อัพเดทราคารถยนต์ใหม่ รีวิวรถยนต์ Honda Toyota Nissan Chevrolet Suzuki Izusu Mitsubishi Ford
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2557
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 สิงหาคม 2557
 
All Blogs
 
รีวิว Honda Accord Hybrid TECH พัฒนาการแห่งความสมบูรณ์แบบครั้งใหม่

รีวิว Honda Accord Hybrid TECH พัฒนาการแห่งความสมบูรณ์แบบครั้งใหม่

Honda Accord Hybrid คือ ผลงานชิ้นเอกรุ่นล่าสุดที่ถือเป็นความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง เป็นความลงตัวสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์สำหรับครอบครัว ที่ต้องการความโอ่โถง สะดวกสบาย หรูหรา สง่างาม สวยงาม แต่ประหยัดน้ำมันใกล้เคียงกับรถยนต์ Eco Car วันนี้ฮอนด้าทำจินตนาการนั้นให้เป็นจริงแล้ว จากเดิมที่ความหรูหราจะสวนทางกับความประหยัดเสมอมา ถ้าเข้าใจการทำงานของระบบ Advanced Full Hybrid ใหม่นี้ เรียนรู้รูปแบบการขับขี่แบบประหยัดน้ำมันโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็จะพบว่า Honda Accord Hybridรุ่นใหม่นี้ สามารถขับให้ประหยัดน้ำมันได้เทียบเท่าหรือมากกว่า Honda Brio ด้วยซ้ำไป

ในครั้งนี้ จะเป็นการรีวิว Accord Hybrid TECH ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดของ Accord Hybrid ราคาขายอยู่ที่1,899,000 บาท สำหรับสีดำคริสตัล (มุก) ต้องเพิ่มเงินอีก 8,000 บาท และสีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่มเงินอีก 12,000 บาท สำหรับอีกทางเลือกที่ราคาต่ำลงมาอีก ก็คือ Accord Hybrid ที่ไม่มีคำว่า TECH ต่อท้าย ราคาอยู่ที่ 1,659,000 บาท โดยมีออพชั่นอำนวยความสะดวกสบายบางอย่างที่น้อยกว่า แต่ก็ยังคงส่วนสำคัญของระบบ Hybrid ไว้เช่นเดิม

ทดสอบประสิทธิภาพและการขับขี่ของ Honda Accord Hybrid TECH

เราเชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนรอดูและสนใจกันมากที่สุด ก็คือ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของ Accord Hybrid ว่าจะประหยัดได้แค่ไหน จากสเปคที่วิศวกรฮอนด้าได้ทดสอบ ระบุว่ารุ่นนี้สามารถประหยัดน้ำมันสูงสุด 23 km/l ทีมงาน 9CarThai จึงทดสอบการขับขี่ด้วยสภาพการจราจรจริงบนถนนนครอินทร์และราชพฤกษ์ ในช่วงเวลาบ่าย 3 โมง ที่มีรถบนถนนอยู่ในระดับปานกลาง แต่ยังพอทำความเร็วได้ เร่งแซงเป็นระยะ ใช้ความเร็ว 60-140 km/h แบบไม่คงที่ เพราะมีรถหนาแน่น ไม่สามารถทำความเร็วคงที่แล้วใช้ Cruise control บนถนนโล่งได้ ผลการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน อยู่ที่ 20.3 km/l ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ และเป็นไปได้ว่าหากขับด้วยความเร็วคงที่ประมาณ 70 km/l บนถนนโล่ง ก็น่าจะทำตัวเลขได้ใกล้เคียงกับที่ฮอนด้าได้โฆษณาไว้

สำหรับการทดสอบขับในย่านตัวเมืองกรุงเทพมหานคร อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 11-14 km/l ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและสไตล์การขับขี่ ในสภาพการจราจรที่รถติด เคลื่อนตัวช้าสลับหยุดนิ่ง ขยับได้ตามสัญญาณไฟจราจร ส่วนใหญ่แล้วจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ แต่เนื่องจากการใช้งานจริง จะต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ทำให้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ถูกดึงไปใช้งานจนลดระดับลงค่อนข้างเร็ว เครื่องยนต์จึงติดและดับอัตโนมัติบ่อยครั้ง เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าและชาร์จเข้าไปในแบตเตอรี่ ให้มีไฟฟ้าเพียงพอต่อการขับเคลื่อน

จุดที่น่าประทับใจ

  • ห้องโดยสารค่อนข้างเงียบ เสียงภายนอกเล็ดลอดเข้ามาได้น้อย
  • ขับในโหมดไฮบริด เร่งแซงเริ่มแรกจะกระตุกนิดหน่อย หลังจากนั้นรถจะพุ่งเล่นไปข้างหน้าแรงดีมาก เพราะรวมกำลังขับจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซิน ผสานกันได้ดีเยี่ยม
  • ระบบกันสะเทือนดี รถเคลื่อนที่ได้นิ่งมาก แม้ในช่วงความเร็วสูง
  • เร่งแซงปรู๊ดปร๊าดสนุกสะใจวัยรุ่นอย่างแน่นอน
  • เบรคทำงานได้น่าประทับใจ เงียบ นุ่มนวล ทรงตัวดีแม้เบรคแรง ทำให้รู้สึกมั่นใจในการขับขี่
  • ภายในสวยงาม หรูหรา วัสดุดีปานกลาง
  • มีซันรูฟ เปิดรับแสงช่วงตอนเย็น ให้ความรู้สึกดี เพราะเบาะหนังสีดำ ทำให้รถมืดไปหน่อย
  • มีหน้าจอแสดงสถานะตลอดเวลาว่าขับเคลื่อนด้วยอะไรหรือชาร์จไฟตอนไหน
  • ช่วงล่างแน่น เกาะถนนดีมาก เข้าโค้งสนุก พวงมาลัยน้ำหนักเบากำลังดี ขับง่าย
  • เป็นรถหรูหรา ที่ได้ความสะดวกสบาย แต่ประหยัดน้ำมันเท่า Eco Car
  • มีม่านไฟฟ้าที่กระจกหลัง มีไฟเตือนเมื่ออยู่ใกล้รถคันหน้า
  • มีภาพจากกล้องกระจกข้างซ้ายขึ้นจอภาพเมื่อเลี้ยวซ้ายหรือเปลี่ยนเลน
  • ไม่มียางอะไหล่มาให้ แต่มีเครื่องมือมาให้สำหรับทำให้ยางที่แบนหรือรั่ว วิ่งต่อได้ชั่วคราวอีกหลายสิบกิโลเมตร

ข้อสังเกตุ

  • ห้องโดยสาร โดยรวมแล้วยังไม่ดีเท่า Nissan Teana ทั้งในแง่ของวัสดุตกแต่ง ความสบาย ความโปร่งโล่ง
  • เสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามาในห้องโดยสารมาก เปิดเพลงกลบก็เอาไม่อยู่
  • ขับในโหมดไฟฟ้าอย่างเดียว ระดับไฟฟ้าในแบตเตอรี่ลดลงเร็วมากภายในเวลาไม่กี่นาที
  • ขณะรถติด เครื่องยนต์จะติดเครื่องทำงานเองเป็นระยะ ๆ เพื่อชาร์จไฟ มีเสียงและอาการสั่นชัดเจน
  • ช่วงที่เครื่องยนต์ทำงาน เสียงดังมาก ยืนข้างรถยังตกใจในช่วงที่จอดสนิท
  • ไม่มีไฟตัดหมอกมาให้
  • ไม่รู้จะชาร์จอย่างไรให้แบตเตอรี่เต็ม เพราะรู้สึกว่าหมดเร็วมาก ใช้เวลาชาร์จนานเกินไป
  • พวงมาลัยส่วนที่เป็นลายไม้ผิวลื่นไปหน่อย อวบน้อยไป จับไม่ค่อยกระชับมือ
  • เสียพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถไปส่วนหนึ่งเพราะติดตั้งแบตเตอรี่ไฮบริดขนาดใหญ่

คู่แข่ง

Toyota Camry Hybrid เป็นคู่แข่งเพียงหนึ่งเดียวในตลาดรถระดับเดียวกันกับ Honda Accord Hybridซึ่งคาดการณ์ว่าโตโยต้าจะปรับโฉมแบบ Minorchange ภายในปี 2558 นี้ และเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก หรือออพชั่นอื่น เพื่อลดการเสียเปรียบคู่แข่ง ให้สามารถแข่งขันกับ Accord ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ เพราะปัจจุบันหลายคนมีความรู้สึกว่า Camry ยังกั๊กบางจุด แต่ Accord นั้นให้ออพชั่นแบบจัดเต็มคุ้มราคามากกว่า ความสบายในห้องโดยสาร ดูเหมือนว่า Camry จะทำได้ดีกว่า Accord อยู่เล็กน้อย แต่ยังไม่ดีเท่าNissan Teana ที่ให้ความสบายคล้ายกับการนั่งโซฟานุ่ม ๆ ราคาแพงในห้องรับแขก

เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดของ Accord ที่ขยายเป็น 10 ปี ก็ทำให้ลูกค้าอุ่นใจมากขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดที่สูงมาก ทำให้ทั้งสองยี่ห้อ ต่างก็เพิ่มระยะเวลาการรับประกันมากขึ้นอีก ในส่วนของสิทธิประโยชน์หรือ Privilege สำหรับลูกค้า Camry นั้น มีให้มากมาย จุดนี้ได้เปรียบมากกว่า Accord อย่างชัดเจน โดยรวมเมื่อนึกถึงรถยนต์ไฮบริด ต้องยอมรับในความเชี่ยวชาญของโตโยต้า ที่เหนือกว่าใคร แต่ฮอนด้าก็เริ่มพัฒนาจนเข้าใกล้ตามทันโตโยต้าแล้ว

รีวิว Honda Accord Hybrid TECH พัฒนาการแห่งความสมบูรณ์แบบครั้งใหม่








Create Date : 28 สิงหาคม 2557
Last Update : 28 สิงหาคม 2557 18:31:13 น. 0 comments
Counter : 2345 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Sai Bla Bla
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add Sai Bla Bla's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.