ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always be loved.
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
ไม่ควรถือตัวในที่ที่เขาไม่รู้จัก

ทัททรชาดก
ไม่ควรถือตัวในที่ที่เขาไม่รู้จัก

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภ ภิกษุผู้มักโกรธรูปหนึ่ง จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้

เรื่องได้กล่าวไว้แล้วในหนหลังนั้นแล ก็ครั้งนั้น เมื่อภิกษุ ทั้งหลายประชุมสนทนากันด้วยเรื่องที่ภิกษุนั้นเป็นคนขี้โกรธ ในโรงธรรมสภา พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมสนทนากันเรื่องอะไร เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลเรื่องที่สนทนากันให้ทรงทราบ พระศาสดาจึงรับสั่งให้เรียกภิกษุนั้นมาแล้วตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่าเธอเป็นคนขี้โกรธจริงหรือ เมื่อภิกษุนั้นกราบทูลว่า พระเจ้าข้า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ทั้งหลาย มิใช่บัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน ภิกษุนี้ก็เป็นคนขี้โกรธเหมือนกัน ก็เพราะความเป็นคนขี้โกรธของเธอ บัณฑิตในสมัยก่อนทั้งหลายแม้ตั้งอยู่ในความเป็นนาคราชผู้บริสุทธิ์ ก็ต้องอยู่ในพื้นที่ เปื้อนคูถซึ่งเต็มไปด้วยคูถถึง ๓ ปี แล้วทรงนำเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นโอรสของพระยาทัททรนาคราชผู้ครองราชสมบัติอยู่ในทัททรนาคภพ อันมีอยู่ ณ เชิงเขาทัททรบรรพต ในหิมวันตประเทศ พระโพธิสัตว์ได้มีนามว่า มหาทัททระ ส่วน น้องชายของมหาทัททรนาคราชนั้นชื่อว่าจุลลทัททระ จุลลทัททรนาค นั้น มักโกรธ หยาบคาย เที่ยวด่า เที่ยวทำร้ายพวกนาคมาณพอยู่ พระยานาคราชรู้ว่าจุลลทัททรนาคนั้นเป็นผู้หยาบช้า จึงสั่งให้นำจุลลทัททรนาคนั้นออกจากนาคภพ แต่มหาทัททรนาคขอให้บิดางดโทษแล้วทัดทานห้ามไว้
แม้ครั้งที่สอง ก็มีเหตุให้พระยานาคทรงกริ้วต่อ จุลลทัททรนาคนั้นอีก มหาทัททรนาคนั้นก็ทูลขอให้งดโทษไว้อีก แต่ในวาระที่สาม พระยานาคผู้บิดาตรัสว่า เจ้าเป็นผู้ห้ามมิให้พ่อขับไล่มันผู้ประพฤติอนาจารออกไปเสียจากนาคภพไว้ถึงสองครั้ง ในครั้งนี้ พ่อจักลงโทษเจ้าด้วย เจ้าทั้งสองจงไป จงออกจากนาคภพนี้ไปอยู่ที่พื้นเปื้อนคูถในนครพาราณสีกำหนด ๓ ปี รับสั่งแล้วแล้วให้ฉุดคร่านาคทั้งสองออกจากนาคภพ
นาคพี่น้องทั้งสองนั้นจึงต้องไปอยู่ที่พื้นเปื้อนคูถในเมืองพาราณสีนั้น ครั้งนั้น พวกเด็กชาวบ้านเห็นนาคพี่น้องทั้งสองนั้นเที่ยวหาเหยื่ออยู่ที่ชายน้ำใกล้พื้นที่เปื้อนคูถ จึงพากันขว้างปาท่อนไม้และก้อนดินเป็นต้น พากันด่าว่าคำหยาบ เป็นต้นว่า นี้ตัวอะไรหัวใหญ่ หางเหมือนเข็ม มีกบเขียดเป็นภักษาหาร
จุลลทัททรนาคอดกลั้นการดูหมิ่นของพวกเด็กชาวบ้านเหล่านั้นไม่ได้ เพราะตนเป็นผู้ดุร้ายหยาบช้าจึงกล่าวว่า ข้าแต่พี่ เจ้าพวกเด็กเหล่านี้ดูหมิ่นพวกเรา ไม่รู้ว่าพวกเราเป็นผู้มีพิษร้าย น้องไม่อาจอดกลั้นการดูหมิ่นของพวกมันได้ น้องจะทำพวกมันให้ฉิบหายเสียด้วยลมหายใจอันมีพิษ เมื่อจะเจรจาอย่างนั้นกับพี่ชาย จึงกล่าวคาถาที่ ๑ ว่า :
[๕๑๔] ข้าแต่พี่ทัททระ ถ้อยคำด่าว่าอันหยาบคายในมนุษยโลกเหล่านี้ ย่อมทำ
ให้ฉันเดือดร้อน พวกเด็กๆ ชาวบ้านผู้ไม่มีพิษฤทธิ์เดช ยังมาด่าว่าเรา
ผู้เป็นอสรพิษร้ายได้ว่า เป็นสัตว์กินกบกินเขียด และว่า เป็นสัตว์น้ำ
มหาทัททรนาคผู้พี่ได้ฟังคำของจุลลทัททรนาคผู้น้องนั้นแล้ว จึงได้กล่าวคาถาที่เหลือว่า :
[๕๑๕] บุคคลผู้ถูกขับไล่จากแว่นแคว้นของตน ไปอยู่ยังถิ่นอื่นแล้ว ควรสร้าง
ฉางใหญ่ไว้ สำหรับเก็บคำหยาบคายทั้งหลาย ๑
[๕๑๖] บุคคลอยู่ในสำนักคนผู้ไม่รู้จักชาติ และโคตรของตน ไม่พึงทำการถือตัว
ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักตน โดยชาติ หรือโดยวินัย ๒
[๕๑๗] บุคคลผู้มีปัญญา แม้เปรียบเสมอด้วยไฟ เมื่อไปอยู่ต่างถิ่นไกล พึงอดทน
แม้จะเป็นคำขู่ ตะคอกของทาสก็ตาม
๑ หมายความว่า ชนทั้งหลายสร้างฉางใหญ่ไว้เพื่อเก็บข้าวเปลือก ทำฉางให้เต็มไว้ เมื่อกิจเกิดขึ้น ก็ใช้สอยข้าวเปลือก ฉันใด บุรุษผู้เป็นบัณฑิต ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ไปต่างถิ่นพึงสร้างฉางใหญ่ไว้ภายในหทัย เพื่อ เก็บคำหยาบคาย ครั้นเก็บคำหยาบคายเหล่านั้นไว้ในหทัยนั้นแล้ว กลับจักกระทำกิจที่ควรทำในเวลาอันเหมาะแก่ตน
๒ หมายความว่า ในที่ใด ที่ชนทั้งหลายไม่รู้จักตนโดยชาติ หรือโดยวินัยว่า ผู้นี้เป็นกษัตริย์ ผู้นี้เป็นพราหมณ์ หรือว่าเป็นผู้มีศีล เป็นพหูสูตร เป็นผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม เมื่อนั้น ไม่พึงกระทำการถือตัวว่า เขาเรียกเราด้วยโวหารอันต่ำช้า ไม่สักการะ ไม่เคารพ
นาคพี่น้องทั้งสองนั้นอยู่ ณ ที่นั้น สิ้นกำหนด ๓ ปี ด้วยอาการอย่างนี้ ลำดับนั้น พระยานาคผู้บิดาให้เรียกนาคพี่น้องทั้งสองนั้นมา ตั้งแต่นั้นมานาคพี่น้องทั้งสองนั้น ก็สิ้นมานะการถือตัว
พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว จึงทรงประกาศสัจจะทั้งหลาย ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุผู้มักโกรธได้ดำรงอยู่ในอนาคามิผล แล้วทรงประชุมชาดกว่า จุลลทัททรนาคในครั้งนั้น ได้เป็นภิกษุผู้มักโกรธในบัดนี้ ส่วนมหาทัททรนาคในครั้งนั้น ได้เป็น เราตถาคต ฉะนี้แล

ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
https://abhinop.blogspot.com
https://abhinop.bloggang.com
..........................................................
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.




Create Date : 26 สิงหาคม 2554
Last Update : 3 มีนาคม 2564 11:51:11 น. 1 comments
Counter : 625 Pageviews.

 
ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
//abhinop.blogspot.com
//abhinop.bloggang.com
..........................................................
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.


โดย: ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:11:47:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.
New Comments
Friends' blogs
[Add ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.