ดวงใจของชาวไทยทุกคน และของชาวต่างชาติหลายคนที่ได้เข้ามาอาศัยในประเทศไทย ต่างโศกเศร้าอาดูร ถึงพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
แม้จะได้รับทราบกันว่า พระองค์ท่านได้พระราชทานสิ่งต่างๆ ให้แก่ประชาชนที่พระองค์ทรงรัก และได้มีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโครงการในพระราชดำริมากมาย
จนได้รับรู้ผ่านการสื่อสาร ต่างๆ ไม่ว่าทางวิทยุ โทรทัศนฺ์ สื่อสิ่งพิมพ์ Social Media ต่างๆ ว่า ตลอด ๗๐ ปีที่ครองราชมานั้น ทรงทำงานเพื่อประชาชนของพระองค์มาโดยตลอด แม้ยามที่ทรงประชวร
คนไทยก็คงได้รับรู้มากขึ้น และรู้ว่า ที่ตนเองรู้บ้างนั้น เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่า่นั้น
ผู้เขียนเกิดปีที่พระองค์ขึ้นครองราช ปี พ.ศ. ๒๔๘๙ และเป็นผู้หนึ่งที่รู้เพียงส่วนหนึ่งของพระมหากรุณาธิคุณที่ยิ่งใหญ่ไพศาล
กว่าจะได้คิดถวายความจงรักภักดีให้มากกว่าเดิม ก็ได้แต่มาทำถวายเมื่อพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว
ทุกวันนี้ พยายามหาเวลาเกือบทุกวัน ไปเป็นอาสาสมัคร ในการช่วยปรุง หรือไปช่วยแจกอาหาร เครื่องดื่ม เลี้ยงประชาชนที่ไปเข้าแถวเพื่อรอเข้าไปถวายศักการะพระบรมโกศ ในพระบรมมหาราชวัง
ได้เห็นพลังของประชาชนที่หลั่งไหลไปอย่างไม่ขาดสายทุกวัน เดินเข้าแถวอย่างมีระเบียบ แต่งกายเรียบร้อย เดินกันยาว และไปนั่งรอคิวในเต้นท์อย่างยาวนาน ด้วยความอดทน เพื่อจะได้เข้าไปกราบพระบรมโกศเพียงไม่กี่นาที
ได้ประจักษ์ว่า ไม่มีชาติใดในโลกนี้อีกแล้ว ที่รักและภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่าชาวไทย เพราะสถาบันนี้ได้แก้ไขปัญหานานาประการ และช่วยให้ชาวไทยพ้นวิกฤตฺิมาหลายครั้ง
เชื่อว่า โอกาสนี้ เป็นอีกครั้ง และครั้งสุดท้่าย ที่พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงสอนคนไทยให้รักกัน ปรองดองกัน รู้จักความเสียสละ การทำงานที่ไม่ประสงค์สิ่งใดตอบแทน ทำอย่างเต็มใจ อย่างมีความสุข
หากความรักใคร่ปรองดองกันนี้ คงอยู่ตลอดไป ประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรืองสถาพรอย่างแน่นอน
สวัสดียามเช้าครับ
พระองค์ท่านอยู่ในใจคนไทยเสมอ
และตลอดไป
ปีที่ผ่านมา
เป็นปีแห่งการสูญเสียของปวงชนชาวไทยจริงๆครับ