แว๊นไปอบรม/พังบรรยาย Canon Professional Workshop 2015 [เชียงใหม่]

19 กรกฎาคม 2558 : แว๊นไปอบรม/พังบรรยาย Canon Professional Workshop 2015 [เชียงใหม่]

ช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ ถือว่ามีโอกาสอันดีที่จังหวัดเชียงใหม่ มีการอบรม / เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ / บรรยายโดยวิทยากรชั้นนำ แล้วก็ได้ไปร่วมงานต่างๆ มา หลายครั้งอยู่เหมือนกัน เรียกว่าเก็บเล็กผสมน้อย กับข้อมูลต่างๆ ไว้ด้วย
และเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2558(ที่ผ่านมา) ก็ได้ไปงาน Canon Professional Workshop 2015 : Chiangmai Intensive Photography โดยอจ.วรนันท์ ชัชวาลทิพากร ที่ พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มาเช่นกันครับ

ตั้งใจไปงานนี้ด้วยที่ยังไม่เคยฟังบรรยายของอจ.วรนันท์ สักครั้ง และก็ยังไม่เคยมีโอกาสไปชมพิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก เช่นกัน

งานนี้เลยรีบสมัครเข้าไปอบรมมากับเค้าด้วย


มาเปิด Blog กับภาพขาวดำให้ชมกันก่อนครับ
นานๆ จะได้หัดลองทำภาพขาวดำดูกับเค้าบ้าง เลือกภาพแนวนี้มาลองทำก็ดูดีเหมือนกัน


ภายในงานที่ Canon จัดงานทุกๆ ครั้ง ก็มีการนำเลนส์หรือกล้องไปให้ลองๆ ถ่ายภาพกันด้วย ในงานนี้ได้มีโอกาสลองเลนส์ Fix 14mm. F2.8 มาหัดถ่ายภาพอยู่เหมือนกันครับ
แต่ด้วยที่ช่วงเลนส์ดูกว้างๆ แล้วมาหัดถ่ายภาพแนวๆ แบบนี้ ดูว่าไม่ค่อยคุ้นมือกันเลย ด้วยที่ว่าต้องเข้าหาตัวแบบใกล้ๆ แต่ในขณะที่มีช่างภาพคนอื่นๆ ที่เค้าถ่ายภาพไกลกว่า เลยไม่ค่อยได้ภาพเข้าใกล้ตัวแบบมากนัก
เรียกว่าตอนทำภาพแทบจะมองข้ามๆ ภาพที่ได้จากเลนส์ 18mm. ไปเลย
สองภาพบนล่างนี้ถ่ายภาพด้วยกล้อง Cano EOSM3
ระยะการถ่ายภาพยังพอถนัดๆ ในการถ่ายภาพมากขึ้นมาหน่อย





ส่วนภาพบนนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งรายการที่ได้ทดลองถ่ายภาพมาในงานนี้ด้วย
มีโอกาสลองถ่ายภาพนี้ด้วยกล้อง Canon EOS 5DS
ซึ่งไฟล์มีขนาดใหญ่มากๆ จากที่ได้ดูข่าวการเปิดตัวมาก่อน 5DS กล้องฟูลเฟรม ขนาด 50.6 ล้านพิกเซล
ภาพนี้ลองๆ ถ่ายภาพมาโดยที่ลืมดูว่าก่อนหน้านี้เค้า Set ค่าถ่ายภาพไว้อย่างไร
กลายเป็น Raw File ที่ขนาด 68mb. ขนาดไฟล์ใหญ่ๆ จริง
มีโอกาสลองๆ ถ่ายภาพตรงจุดนี้ด้วย Canon 5DS มาสัก 15 ภาพ
แล้วได้ลองเลือกภาพแรกๆ มาลองทำกันก่อน ยังไม่ได้แต่งภาพ (เหมือน 3 ภาพ ด้านบน ที่แต่งภาพมาบ้างแล้ว)

ก่อนที่จะทำ blog นี้ ยังตั้งใจไว้ว่าคงได้นำภาพจากกล้อง Canon 5DS มาให้ชมกันอย่างเดียว กับ 15 shot ที่ถ่ายภาพมา
ยังคิดว่าน่าจะได้เล่าเรื่องราวถึงคุณภาพของภาพที่ได้จากกล้องตัวนี้
แล้วก็คิดไว้อีกแบบหนึ่ง น่าจะลองลงภาพต้นฉบับกันเลย
แต่เอาเข้าจริง สงสัยจะถ่ายภาพมาได้ไม่ดีสักเท่าไร ด้วยที่ไม่ได้ปรับค่าการถ่ายภาพอะไรๆ จากกล้องไปเลย มีแค่ย้ายจุดโฟกัสจากโซน มาเป็นแบบจุดเดียวที่ถนัดถ่ายภาพแบบนี้
พอดูภาพแล้วก็ดูจะมืดๆ ไป น่าจะ under ไปสัก 1-2 stop
สุดท้ายแล้วภาพที่ทำภาพในวันต่อๆ มา เลยได้แต่งภาพไปกับ Preset ของ LR ไปบ้างเล็กน้อย ภาพพอดูถูกใจตัวเองมากขึ้นแล้ว ก็เลยเลือกมาให้ชมกันต่อจากตรงนี้เลย

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากอจ.วรนันท์ บอกเล่าว่า ภาพที่มีชีวิต สิ่งที่มีชีวิต หรือตัวแบบในภาพถ่ายควรถ่ายภาพแล้วให้เห็นดวงตา
หากช่าง-สล่า เค้าทำงานเพลินๆ ในมุมมองที่เค้าทำงานประจำ อาจจะมีช่วงก้มหน้าที่เราถ่ายภาพแล้วทำให้ไม่เห็นดวงตา อาจจำเป็นต้องขอให้ช่าง-สล่า เค้าลืมตาเงยมองในมุมที่สูงขึ้น ในช็อตที่เราขอถ่ายภาพในจังหวะนั้นๆ
ภาพนี้ภาพเดียวที่ดูเหมือนจะได้ดวงตาที่มองจังหวะการตีค้อนอย่างเป็นธรรมชาติ


อีกเรื่องหนึ่งอจ.วรนันท์ ที่ได้ชี้แนะ คือการใช้ขาตั้งกล้องถ่ายภาพในลักษณะการทำงานช่างแบบนี้ ที่มีการตีค้อน จังหวะที่มีการตีค้อนอาจจะทำให้มีการสั่นสะเทือนมายังขาตั้งกล้องและตัวกล้องที่เราถ่ายภาพ อาจจะทำให้ภาพไม่คมชัด
ควรที่จะขอให้ช่าง-สล่า ทำการตีค้อนเบาๆ ในจังหวะสั้นๆ เพื่อทำให้น้ำหนัการตีต้อนจะไม่แรงมาก และไม่มีแรงสะเทือนมายังขาตั้งกล้อง และจะยังทำให้ถ่ายภาพได้ในจังหวะที่ค้อนกระทบกับตัวตอกได้ด้วย



สองภาพบน-ล่างนี้ก็ไปลองๆ ปรับภาพเล่นๆ ผ่าน Preset ของ LR




มีมาสรุปเรื่องกล้อง Canon EOS5DS กันนิดหน่อย จากการได้สัมผัสครั้งแรกดังนี้
ภาพจากกล้อง Canon EOS 5DS Fullframe 50.3 ล้านพิกเซล ที่ได้มีโอกาสยืมมาถ่ายภาพช่วงสั้นๆ 15 ภาพ เป็น Raw File ไฟล์ละ 68 MB. ถ่ายมา 15 ภาพ หมดไป 1.03 GB.
ตอนที่ถ่ายภาพก็เห็นความต่างหน่อยหนึ่ง ที่ทำไมมัน Preview ภาพช้าจัง (ขนาดว่าเลือกการ์ดความเร็วสูงสุดที่มีแล้ว)
กลับมาบ้านมาเปิดดูรูป เป็น Raw File ของ Canon EOS 5DS เปิดไม่ได้จากคอมพ์ที่บ้าน
มาลองเปิดอีกทีจาก Notebook คราวนี้เปิดได้แล้ว จาก Camera Raw 9.0 ได้ save เปลี่ยนมาเป็น Jpg เลย ได้ขนาดไฟล์ภาพละ 36 MB.
จาก 15 ภาพที่ขอยืมกล้องเค้ามาถ่ายภาพในมุมเดียวกัน เลือกไฟล์ภาพมาได้ 6 ภาพ ซึ่งมีทั้งที่แต่งภาพน้อยที่สุดในภาพแนวนอน ส่วนภาพแนวตั้งมีทั้งแบบ Crop ภาพจากแนวนอน และจากที่ถ่ายภาพแนวตั้งเอง รวมกับแต่งไฟล์ภาพด้วย Preset LR มา
ถ้าไฟล์ภาพไม่ดีอย่าไปโทษกล้องเค้าละกัน มาลงที่คนถ่ายภาพกับการแต่งภาพมามั่วๆ นี่ล่ะ






ช้างแมมมอธ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก เชื่อว่าใครได้มาเยือนที่นี่ก็คงต้องมาถ่ายภาพกับเจ้าช้างแมมอธตัวนี้ด้วย
สองภาพนี้จากเลนส์ Canon 14mm. F2.8 ครับ



ทำภาพเสร็จแล้วอยู่ที่ภาพนี้ ไว้จะเลือกภาพมาลงเพิ่มให้ชมกันครับ
และรวมถึงเกร็ดเล้กเกร็ดน้อยของบ้านจ๊างนัก และ สล่าเพชร วิริยะ ศิลปินดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2543 สาขาทัศนศิลป์ด้านประติมากรรม

(ซ้าย) สล่าเพชร วิริยะ ศิลปินดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2543 สาขาทัศนศิลป์ด้านประติมากรรม
(ขวา) อจ.วรนันท์ ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2552 สาขาทํศนศิลป์(ภาพถ่าย)


บ้านจ๊างนักก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยสล่าเพชร วิริยะ
“บ้านจ๊างนัก” บ้านที่มีช้างเยอะแยะมากมาย

ปี พ.ศ. 2515 สล่าเพชรได้เรียนวิชาแกะสลักช้างไม้จากครูคำอ้าย เดชดวงตา ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่เชี่ยวชาญทางด้านแกะสลักไม้โดยเฉพาะการแกะสลักช้าง



รูปแบบของงานแกะสลักช้างของบ้านจ๊างนักจะแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ คืองานแกะสลักช้างลอยตัวซึ่งมีขนาดตัวเล็กหรือตัวใหญ่, งานแกะสลักช้างบนแผ่นไม้กระดานสำหรับติดฝาผนัง, งานแกะหัวช้างที่มีทั้งหัวเล็กหรือหัวใหญ่ และงานไม้ท่อนที่แกะช้างเป็นฝูง แต่ที่นิยมและมีคนมาเลือกซื้อมากที่สุดคืองานแกะสลักช้างลอยตัว











ปี พ.ศ. 2546 บ้านจ๊างนัก ได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น สังกัดเอกชน ยังผลให้เป็นที่รู้จัก กันอย่างแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ ที่มีความสนใจในศิลปะแขนงนี้ นอกจากนี้ หนึ่งในความภาคภูมิใจของสล่าบ้านจ๊างนักทุกคนคือการที่เป็นส่วนหนึ่ง ของการทำให้ผู้คน ได้เกิดความรัก หวงแหน และ ตระหนักถึงความสำคัญและปัญหาของช้างไทยในปัจจุบัน และร่วมกันอนุรักษ์ช้างไทยให้อยู่คู่กับคนไทยอีกนานเท่านาน

พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก 56/1 หมู่ 2 ต. บวกค้าง อ. สันกำแพง จ. เชียงใหม่ เปิดให้เข้าชมเวลา 8.00 - 17.00 น. ทุกวัน หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการเยี่ยมชม

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะมาชมภาพถ่ายที่ blog ด้วยครับ

Create Date : 19 กรกฎาคม 2558		0 comments
Last Update : 23 กรกฎาคม 2558 22:29:50 น.
Counter : 5493 Pageviews.
Share Tweet