|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
19 มกราคม 2552
|
|
|
|
สตรีเพศ
ช่วงนี้จิตใจฟุ้งซ่านมาก พยายามรักษามันให้อยู่กับร่องกับรอย ดูเหมือนยิ่งพยายาม ก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ
หลายๆครั้งที่ได้ยินหลวงพ่อสอนว่า ให้มีสติระลึกรู้ เฝ้าดูมันไป อย่าไปบังคับ อย่าไปกดข่มมัน แต่จะด้วยความเคยชินรึเปล่า อันนี้คิดว่าน่าจะใช่ ที่ฟุ้งซ่านทีไรต้องเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการคอยควบคุมมัน เรียกว่า เผลออยู่เรื่อยๆ
หมู่นี้ก็อีกแล้ว ฟุ้งซ่านเป็นบ้าเลย หลายๆวันที่ผ่านมา มีโอกาสได้พบได้เจอ คนรักเก่า ฟุ้งซ่านมากๆๆๆๆๆ ในเมื่อหาทางออกไม่ได้ เลยต้องอาศัยอินเทอร์เนตเป็นตัวช่วย โดยมีจุดประสงค์หลักคือ ลดความฟุ้งซ่านลง
ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็เริ่มที่ Google ก็ได้นะ
เปิด Google แล้วก็เลยนึกขึ้นมาว่า สตรีเพศ เลยพิมพ์คำดังกล่าวลงไป ปรากฏว่าช่วยได้เยอะเลย เพราะไปเจองานเขียนของ อ.วศินเข้า อ่านๆๆ แล้วก็ซาบซึ้ง และก็คิดว่าจะเอาไปปฏิบัติตาม เลยเข้าใจว่า เพราะไม่ต่อเนื่อง และไม่เข้มงวดกับตัวเอง เลยต้องมาฟุ้งซ่านแบบนี้นะ
ลอกเอามาเก็บไว้ในบล็อคของตัวเองด้วย เอาไว้อ่านอีก อ่านบ่อยๆ
"ข้าแต่พระผู้มีพระภาค! ในพรหมจรรย์นี้มีสุภาพสตรีเป็นอันมากเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ในฐานะต่างๆ เป็นมารดาบ้าง เป็นพี่หญิงน้องหญิงบ้าง เป็นเครือญาติบ้าง และเป็นผู้เลื่อมใสในพระรัตนตรัยบ้าง ภิกษุจะพึงปฏิบัติต่อสตรีอย่างไร?"
"อานนท์! การที่ภิกษุจะไม่ดูไม่แลสตรีเพศเสียเลยนั้นเป็นการดี"
"ถ้าจำเป็นต้องดูแล้วเห็นเล่า พระเจ้าข้า" พระอานนท์ทูลซัก
"ถ้าจำเป็นต้องดูต้องเห็น ก็อย่าพูดด้วย อย่าสนทนาด้วย นั้นเป็นการดี" พระศาสดาตรัสตอบ
"ถ้าจำเป็นต้องสนทนาด้วยเล่า พระเจ้าข้า จะปฏิบัติอย่างไร"
"ถ้าจำเป็นต้องสนทนาด้วย ก็จงมีสติไว้ ควบคุมสติให้ดี สำรวมอินทรีย์ และกายวาจาให้เรียบร้อย อย่าให้ความกำหนัดยินดี หรือความหลงใหลครอบงำจิตใจได้ อานนท์! เรากล่าวว่าสตรีที่บุรุษเอาใจเข้าไปเกาะเกี่ยวนั้น เป็นมลทินของพรหมจรรย์"
"แล้วสตรีที่บุรุษมิได้เอาใจเข้าไปเกี่ยวเกาะเล่า พระเจ้าข้า จะเป็นมลทินของพรหมจรรย์หรือไม่?"
"ไม่เป็นซิ อานนท์? เธอระลึกได้อยู่หรือเราเคยพูดไว้ว่า อารมณ์อันวิจิตร สิ่งสวยงามในโลกนี้มิใช่กาม แต่ความกำหนัดยินดีที่เกิดขึ้นเพราะความดำริต่างหากเล่าเป็นกามของคน เมื่อกระชากความพอใจออกเสียได้แล้ว สิ่งวิจิตรและรูปที่สวยงามก็คงอยู่อย่างเก้อๆ ทำพิษอะไรมิได้อีกต่อไป"
พระผู้มีพระภาคบรรทมสงบนิ่ง พระอานนท์ก็พลอยนิ่งตามไปด้วย ดูเหมือนท่านจะตรึกตรองทบทวนพระพุทธวจนะที่ตรัสจบลงสักครู่นี้
จริงทีเดียว การไม่ยอมดูไม่ยอมแลสตรีเสียเลยนั้นเป็นการดีมาก แต่ใครเล่าจะทำได้อย่างนั้น ผู้ใดมีใจไม่หวั่นไหวด้วยเบ่งบานของดอกไม้งาม ดนตรีและอาการเยื้องกรายแห่งสตรีสาว ผู้นั้นถ้ามิใช่นักพรตก็เป็นสัตว์ดิรัจฉาน แต่ดูเหมือนผู้เป็นนักพรตทั้งกายและใจนั้นมีน้อยเหลือเกิน เมื่อมีเรื่องที่จำเป็นต้องดูต้องแล เรื่องติดต่อเกี่ยวข้องก็เกิดขึ้น การติดต่อเกี่ยวข้องและคลุกคลีด้วยสตรีเพศนั้น ใครเล่าจะหักห้ามใจมิให้หวั่นไหวไปตามความอ่อนช้อย นิ่มนวลและอ่อนหวานของเธอ มีคำกล่าวไว้มิใช่หรือว่า "ความงามนั้นเป็นอำนาจที่คุกคามจิตใจของปุถุชนให้แพ้ราบ และการยิ้มนั้นคือคมดาบของเธอ เมื่อใดพบความงาม ถ้าความงามนั้นยังไม่ยิ้มก็ยังมีทางจะรอดพ้นไปได้ แต่เมื่อความงามนั้นยิ้มออกมา ย่อมหมายถึงเธอส่งคมดาบออกมาแล้ว"
และยังมีคำกล่าวอีกว่า "เมื่อสตรีงามยิ้ม ย่อมหมายถึงถุงเงินของผู้ชายร้องไห้" ทำไมนะสัตว์โลกจึงหลงใหลในรูป เสียง กลิ่น รส เสียจริงๆ สตรีที่พราวเสน่ห์แต่ไร้มโนธรรม จิตใจสกปรกจึงเป็นเพชฌฆาต มือนุ่มซึ่งมียิ้มและกิริยาที่ยียวนเป็นคมดาบ มีน้ำตาเป็นหลุมพรางสำหรับให้ชายตกลงไปในหลุมน้ำตานั้น
บางทีเธอจะมีความสุขร่าเริงเหมือนนกน้อย ในขณะที่หัวใจของชายที่เธอเคยปอง ร้าวสลายลงด้วยความผิดหวัง บางทีเธอจะทำเป็นโกรธชายที่เธอแสนจะหลงรักเพียงเพื่อพรางสายตาของคนอื่น บางทีเธอจะยิ้มอย่างอ่อนหวานในขณะที่ในความรู้สึกของเธอแสนจะเคียดแค้นและชิงชังเขา และบางทีเธอจะร้องไห้น้ำตาอาบแก้มในขณะที่ใจของเธออิ่มเอิบไปด้วยปีติปราโมช อา! จะเอาอะไรเล่ามาวัดความลึกแห่งหัวใจของสตรี พระศาสดาตรัสไว้มิใช่หรือว่า อาการของสตรีนั้นรู้ยากเข้าใจยาก เหมือนการไปของปลาในน้ำ
ปราชญ์ผู้ทรงวิทยาคุณกว้างขวางลึกซึ้งสามารถหยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร เหมือนมองเศษกระดาษบนฝ่ามือ แต่ปราชญ์เช่นนั้น จะกล้าอวดอ้างได้ละหรือว่าตนสามารถหยั่งรู้ความรู้สึกล้ำในหัวของสตรี
อย่ามัวกล่าวอะไรให้มากเลย ธรรมชาติของเธอเป็นอย่างนั้นเอง มหาสมุทรเต็มไปด้วยภัยอันตราย แต่มหาสมุทรก็มีคุณแก่โลกอยู่มิใช่น้อย การค้นหาความจริงตามธรรมชาติของสิ่งนั้นๆ แล้วปฏิบัติให้ถูกต้องต่างหากเล่า เป็นทางดำเนินของผู้มีปัญญา
คัดจากบางส่วนบางตอนของ "อานนท์พุทธอนุชา" โดย อ.วศิน อินทสระ //www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=11510
Create Date : 19 มกราคม 2552 |
|
11 comments |
Last Update : 19 มกราคม 2552 8:47:51 น. |
Counter : 11042 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: สตรีเพศ...? (sunries ) 19 มกราคม 2552 22:37:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: abhirakk 21 มกราคม 2552 15:31:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: yoja 24 มกราคม 2552 10:49:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: เข้าใจแล้ว.... (sunries ) 28 มกราคม 2552 23:07:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ต่อmcu IP: 124.121.55.27 29 มกราคม 2552 0:50:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: yoja 2 กุมภาพันธ์ 2552 18:58:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Little piggy IP: 115.67.177.213 22 มีนาคม 2552 20:18:46 น. |
|
|
|
| |
|
|
abhirakk |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ไม่ใช่เกิดมาเพื่อแพ้ แน่จงลุยต่อไป อย่ามัวรอดวงชะตา ความสำเร็จมาเองหรือไง มันต้องสูญ ต้องเสีย ต้องแลกเปลี่ยนไป จึงได้มา นี่แหล่ะคือคุณค่า เป็นตำรานอกมหา'ลัย
เพลงประจำตัว สู้-หิน เหล็ก ไฟ
|
|
|
ได้รับอาหารสมองเป็นพระธรรมโอสถแต่เช้า
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
เคยอ่านหนังสือของคุณดังตฤณ
บอกถึง ให้พิจารณาถึงรูปกายของคนเราดูให้ถ่องแท้
ประกอบด้วยน้ำเลือด น้ำหนองและของเสีย....ฯลฯ
ตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า มีแต่สิ่งเน่าเหม็น