เลิกรังแกประชาชนได้แล้ว เลิกรังแกประชาชนได้แล้ว บทนำมติชน โบราณท่านว่า "ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกราญ" ดูเหมือนจะจริง เพราะเหตุการณ์ทุกวันนี้สะท้อนให้เห็นภาพความบอบช้ำที่เกิดแก่ประชาชน โดยที่ประชาชนคนบริสุทธิ์ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรกันเลย แม้ว่า การวินาศกรรมด้วยการวางระเบิดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 8 จุด เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2549 จะยังไม่ปรากฏกลุ่มผู้กระทำ แต่จากข่าวสารข้อมูลที่ปรากฏออกมาสามารถขมวดปมได้ 2 ทางคือ เกิดจากกลุ่มอำนาจเก่า หรือไม่ก็เกิดจากกลุ่มอำนาจใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอำนาจเก่าหรือกลุ่มอำนาจใหม่จะเป็นผู้ลงมือกระทำก็ล้วนแล้วแต่ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนผู้ที่ถูกปกครอง ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กลับตกเป็นฝ่ายต้องรับผลที่ตัวเองมิได้ก่อทั้งสิ้น เป็นเพียงเพราะคนในระดับปกครองทะเลาะวิวาทกัน แย่งชิงอำนาจกัน จึงทำให้คนที่สูญเสียประโยชน์ คิดที่จะระบายความโกรธ ด้วยการทำร้ายประชาชนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแย่งชิง และความเกลียดชังที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับข่าวคราวเรื่อง "คลื่นใต้น้ำ" ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่มีรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ข่าวคราวเรื่องการลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน ก็ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงผลกรรมที่ตัวเองมิได้ก่อของประชาชนคนไทย เด็กนักเรียนไม่มีโรงเรียนจะเรียน โดยที่เด็กนักเรียนเหล่านั้นมิได้ไปทำอะไรให้กลุ่มอำนาจใหม่ หรือกลุ่มอำนาจเก่าโกรธเคืองแต่อย่างใด ครูอาจารย์ก็เช่นกัน มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงอำนาจหรือผลประโยชน์ แต่ผลจากความขัดแย้งของผู้ปกครอง กลับส่งแรงกระทบมายังประชาชนตาดำๆ เหมือนกับความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่แรก ๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นความเคลื่อนไหวโดยบังเอิญ แต่เมื่อระยะเวลาพ้นผ่าน ดูเหมือนว่าความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ผ่านการคิดวิเคราะห์ถึงเวลาและสถานที่เอาไว้อย่างดี แม้ว่าจะมีเสียงจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษากฎหมาย หรือน้องสาว ออกมายืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการจะวางมือทางการเมืองในช่วงนี้ แต่ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้รับกลับเป็นตรงกันข้าม กลับกลายเป็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงคาดหวังที่จะกลับคืนสู่บัลลังก์ มีการหล่อเลี้ยงพลพรรคเอาไว้ และพร้อมจะมีความเคลื่อนไหวเมื่อได้จังหวะ และเป็นจังหวะที่มีเป้าหมายเทียบเคียงกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ล่าสุดคือการติอต่อขอเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ขณะที่มีข่าว พล.อ.สุรยุทธ์ เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ที่เมืองเซบู ประเทศฟิลลิปปินส์ และทุกครั้งที่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีข่าวต่อเนื่องจากบรรดาสมัครพรรคพวกเรื่องการขอเข้าประเทศไทย และตามมาด้วยคำยืนยันจากปากของผู้ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ว่า จะยังไม่กลับประเทศไทยในช่วงนี้ เพราะเห็นแก่ประเทศชาติและประชาชน ข่าวคราวเช่นนี้วนเวียนกันเป็นวัฏจักร สร้างความหวั่นไหวให้แก่การเมืองไทยเป็นระยะๆ ความสั่นไหวดังกล่าวได้กระทบลงไปถึงประชาชน เพราะไม่แน่ใจว่าประเทศไทยจะมีความแน่นอนในความมั่นคงปลอดภัยหรือไม่ ดังนั้น บรรดา "ช้างสาร" ที่ประกาศอยู่ทุกครั้งที่มีโอกาสว่า รักชาติและประชาชน ควรจะทำให้กรณีเช่นนี้มีความชัดเจน เป็นจริงเป็นจัง ไม่ใช่ดำเนินการเหมือนการพูดอย่างทำอย่าง จนเกิดความประหวั่นวิตกกันยกใหญ่เช่นปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศว่าไม่อยากจะเห็นประเทศไทยวุ่นวายก็ควรหยุดความเคลื่อนไหวด้วยการประกาศจากวาจาตัวเองไปเลยว่า จะไม่ดำเนินการทางการเมืองใดๆ จนกว่าเหตุการณ์จะปกติ ส่วนขบวนการทำร้ายเด็กด้วยการเผาโรงเรียนก็ควรจะหยุดพฤติกรรม หยุดรังแกประชาชนผู้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวได้แล้ว หน้า 2< //www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01edi01170150&day=2007/01/17 Create Date : 17 มกราคม 2550 Last Update : 17 มกราคม 2550 14:58:32 น. 2 comments Counter : 486 Pageviews.   Share Tweet จิงอ๋อวะ โดย: adrenaline inside me (Adrenaline inside me ) วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:18:53:24 น.   * สวัสดีค่ะ แอบ มา อ่าน หน่อย นะค่ะ สบายดีนะค่ะ โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:0:24:10 น.   ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก