|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
13 ตุลาคม 2551
|
|
|
|
ทำไมราคายางถึงตกนะ !!!
พอดีตอนสาย... (13 ต.ค.2551) บังเอิญเปิดไปเจอรายการ Business Smart พอดี เนื้อหาในวันนี้กล่าวถึง เกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์น้ำมัน และได้มีการกล่าวถึงราคายางพาราด้วย เรื่องราคา ยางพารานี่... ปกติเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ แต่ที่ อึ้งนี่สิคับ คือ ตอนฟังว่า... ราคายางเคยขึ้นสูงไปถึง 100 กว่าบาท /กกเลย แต่ตอนนี้ที่เช็คราคาคืออยู่ราวๆ 50 ต้นๆ /กก
ปัญหาที่แน่ๆ คือ ต้องกระทบต่อเจ้าของสวนยาง หรือผู้ที่มีส่วนได้เสียกับราคายางพาราเป็นแน่... รายได้หายวาบกันทีเดียว ^^"
ปัจจัยอะไรล่ะนั้นทำให้ราคายางพาราเปลี่ยนแปลง จะขอแจงดังต่อไปนี้ หลังจากพิมพ์ยืดเยื้อมานาน 55+
มาดูปัจจัยที่ส่งผลต่อราคายางกัน...
ปริมาณยางในประเทศผู้ผลิตยาง (ประเทศผู้ส่งออกยางเอง) ยังไงรึ คือ... ง่ายๆเลยคือ ถ้ามีการผลิตยางออกมามากเกินความต้องการของผู้ใช้แล้วจะทำให้ราคายางปรับตัวลดลง ในทางกลับกัน ถ้ามีการผลิตยางออกมาน้อยเกินความต้องการของผู้ใช้แล้วจะทำให้ราคายางปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นไปตามกลไกราคาในทางเศรษฐศาสตร์ *ราคายางมีทิศทางตรงกันความกับปริมาณยางที่ผลิตออกมาเลย*
ความต้องการของยาง ถ้าเกิดมีความต้องการยางสูงขึ้นก็จะทำให้ราคาปรับตัวขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าเกิดมีความต้องการยางลดลงก็จะทำให้ราคายางปรับตัวลดลงไปด้วย *ราคายางมีทิศทางเดียวกับความต้องการเลยล่ะ*
ราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากว่าในโรงงานอุตสาหกรรมจะใช้ยางสังเคราะห์จากยางพาราหรือจากพอลิเมอร์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ ถ้าเมื่อใดราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นซึ่งพอลิเมอร์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันเองก็จะมีราคาแพงด้วย โรงงานอุตสาหกรรมจึงหันมาซื้อยางพารามาใช้ในการผลิตแทน ทำให้ความต้องการยางพาราสูงขึ้น ราคายางพาราก็ปรับตัวสูงขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าเมื่อใดราคาน้ำมันปรับตัวลดลงซึ่งพอลิเมอร์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันเองก็จะมีราคาลดลงด้วย โรงงานอุตสาหกรรมจึงหันมาซื้อพอลิเมอร์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันมาใช้ในการผลิตแทน ทำให้ความต้องการยางพาราลดลง ราคายางพาราก็ปรับตัวลงลด *ราคายางมีทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันเลยล่ะ*
ราคาทองคำ (อันนี้เห็นแล้วไม่น่าจะเกี่ยวใช่ไหม) ก็เป็นปัจจัยหนึ่งเช่นกัน เนื่องจากคนที่เก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้าล่วงหน้าจะมีโยกเงินไปมาเพื่อทำกำไร คือ ถ้าเขาไม่ซื้อขายทองคำเขาก็จะหันมาซื้อขายในตลาดล่วงหน้าเกษตร (AFET) ทำให้ราคายางพาราล่วงหน้านั้นปรับตัวสูงขึ้น ก็มีผลให้ราคายางมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นตาม *ราคายางมีทิศทางตรงกันข้ามกับราคาทองคำด้วย* ราคาจากตลาดจริงจากตลาดประมูลยางหาดใหญ่ ก็มีผลส่งถึงราคายาง คือ ถ้าในตลาดประมูลยางหาดใหญ่มีราคาสูงขึ้น ก็จะมีผลให้ราคายางพาราปรับขึ้น และถ้าในตลาดประมูลยางหาดใหญ่มีราคาลดลง ก็จะมีผลให้ราคายางพาราปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน *ราคายางมีทิศทางเดียวกับราคาตลาดจริง*
ข่าวที่มีผลกระทบกับยาง หรือ น้ำมัน ยกตัวอย่างเช่น การทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ทำให้มีความวิตกว่าจะเกิดสงคราม ราคาน้ำมันตลาดล่วงหน้าขึ้นทันที ราคายางตลาด โตเกียว TOCOM (ญี่ปุ่น) ก็จะปรับตาม หรือ ภัยธรรมชาติที่ได้ยินบ่อยๆ คือ พายุเข้าอ่าวเม็กซิโก ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันลดลง ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น ราคายางก็ปรับขึ้นตามดังที่กล่าวมาแล้ว
ค่าเงิน ได้แก่ค่าเงินบาทและค่าเงินเยนของญี่ปุ่น คือ ถ้าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เช่น จาก 40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเป็น 25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแล้ว จะทำให้เหมือนว่าราคายางพาราของเราต่อประเทศคู่ค้ายางพาราซื้อนั้นมองว่าราคายางพาราของเราแพงขึ้น ทำให้ความต้องการซื้อยางพาราลดลง ราคายางพาราจึงลดลง ในทางกลับกันถ้าค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เช่น จาก 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเป็น 40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแล้ว จะทำให้เหมือนว่าราคายางพาราของเราต่อประเทศคู่ค้ายางพาราซื้อนั้นมองว่าราคายางพาราของเราถูก ทำให้ความต้องการซื้อยางพาราเพิ่มขึ้น ราคายางพาราจึงปรับตัวสูงขึ้น *ราคายางพารามีทิศทางตรงข้ามกับค่าเงิน*
สุดท้ายก็ยังต้องพึ่งทิศทางของเศรษฐกิจโลก ถ้าเศรษฐกิจดีราคายางก็มีโอกาสไปได้สวยครับเพราะเชื่อว่าจะมีแรงผลิตแรงซื้ออะไรดี ความต้องการยางมีสูง ราคายางก็ปรับตัวขึ้น แต่ถ้าเศรษฐกิจโลกไม่ดีเชื่อว่า การผลิตการบริโภคจะชะลอตัวลง ความต้องการยางลดลง ทำให้ราคายางพาราปรับตัวลดลง *ราคายางมีทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจโลก*
ท้ายสุดเพิ่มเติมก่อนจบบทความนี้..
ที่ราคายางลดลง ก็มีผลจากข้อที่ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง ตอนที่ยางพารามีราคา 100 กว่าบาท /กก. นั้น ราคาน้ำมันขึ้นสูงถึง 140 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลเลยล่ะ ตอนนี้ราคาน้ำมันลดลงมา 70-80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เลยทำให้ราคายางปรับตัวลดลงมาเป็นครึ่งเลย ประจวบกับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐ (ชื่อน่าทาน ^^) และลุกลามไปยังยุโรป, ญี่ปุ่น เลยมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ความต้องการยางพาราลดลง ทำให้ราคาปรับตัวลดลงตามไปด้วยเช่นกัน
ตลาดยางที่กำหนดราคายางของโลกปัจจุบันนี้คือ ตลาดยางญี่ปุ่นหรือว่า TOCOM ซึ่งตลาดทั่วโลกจะอิงกับราคานี้เป็นส่วนใหญ่
ความรู้เรื่องนี้ได้จากการอ่าน //www.rakayang.net และรูปภาพจากเว็บ //www.kohyaotravel.com , //www.rd1677.com ขอบคุณท่านที่เข้ามาอ่าน หวังว่าคงจะเป็นความรู้ไม่มากก็น้อย ^^
Create Date : 13 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 13 ตุลาคม 2551 23:51:38 น. |
|
21 comments
|
Counter : 3052 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: discipula วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:3:29:50 น. |
|
|
|
โดย: ย่าเองจ๊ะ (ย่าชอบเล่า ) วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:14:04:06 น. |
|
|
|
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:1:46:47 น. |
|
|
|
โดย: UStogetheR วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:9:12:41 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:11:11:23 น. |
|
|
|
โดย: มาลงชื่อด้วยคนค่ะ (yoja ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:11:20:38 น. |
|
|
|
โดย: sony23 วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:12:13:55 น. |
|
|
|
โดย: แม่น้องแปงแปง (แม่น้องแปงแปง ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:13:02:32 น. |
|
|
|
โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:14:58:13 น. |
|
|
|
โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:15:39:27 น. |
|
|
|
โดย: I_sabai วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:16:10:07 น. |
|
|
|
โดย: ผู้หญิงธรรมดา (damaryllis ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:19:01:16 น. |
|
|
|
โดย: นู๋นิด (happypig@nk ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:19:09:48 น. |
|
|
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:20:38:45 น. |
|
|
|
โดย: joblovenuk วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:23:14:34 น. |
|
|
|
โดย: หนูเมเปิล (หนูเมเปิล ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:23:26:46 น. |
|
|
|
โดย: gagayear วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:2:25:08 น. |
|
|
|
| |
|
|
ลมพัดเพียงวูบเดียว |
|
|
|
|
แต่อยากรู้มากกว่าว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง คนปลูกยางเค้าจะได้ไม่เดือดร้อนมากนัก