Georges Méliès (18611938) Jean Cocteau (18891963) Busby Berkeley (18951976) Jan Svankmajer(1934-ปัจจุบัน) Terry Gilliam(1940-ปัจจุบัน) Tim Burton(1958-ปัจจุบัน)
รูปแบบการนำเสนอ
การ์ตูน Annimation โลกแห่งจินตนาการ( Fantasy) ใช้ Special effect ช่วย การใช้ลูกเล่นต่างๆในการถ่ายภาพ
ส่วนภาพยนตร์ A Trip to the Moon (Le voyage dans la lune ,1902) ของ Méliès อีกเรื่องนั้น ก็ไม่ต่างจากสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงของวงการภาพยนตร์โลกที่สามารถคิดทำสิ่งที่ไม่มีทางเป็นจริงให้เกิดขึ้นได้นั่นคือการไปในดาวดวงอื่นนอกโลกนั่นเอง มิหนำซ้ำยังทำให้ยานอวกาศเข้าไปพุ่งชนตาของดวงจันทร์เสียอีก กลายเป็นภาพตลกที่จดจำฝังใจของใครหลายคนที่หลงใหลประวัติศาสตร์ภาพยนตร์แน่นอน
ชม A Trip to the Moon
หลังจากตัวอย่างการคิดค้นวิธีต่างๆของ Mélièsแล้วเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งให้กับนักสร้างภาพยนตร์รูปแบบเดียวกับเขาในรุ่นต่อๆมา ตั้งแต่ Arabian Night จนถึง Harry Potter
โดยเรื่อง The Thief of Bagdad (1924) ของผู้กำกับ Raoul Walsh เขาได้จัดฉากใหม่ของวงการฮอลลีวู้ดด้วย Special effect การให้นักแสดงอย่าง Douglas Fairbanks ป่ายปีนด้วยเชือกวิเศษ ขี่ม้าที่มีปีก และแล่นเรือผ่านหลังคาด้วยพรหมวิเศษ
เรื่องต่อมาอย่าง The Wizard of Oz (1939) สร้างความแตกต่างระหว่างโลกแห่งความจริงกับโลกแห่งความฝันโดยการให้โลกความฝันของ Dorothy เป็นสีที่รุ่งโรจน์ แต่บ้านของเธอในรัฐแคนซัสกลับเป็นสีที่หมองคล้ำขาว-ดำ โดยสารที่หนังจะบอกก็คือ ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน เพราะว่า เมือง OZ เป็นเหมือนดังภาพมายาและเวทมนต์เหล่านั้นจะทำให้เธอถูกล่อลวง
ผู้กำกับบางคนก็เริ่มต้นด้วยการเป็นนักแอนนิเมชั่นมาก่อน อย่างเช่น Tim Burton , Terry Gilliam และ Jan Svankmajer พวกเขาเหล่านั้นชอบผสมผสานระหว่าแอนนิเมชั่นกับการใช้ตัวแสดงเล่นจริงๆ หรือไม่ก็ใช้ตัวแสดงเล่นจริงๆแต่แปลงให้กลายเป็นแอนนิเมชั่น
และผู้กำกับคนสุดท้าย Jean Cocteau แม้จะเกี่ยวพันกับลัทธิเหนือจริง(Surrealist) อย่างเช่น Beauty and the Beast (1945)ก็ตาม แต่เขาใช้เพื่อความลุ่มหลงมากกว่าทำให้ตกใจ และยังจัดอยู่ในลัทธิ Illusionism
ขอบคุณครับ