Bloggang.com : weblog for you and your gang
หกพันไมล์
Location :
จันทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Group Blog
ห้องเรื่อยเปื่อยและผลไม้ในสวน
ห้องริมหน้าต่าง
ห้องเพลง
ห้องเดินทาง
ห้องเก็บโค้ด
ห้อง Knitting
Thailand Trip 2010
Thailand Trip 2011
เวลส์...ฤดูร้อน 2011
เวลส์....ฤดูใบไม้ผลิ 2012
Thailand Trip 2012 หมาดๆ
Wales....ฤดูใบไม้ผลิที่มาช้า 2013
..Love story...
สิงหาคม 2556
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
17 สิงหาคม 2556
ไ ป พั ก ร้ อ น ที่ แ ค ว้ น เ ว ล ส์ ....ปี ที่ ส า ม
All Blogs
ไ ป ช็ อ บ ปิ้ ง ที่ F e s t i v al P a r k กั บ D a d & M a m
ไ ป พั ก ร้ อ น ที่ แ ค ว้ น เ ว ล ส์ ....ปี ที่ ส า ม
Friends' blogs
ญามี่
เนยสีฟ้า
pijaree
Bkkbear
พ่อพเยีย
harry_potty
มาดามอุ้ย
Piano in the MorN_ing
ป้าโซ
jenifaae
naimaew1
Mellitus
Tristy
worldwide
ชานไม้ชายเขา
scorpionfish
Dress Code
โสดในซอย
maphueng
Suessapple
Thairabian
คนเจียงราย2
Honey and Moonney
Bigcrab
JenNy & Tristan @ The UK
AsWeChange
babali
Johann sebastian Bach
marzo
ลอร่า อิงกัลส์ ~*
yadegari
lylinh
yjam
ล่องแม่ปิง
Bpearl
เต้pp-ter
xiao ye zi
teemgroup
scimovie
calpoppy
1twenty2
Ces
เที่ยงตรง
peerapoom
Sweety-around-the-world
ps_2a
prittyguide
magic-women
ดาวส่องทาง
Hamilton
wingang
lazypiggy
peetid
mindmim
ไวน์กับสายน้ำ
เกลือหนึ่งกำน้อย
Mundoyo
travelaround
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
Flowerfun
Just a life
whiteuniform
rosalila
ouise
Ba Tiew
Hermy
Dr.sab
ลำเนา
narellan
LeaDGlasS
sitcomthai
tismarketing
ทองกาญจนา
เตยจ๋า
addsiripun
MollyJinx
fillforfull
Charming Girl
fabricroom2009
meaw1158
settembre
TheShockTime
somjaidean100
ostojska
TBento
ป้าณู
ANGEL_CS
redclick
pumorg
byjai
WIWANDA
Super เมีย
limingxin
Bloody Distance
Webmaster - BlogGang
[Add หกพันไมล์'s blog to your web]
Links
BlogGang.com
ไ ป พั ก ร้ อ น ที่ แ ค ว้ น เ ว ล ส์ ....ปี ที่ ส า ม
เ ดิ น ท า ง อี ก ค รั้ ง...จ า ก บ า ง ก อ ก สู่ แ ค ว้ น เ ว ล ส์..
- ปี ที่ ส า ม -
* * * * * * * * * * * * * *
ฉันเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดวันจันทร์ 23 เมษายน 2556
พี่สาวและน้องชาย ขับรถมาส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ในหนึ่งปี เราจะมาสนามบินช่วงเดือนเมษายน และเดือนตุลาคม รวมแล้วประมาณสี่ครั้ง
เดือนเมษายนคือการเดินทางของฉัน
ส่วนช่วงเดือนตุลาคม เป็นการเดินทางของมิสเตอร์พอลที่บินมาเยี่ยมฉันและครอบครัว
ครั้งนี้หลังจากที่พี่และน้อง หย่อนฉันลงที่สนามบินเรียบร้อยก็เดินทางกลับ
คนหน้าตาดี (อั๊ยย่ะ!) อย่างฉัน ก็เลยถึงคราวบินเดี่ยวอีกครั้ง
เพราะว่าเช็คอินออนไลน์ เลือกที่นั่งมาล่วงหน้าแล้วตั้งแต่ตอนอยู่บ้าน
จึงทำให้ได้รับ Bording pass มาถือไว้ในมือในเวลาอันรวดเร็ว
พนักงานที่เคาน์เตอร์บอกว่า วันนี้มีที่นั่งว่างเป็นร้อยเลย
ฉันจึงแอบภาวนาขอให้ได้ที่นั่งว่างติดกันด้วยเถิดดดดด....
หลังจากขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบน เพื่อ scan ร่างกาย และตรวจกระเป๋าถือ
ก็กลับลงมาข้างล่าง แล้วค่อยไปผ่านด่าน passport control
จากนั้นก็หลุดออกมาเดินเอ้อระเหยในเขตดิวตี้ ฟรี ได้
แวะถ่ายรูปห้องน้ำที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ ได้ยินว่าใช้งบประมาณไปตั้ง 500 ล้าน
แต่ของเค้าก็สวยจริงๆ เป็นห้องน้ำที่สวยดูดี มีชาติตระกูลมากเลย 55555
ด้านนอก ตรงทางเข้าห้องน้ำอันงามเลิศ
มีชื่อ Theme เก๋ไก๋ ว่า "River Of Life"
ฉันถึงกับเดินจากมาแบบอาลัย อาวรณ์ นิดๆ อิ..อิ..
หลังจากชำเลืองดู Bording pass เห็นบอกเวลา Bording ที่ 12:10 น.
ฉันก็เลยใจเย็น เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ชิลๆ มุ่งสู่ Gate C3 อย่างเดียวเลย
การเดินทางคนเดียวนี่มันก็ดีเหมือนกัน
อย่างน้อยก็รู้สึกว่าตัวเองแกร่งขึ้น
และได้ซาบซึ้งกับสัจธรรมที่ว่า "ตน..เป็นที่พึ่งแห่งตน"
เพราะไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร 5555
ฉันกลายเป็นคนพูดน้อย แต่เดินมาก
และระมัดระวังตัว มากขึ้นโดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน
บริเวณที่นั่งรอ Gate C3
โล่ง...แล้วก็กว้างดีจัง
นั่งทำมิวสิค สลับกับอ่านหนังสือไปหลายง่วง กว่า Gate จะเปิด...เฮ้อ...
ลำนี้แหละค่ะ...ที่จะพาฉันเหินฟ้าไปสู่มหานครลอนดอน
ภายในเวลาสิบเอ็ดชั่วโมงครึ่่ง
ก็ยังแอบน้อยใจนิดๆ ทุกครั้งที่่บินกับการบินไทย
ที่ว่าเราเป็นคนไทยแท้ๆ แต่กลับต้องจ่ายค่าตั๋วในราคาแพงกว่าคนชาติอื่น
ค่าตั๋วไป-กลับ กรุงเทพฯ - ลอนดอน ราคามาตรฐานก็ประมาณ 45,000 บาาท
(หรือราวๆ 900 ปอนด์)
แต่เวลาคุณมิสเตอร์พอลบินมาเมืองไทย ด้วยสายการบินไทยเหมือนกัน
เขาสามารถซื้อตั๋วได้ในราคาไม่เกิน 650 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยก็สามหมื่นต้นๆ
เป็นแบบนี้ทุกครั้ง
สรุปแล้วก็คือ ตั๋วที่ออกจากเมืองไทย แพงกว่าซื้อที่อังกฤษประมาณหนึ่งหมื่นบาท
โอ้....ทำไมมันต่างกันมากนักล่ะเนี่ย
ทั้งที่เราเป็นคนไทย สายการบินก็ของไทย
กลายเป็นว่ารายได้น้อยกว่า ต้องจ่ายแพงกว่า...เฮ้อ
ในที่สุด ก็ได้ขึ้นไปนั่งชูคออยู่บนเครื่องซะที
ฉันเลือกที่นั่งตอนท้ายเครื่อง เลขที่ 68A ติดริมหน้าต่างซ้ายมือ
หลังจากเวลาผ่านไป ก็พบว่า ฉันได้ที่นั่งว่างติดกันทั้งสองที่ ไชโย !!!!
เอิ่มม...แต่พอหันไปมองฝั่งขวามือ
นายคนนี้ ได้ที่ว่างแถวกลางตั้งสี่ที่ อั๊ยย่ะ !!!!!!!
ผู้โดยสารหาที่นอนกันสบายอุราเลยค่ะ เที่ยวบินนี้
โดยเฉพาะตอนท้ายเครื่อง 5555
เครื่อง Take off เกือบบ่ายโมง
ชอบความรู้สึกตอนที่ Take off นี่แหละ ตื่นเต้นดี
หวาดเสียวนิดๆ กลั้นหายใจหน่อยๆ..
มองลงมาเบื้องล่าง....bye bye บางกอก....bye bye ประเทศไทย...
ขอเวลาหลบร้อน ไปหาอากาศหนาวเย็น สักสามอาทิตย์
แล้วจะกลับมา
ชอบท้องฟ้าประมาณนี้..
ก้อนเมฆท่าทางจะนุ่มดี..
อาหารมื้อแรก...มาแล้วค่ะ
มีขนมปังหนึ่งก้อน ...สันคอหมู ซอสครีมเห็ดแชมปิญอง
พาสต้าลิงกินี เสริฟพร้อมกับผักอบเนย
ของหวานเป็นเค้กฟักทอง
ถ้วยนี้ เรียกน้ำย่อย ...กุ้งและแอปเปิลปรุงรส น้ำสลัดมัสตาร์ด
ก็อร่อยดี ได้รสเปรี้ยวนิดๆ จากแอปเปิล ผสมกับความหวานจากเนื้อกุ้ง
รสชาดกำลังดี
จัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเป็นเรื่องเป็นราว..
ตบท้ายด้วยกาแฟถ้วยเล็ก แล้วก็เตรียมตัวพักผ่อน
เปิดหน้าจอ PTV ไว้ดูเส้นทางการบิน ว่าบินถึงไหนแล้ว
ที่จริงอยากดูหนังสักเรื่อง แต่ว่าปวดหัวเกิน อันเนื่องมาจากไม่ได้กินกาแฟตอนเช้า
แอร์โฮสเตสคนสวย เอายาพารามาให้ 2 เม็ด กับน้ำแก้วนึง
แล้วก็ตีตํั๋วนอนเลย....
อยากจะบอกว่า นอนแบบอุ่นใจมาก เพราะไม่มีใครนั่งอยู่ข้างๆ
อีกอย่างคือ ทั้งแอร์และสจ๊วตหน้าตาดีทั้งหลาย เค้าคอยดูแลผู้โดยสารดีมาก
ไม่ใช่เฉพาะกับฝรั่งมังค่าอย่างเดียว
แม้กระทั่งกับคนไทยหน้าตาบ้านๆ อย่างเรา เธอก็บริการอย่างสุภาพเรียบร้อย
พูดจาไพเราะ ยิ้มหวาน คอยเดินมาดูตลอด ว่าต้องการอะไรอีกไหม
ก็เพราะอย่างนี้ ถึงตัดใจจากการบินไทยไม่ได้ซะที 5555
เกือบสิบสองชั่วโมงบนเครื่อง...
เป็นเวลาที่ยาวนานพอดู ฉันหลับแล้วตื่น หลับแล้วตื่น
ดูนาฬิกา สลับกับดูที่หน้าจอ ว่าบินถึงไหนแล้ว
ทุกคนคงกำลังนึกถึงฉัน เหมือนกับที่ฉันก็เริ่มคิดถึง
ฉันจะถึงลอนดอน ก็ตอนที่ทุกคนทางบ้านเข้านอนกันแล้วนั่นแหละ
แต่ตอนนี้มิสเตอร์พอลยังอยู่ที่สก็อตแลนด์....ใกล้เวลาเลิกงาน
ส่วนแด็ดคงกำลังขับรถมุ่งสู่ลอนดอนมากับมัม เพื่อมารับฉันที่สนามบิน
อาหารมื้อที่สอง เสริฟตอนสี่ทุ่ม ตามเวลาที่เมืองไทย
แต่เป็นเวลาสี่โมงเย็นของ UK
มีขนมปัง กับแยมและเนยก้อนเล็กๆ เหมือนเดิม
ผลไม้สด หวานกรอบ
ก๋วยเตี๋ยวหลอดหน้าตาดี ราดครีมนุ่มๆ เสริฟพร้อมผักอบเนย
แต่อันนี้กินไม่หมด เพราะค่อนข้างเลี่ยน
ตบท้ายด้วยของหวาน อร่อยดี
เที่ยวนี้ดื่มแต่น้ำแอปเปิลตลอดทาง ยังไม่กล้าดื่มไวน์ อิ อิ..
เครื่องแลนดิ้งตอนหกโมง สี่สิบแปดนาที
เป็นเวลาเย็นย่ำที่ลอนดอน
มองออกมาจากหน้าต่างบนเครื่อง ก็พอจะรู้ว่าข้างนอกต้องหนาวพอดูเลยแหละ
อากาศครึ้มฟ้า ครึ้มฝน หม่นๆ เทาๆ
เสียงกัปตันประกาศว่าอุณหภูมิข้างนอก ประมาณ 12 องศาเซลเซียส
โหะ..โหะ...ดีแล้ว ที่เอาเสื้อกันหนาวใส่กระเป๋าใบเล็กขึ้นเครื่องมาด้วย
พอพ้นจากประตูเครื่องบิน ฉันก็เดินลิ่วๆ ตามผู้โดยสารคนอื่นๆ มายัง UK Border
เดินพอเหนื่อย ไม่ถึงกับขาลาก เหมือนที่สุวรรณภูมิ ก็มาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง
คราวนี้ได้ต่อคิวลำดับต้นๆ ไม่ต้องรอนาน
เจ้าหน้าที่ช่องที่สัมภาษณ์ฉัน เป็นผู้หญิงผิวดำ หน้าตาขึงขัง
เธอยิงคำถามเป็นชุด ประมาณว่า..
"คุณเดินทางมาจากประเทศไทย ใช่ไหม? "
"เดินทางคนเดียว หรือมากับใคร?"
"คุณเดินทางมาที่นี่ครั้งแรกหรือเปล่า? "
"คุณมีอาชีพอะไร แฟนคุณเป็น British หรือเปล่า? "
บลา....บลา...บลา...
ตอบกันมันส์ไปเลยคะพี่น้อง
แล้วคุณเธอก็ stamp วีซ่าให้ ...
ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวมารับกระเป๋าเดินทาง ป่านนี้แด็ดกับมัมคงชะเง้อหาแย่แล้ว
ในที่สุดก็เดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาอย่างสง่างาม
อันที่จริงมีของที่ต้องสำแดง คือมังคุดที่ใส่กระเป๋าเดินทางมาด้วย 2 กิโลกรัม
แต่ว่าที่ช่องสีแดง ไม่มีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่เลย
ฉันก็เลยเดินจากมาแบบเนียนๆ
อยากไม่อยู่ดีนัก งั้นตรูไปหละ 5555
- - - - - - - - - - - - - - - -
เดินมาตามช่องผู้โดยสารขาเข้า ลากกระเป๋าแบบมั่นใจสุดๆ
แต่สายตานี่กวาดไปซ้าย ขวา แบบเนียนๆ ...เพราะคนเยอะมาก
ชูป้ายกันให้สลอนไปหมด
แป๊บเดียวก็เห็นแด็ดกับมัมโบกมืออยู่ไหวๆ ด้านขวามือ
โอ๊ย...รอดตายแล้วฉัน 5555
แด็ดกับมัมรีบยกมือไหว้สวัสดี เมื่อเห็นฉันไหว้ แล้วก็เข้ามากอด
หลังจากทักทายกันทั้งแบบไทย แบบฝรั่ง พอหอมปากหอมคอแล้ว
แด็ดก็กดโทรศัพท์หาพอล
ฉันรายงานการเดินทางไปว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี
และพบกับแด็ดและมัมแล้ว
นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาไม่ได้มารับที่สนามบินพร้อมกับแด็ดและมัม
เพราะยังต้องทำงานอยู่ที่สก็อตแลนด์อีกสี่วัน จนกว่าจะถึงวันศุกร์ จึงจะเสร็จงาน
และขับรถกลับบ้านที่ Bryn mawr
เราเดินทางออกจากสนามบินฮีทโธรว์ราวๆ 2 ทุ่ม
ข้างนอกยังสว่างอยู่เลย
ป่านนี้ที่บ้านก็เกือบตี 2 เข้าไปแล้ว
แด็ดต้องขับรถอีก 3 ชั่วโมงเต็มๆ จึงจะถึงบ้านที่ Bryn mawr
แต่แด็ดบอกว่า สบายมาก..จิ๊บๆ 55555
ถึงจะมาที่นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว แต่ก็ยังอดแปลกที่ไม่ได้อยู่ดี
ก็บรรยากาศมันไม่ได้เหมือนกับไปต่างจังหวัดนี่นา
ถนนหนทางเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม
มีแต่วงเวียน ไม่ค่อยมีสี่แยก
และรถราที่บั้นท้ายติดป้ายทะเบียน ก็ไม่เหมือนไทยแลนด์
ที่สำคัญคืออากาศที่หนาวได้ใจ แบบนี้จะไม่ให้รู้สึกแปลกได้ยังไง 555
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ต้นไม้ใบไม้ยังเป็นสีน้ำตาล ดูเหงาๆ ราวกับยังไม่ถึงฤดูใบไม้ผลิ
มัมบอกว่า ปีนี้ฤดูใบไม้ผลิมาช้ากว่าปีก่อน
ถ้าเป็นปีที่แล้ว ป่าก็จะเริ่มมีสีเขียวแล้ว
แต่ตอนนี้ยังมีน้อยมาก
แด็ดแวะหยุดพักดื่มกาแฟ ฉันและมัมดื่มน้ำผลไม้คนละกล่องแก้ง่วง
แด็ดกดโทรศัพท์ ให้ฉันคุยกับพอล
เขาบอกว่า จะรอโทรศัทพ์อีกครั้งตอนที่เราทุกคนถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว
จึงจะเข้านอน
พอขึ้นรถได้ ฉันก็ง่วงอีกตามเคย
แล้วก็นั่งหลับๆ ตื่นๆ มาจนถึงบ้านบนเนินเขาที่ Bryn mawr ตอนห้าทุ่ม
โอ้ ....ตอนนี้เมืองไทยก็ ตี 5 เข้าไปแล้ว
จะไม่ง่วงยังไงไหว
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
แด็ดช่วยยกกระเป๋าเดินทางมาไว้ในห้องชั้นล่าง
มัมเตรียมห้องนอนไว้ให้ฉันอย่างเรียบร้อยที่ชั้นบน
มีผ้าเช็ดตัวสีเขียวพับไว้เรียบร้อยวางที่ปลายเตียง
เดรสซิ่ง กาวน์ สีขาวเทา รองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้าน เธอก็เอามาเตรียมไว้ให้
หลังจากโทร.หาพอลแล้ว ฉันก็อาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอน
เอามังคุดและผลไม้กระป๋องมาให้มัมที่ในครัว
เธอขอบคุณแล้ว ขอบคุณอีก
แถมยังดึงตัวฉันเข้ามากอดก่อนเข้านอนด้วยนะ 5555
ขอบคุณค่ะแด็ด..ขอบคุณค่ะมัม
Create Date : 17 สิงหาคม 2556
4 comments
Last Update : 18 สิงหาคม 2556 12:05:16 น.
Counter : 1962 Pageviews.
Share
Tweet
มาอ่าน การเดินทางที่ยาวนาน แต่ก็เจ็บใจแทนที่
คนไทยต้องจ่ายค่า ตั๋วแพงกว่า คนต่างชาติ
ไม่รู้เขาเล่นตัวไปถึงไหนนะครับ มิน่าถึงขาดทุน
คงมาจาก ค่าใช้จ่ายประจำเยอะ...เกินไป เฮ้อ..
โดย:
ไวน์กับสายน้ำ
23 สิงหาคม 2556 16:20:01 น.
ยินดีต้อนรับค่ะพี่ อิอิ
โดย:
JenNy & Tristan @ The UK
30 สิงหาคม 2556 18:58:06 น.
แวะมาอ่านเรื่องราวของเจ้าหญิงคนสวยค่ะ
อ่านแล้วเพลินมากเลย
คิดถึงนะ
พี่ก็ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาบล็อกเลย
วันนี้ถือโอกาสอัพบล็อกกิจการของร้าน
เพราะครบรอบ 2 ปีเดือนกันยานี้อ่ะจ้ะ
โดย:
เกลือหนึ่งกำน้อย
16 กันยายน 2556 1:55:21 น.
เป็นยังไงบ้างคะพี่ เที่ยวไหนมาบ้าง อัพเดทด้วยนะคะ
โดย:
JenNy & Tristan @ The UK
10 ธันวาคม 2556 3:15:28 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
คนไทยต้องจ่ายค่า ตั๋วแพงกว่า คนต่างชาติ
ไม่รู้เขาเล่นตัวไปถึงไหนนะครับ มิน่าถึงขาดทุน
คงมาจาก ค่าใช้จ่ายประจำเยอะ...เกินไป เฮ้อ..