Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

งานราชพฤกษ์รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง ปี 2552 [มหกรรมตำนานโขนไทย ตอน “พระรามครองเมือง”]]

23 พฤษภาคม 2553 : มหกรรมตำนานโขนไทย ตอน “พระรามครองเมือง”

ภาพถ่ายจากงานราชพฤกษ์รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง ปี 2552 (วันที่ 8 ธ.ค. 52)
ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
งานได้จัดตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา


blog นี้มาทำ draft รวมไว้กับงานราชพฤกษ์รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง ปี 2552 นี้ แต่ที่จริงเริ่มต้นไปเปิด group blog โขน รามเกียรติ์ ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ขอนำภาพทั้ง set มาเก็บรวมไว้ใน blog นี้ด้วยครับ เผื่อว่ามีใครอยากชมภาพถ่ายของงานทุกๆ วัน จะไ้ด้ไม่ขาดหายไป


การแสดงโขนชุดนี้ เริ่มต้นตอนจาก ท้าวมาลีวราช ว่าความ

ท้าว มาลีวราช เป็นอสูรพงศ์พรหม มีชื่อเดิมว่า มาลีวัคคพรหม เป็นพี่ท้าวจัตุรพักตร์ (พรหม) เจ้าเมืองลงกา ผู้เป็นพระอัยกา (ปู่) ของทศกัณฐ์
มาลีวัคคพรหมนี้ ได้เป็นเจ้าแห่งหมู่เทพคนธรรพ์ ในเขานอกฟ้า

ท้าวมาลีวราช มีรูปเป็นพรหม กายสีขาว มีสี่หน้า แปดมือ สวมมงกุฏน้ำเต้าหรือมงกุฏชัย ท้าวมาลีวราชเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องในเรื่องความยุติธรรม
จนได้รับพรจากพระอิศวรให้มีวาจาสิทธิ์




ฝ่ายทศกัณฐ์
เมื่อทศกัณฐ์ต้องพ่ายแพ้สงครามกับพระรามหลายครั้งหลายหน จนไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครช่วยในการทำศึกอีก


จึงนึกถึงท้าวมาลีวราช ผู้มีวาจาสิทธิ์ ทศกัณฐ์ประสงค์ให้ท้าวมาลีวราชมาช่วยสาปพระรามให้บรรลัยไป

จึงได้ไปทูลเชิญท้าวมาลีวราชไปที่กรุงลงกาด้วยหมายจะฟ้องกล่าวโทษ ฝ่ายพระราม



ทศกัณฐ์ฟ้องกล่าวโทษพระรามต่อท้าวมาลีวราชว่า

การทำศึกสงครามที่เกิดขึ้น เป็นเพราะฝ่ายพระรามอาฆาตมุ่งร้ายต่อวงศ์ยักษ์ และมาฆ่าวงศ์ยักษ์ตายไปมากมาย

การกล่าวโทษของทศกัณฐ์ต่อพระรามครั้งนี้
เป็นการว่าร้ายใส่ร้ายต่อพระรามทั้งสิ้น

และแผนการกล่าวโทษของทศกัณฐ์ครั้งนี้ ทศกัณฐ์ทราบดีว่า หากท้าวมาลีวราชหลงเชื่อ และโกรธ จะใช้วาจาสิทธิ์กล่าวโทษต่อพระราม

และสาปแช่งพระรามให้พินาศไป



ท้าวมาลีวราชรับฟังเรื่องที่ทศกัณฐ์กล่าวโทษต่อพระราม





ท้าวมาลีวราชไม่ต้องการฟังความข้างเดียว จึงแจ้งต่อทศกัณฐ์ว่ายินดีว่าความให้กับทศกัณฐ์





ท้าวมาลีวราชเสด็จมหยุดประทับอยู่ที่สนามรบอันเป็นกลาง ระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเพื่อความยุติธรรม และได้ประกาศประชุมเทวดา นางฟ้า อีกทั้งฤษี นักสิทธิ์ วิทยาธร นาค ครุฑ คนธรรพ์ให้มาร่วมเป็นสักขีพยาน ในการว่าความครั้งนี้



ท้าวมาลีวราชแจ้งแก่ทศกัณฐ์ว่า การะว่าความครั้งนี้ตามที่ทศกัณฐ์กล่าวโทษต่อพระรามมานั้น เราจะทำเพื่อความยุติธรรม ไม่ฟังความของเจ้าข้างเดียว เราจะเชิญพระรามมารับฟังการกล่าวโทษ พร้อมทั้งชี้แจง เจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่

ท้าวมาลีวราช จึงให้ทศกัณฐ์กล่าวโทษต่อพระราม




ทศกัณฐ์ตีอกชกตัว แสร้งเศร้าโศกเสียใจ

ทศกัณฐ์จึงได้กล่าวโทษฟ้องฝ่ายพระรามว่า
ตนได้ไปพบนางสีดาเดินระหกระเหินร้องไห้อยู่ในป่าเพียงคนเดียว
ถามดูได้ความว่าตัวคนเดียว จึงคิดปราณีเอามาเลี้ยงไว้ในลงกาหวังจะได้บุญ โดยมิได้ข้องแวะใดๆ ด้วยเนื่องจากรักษาศีล บำเพ็ญบารมี


ครั้นจู่ๆ พระรามก็ยกพลลิงมารุกรานหาว่าไปลักพาเมียมา
โดยแท้ที่จริงแล้ว พระรามนั้นหวังจะปล้นเมือง และระหว่างนั้นพระรามได้ฆ่าพวกยักษ์ตายไปมากมาย

ท้าวมาลีวราชรับฟังคำกล่าวโทษ จากนั้นรับสั่งให้พระวิศณุกรรมไปเชิญพระรามกับพระลักษมณ์ มารับฟังการว่าความพร้อมชี้แจง และจะตัดสินด้วยความยุติธรรม

พระวิศณุกรรม จึงได้ไปแจ้งแก่พระราม พระลักษณ์ ในเรื่องที่ทศกัณฐ์กล่าวโทษ และท้าวมาลีวราชต้องการไต่สวนเรื่องนี้ให้กระจ่าง และเป็นความยุติธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย



พระราม พระลักษณ์ จึงได้ตามพระวิศณุกรรม เพื่อไปรับการไต่สวนของท้าวมาลีวราช





พระรามกลับกล่าวโทษ ฟ้องกลับว่า



เป็นเพราะทศกัณฐ์ใช้อุบายไปลักพานางสีดา มเหสีของตน
มาไว้ในเมืองลงกาก่อน
ตนจึงต้องยกกองทัพมาตาม และส่งราชทูตเข้ามาเจรจา


แต่ทศกัณฐ์กลับสั่งสังหารราชทูตที่มาเจรจาเสีย


ทำให้ตนเองต้องออกมาทำศึก ต่อสู้กับทศกัณฐ์
เพื่อหวังจะได้พานางสีดากลับไป





ทศกัณฐ์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

และบอกว่าสิ่งที่พระรามเล่ามานั้น ไม่เป็นความจริง






ท้าวมาลีวราชถามพระรามว่ามีพยานหรือไม่




พระรามทูลว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตายหมดแล้ว

ตอนนี้คงเหลือแต่เพียงนางสีดาคนเดียว ที่ยังมีชีิวิตอยู่ และสามารถเล่าเรื่องราวได้ทั้งหมด



ท้้าวมาลีวราชจึงให้พระวิศณุกรรมไป ไปเชิญนางสีดามาสอบถามความเป็นจริง















นางสีดาให้การสอดคล้องถูกต้องตรงกันกับพระราม


ทั้งเหล่าเทพเทวาอันมีพระอินทร์เป็นประธาน และเป็นสักขีพยานก็ร่วมกัน

เมื่อได้ฟังความทั้งสองฝ่ายแล้ว เหล่าเทพเทวาต่างก็ตัดสินว่า พระรามเป็นฝ่ายถูก


ฝ่ายท้าวมาลีวราชเมื่อเห็นว่าคำให้การของพระรามและนางสีดาสอดคล้องกัน รวมทั้งเหล่าเทวดาในที่นั่นก็ยืนยันว่าเป็นสัตย์จริง แล้วตัดสินให้ฝ่ายทศกัณฐ์เป็นฝ่ายผิด



เมื่อทศกัณฐ์ได้ยินดังนั้นรู้สึกโมโหโกรธา แล้วพูดต่อท้าวมาลีวราชว่า
เหล่าเทวดาทั้งหลายเกลียดชังตน และที่พระรามมาก่อสงครามที่เมืองยักษ์นั้น พระอินทร์ยังประทานรถเวชยันต์พร้อมพระมาตุลีให้ เมื่อมาเป็นพยานก็คงจะต้องดลใจให้นางสีดาพูดตามพระราม


ท้าวมาลีวราชเมื่อได้ฟังคำกล่าวปดของทศกัณฐ์อีกครั้ง ถึงกับโกรธทศกัณฐ์ที่โกหก
ท้าว มาลีวราชจึงพิพากษาให้ทศกัณฐ์ส่งนางสีดาคืนให้แก่พระราม



แต่ทศกัณฐ์ไม่ยอมและต่อว่าด่าทอท้าวมาลีวราช ด้วยความโกรธอย่างไม่เคารพยำเกรง




ท้าวมาลีวราชจึงใช้วาจาสิทธิ์สาปให้ทศกัณฐ์นั้นพ่ายแพ้สงคราม และตายด้วยศรของพระราม




ทศกัณฐ์ไม่ยอมคืนนางสีดา

ยกทัพกลับลงกาโดยไม่ไหว้ลาท้าวมาลีวราช
ด้วยความแค้นที่ได้กล่าวประจานตนให้อับอาย







เมื่อแผนการจะให้ท้าวมาลีวราชเข้าข้างตนไม่สำเร็จ
จึงคิดจะทำพิธีเผารูปเทวดาและชุบหอกกบิลพัท
ซึ่งหากสำเร็จก็จะเหนือกว่าอาวุธใด ๆ ทั้งสามโลก



แล้วได้ให้เหล่าเสนายักษ์ ไปตั้งโรงพิธีที่ใกล้เชิงเขาพระเมรุแล้วทำพิธีปั้นรูปเหล่าเทวดา ที่มาเป็นพยานคราวที่ท้าวมาลีวราชว่าความและเผา
ทำให้เหล่าเทวดานั้นรุ่มร้อนคล้ายถูกไฟบัลลัยกัลป์

















เมื่อพระอิศวร รู้ข่าวจากพระอินทร์
ได้ให้เทพบุตรพาลีลงไปทำลายพิธีชุบหอกกบิลพัทของทศกัณฐ์จนสำเร็จ





















ทศกัณฐ์โกรธที่ถูกทำลายพิธี และเห็นว่าเป็นพาลีที่มาทำลายพิธีของตน

ทศกัณฐ์จึงชี้หน้าด่าว่าพาลี ไฉนเจ้าพาลีจึงไม่ตายหมอดไหม้ไปด้วยศรพระราม




พาลีว่าข้าตายไปแล้ว แต่พระอิศวรเนรมิตรให้ข้าเป็นเทพบุตร




ทศกัณฐ์ยิ่งฟังยิ่งแค้นใจ เข้าต่อสู้กับพาลี

หมายมุ่งจะฆ่าพาลีด้วยหอกกบิลพัท

แต่กลับเป็นพาลีที่มีฝีมือเหนือกว่าทศกัณฐ์

เมื่อทศกัณฐ์จวนตัว และนึกได้ว่าที่ผ่านมาตนสู้กับพาลีครั้งใดก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้

ทศกัณฐ์จึงคิดหนียกทัพกลับไป



ทศกัณฐ์โมโหโกรธาเป็นยิ่งนัก และคิดว่าการที่ตนทำพิธีใดก็ถูกทำลายหมด
เป็นเพราะพิเภกบอกการแก้กลให้กับข้าศึก



ทศกัณฐ์จึงคิดจัดทัพ ยกออกไปรบและหวังฆ่าพิเภกให้ตายด้วยหอกกบิลพัท

























ฝ่ายทัพพระราม










พิเภกรู้ว่าทศกัณฐ์ ยกทัพมาครั้งนี้ เพระาคิดว่าตนเป็นบอกกลลวงไปทำลายพิธีเผารูปเทวดาและชุบหอกกบิลพัท ทศกัณฐ์จึงตามมาฆ่า

พิเภกทูลแก่พระรามว่า ขณะที่พระรามต่อสู้รบกับทศกัณฐ์ ขอให้พระลักษมณ์คอยเฝ้าดูแล คอยช่วยตนไว้ เพราะทศกัณฐ์มาสู้ทัพครั้งนี้ หมายมั่นจะฆ่าตนมากกว่า






ฝ่ายทศกัณฐ์รบพลางคอยมองลู่ทาง หาทางฆ่าพิเภกไปด้วย




ขณะต่อสู้กันนั้น

เมื่อมีช่องทาง ทศกัณฐ์พุ่งหอกกบิลพัท หมายจะฆ่าพิเภก

พระลักษมณ์เข้าช่วยพิเภก และปัดหอกกบิลพัทได้
แต่หอกกบิลพัทได้กลับมาปักพระลักษณ์แทน

จนพระลักษณ์สลบแน่นิ่งไป




พิเภกทูลพระรามว่าวิธีแก้หอกกบิลพัท และทำให้พระลักษณ์ฟื้นกลับคืนมาได้

ต้องไปนำของวิเศษ 3 อย่าง มาช่วยชุบชีวิตพระลักษณ์ ซึ่งได้แก่

ต้นสังกรณีกับตรีชวา ที่ภูเขาสัญชีพสัญญี

มูลวัวพระอิศวรที่ถ้ำอินทกาล

หินรองบดยาที่เมืองบาดาล แต่หินแท่งบดยานั้นทศกัณฐ์ใช้เป็นหมอนนอนอยู่



พระรามจึงสั่งให้หนุมานไปหาของวิเศษทั้ง 3 อย่างมาช่วยพระลักษณ์







หนุมานออกไปหาของวิเศษได้มาจนครุบทุกอย่าง
แล้วนำมาช่วยพระลักษณ์ จนพระลักษณ์ฟื้นชีพกลับคืนมา







เนื้อเรื่องตอนที่หนุมานไปหาของวิเศษ การแสดงได้ตัดบทการแสดงออกไป แต่เนื้อเรื่องส่วนนี้มีดังนี้
หนุมานไปหาของวิเศษได้มา 2 อย่าง ยกเว้นเว้นหินบดยา
หนุมานจึงเหาะไปยังลงกา ร่ายพระเวท ให้เหล่ายักษ์หลับ แล้วเข้าไปในปราสาท เห็นทศกัณฐ์นอนอยู่กับนางมณโฑ
หนุมานได้เอาผมนางมณโฑผูกติดกับเศียรทศกัณฐ์
พร้อมกับเขียนคำสาปไว้ที่หน้าผากทศกัณฐ์ว่า
หากจะแก้ผมให้หลุดต้องให้นางมณโฑตบหัวสามที
ทศกัณฐ์ตื่นขึ้นมาเห็นผมนางผูกติดกับเศียรตน และหินบดยาหายไป
ทศกัณฐ์รู้ว่าศัตรูมาสะกดแล้วลักหินบดยาไปและผมก็ไม่หลุดออกจากเศียร
จึงให้เสนาไปนิมนต์ฤาษีโคบุตรมา
ฤาษีเห็นคำสาปจารึกไว้ จึงบอกให้ทำตามคำสาป
ดังนั้นเมื่อนางมณโฑตบหัวทศกัณฐ์สามครั้งผมก็หลุด



ตอนจบการแสดงชุดนี้ เป็นการแสดง ตอนพระรามครองเมืองอโยธยา
(และการแสดงคงได้ข้ามการแสดงไปอีกหลายตอนทีเดียว)

พระรามรบกับทศกัณฐ์ จนสามารถฆ่าทศกัณฐ์ได้ ซึ่งเนื้อเรื่องยังต้องไปถึงตอนหนุมานชูกล่องดวงใจ และอีกหลายๆ ตอน เอาเป็นว่าการแสดงชุดนี้มาจบตอนที่พระรามรบชนะทศกัณฐ์และได้ครองเมืองอโยธยา




















































ขอบคุณนักแสดงทุกๆ ท่านด้วยครับ ที่ถ่ายทอดการแสดงโขนให้ชมกันอย่างจุใจทีเดียว และขอบคุณที่นำการแสดงมาให้ชมที่เชียงใหม่ และได้บันทึกภาพชุดนี้ไว้ด้วยครับ

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่าย set นี้ด้วยครับ


*** คุยกันท้าย Blog
ภาพถ่ายชุดนี้ใช้เลนส์ 2 ตัว
Sigma 50-150 mm. F 2.8
Tamron 10-24 mm. F 3.5-4.5

มาแอบประชาสัมพันธ์ไว้กันเนิ่นก่อน งานมหกรรมพืชสวนโลกนี้จะกลับมาให้ชมกันอีกทีในปี 2554 นี้
ชื่องาน มหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ 2554
ระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 - 15 กุมภาพันธ์ 2555 รวม 99 วัน ณ จังหวัดเชียงใหม่


คัดลอกเนื้อหามาจาก หอมรดกไทย และขอขอบคุณไว้ตรงนี้ด้วยครับ
//203.144.136.10/service/mod/heritage/nation/ramakian/index17.htm




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2553
1 comments
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 7:52:58 น.
Counter : 4049 Pageviews.

 

ขอแวะมาอ่านอีกรอบ..
วันนี้เปิดทำงาน + เปิดเทอมวันแรก
รถติดสุดๆเลยค่ะ
ที่เชียงใหม่รถติดมั๊ยคะ ?

 

โดย: VELEZ 24 พฤษภาคม 2553 8:31:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ถปรร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ถปรร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.