จะซื้อที่ดินนอกจากจะดูทำเล ราคาเเล้ว ความน่าเชื่อถือก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เลย ไม่งั้นเราอาจจะถูกหลอกได้ เหมือนกรณีที่เราจะมาคุยกันวันนี้ที่โดนหลอกให้ซื้อที่ดินที่มีสายไฟฟ้าเเรงสูงพาดผ่าน หรือถูกหลอกซื้อที่ดินที่จะถูกเวนคืน มาดูกันดีกว่าว่าสุดท้ายเเล้วเราจะสามารถยกเลิกได้หรือไม่
เริ่มที่กรณีที่ดินมีสายไฟฟ้าเเรงสูงพาดผ่านกันก่อนเลย!
สำหรับกรณีนี้ก่อนอื่นเราต้องรู้เลยว่าการสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะข้างเสาไฟฟ้า หรือใต้เสาไฟฟ้าเเรงสูงนั้น ถือว่าผิดกฎหมายในทุกกรณี เพราะตาม พ.ร.บ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเเห่งประเทศไทย พ.ศ.2511 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่ใต้เเนวสายไฟฟ้าเเรงสูงนั้นห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างทุกประเภท เเม้เเต่ปลูกพืชได้เฉพาะไม่เกิน 3 เมตรเท่านั้น เเละต้องห่างจากพื้นที่ตั้งเสา พื้นที่โดยรอบโคนเสาในระยะจากแนวขา 4 เมตร
เเน่นอนว่าถ้าที่ดินที่ซื้อมีสายไฟฟ้าเเรงสูงพาดผ่านเราไม่สามารถก่อสร้างอะไรได้เลย เหมือนกับกรณีที่ขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะถูกหลอกให้ซื้อที่ดินที่มีสายไฟฟ้าพาดผ่าน โดยตัวผู้ซื้อเองไม่ได้ไปดูที่ดินเลย เชื่อตามที่ผู้ขายบอก ดังนั้นจึงไม่เห็นว่ามีสายไฟฟ้าพาดผ่าน
"จากคำพิพากษาฎีกาที่ 3382/2525 จำเลยทำสัญญาจะขายที่พิพาท (ที่ดินที่สายไฟฟ้าพาดผ่าน) โดยมิได้เเจ้งให้โจทก์ทราบเเละทำให้โจทก์เข้าใจผิดในคุณสมบัติของที่ดินซึ่งเป็นสาระสำคัญ เพราะโจทก์ซื้อที่ดินไปปลูกสร้างโรงงาน ดังนั้นการเเสดงเจตนาของโจทก์เป็นโมฆียะ เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาถือว่าบอกล้างโมฆียะกรรมเเล้ว สัญญาจะซื้อจะขายจึงเป็นโมฆะมาเเต่เริ่มเเรก จำเลยต้องคืนเงินที่รับไว้ให้โจทก์"
เเละถึงเเม้เราจะไปดูด้วยตาของตัวเองแล้วก็ยังเกิดกรณีที่คนขายพาผู้ซื้อไปดูด้วยตัวเอง เเต่ชี้ที่ดินแปลงอื่นเเทน คนซื้อก็ไม่ได้ตรวจสอบหลักเขตที่ดิน กลายเป็นว่าโดนหลอกอีก แบบนี้ต้องเช็กให้ชัวร์ทุกจุดจริงๆ
มาต่อที่กรณีเวนคืนที่ดินกัน!
อีกหนึ่งกรณียอดฮิตคือซื้อที่ดินไปแล้วมารู้ทีหลังว่าถูกเวนคืนที่ดินซะงั้น เจอแบบนี้เครียดเลยใช่มั้ยเอ่ย งั้นมาดูกรณีตัวอย่างกันก่อน
"คำพิพากษาฎีกาที่ 1955/2538 จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้โจทก์ โดยจำเลยรู้อยู่เเล้วว่าโจทก์ซื้อที่ดินนี้ไปสร้างโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง เเละรู้ว่าที่ดินจะถูกเวนคืนบางส่วนเพื่อขุดคลองชลประทาน เเต่ไม่เเจ้งให้โจทก์ทราบความจริง ทำให้โจทก์เข้าใจผิดในคุณสมบัติของทรัพย์ที่จะซื้อ ซึ่งตามปกติถือเป็นสาระสำคัญ สัญญาจะซื้อจะขายจึงเป็นโมฆียะ
"เมื่อโจทก์ได้ไปทวงเงินคืนจากจำเลยถือว่าได้บอกล้างโมฆียะกรรมเเล้ว สัญญาจะซื้อจะขายจึงเป็นโมฆะมาเเต่เเรก คู่สัญญาต้องคืนกลับสู่ฐานะเดิม จำเลยต้องคืนเงินมัดจำให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย เเละโจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยตามที่ระบุในสัญญา"
ดังนั้นก่อนจะซื้อที่ดินไม่ว่าจะที่ไหน หรือจะเป็นคนรู้จัก คนสนิทก็ต้องตรวจสอบให้เเน่ใจก่อน ควรไปดูที่ดินแปลงที่จะซื้อจริงๆ ขอดูเอกสารต่างๆ รวมถึงนำเลขที่โฉนดไปตรวจสอบตามหน่วยงานต่างๆ เรื่องการเวนคืนที่ดินได้ในลิงก์นี้เลยค่ะ => จะซื้อบ้าน-ที่ดิน ต้องตรวจสอบแนวเวนคืนที่ไหน?