วันนี้จะพาไปเยี่ยมเขตเมืองเก่าคะเป็นส่วนที่อยู่พื้นที่ชั้นในของGeorge Town(เมืองจอร์จทาวน์)เมืองหลวงของเกาะปีนัง พื้นที่ตรงนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ ย่านเมืองเก่านี้เป็นชุมชนของคน4เชื้อชาติ คือ มลายู จีน อินเดีย และพวกยุโรปซึ่งสามารถอาศัยอยู่ด้วยกันได้โดยไม่ขัดแย้งน่านับถือจริงๆ การเยี่ยมชมเขตเมืองเก่าทำได้หลายวิธี ถ้าไม่เอารถมาเองหรือเช่ารถขับ ก็สามารถใช้บริการรถเมล์ฟรี(Hop on-Hop off) หรือเช่า Trishow สามล้อแบบในรูปด้านล่าง Trishow จะคิดค่าเช่าประมาณ1.30-2ชม./รอบ ขับพาไปดูสถานที่สำคัญๆเช่น city hall,town hall,ย่านไชน่าทาวน์,ย่านลิตเติ้ลอินเดีย ราคาเช่าต่อรอบคิดเป็นเงินไทยประมาณ400-500บาทไทย ก็คุ้มค่าเหนื่อยที่เค้าถีบสามล้อกลางแดดเปรี้ยง และอีกวิธีคือการเดินคะที่นี่น่าเดินมากมีการจัดระเบียบจราจรดีมาก ทางเท้าก็ไม่สิ่งกีดขวางหรือรุกล้ำจากพ่อค้าแม่ขาย

ตามไปดูกันเลยคะ...

ย่านมลายู สถาปัตยกรรมที่สำคัญในย่านนี้คือมัสยิด Kapitan Keling Mosque ซึ่งผสมผสานศิลปะแบบมัวร์ ปัจจุบันอายุ 211ปี

ต่อมาสถาปัตยกรรมที่โด่งดังในย่านไชน่าทาวน์ซึ่งอยู่ถนนสายเดียวกันกับมัสยิดKapitan Keling Mosque โดยมัสยิดจะอยู่ตรงหัวมุมถนน คือวัดเจ้าแม่กวนอิม ที่สร้างโดยกลุ่มคนจีนกวางตุ้งและจีนฮกเกี้ยนเมื่อปี คศ.1728 ปัจจุบันอายุ285ปี วัดนี้ได้รับความนิยมมากทั้งจากนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น เข้าไปข้างในเต็มไปด้วยควันธูป รีบไหว้แล้วต้องรีบออกมาเนื่องจากข้างในแคบมากต้องเดินเบียดกันและอาจสำลักควันได้หากอยู่นานเกินไป

ถัดจากย่านไชน่าทาวน์ก็เป็นย่านลิตเติ้ลอินเดีย สถาปัตยกรรมที่โด่งดังในย่านนี้คือวัดฮินดู วัดศรีมาเรียมมัน (Sri Mariamman Temple)สร้างขึ้นในปี 1883 ปัจจุบันอายุ 130ปี  โดยส่วนตัวเจ้าของบล็อกชอบไปเยี่ยมชมวัดฮินดูเพราะสีสันที่สวยงามและรูปปั้นที่ดูอลังการมากๆ

ภาพภายในวัดฮินดู สีสันสวยงาม

บรรยากาศย่านลิตเติ้ลอินเดีย

ต่อมามาดูสถาปัตกรรมแบบยุโรปกันบ้างคะ นี่เป็นโบสถ์เซนต์จอร์จ เสียดายไม่ได้เข้าไปดูใกล้ๆเพราะอยู่ระหว่างการปิดซ่อม

ภาพล่างนี้คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ บนเกาะปีนัง สวยมั้ยคะ

เดินไปเรื่อยๆก่อนถึงทางเดินเลียบทะเล หรือเอสพลานาด เราจะพบกับตึกสีเหลืองสวยงาม ศิลปะแบบวิคตอเรีย คือ Town hall เปิดดำเนินการเมื่อปี คศ.1880

ต่อด้วยCity Hall ศิลปะแบบEdwadian Baroque เป็นตึกสีขาวทั้งหลังตั้งอยู่ติดทางเดินเลียบทะเลสร้างเมื่อปี 1903

ถัดจาก city hall ก็จะพบอนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่ 1 ดังภาพด้านล่างนี้

และภาพด้านล่างนี่ล่ะคะ Esplanade(เอสพลานาด)ที่พูดถึงเป็นที่โล่งว่างติดชายทะเล คุณสามารถเดินเที่ยวเรื่อยๆรับลมชายทะเลไปตามทางเดินนี้ซึ่งยาวนับเป็นกิโลเมตร โดยเฉพาะตอนเย็นๆจะพบคนมารวมตัวที่นี่กันเยอะทั้งมาเดินเล่นและออกกำลังกาย

ส่วนรูปนี้เป็นอาคารเก่าที่นำมาดัดแปลงเป็นธนาคาร ในปีนังเราจะพบอาคารเก่าๆหลายแห่งที่นำมาดัดแปลงเป็นธนาคาร โรงแรม สำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านดอกไม้หรือร้านกาแฟ

อาคารของธนาคาร Standard Charter ก็นำอาคารเก่ามาประยุกต์ใช้ เห็นตึกรูปทรงแบบนี้นึกว่าเดินอยู่ในอังกฤษ

แล้วก็ลากันด้วยรูปสุดท้ายหอนาฬิกาสวยๆ ชื่อหอนาฬิกาควีนวิคตอเรีย สร้างโดยมหาเศรษฐีชาวปีนัง เมื่อคศ.1897 เพื่อเป็นเกียรติในวาระครบรอบ60พรรษาของพระราชินีนาถวิคตอเรีย

ติดตามกันต่อในตอนที่ 5 ซึ่งเป็นตอนจบคะ