จิปาถะ คนที่มีเสน่ห์ และใช้เสน่ห์ให้เป็นก็ดีนะคะ แต่ถ้าเจอคนที่คิดมากกว่านั้นก็ลำบากเช่นกัน ดังนั้น....อยากให้รู้จักกาลเทศะในการใช้ เพราะคนมักรู้หน้าไม่รู้ใจ (น่ากลัวที่สุด)   Create Date : 14 มกราคม 2553 21 comments Last Update : 14 มกราคม 2553 13:07:00 น. Counter : 528 Pageviews. Share Tweet

สวัสดีค่ะคุณหมู วันนี้มาเป็นคนแรกเลยค่ะ เคยเห็นเหมือนกันค่ะ คนประเภทแบบนี้ เรื่องแบบนี้มีทั้งในชีวิตจริง และในละครค่ะ แต่ส่วนใหญ่ละครก็มีพื้นฐานมาจากชีวิตจริงนั่นแหละค่ะ คนที่เกิดมาสวย น่ารัก sexy ถือว่าโชคดีมากๆค่ะ แต่ก็เมื่อได้รับความโชคดีอันนี้แล้วก็ควรใช้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ แต่ที่สำคัญที่สุดต้องเหมาะสมด้วยค่ะ คนบางคนหน้าตา รูปร่างธรรมดาๆทั่วไป แต่ถ้ารู้จักว่าตัวให้เหมาะสมกับกาละเทศะ ก็มีเสน่าห์น่ารัก เช่นกันค่ะ และดูว่าผู้นั่นจะน่ามีคุณค่าในตัวของเขาเองมากกว่า คนสวยบางคนที่วางตัวไม่เหมาะค่ะ การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีก็มีเสน่ห์ค่ะ ใครๆก็อยากเข้าใกล้ แต่ถ้ามีมากจน โอเวอร์ก็ออกจะประหลาดค่ะ บางคนใช้เสน่ห์ของตนเองในการออดอ้อน ให้คนโน่น คนนี้ทำอะไรให้บ่อยๆ ก็ไม่ดีค่ะ ในสายตาคนอื่น...เขาจะหาว่าอ่อยได้น่ะค่ะ อันนี้เป็นความคิดของผู้หญิงค่ะ แต่ของผู้ชายก็ไม่ทราบค่ะ บางที...เล่นมากเกินไป....ก็ต้องระวังอาจจะถูก...เล่นกลับแบบแรงๆได้น่ะค่ะ.....และคนอื่นก็จะไม่เกรงใจด้วยค่ะ   โดย: athena_b 14 มกราคม 2553 18:16:56 น.

สวัสดีค่ะ ทำไรอยู่ค่ะ ไม่รู้พี่จะนอนรึยัง จะทำไงดีนะ เราถึงจะได้ไปดูหนังด้ววยกัน และที่เสียดายก็คือ ลานน้ำแข็งอะค่ะ   โดย: little nurse 15 มกราคม 2553 22:15:45 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู วันเสาร์ไปทำงานหรือเปล่าค่ะ บ้านคุณหมูอยู่สาทร โอโห้ ใจกลางเมืองเลยค่ะ ที่ดินแถวนั้นราคาแพงมากๆค่ะ จริงค่ะ คนอยู่แถวไหน ก็จะเคยชินกับแถวนั้น แหม่ก็นี่มันถิ่นของเรานี่ค่ะ พูดถึงเรื่องคุยเก่ง นึกถึงพี่ที่ทำงานได้ 1 คนค่ะ ตอนที่พี่คนนั้นเขาย้ายมาที่ทำงานใหม่ๆ ตัวเองก็แปลกใจค่ะ ว่าทำไมพี่เขาถึงพูดเก่งจัง คือเอาแบบว่าพูดได้ทั้งวัน แต่ตัวเองเป็นคยพูดไม่ค่อยเก่งค่ะ ส่วนใหญ่จะเงียบมากกว่า ก็เลยทำให้รู้สึกเพลิน เพราะฟังพี่เขาเล่าเรื่องโน่นเรื่องนี้ให้ฟังค่ะ เวลาอยู่ใกล้ๆก็รู้สึกสยาบใจค่ะ ตอนนี้ก็เลยรู้สึกสนิทกับพี่คนนั้นไปเลยค่ะ ตอนเรียนจบ ป.ตรี ก็ได้วางแผนชีวิตไว้เลยค่ะ บางอย่างก็ทำได้ตามแผน บางอย่างก็ทำไม่ได้ แต่ก็มีโครงการมากมายในหัวสมองค่ะ เพราะอยากทำให้ชีวิตดูดีขึ้นก็เท่านั้นค่ะ ถ้าคุณหมูทำงานอยู่ ขอให้เสร็จไวๆน่ะค่ะ จะได้กลับบ้านมาพักผ่อนค่ะ   โดย: athena_b 16 มกราคม 2553 10:44:48 น.

ฉลองที่บ้านค่ะ ขอขอบคุณสำหรับคำอวยพรในวันคล้ายวันเกิดและรูปภาพน่ารักๆน่ะค่ะ ของเชิญกลับมาที่ blog อีกครั้งน่ะค่ะ เพราะตนเองได้ทำการขอบคุณอย่างเป็นทางการใน blog เลยค่ะ   โดย: athena_b 18 มกราคม 2553 15:14:15 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู ทำงานธนาคารหรือค่ะ อิอิ....ดีเลยค่ะเดี๋ยวมีอะไรจะได้ปรึกษาได้ค่ะ ขอฉลองที่บ้านดีกว่าค่ะ เพราะว่าอีกไม่นานก็ต้องไปฝึกงานผลัดที่ 2 ค่ะ ถ้าทุกอย่าง ok ก็จะเป็นไปตามแผนค่ะ ดังนั้นก็ไม่ได้อยู่บ้านอีกตามเคยค่ะ ตอนนี้ยังไม่ทำงานค่ะ จะเริ่มทำเดือน กพ ค่ะ ตอนนี้คิด seminar และพิมพ์งานอยู่ค่ะ พรุ่งนี้ต้องไปมหาลัยค่ะ ไปฟังบางอย่างค่ะ เข้าใจค่ะว่าคนส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่าทำงานทาง marketing ค่ะ เพราะจะติด หรือ มีความคิดแบบนี้อันดับ 1 ในสมองค่ะ แต่จริงๆก็เข้าใจค่ะว่างานมีหลายแผนก มีหลายหน้าที่ต่างๆกันออกไปค่ะ ถ้าแบบนี้ผู้ที่ทำงานธนาคารในฆ้างไม่เหนื่อยกว่าปกติหรือค่ะ แล้วเขาไม่มีแบ่งแบบทำงานเป็นเวร หรือ กะ หรือค่ะ   โดย: athena_b 19 มกราคม 2553 21:02:30 น.

อ้าวพิมพ์ผิดค่ะ ฆ้าง ไม่มีค่ะ อิอิ เป็น ห้างค่ะ   โดย: athena_b 19 มกราคม 2553 21:04:17 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู ขออภัยค่ะที่เข้าใจผิด คุณหมูทำให้นึกถึงพี่คนหนึ่งที่ทำงานค่ะ พี่เขาเป็นเภสัชกร ตอนเรียน ป.โท เขาเรียน MBA หลังจากนั้นเขาก็เล่นหุ้นด้วยค่ะ คือทำงานเป็นเภสัชกร part time + เล่นหุ้น + ซื้อกองทุนต่างๆมากมาย จะได้ไม่ต้องเสียภาษีเยอะๆ ค่ะ พี่เขาก็เคยสอนแบบคร่าวๆค่ะ เกี่ยวกับกองทุน แต่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจหรือรู้เรื่องค่ะ ตอนนี้พี่คนนี้เขาก็ลาออกไปแล้ว แต่สิ่งที่จำได้ค่ะ คือพี่เขาสามารถซื้อบ้านด้วยเงินสด โดยจ่ายไปเป็นล้านๆเลยค่ะ จากการเล่นหุ้น ทุกคนฟังก็อยากจะเล่นกันตาม แต่ของ athena_b เองไม่ค่อยรู้เรื่องแบบนี้ ก็เลยไม่เอาดีกว่าค่ะ แล้วคุณหมูเล่นหุ้นหรือเปล่าค่ะ   โดย: athena_b 21 มกราคม 2553 16:47:24 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู เป็นไข้หวัด รับประทาน Actifed tablet + ยาน้ำแก้ไอ จริงๆก็ ok แล้วค่ะ แต่ต้องถามก่อนว่าเป็นมากี่วันแล้วค่ะ เพราะว่าจะได้ทราบว่า ว่าควรใช้ยาปฏิชีวนะหรือไม่ค่ะ งั้นอธิบายเผื่อไว้แล้วกันค่ะย่อๆ ปรกติถ้าเป็นหวัดจากการติดเชื้อไวรัส ร่างกายก็จะมีภูมิคุ้มกันและสามารถหายได้เองภายในประมาณ 5 วันค่ะ และอาการต่างๆเช่นการไอ เจ็บคอ หรือมีน้ำมูกจะเป็นไม่มากมายนักค่ะ แต่สมมุติว่ามีอาการอย่างที่กล่าวตอนต้นนาน ไอมากแล้วมีเสมหะ/น้ำมูก ที่มีสีเช่นเหลือง เขียว มีกลิ่นเหม็น ก็ควรรับประทานยาปฏิชีวนะร่วมด้วยค่ะ เพราะคาดว่าน่าจะติดเชื้อแบคทีเรียเพิ่มด้วยค่ะ ทานยาประมาณ 5 วัน สำหรับยาของคุณหมู Actifed tablet เป็นยาแบบผสมค่ะ คือ ใน 1 เม็ดจะประกอบไปด้วย Pseudoephedrine + Triprolidine ค่ะ ซึ่งถ้ารับประทานไปแล้วจะง่วงนอนมากๆค่ะ คนส่วนใหญ่จะมีอาการแบบนี้ค่ะ ส่วน Pseudoephedrine ก็อาจจะทำให้ใจสั่น ปากคอแห้งได้ค่ะ เหมือนหิวน้ำตลอดค่ะ แต่ข้อดีของ Pseudoephedrine คือ จะมีคุณสมบัติลดอาการคัดจมูกค่ะ ทำให้หายใจโล่งขึ้นค่ะ ถ้าไม่ต้องการง่วงนอนในเวลาช่วงทำงาน หรือ มึนศีรษะ จะมียาอื่นที่เป็นทางเลือกค่ะ เช่น Clarinase tablets ค่ะ คุณสมบัติเหมือนกับ actifed ค่ะ แต่ไม่ทำให้ง่วงนอนค่ะ ในร้านขายยามีจำหน่ายทั่วไปค่ะ แต่ราคาค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับ actifed ค่ะ เวลาซื้อยารับประทาน อย่าลืมแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรว่ามีประวัติแพ้ยาด้วยน่ะค่ะ ก็พักผ่อน ดื่มน้ำให้มากๆ ค่ะ ทานน้ำอุ่น หรือ น้ำชาอุ่นๆก็จะช่วยเรื่องเจ็บคอได้ด้วยค่ะ หายไวๆน่ะค่ะ   โดย: athena_b 21 มกราคม 2553 22:40:49 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู ดีใจด้วยค่ะใกล้จะหายไข้หวัดแล้ว บริจาคเลือดด้วยหรือค่ะ ดีจังค่ะ เลือด group อะไรค่ะ athena_b ไม่ขอบริจาคเลือดค่ะ เพราะกลัวมากๆ อะไรที่เกี่ยวกับเลือด ขนาดเวลาตรวจสุขภาพประจำปี เขาให้เจาะเลือดยังกลัวแถบแย่ค่ะ ต้องบอกกับพี่พยาบาลว่าพี่ค่ะเบาๆค่ะ กลัว และต้องนำเพื่อนไปด้วย กลัวขึ้นสมอง ตัวเองเป็นเลือด AB ค่ะ เขาก็ขอให้บริจาคหลายครั้งแต่ก็กลัวมากๆ ขอทำความดีรูปแบบอื่นดีกว่าค่ะ ใช้รถไฟฟ้า ระวังน่ะค่ะ ทราบข่าวว่ามีคนตกรถด้วยค่ะ โชดดีไม่เป็นไรมาก   โดย: athena_b 25 มกราคม 2553 15:55:17 น.

สวัสดีค่ะพี่หมู พอดีว่าช่วงนี้ยุ่งๆ เลยไม่ค่อยได้มาเม้นเลย ขอบคุณสำหรับ เมสเสทนะค่ะ ^^ สบายดีนะค่ะ   โดย: Imaginewing 26 มกราคม 2553 6:19:05 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู สมัยตอนเรียน ป.ตรี หรือค่ะ มีเรียนค่ะ ทั้งกายวิภาค และ physiology นึกภาษาไทยไม่ออกค่ะ มีเรียนผ่ากบ แมลง เจาะเลือด เยอะแยะค่ะ แต่อะไรที่เกี่ยวกับเลือด เช่น ฝึกเจาะเลือด ดู group เลือด ก็จะให้เพื่อนเป็นคนทำ ค่ะ เอาเลือดเขามา เขาก็เจาะของเขาเอง ส่วนตัวเองก็บอกว่าเดี๋ยวเราใส่สารนั้นสารนี้ให้ แปลผล เขียนสรุปให้ ตอนปีสุดท้ายทำ project คราวนี้ไม่มีใครช่วยแล้วค่ะ ต้องทำเอง คือ ผ่าท้องหนู แล้วเอากระเพราะออกมาฉีดยา diluted HCL solution ค่ะ แล้วก็เอากระเพราะกลับเข้าท้องหนูเหมือนเดิม แล้วก็เย็บแผลค่ะ ตอนทำแรกๆมีตายไปบ้าง พอต่อมาก็ ok ค่ะ ทำไป 60 ตัวค่ะ ก็ต้องพยายามไม่งั้น project ไม่เสร็จค่ะ ทานอาหารกลางวันยังค่ะ ออ.....คุณ pinkyrose เป็นเพื่อนใน vip friends ค่ะ ก็เลยเขียนตัวเลื่อนแสดงความเสียใจค่ะ แต่ athena_b ก็ได้เข้าไป blog พี่เขาแล้วค่ะ ไปให้กำลังใจค่ะ   โดย: athena_b 26 มกราคม 2553 12:43:51 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู ใกล้เลิกงานแล้วซิน่ะค่ะ ชอบทานช็อคคอแล๊ต > กาแฟค่ะ แต่ถ้าเป็นกาแฟมักจักสั่ง expresso ค่ะ ปกติชอบไปทานอาหารที่ black canyon แล้วก็มีบัตรสมาชิกที่นั่นด้วยค่ะ mc cafe ไม่มีค่ะ อันนี้เป็น menu ที่ชอบสั่งค่ะ   โดย: athena_b 27 มกราคม 2553 16:35:08 น.

แก้วนี้ด้วยค่ะ อิอิ นำภาพมายั่วค่ะ จะไปน่าน ถ่ายรูปมาเยอะๆน่ะค่ะ จะได้ up ลง blog จะได้แบ่งกันดูค่ะ ยังไม่เคยไปน่านเลยค่ะ   โดย: athena_b 27 มกราคม 2553 16:39:20 น.

ตามนี้เลยค่ะ ไปทีไรก็มักจะสั่งแบบนี้ สลับกันไปบ้าง   โดย: athena_b 27 มกราคม 2553 18:59:39 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู ยังไม่สามารถตอบได้ค่ะ ว่าคุณหมูติดกาแฟตอนนี้หรือเปล่า แต่ต้องลองทดสอบด้วยตนเองดูค่ะ สนุกๆ ข้อบ่งชี้ว่า เราจะติดกาแฟ หรือ caffeine หรือไม่คือ ปวดศีรษะ,เฉื่อยชา เซื่องซึม,มีอารมณ์หดหู่ เศร้าหมอง,คลื่นไส้,อาเจียน,ปวดกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง โดยภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นถ้าไม่ได้ทานกาแฟมาประมาณ 12 - 24 ชั่วโมงค่ะ แต่ถ้าลองทานกาแฟไปแล้ว แล้วปรากฏว่าดีขึ้น ก็คงจะติดแล้วค่ะ ถ้าถามว่ากาแฟมีประโยช์นไหม??? กาแฟ หรือ caffeine หรือ น้ำอัดลม เช่น pepsi, coke ถ้าทานพอดีๆ ก็จะกระตุ้นสมอง หัวใจ รู้สึกกระปรี้กระเป่าได้ค่ะ แต่ถ้าดื่มมากเกินไปก็จะติด เหมือนสารเสพติดเช่นกัน ผลเสียคือ กระทบกับหลอดเลือดค่ะ จะทำให้ตีบได้ caffeine ที่เป็นพิษต่อร่างกายคือ 1000 มิลลิกรัมต่อวัน ค่ะ แล้วเราจะทราบได้อย่างไร ก็เวลาซื้อกาแฟก็ไม่เคยมีใครบอกว่า 1 แก้วมี caffeine เท่าไหร่ เขาก็เลยประมาณการว่า ใน 1 แก้วน่าจะมี caffeine 40 - 70 มิลลิกรัมค่ะ ดังนั้นไม่ควรทานกาแฟ หรือ caffeine เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ 4 ถ้วยต่อวันค่ะ แล้วกาแฟแบบ Decaf coffee หรือ ไม่มี caffeine เป็นอย่างไร จริงๆแล้วยังคงมี caffeine อยุ่แต่น้อยกว่า 3 มิลลิกรัมค่ะ สารที่จะทำให้เราติดหรือไม่ติดก็คือ caffeine ค่ะ ดังนั้นเลี่ยงไปทานแบบ Decaf coffee ก็จะดีค่ะ พูดเรื่องอาการปวดศีรษะ จริงๆแล้ว สาร caffeine เขาก็นำมาทำเป็นยาที่รักษาอาการไมเกรน ได้ค่ะ โดยเป็นส่วนประกอบของยาชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติทำให้หลอดเลือดสมองลดอาการบวมได้ค่ะ เป็นลักษณะสารประกอบเท่านั้น ออกฤทธิ์ร่วมกับตัวยาหลักอีกชนิดค่ะ   โดย: athena_b 28 มกราคม 2553 20:27:29 น.

สวัสดีค่ะพี่หมู สบายดีมั้ยค่ะ ไม่มีโอกาสได้มาเม้นบล็อกพี่เลย พี่งานหนักมั้ยค่ะช่วงนี้ ตอนนี้หนูเปลี่ยนวอทแล้วค่ะ จากนพรัตนมาอยู่ที่ปทุมค่ะ ไม่ค่อยเหนื่อยกับการนั่งรถเท่าไหร่ค่ะ หวังว่าเราอาจจะมีเวลาได้เจอกันอีกนะค่ะ   โดย: little nurse 30 มกราคม 2553 15:44:22 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู ขอโทษน่ะค่ะ ที่ไม่ได้เขียนมาหา เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้รับรายงานด่วนมาทำค่ะ และก็ต้องเข้าสอบ oral exam ค่ะ กลัวๆเหมือนกันค่ะ เพราะว่าทำได้ไม่ค่อยจะดีนัก รุ้สึกได้ค่ะ ฝึกงานเก็บ 60% + oral exam 40% ค่ะ 4 หน่วยกิต เป็นวิชาบังคับ ต้องได้ไม่ต่ำกว่า B ค่ะจึงจะผ่าน ก็เลยกลัวค่ะ อาจารย์ให้ case คนไข้มา ตัวเองคิดว่าได้เขียนปัญหาของผู้ป่วยครบแล้ว แต่ก็ดันขาดไป 1 ปัญหาที่ไม่ได้เขียนค่ะ คิดว่าตอนนี้คุณหมูคงจะหายเป็นหวัดแล้วน่ะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะที่ส่งข่วเรื่อง Chocolate มาให้ค่ะ แล้วไปเจาะเลือดใปนไงบ้างค่ะ เห็นมีใครเป็นลมหรือเปล่าค่ะ เรื่องการลงรูปใน blog ไม่ยากน่ะค่ะ คุณหมูมี HI 5 ไหมค่ะ เพราะถ้ามีพื้นฐานก็จะคล้ายๆกันค่ะ แต่ของ athena_b ไม่มี HI 5 น่ะค่ะ ที่ลงรูปต่างๆเป็นก็อาศัยกดปุ่มนั่นนี้มั่วๆเอาค่ะ ฝันดีค่ะ   โดย: athena_b 6 กุมภาพันธ์ 2553 0:23:34 น.

สวัสดีค่ะคุณหมู ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับความเป็นห่วงค่ะ ก็เสียใจค่ะ ที่ไม่มีความละเอียดรอบครอบเพียงพอ คราวที่แล้วก็พลาดไป 1 เรื่อง ตอนช่วงสอบ oral ก่อนไปฝึกงานผลัดที่ 1 พอคราวนี้ก็พลาดอีก 1 เรื่อง oral หลังฝึกงาน นักศึกษา 1 คน ต่ออาจารย์ 3 ท่านค่ะ ให้เวลาสอบ 13.00 - 16.00 น ค่ะ ออกมาขับรถกลับบ้านไม่มีสติเลยค่ะ วันนั้นเลยขับรถผิดทางอีก กว่าจะกลับมาได้เสียเวลาหลงไป 2 ชั่วโมงเลยค่ะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตาข้างซ้ายรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเข้าตาค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เอาตาไปลืมในน้ำก็ค่อยดีขึ้น วันจันทร์กลับมาเป็นใหม่ก็ยังฝืนค่ะคิดว่าเดียวก็ออกไปเอง พยายามเขียแต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรเข้าตา วันอังคารตอนตี 4 ต้องตื่นขึ้นมาเพราะว่าตาซ้ายระคายเคืองมาก จนน้ำตาไหล ลืมตาไม่ขึ้นค่ะ ก็เลยไปหาคุณหมอ คุณหมอก็ใช้เครื่องมือส่องให้แล้วก็คีบเอาเศษไม้อันเล็กๆออกจากใต้ผนังตาด้านบนออกให้ค่ะ เลยใช้ตาไปไม่ได้ไป 2 วันครึ่งเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะจัดการเอาออกเองได้ โดยการลืมตาในน้ำ แต่มันไม่ออกค่ะ นอนหลับฝันดีน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ   โดย: athena_b 9 กุมภาพันธ์ 2553 22:45:13 น.

ใกล้เลิกงานแล้วใช่ไหมค่ะ กลับมาอ่านที่คุณหมูเขียนให้อีกครั้งค่ะ อ้าว...เปลี่ยนจากเป็นหวัด กลายมาเป็นไอร้อยวันแล้ว ตนเองก็เคยเป็นค่ะ เมื่อต้นปีที่แล้ว ถ้าจำไม่ผิด หายหวัด ดีใจ ปรากฏว่ามาไอทั้งวี่ทั้งวันแทน เพื่อนร่วมงานเริ่มแสดงความรังเกียจ คิดว่าเป็นวัณโรค พากันไปนั่งไกลๆค่ะ อิอิ เขาล้อเล่นค่ะ เพราะตนเองน้ำหนักอะไรก็ ok ไม่ลด x-ray ปอดก็ไม่หายค่ะ แต่ไอตลอดมันทรมาณมากค่ะ และทำให้ปวดหัว และเจ็บหน้าอกเพราะกระแทรกโขลกๆจากการไอตลอด หรือสะเทือนปอด คิดว่าสงสัยเราทั้งคู่คงเป็นแบบ bronchitis แล้วหล่ะค่ะ หลอดลมอักเสบค่ะ บางคนก็หายได้เองค่ะ แต่ของ athena_b ไม่หายค่ะ เพราะรอระยะเวลาแล้ว ก็เลยต้องใช้ยาค่ะ ของตนเองใช้แบบยารับประทานน่ะค่ะ มีคุณสมบัติขยายหลอดลม เนื่องจากต้องการหายเร็วๆก็เลยเลือกยาแรงไปเลย แต่ใช้กับตนเองค่ะ ของคุณหมูใช้เป็นแบบยาพ่นขยายหลอดลมดีกว่าค่ะ พ่นยาเข้าทางปาก ออกฤทธิ์แบบ local หรือเฉพาะตรงหลอดลมค่ะ ยาพ่นจะมีส่วนผสมของ steroid ค่ะ เป็นส่วนประกอบร่วม แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะว่าใช้ระยะสั้น และ ออกฤทธิ์เฉพาะที่เท่านั้น ไม่เหมือนยาแบบรับประทานค่ะ ไม่เกิน 1 สัปดาห์ก็หายแล้วค่ะ แล้วก็คงต้องทานยาละลายเสมหะด้วยค่ะ เพราะว่าที่ไอๆ ก็เป็นไปได้ที่ว่ามีเสมหะติดตรงช่วงลำคอที่ไม่สามารถออกมาได้ จึงทำให้ระคายเคืองคอตลอดเวลา อีกนิดค่ะปกติตนเองจะใช้วิธีต้มน้ำร้อน จากนั้นก็เทน้ำร้อนใส่หม้อค่ะ แล้วก็นำเอาผ้าใหญ่ๆที่สามารถคลุมศีรษะเราได้มิดค่ะ โดยจะนำเอาหน้า ไปอยู่เหนือหม้ออันนั้น จากนั้นก็สูดเอาไอน้ำที่ไม่ร้อนมากจนเกินไปค่ะ โดยใช้สูดไอน้ำทางปากค่ะ โดยเอาผ้าหลุมศีรษะเอาไว้ค่ะ เพื่อไม่ให้ไอน้ำระเหยออกไป ให้จำกัดที่ที่เราจะสูดได้ค่ะ ทำแบบนี้เพื่อเพิ่ทความชุ่มชื้นให้กับหลอดลมค่ะ ก็จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของหลอดลมได้ค่ะ กลับบ้านปลอดภัยค่ะ   โดย: athena_b 10 กุมภาพันธ์ 2553 16:54:33 น.

ส่วนเรื่อง up รูปภาพขึ้น blog ไม่ยากเลยค่ะ คุณหมูมีโปรแกรม photoshop หรือ photoscape ไหมค่ะ ให้ย่อรูปจากที่โปรแกรมนั้นค่ะ photoscape สามารถ download ได้ free จาก web ค่ะ ส่วน photoshop อันนี้ไม่น่าจะมีของ free ค่ะ แต่ถ้ามีเพียงแต่ photoscape ก็ใช้ได้แล้วค่ะ มีลูกเล่นเยอะเลยค่ะ ภาพใน blog ของ athena b ก็ ผ่าน phtotoscape มาก่อนค่ะ จากนั้นก็ upload เข้าสู่ web ที่เขาให้ฝากภาพได้ free ค่ะ เช่น photobucket ค่ะ จากนั้นก็นำ url ของภาพมาใส่ค่ะ ใน blog ของเรา แค่นี้เองค่ะ ไม่ยากค่ะ   โดย: athena_b 10 กุมภาพันธ์ 2553 16:59:58 น.

ภาพที่ยังไม่ได้ย่อ ขนาด เวลาใส่ blog มันจะไม่สวยค่ะ เพราะว่าจึงหน้า blog ของเราให้ใหญ่ กว้างกว่าปกติค่ะ เวลาอ่าน หรือ ดู จะลำบากค่ะ เพราะต้องคอยเลื่อย scroll bar ไปมาค่ะ   โดย: athena_b 10 กุมภาพันธ์ 2553 17:02:35 น.