนี้ยังเชื่อว่า การจัดงาน "ปอยส่างลอง" จะได้อานิสงส์มาก ถ้าได้บวชลูกตนเองเป็นสามเณรได้อานิสงส์ 7 กัลป์ถ้าบวชลูกคนอื่นได้อานิสงส์ 4 กัลป์ ถ้าได้อุปสมบทลูกตัวเองเป็นพระภิกษุได้อานิสงส์ถึง 12 กัลป์ อุปสมบทลูกคนอื่นเป็นพระภิกษุได้อานิสงส์ 8 กัลป์ ดังนั้นชาวไทยใหญ่ทั้งหลายไม่ว่าจะยากดีมีจนก็ต้องพยายามจัดงานปอยส่างลองให้ได้
งานปอยของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยึดถือปฏิบัติกันมาหลายร้อยปีแล้ว เช่นในคราวที่สมเด็จเจ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสด็จไปตรวจราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อ พ.ศ. 2472 ได้บันทึกไว้ในรายงานความว่า
"ในวันที่ขึ้นพระธาตุดอยกองมูนี้ ที่เชิงดอยมีแห่ครัวทานตามแบบพายัพ พญาพิศาลฮ่องสอนกิจ พ่อเมือง นำหน้าขบวนแล้วก็ถึงมหรสพแล้วถึงมณฑปทำด้วยกระดาษมีคานหาม ต่อนั้นไปมีผู้หญิงงามถือธูปเทียนตกแต่งด้วยเครื่องกระดาษ ประมาณ 40 คน มีสำรับคาวหวาน คนหาบซึ่งมีเด็กซึ่งบวชเป็นสามเณรในวันนั้น ขี่คอคนต่างม้า ยึดผ้าโพกศีรษะคนนั้นๆ เป็นบังเหียนเต้นทำนองม้า มีกลดทองแบบพม่าทั้งสิ้น ข้างขวาคนละ 2 คัน รวม 10 คัน มีนางงามโปรยข้าวตอกซัดเตจ้านาค เจ้านาคแต่งตัวคล้ายละครพม่า พิธีนี้ตามคำเมืองเรียกว่า "บวชลูกแก้ว หรือ ปอยส่างลอง" ตามภาษาไทยใหญ่"
คัดลอกข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาไว้เป็นข้อมูลให้อ่านกันนิดหน่อย (//thai.tourismthailand.org/festival-event/maehongson-58-2513-1.html)



งานปอยส่างลอง ที่มีการจัดงานภายในจังหวัดเชียงใหม่ ที่จริงก็มีหลายวัดที่จัดการงานปอยส่างลองนี้ขึ้น เช่น ที่วัดกู่เต้า วัดท่ากระดาษ วัดเกาะกลาง (จัดงานช่วงเวลาใกล้ๆ กันกับที่วัดป่าเป้า และเพิ่งทราบจากเพื่อนที่มาถ่ายภาพในงานเดียวกันนี้ ว่าที่วัดเกาะกลางมีจำนวนส่างที่มาบวชเป็นจำนวนมากจริงๆ ในปีนี้ เพิ่งมาทราบในปีนี้ ปีหน้าคงต้องไปลองถ่ายภาพที่วัดเกาะกลางนี้ดูบ้าง) และที่วัดป่าเป้า ที่มาถ่ายภาพและนำเสนอให้ชมกันใน blog นี้ ทางวัดป่าเป้ามีส่างมาบวช จำนวน 16 คน ตามจำนวนครั้งที่ทางวัดจัดงานปอยส่างลองนี้ด้วย





















ภายในงานก็มีการนำของใช้ส่วนตัวของส่าง มาเข้าร่วมพิธีภายในขบวนพิธีด้วย


และภายในขบวนพิธีที่ส่างหรือลูกแก้วจะต้องไปนั่งอยู่บนหลังม้าด้วย




และที่ขาดไม่ได้ก็คือนักดนตรีที่บรรเลงจังหวะดนตรีอย่างสนุกสนาน ที่ทำให้ทุกครั้งที่นักดนตรีบรรเลงเพลงจังหวะม้าเต้น-ม้าย่อง ม้าหลายๆ ตัวต่างก็ออกลีลา ส่ายหัว เต้นสลับขาไปมา ดูแล้วน่าตื่นตาตื่นใจดี




ได้เห็นเจ้าม้าตัวนี้ดูแล้วคึกคักเหลือเกิน
จนเกรงว่าส่างคนไหนจะได้มาลงขี่ แล้วมันจะยอมให้ขี่แต่โดยดีหรือเปล่า และถ้ามันไม่ยอมให้ขี่ โดยยกขาหน้าทั้ง 2 ข้างแบบนี้

































ช่วงที่พอว่างจากการถ่ายภาพก็เลยต้องหาอะไรถ่ายเล่นเอาสีสันสวยๆ มาให้ชมกันสักนิดหน่อย










































และเจ้าม้าตัวนี้ก็โชว์ลีลา ออก step ม้าย่อง จนเกินที่ส่างจะสามารถนั่งร่วมขบวนไปได้












ขอขอบคุณทางวัดป่าเป้า เจ้าหน้าที่ที่ร่วมจัดงานปอยส่างลองนี้ทุกท่าน
ขอขอบคุณบรรดาผู้ร่วมงานที่มาร่วมในงานพิธีปอยส่างลองนี้ทุกท่าน และรวมถึงส่างที่ร่วมบวชในงานปอยส่างลวงของวัดป่าเป้านี้ด้วย
และขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายชุดนี้ด้วยครับ


Create Date : 06 เมษายน 2552
Last Update : 6 เมษายน 2552 17:29:07 น. 10 comments
Counter : 6451 Pageviews.

 
ภาพงามแต๊ๆเจ้า


โดย: gripenator วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:13:16:46 น.  

 
ตามชมภาพสวย ๆ ค่ะคุณเบิร์ท

ที่ป่าซางมีประเพณีบวชลูกแก้วที่วัดพระพุทธบาทตากผ้าค่ะ มีขบวนแห่ด้วยล่ะ...แต่ไม่ได้ไปเที่ยวเพราะต้องไปส่งลูกเรียนดนตรี

โอกาสหน้ามีงานดี ดี จะมาส่งเทียบเชิญที่บ้านนะคะ




โดย: เอื้องสามปอย วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:13:46:27 น.  

 
ขอบคุณ k.gripenator และ k.เอื้องสามปอยด้วยครับ ที่แวะมาชมภาพถ่ายชุดนี้ด้วย


โดย: ถปรร วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:17:26:46 น.  

 
แวะมาทักทาย
บรรยากาศและสีสันตระการตาจังเลยครับ


โดย: tiensongsang วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:19:14:11 น.  

 
ขอบคุณรูปสวยๆ และความรู้ที่นำมาฝากนะคะ ม้าก็น่ารักค่ะ ^^


โดย: pim(พิม) วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:22:51:03 น.  

 
ทักทายกับเพื่อนๆ ตอนเช้าวันอังคาร วันทำงานวันแรกของสัปดาห์นี้ก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ วันนี้ก็เลยเป็นวันที่คึกคักไปอีก 1 วัน หลังจากหยุดมา 3 วันที่ผ่านมา
และขอบคุณ k.tiensongsang , k.pim ด้วยครับที่แวะมาชมภาพถ่ายชุดนี้ด้วยครับ


โดย: ถปรร วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:8:17:47 น.  

 
วันนี้อัพศรีราชาค่ะคุณเบิรท์ คิดถึงบ้านก็แวะไปดูได้น่ะคะ


มีอาหารอร่อยๆที่ร้านเจ๊ไหมมาฝากด้วยนะคะ





โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:10:32:46 น.  

 
ภาพคมชัดสวยงามมากเลยครับ แต่ช่วงนี้อากาศร้อนจริง ๆ เลยครับ


โดย: ya IP: 114.128.13.212 วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:11:34:16 น.  

 
ขอบคุณ k.จิบ มาเรีย ณ ไกลบ้าน ด้วยนะครับ ที่แวะมาชวนไปชม ไปเที่ยวศรีราชา ภาพสวยๆ ทั้งนั้นเลย
และขอบคุณ k.ya ด้วยนะครับที่แวะมาชมภาพถ่ายชุดนี้เช่นกันครับ


โดย: ถปรร วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:17:00:08 น.  

 
ขอบคุณครับ ที่นำภาพสวยๆมาให้ดูกัน


โดย: TracherTop IP: 124.120.87.73 วันที่: 23 มิถุนายน 2552 เวลา:9:55:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ถปรร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ถปรร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.