|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
The 30th Bangkok International Motor Show [Part III-Pretty กับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย]
The 30th Bangkok International Motor Show [Part III-Pretty กับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย]
มีภาพ Pretty จากงานThe 30th Bangkok International Motor Show อีกสักชุดหนึ่ง ซึ่งชุดนี้จะเลือกนำภาพพริตตี้ที่มีบางคนได้ถ่ายภาพมาหลายภาพหน่อย อาจเรียกว่าเป็น set ที่พริตตี้เลือกโพสท์ท่าให้ถ่ายภาพได้หลายๆ shot บางภาพอาจจะซ้ำกับชุดที่แล้วบ้างแต่ก็เพื่อจะนำเสนอให้เป็น set ของพริตตี้คนๆ นั้น และก็จะเล่าถึงเบื้องหลังการถ่ายภาพเล็กๆ น้อยๆ ด้วย มาลองชมกันดูอีกสักครั้ง มีภาพของ 2 พริตตี้ค่าย BMW ในส่วนของรถมอเตอรไซค์ มาเริ่มกันที่คนแรกก่อน
เชื่อว่าในสายตาหลายๆ คน ที่ได้เห็น หรือได้มองภาพของช่างภาพ คนถ่ายภาพภายในงานมอเตอร์โชว์ ที่มาในงานมอเตอร์โชว์ เชื่อว่าหลายคนคิดว่าช่างภาพ คนถ่ายภาพนั้นมาเพื่อถ่ายภาพพริตตี้ ถ่ายภาพรถยนต์ เพื่อความสนุกสนาน เพื่อความบันเทิง ซะเป็นส่วนใหญ่
แต่ในส่วนหนึ่งที่มองข้ามไป หรืออาจมองกันไม่เห็นก็คือ ยังมีช่างภาพ คนถ่ายภาพอีกส่วนหนึ่ง ที่ใช้งานมอเตอร์โชว์นี้ในการฝึกถ่ายภาพ ฝึกการถ่ายภาพ portrait ฝึกการใช้แฟลช รวมถึงตัวผมเองด้วย ถ้ามีโอกาสได้ไปสัมผัสงานแบบนี้ ก็ตั้งใจเป็นพิเศษว่าในงานนี้เราจะไปหัดถ่ายภาพแบบไหน ใช้เลนส์ ใช้แฟลชควบคุมภาพให้ได้สวยๆ ได้อย่างไร
ภายใน hall ถึงแม้จะมีแสงที่สว่างไสวพอสมควรอยู่แล้ว แต่การจัดแสงของแต่ละค่ายรถยนต์ไม่เหมือนกัน บางค่ายรถยนต์มองเรื่องแสงเน้นไปที่รถยนต์เพียงอย่างเดียว บางค่ายรถยนต์ก็จัดแสงให้กับพริตตี้ด้วย ดังนั้นในการที่ไปถ่ายภาพ portrait พริตตี้สาวสวยแต่ละค่ายรถยนต์ จำเป็นต้องแก้สถานการณ์เรื่องแสงที่แตกต่างกันไป
ดังนั้นกับมือใหม่ หรือช่างภาพ คนถ่ายภาพที่กำลังหัดถ่ายภาพจะรู้สึกว่าไม่ง่ายเลย เมื่อกลับมาดูภาพจะเห็นว่าทำไมภาพของพริตตี้ค่ายรถยนต์นั้นถ่ายออกมาแล้วสวย ทำไมภาพของพริตตี้ค่ายรถยนต์นี้ถ่ายออกมาแล้วไม่สวย ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมาของตัวเอง ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ในหลายๆ ภาพ ถึงแม้มีการใช้แสงแฟลชช่วยแล้ว แต่ยังมีภาพส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถลบเงาใต้ดวงตาของพริตตี้ได้ และก็ยังปัญหาอื่นๆ อีกมากมายล่ะที่ต้องหัดถ่ายภาพและแก้ไขในแต่ละสถานการณ์ต่อไป
สิ่งที่จะเล่าถึงการถ่ายภาพแนว portrait ในแนวที่ตัวเองหัดถ่ายภาพอยู่นี้ ด้วยคุณสมบัติของกล้อง canon 40D ที่มีจุดโฟกัสแบบ cross type 9 จุดด้วยกัน เมื่อถ่ายภาพแนวนอนก็จะเป็นแบบนี้
เมื่อถ่ายภาพแนวตั้งก็จะเป็นแบบนี้
การโฟกัสสามารถเลือกใช้อันใดอันหนึ่งใน 9 จุดนี้ได้ หรือจะเลือกพร้อมกันทั้งหมด 9 จุดก็ได้ แต่ก็จะเป็นว่ากล้องไปเจอตำแหน่งไหนใกล้ๆ ก่อน จุดใดจุดหนึ่งใน 9 จุด กล้องก็จะโฟกัสบริเวณจุดที่ใกล้นั้นก่อน
และเมื่อเริ่มถ่ายภาพด้วยกล้อง canon 40D ก็มักจะใช้ตำแหน่งตรงกลางกล้องไว้ก่อนเสมอ แล้วก็ใช้วิธีโฟกัสด้วยตำแหน่งกลางของจุดโฟกัส เล็งไปยังภาพที่จะถ่าย ถ้าการวางภาพจุดเด่นอยุ่ตรงกลางภาพก็ดีไป กดชัดเตอร์ได้เลย แต่ถ้าการวางภาพแล้วจุดที่โฟกัสไม่ได้อยู่กลางภาพ เช่น ริมซ้าย ริมขวา หรือ ด้านบน ด้านล่าง ก็แล้วแต่องค์ประกอบของภาพ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็จำเป็นจะต้องกดชัตเตอร์ค้างไว้ครึ่งหนึ่งก่อน แล้วก็ปรับตำแหน่งมุมมองการถ่ายภาพให้ได้กับมุมมองที่ต้องการถ่ายภาพ จึงจะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพนั้นๆ
หลังจากนั้นก็มีน้าๆ มาสอนว่า แทนที่จะเลื่อนกล้อง(แพนกล้อง) มาปรับมุมมองใหม่ ทำไมเราไม่ใช้จุดโฟกัสจุดใดจุดหนึ่งที่เราต้องการให้ตำแหน่งโฟกัสไปยังตำแหน่งที่เราต้องการโฟกัสไว้เลย ซึ่งวิธีนี้ก็จะทำให้ถ่ายภาพได้เร็วกว่า ไม่ต้องกดชัตเตอร์แช่ไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อล็อคโฟกัสไว้ก่อน สามารถโฟกัสในตำแหน่งที่ต้องการ และมุมมององค์ประกอบของภาพก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงแล้ว สามารถกดชัตเตอร์ได้ทันที
ที่กล่าวถึงในส่วนนี้ กับคนที่ถ่ายภาพเก่งๆ แล้ว ช่างภาพมือโปรฯ แล้วเค้าไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องพวกนี้ในการโฟกัสกันเท่าไรแล้ว ที่นำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อว่าคนที่กำลังหัดถ่ายภาพอยู่ จะได้ลองหัดใช้โฟกัสแต่ละจุด ในแต่ละสถานการณ์การถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้น
จากภาพด้านบน จะเห็นได้ว่าตำแหน่งของจุดโฟกัสสีแดง อยู่ทางด้านซ้ายมือ เมื่อนำไปถ่ายภาพ portrait ก็สามารถวางตำแหน่งนี้ไว้ตรงกับดวงตาขวาของพริตตี้ได้เลย ส่วนตำแหน่งโฟกัสทางด้านขวาที่เป็นสีเหลือง เมื่อนำไปถ่ายภาพ portrait ก็สามารถวางตำแหน่งนี้ไว้ตรงกับดวงตาด้านซ้ายของพริตตี้ได้เลย
เมื่อวางตำแหน่งไว้แบบนี้ ทุกครั้งที่กดชัตเตอร์ และองค์ประกอบของภาพดีแล้ว การโฟกัสก็จะเป็นการโฟกัสไปที่ดวงตาของแบบพอดีเป๊ะ แล้วก็จะเป็นการถ่ายภาพแบบโฟกัสที่ดวงตาได้เลย
จากคำวลีสั้นๆ "โฟกัสที่ดวงตา กดชัตเตอร์ถ่ายภาพด้วยหัวใจ"ที่มักจะได้ยินเสมอในบรรดาช่างภาพมือโปรฯ ที่ถ่ายภาพ portrait เป็นส่วนใหญ่นั้น ถ้าเริ่มทำตามข้างบนได้แล้ว เราก็จะโฟกัสที่ดวงตาได้แล้ว
ส่วนการถ่ายภาพกดชัตเตอร์ด้วยหัวใจ นั้นเข้าใจว่าเป็นการเปรียบเทียบ คล้ายกับยอดฝีมือในยุทธจักรชาวจีน ที่สามารถฝึกเพลงกระบี่จนบรรลุชั้นสูงสุดของตารานั้นๆ แล้ว เมื่อนำมาเทียบกับช่างกล้องแล้ว ก็สามารถใช้หัวใจในการถ่ายภาพ กดชัตเตอร์ภาพสาวๆ สวยๆ ด้วยหัวใจของช่างภาพคนนั้น
เอาเป็นว่าขอข้ามไปก็แล้วกัน ถ่ายภาพกดชัตเตอร์ด้วยหัวใจ นี่ไม่รู้จะไปถึงขั้นนั้นได้อย่างไร หาทางไปไม่เจอ ต้องฝึกกันอีกกี่ปี ก็ไม่รู้
กลับมาที่การใช้โฟกัสทั้ง 9 จุด ในการถ่ายภาพแต่ละภาพนั้นๆ ให้ได้ดีเสียก่อนดีกว่า การใช้โฟกัสที่ดวงตา เราจะใช้ข้างไหน ก็คงต้องดูจากแบบว่าหันด้านข้างที่ใกล้กล้องข้างไหนมากกว่ากัน เราก็ใช้โฟกัสริมด้านนั้นในการใช้โฟกัสที่ดวงตาของแบบ
กล่าวถึงการโพสท์ท่าของนางแบบสักนิดนึงด้วย ปกติแล้วการถ่ายภาพเต็มตัวหรือไม่เต็มตัว ตัวเองมักจะห่วงเรื่องมือเป็นสำคัญ ยิ่งถ้าเป็นภาพครึ่งตัว ไม่ว่าจะถ่ายจากแบบทั่วๆ ไป หรือแบบพริตตี้แบบภาพนี้ ถ้ามือของแบบไม่ได้ยื่นออกไปไหนไกล ไม่ปล่อยลงไปตรงๆ จะทำให้ถ่ายภาพได้ค่อนข้างง่าย สามารถถ่ายภาพได้กระชับกับตัวแบบมากยิ่งขึ้น และที่ไม่ชอบเลยก็คือแขนข้างหนึ่งที่ยื่นเลยลำตัวไปทาง อีกข้างหนึ่งยื่นออกนอกลำตัวไปอีกทาง แบบนี้ล่ะปวดหัวสุดๆ หรือไม่ก็ตัดใจถ่ายภาพแขนขาดมาเลย
ภาพพริตตี้ของสาว Volkswagen คนนี้ เธอใช้มือเป็นองค์ประกอบการโพสท์ท่าของตัวเองได้ดี และเป็นไปในแบบที่ตัวผมเองชอบ เพราะลักษณะของการวางมือ-แขน จะอยู่ในส่วนของช่วงลำตัวซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วเธอก็เปลี่ยนมุมมอง การโพสท์ท่าใหม่ๆ โดยที่ส่วนของมือ-แขนของเธอไม่ได้ยื่นไปไกลจากลำตัวเลย
ทำให้การถ่ายภาพลักษณะการโพสท์ท่าแบบนี้ สามารถถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น สามารถวางโฟกัสไว้ที่ดวงตาได้เลย แล้วก็จัดองค์ประกอบเล็กน้อย สามารถถ่ายภาพได้ทันที ส่วนของมือ-แขนไม่หลุดจากเฟรม และถ้าเธอโพสท์ท่าในแบบนี้ติดต่อกันไปอีก 5-6 shot ช่างภาพ คนถ่ายภาพก็ไม่ต้องปรับเลนส์มุมมองใหม่ๆ สามารถกดชัตเตอร์ตามได้ทุกครั้งที่เธอหันกลับมาส่งสายตาให้
ส่วนภาพของสาวพริตตี้ค่ายเดียวกัน Volkswagen สาวชุดดำคนนี้ ถ้าใครจำได้ว่าใน blog ก่อนหน้านี้ ได้พูดถึงเธอเล็กน้อยว่า เหมือนเธอจะถอดตำราการโพสท์ท่าทางการถ่าย portrait มาแบบครบถ้วนกระบวนความ
ได้กล่าวถึงไปใน blog ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการโพสท์ท่าของเธอ ที่ว่าถอดตำราการโพสท์ท่ามาก็คือ 1. ไหล่ต้องยกข้างใดข้างหนึ่ง คือไหล่ 2 ข้างต้องไม่ตรงขนานไปกับพื้น 2. ใบหน้าเอียงซ้าย-ขวาทำมุม ไม่ตั้งตรงเหมือนถ่ายบัตรประชาชน 3. ลำตัวไม่ตรงเป็นตัว I 4. ใช้อุปกรณ์ประกอบทำให้การโพสท์ท่าได้หลากหลาย เช่น กระเป๋าถือ 5. ขาไม่ได้ยืนตรง เป็นการยืนทิ้งน้ำหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง
และพอได้ถ่ายภาพของสาวพริตตี้คนนี้ ทำให้เรียกว่าเปิดตำราไม่ทันทีเดียว จากที่แรกๆ ก็วางโฟกัสไว้ที่ดวงตาข้างใดข้างหนึ่งได้อยู่ แต่เมื่อจะกดชัตเตอร์ต่อไปทันทีนั้น ภาพในเฟรมกับการโพสท์ท่าของเธอนั้น ทำให้ส่วนของแขน-มือ ขา สะโพก หรือส่วนอื่นๆ จะต้องหลุดเฟรม หลุดการวางจุดตัด 9 ส่วนไปเกือบทุกๆ ภาพ
ปกติในการมาถ่ายภาพในงานมอเตอร์โชว์แบบนี้ พริตตี้จะทราบดีว่ามีช่างกล้องที่จะโพสท์ท่าให้ถ่ายภาพกี่คน และเธอก็จะส่งสายตาให้ช่างภาพถ่ายภาพทีละคน เรียงๆ กันไป แต่ถ้าช่างภาพคนใดสนิทสนมกับพริตตี้เป็นพิเศษ ช่างภาพคนอื่นๆ ก็อาจจะตกสำรวจไปได้ในหลายๆ จังหวะในการถ่ายภาพพริตตี้คนนั้น
และเมื่อเจอพริตตี้ที่เก่งในเรื่องการโพสท์ท่าแบบนี้ จากที่เขียนไว้ตอนต้น ว่าจุดโฟกัสกลางจอภาพจะมาใช้งานในด้านไหนบ้าง ตัวผมเองจะหันมาใช้จุดโฟกัสกลางภาพแทน เพื่อล็อคตำแหน่งการโฟกัสกลางลำตัวไว้ก่อน แล้วก็ปรับเลนส์ในมุมมองตามการโพสท์ท่าของเธอไป
คราวนี้ไม่ว่าเธอจะโพสท์ท่าที่ส่วนหัวไปทางซ้ายของภาพ แขนและมือกลับยื่นเลยไปทางซ้ายมากขึ้นอีก และส่วนของเท้ากลับยื่นมาทางขวาของเฟรมเหมือนในหลายๆ ภาพที่นำมาให้ชมกันนี้
การใช้โฟกัสล็อคไว้ที่จุดกลางจอภาพ เชื่อว่าพอที่จะปรับกล้องถ่ายภาพให้ทันการโพสท์ท่าของเธอได้ดีพอสมควร
แต่กลับคนที่ชำนาญการกดชัตเตอร์แช่ไว้ครึ่งเดียว แล้วปรับเลนส์ ปรับมุมมองของกล้องให้ทันกับการโพสท์ท่าของแบบได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ที่นำมาเล่าสู่กันฟังใน blog นี้ ก็เพื่อว่าเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้อ่านกันนิดหน่อยเท่านั้น ยังไม่ได้กล่าวถึงเรื่องอื่นๆ เช่นการล็อคค่าแสง ที่เชื่อว่า หรือ เห็นภาพแล้วว่าปรับตั้งหน้ากล้อง หรือวางตำแหน่งแฟลชไว้ดีแล้ว ก็สามารถล็อคค่าแสงนั้นให้กับพริตตี้คนนั้นๆ ได้เลย และเรื่องอื่นๆ ซึ่งตัวผมเองก็ยังคงต้องไปเรียนรู้ลักจำมาอีกหลายสนามการทดสอบฝีมือการถ่ายภาพต่อไป
ก่อนจบก็อยากพูดถึงเรื่องที่พริตตี้โพสท์ท่า(หลุด) ช่างถ่ายภาพ คนถ่ายภาพที่ดี ควรจะรีบบอกพริตตี้คนนั้นๆ ทันที ไม่ใช่ไม่บอกแล้วก็ถ่ายเอาๆ มันส์ เอาสนุกกันอยู่ร่ำไป แต่ในงานนี้ในหลายๆ ค่ายรถยนต์ ก็เห็นเจ้าหน้าที่มาช่วยยืนดูและบอกน้องๆ พริตตี้ให้ปรับตำแหน่งเสื้อผ้ากันใหม่ในหลายๆ ค่ายรถยนต์ทีเดียว
ก่อนจบ ก็อยากสรุปเล่าจากประสบการณ์ตัวเองที่ผ่านมาให้ฟังให้อ่านกันเล่นๆ เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ คนที่ไม่กล้าพูดคุยกับพริตตี้ ไม่กล้าขอให้โพสท์ท่า ปล่อยให้พริตตี้โพสท์ท่ามาอย่างเดียว ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้ จะทำให้ถ่ายภาพได้ลำบาก ยากกว่าช่างภาพที่สนิทสนมกับการถ่ายภาพพริตตี้ ที่ขอให้พริตตี้โพสท์ท่าได้ และมีเวลาปรับกล้องนานๆ ได้ จึงไม่แปลกที่อาจจะได้ยินว่ามีคนไปถ่ายภาพงานมอเตอร์โชว์มากกว่า 2-3 ครั้ง หรือไปกันทุกวันทีเดียว
ขอขอบคุณทีมงานผู้จัด Motorshow 2009 นี้ทุกๆ ท่าน
ขอขอบคุณนางแบบทุกๆ ท่านที่เป็นแบบให้ถ่ายภาพชุดนี้ด้วยครับ
ขอขอบคุณพี่สาวที่แสนดี ที่เตรียมบัตรไว้ให้เข้าชมงาน
และขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายชุดนี้ด้วยครับ
Create Date : 02 เมษายน 2552 |
Last Update : 2 เมษายน 2552 22:21:57 น. |
|
11 comments
|
Counter : 5634 Pageviews. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:19:02:12 น. |
|
|
|
โดย: VELEZ วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:19:22:17 น. |
|
|
|
โดย: ถปรร วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:22:33:25 น. |
|
|
|
โดย: pim(พิม) วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:23:12:11 น. |
|
|
|
โดย: ถปรร วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:23:33:58 น. |
|
|
|
โดย: arcoiris วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:12:10:29 น. |
|
|
|
โดย: ถปรร วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:18:07:07 น. |
|
|
|
โดย: arcoiris วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:7:51:44 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ถ่ายภาพแบบเต็มๆ เลยคะ ...
จขบ.ใจดีเปิดคอร์สผ่านบล็อกด้วย ขอบคุณค่ะ