Group Blog
 
<<
มีนาคม 2565
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
3 มีนาคม 2565
 
All Blogs
 
เที่ยวชม "อันซีน" วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จ.อุบลราชธานี

04 03 2565 เที่ยวชม "อันซีน" วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จ.อุบลราชธานี [02 02 2562]

ทริปท่องเที่ยวอีสาน ทริปนี้ถัดมาจากที่ได้ไปเยือนอุดรธานี จ.หนองคาย ในปี 2561

ทริปนี้เดินทางกันวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ถึง จ.อุบลราชธานี แล้วเข้าพักผ่อนกันก่อน วันรุ่งขึ้น(2 กพ.) กำหนดการทริปมีไปทำงานที่โรงพยาบาลในจังหวัดอุบลราชานี แป๊บนึง เสร็จธุระแล้วในช่วงสาย ๆ ก็เดินทางไปสามพันโบก เที่ยวชมอุทยานแห่งชาติผาแต้ม และช่วงเย็น ๆ ค่ำคืนก็ไปวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว (วัดภูพร้าว)

ซึ่งวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือ วัดภูพร้าว แห่งนี้มีอันซีนในการมาชม และ บันทึกภาพสวย ๆ กลับไปชื่นชม นั้นก็คือช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ลับไปแล้ว ด้านหลังของพระอุโบสถวัดภูพร้าวแห่งนี้ จะมีมุมถ่ายภาพแบบอันซีน ลวดลายของต้นกัลปพฤกษ์ที่อยู่ด้านหลังของพระอุโบสถจะเรืองแสงในเวลาค่ำคืน รวมถึงลานพื้นดิน มีลวดลายประติมากรรมเส้นสายนูนต่ำก็จะเรืองแสงได้เช่นกัน
ทริปท่องเที่ยวที่วัดภูพร้าวจึงเป็นเป้าหมายของทริปนี้ว่าต้องได้ถ่ายภาพกัลปพฤกษ์เรืองแสงกลับไปด้วย

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือ วัดภูพร้าว จ.อุบลราชธานี วัดนี้มีชื่อเสียงที่เป็นไฮไลท์ หรือจะเรียกอันซีนก็ได้ คือ การรอถ่ายภาพต้นกัลปพฤกษ์ด้านหลังพระอุโบสถของวัดจะเรืองแสงอย่างสวยงาม รวมถึงลวดลายบนพื้นก็จะเรืองแสง สร้างฉากหน้าให้ดูสวยงามอลังการ (รอชมกันได้ในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกไปแล้ว 18.30-19.30 น.)




วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ตั้งอยู่บนภูพร้าวใกล้กับด่านพรมแดนช่องเม็ก ภายในวัดมีอุโบสถที่มีความวิจิตรงดงามด้วยรูปแบบงานสถาปัตยกรรมที่มีต้นแบบมาจากวัดเชียงทองของ สปป.ลาว มีความกว้างมากกว่า 1 เท่า และความยาวมากกว่า 2 เท่า เสาแต่ละต้นลง ลวดลายด้วยมือ โดยรอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ทั้งหลายตามคติบัว 4 เหล่า

ด้านหลังของพระอุโบสถมีประติมากรรมนูนต่ำภาพต้นกัลปพฤกษ์ที่เรืองแสงได้เมื่อได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพราะสร้างด้วยกระเบื้องเคลือบสารฟลูออเรสเซนต์ จะเห็นการเรืองแสงได้ชัดเจนในช่วงเย็น-หัวค่ำ

ภาพถ่ายใน blog นี้ ขอเริ่มต้นในไฮไลท์ของการมาถ่ายภาพในครั้งนี้กันก่อน
หลังจากมาถึงที่วัดภูพร้าว แล้วก็เล็ง ๆ ว่าน่าจะต้องได้จองพื้นที่ด้านหลังพระอุโบสถกันก่อน ด้วยที่เห็นในภาพมาก่อนว่าช่วงการบันทึกภาพอันซีนช่วงที่มีการเรืองแสงนั้น พื้นที่ด้านหลังก็จะเต็มไปด้วยช่างภาพ

และเมื่อไปถึงก็พบว่ามีช่างภาพมารอๆ กันอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เลยรีบไปกางขาตั้งกล้องไว้กับเค้าด้วย
พอช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าไปนั้น ก็ดูเหมือนจะรู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้บันทึภภาพแสงยามเย็นที่วัดภูพร้าวด้วย
ลองคุยกับพี่ช่างภาพคนข้าง ๆ แล้วก็ขอฝากขาตั้งกล้องจองพื้นที่ไว้ แล้วก็แว๊บมาบันทึกภาพถ่ายช่วงนี้เก็บไว้ก่อนด้วย

ได้ภาพถ่ายดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าริมฝั่งแม่น้ำโขงมาด้วยแล้ว






กลับมาประจำจุดแล้วก็ถ่ายภาพช่วงแสงท้องฟ้ายามเย็นเก็บไว้ชมกันก่อน




สิ่งที่จะดูเป็นกังวลทั้งก่อนที่จะมาที่วัดภูพร้าว และตอนที่กำลังรอถ่ายภาพอยู่นั้น
การเรืองแสงมันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร จะต้องตั้งค่าการถ่ายภาพ mode ไหนดีถึงจะได้แสงสวย ๆ

ด้วยความตั้งใจว่าสักครั้งหนึ่ง จะต้องได้มาชื่นชมความสวยงามของอุโบสถที่มีต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงสวย ๆ กับเค้าสักครั้งหนึ่ง
พอทราบดีว่าน่าจะต้องใช้เทคนิคการถ่ายภาพที่ต้องแตกต่างไปจากเดิม ๆ กันอยู่แน่ ๆ
และนี่คือ shot แรก ๆ ที่เริ่มกดชัตเตอร์บันทึกภาพมา ซึ่งในช่วงเวลาแรก ๆ ที่คิดว่าน่าจะได้ภาพถ่ายกันด้วยแล้ว ก็เปล่าเลย ภาพต้นกัลปพฤกษ์ยังไม่เรืองแสง แล้วมันเรืองแสงแบบไหน นี่คือสิ่งที่คิดตามไปตลอด ว่าเราจะได้ภาพมาชื่นชมกันไหม

shot แรก ภาพมึดตึ้บเลย ตรงไหนมันจะเรืองแสง
เริ่มมองดูช่างภาพข้าง ๆ เค้าถ่ายกันจริงจังแล้ว และดูเหมือนช่างภาพคนอื่น ๆ เค้าจะได้ภาพกันแล้ว



ได้แต่คิดว่าต้นกัลปพฤกษ์จะเรืองแสงแแบบไหนกัน จะถ่ายภาพได้ไหม ?????


สิ่งที่ได้เรียนรู้กันเพิ่มเติมคือ ช่วงที่แสงเริ่มหมดจากท้องฟ้าไปแล้ว
จะได้เห็นเด็ก ๆ นำไฟฉายมาส่องไล่ วน ๆ ไปบนลายประติมากรรมบนพื้น
และก็เห็นเด็ก ๆ ต่างก็ดีใจ ที่ตรงหน้าของเด็ก ๆ ได้เรืองแสงขึ้นมาแล้ว

















ภาพที่บันทึกมาทั้งหมด ด้วยที่ไม่ได้ขยับหามุมใหม่ ๆ ได้เลย ภาพเลยเริ่มจะดูซ้ำกันไปอยู่ แสงสี ก็ดูว่าจะตั้งค่าถ่ายภาพเองได้ประมาณนี้อยู่







ส่วน 5 ภาพนี้ลองไปหา app มาช่วยดึงแสงสีให้ดูสว่างตามากขึ้นมาอีกหน่อยครับ

เล่าเรื่องหนึ่งของการมาถ่ายภาพครั้งนี้ คือช่วงเลนส์ที่จะใช้ถ่ายภาพ ที่เตรียมไปมีแค่เลนส์ 24 มม. บนกล้อง full frame ซึ่งที่จริงก็อยากจะถอยออกไปให้ใกลกว่านี้ จะได้เก็บภาพลวดลายประติมากรรมบนพื้นที่เรืองแสงได้สวย ๆ ด้วย

/// แต่ถ้าถอยไกลออกไปอีกหน่อย ่มุมถ่ายก็จะโดนช่างภาพที่เลนส์ไวด์ เค้าปักหลักถ่ายภาพใกล้ ๆ กว่า

คราวนี้ถ่ายภาพมาก็จะติดช่างภาพคนข้างหน้าไปอีก

/// ภาพถ่ายครั้งนี้เลยเป็นมุมเดียวกันหมด ขยับซ้ายขวาไม่ได้ ถอยก็ไม่ได้ เดินหน้าก็ไม่ได้เพราะจะเริ่มไปบังมุมกับช่างภาพคนอื่น ๆ ไปอีก









กลับมาที่ช่วงมาถึงวัดภูพร้าว พอจะได้ถ่ายภาพพระอุโบสถที่มีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว มาให้ชมกันด้วยนิดหน่อยครับ





ตรงกลางของพระอุโบสถเป็นที่ตั้งของพระประธาน
เดิมที่พระประธานจะคล้ายกับพระพุทธชินราช ในจังหวัดพิษณุโลก
มีการนำเพียงส่วนรัศมีออกไป เพื่อให้แลดูกลมกลืนกันยิ่งขึ้น พร้อมกับได้ทำฉากหลังเป็นต้นโพธิ์ โดยเบื้องบนติดด้วยแผ่นพระทอง
































ปิดท้าย blog ไว้กับภาพนี้

ช๊อตนี้ มีแอบบันทึกภาพถ่ายหลังกล้องไว้ก่อน หากว่าจะได้กลับมาแก้มือกันใหม่ไหม

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาชมภาพถ่ายที่ blog กันด้วยครับ


Create Date : 03 มีนาคม 2565
Last Update : 3 มีนาคม 2565 6:22:27 น. 4 comments
Counter : 992 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณอุ้มสี, คุณสองแผ่นดิน


 
Amazing มากมายเลยค่ะ
ภาพถ่ายกัลปพฤกษ์เรืองแสงที่วัดภูพร้าวฃ
งดงามๆ..เราต้องทราบข้อมูลมาล่วงหน้า
เพื่อจัดตารางให้ครอบคลุมยามที่ได้อยู่ถ่ายภาพช่วงhigh lightเรืองแสง
UnseenThailand ควรค่าแก่การรอคอยจริงๆ


หามุมได้นั่งสมาธิ ช่วงนั้น
(ทา ก.ย. ก่อน) คงจะได้ feeling มาก
ว่าไปเรื่อยค่ะ..
เป็นวัดใหม่ แบบล้านช้าง ที่งดงามเหลือแสน



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 มีนาคม 2565 เวลา:7:11:31 น.  

 
สวยงามมากจริงๆ อ.เบิร์ด
ขอบคุณที่นำมาฝากกันจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 3 มีนาคม 2565 เวลา:8:31:53 น.  

 
สวยจ้าวัดบ้านอุ้มสี


โดย: อุ้มสี วันที่: 3 มีนาคม 2565 เวลา:9:38:25 น.  

 
มาชมภาพสวยๆครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 3 มีนาคม 2565 เวลา:23:48:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ถปรร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ถปรร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.