ประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ จากประเทศออสเตรเลียค่ะ
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
20 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
วันวานไม่หวนกลับ 3

ตอนเรียนภาษา ก็คิดทุกวันนะคะ ว่าเมื่อไหร่จะหมดคอร์สซะที เหนื่อย เบื่อ เต็มทน เรียนตั้งแต่แปดโมง ถึงสี่โมงเย็น มีการบ้านทุกวัน แต่พอถึงวันสุดท้ายจริงๆ ใจก็หายไปเลยค่ะ หายไปในอากาศเหมือนเพลงเค้าว่า ก็ยังดีที่ว่า เป็นโรงเรียนภาษาของมหาลัย พอเรียนจบก็ยังเจอเพื่อนเก่าบ้าง เดินผ่านไป ผ่านมา เรียนด้วยกันมาตั้งสี่เดือนแล้วไงคะ ก็เลยติด กลัวด้วย ว่าจะหาเพื่อนใหม่ไม่ได้ พอเรียนภาษาจบแล้ว ก็มีเวลาพักหนึ่งเดือน ตอนนั้นต้นปี ก็อยากหาประสบการณ์ใหม่ อยากย้ายออกจากโฮมสเตย์มาอยู่กับเพื่อน เลยตัดสินใจย้ายออกเดือนมกราเลย เจ้าของบ้านก็เสียใจนะคะ ไม่อยากให้ไป แต่พอดีเค้าเป็นฝรั่ง จะฟูมฟายร่ำไห้ เป็นห่วงเป็นใยแบบที่แม่เป็นห่วงเรา คงจะไม่ใช่ เค้าก็ทำหน้าสลด บอกว่าถ้าคิดดีแล้วก็ไป พร้อมกับให้ชุดแก้วกาแฟ หม้อ จาน ชาม ผ้าปูเตียงและผ้าห่มหนึ่งผืน เค้าบอกจะได้ไม่ต้องไปซื้อ หนึ่งคืนก่อนย้ายออก ดิฉันก็แอบร้องไห้ ให้เป็นพิธี ก็อดสงสารเจ้าของบ้านไม่ได้ค่ะ อยู่ด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน มีเรื่องอะไรก็เล่าให้กันฟัง จนเหมือนจะเป็นแม่ลุกกันไปแล้ว อาวรณ์กับทะเล และบรรยากาศรอบบ้านด้วยค่ะ จะหาที่ไหนเหมือนที่นี่ไม่มีอีกแล้ว พออีกวัน เพื่อนคนไทยก็มารับ ขนของใส่ท้ายรถ ถ่ายรูปด้วยกันเสร็จ พอขึ้นรถก็เป็นเหมือนน้องหมาแล้วค่ะ น้ำตาแห้งเป็นปลิดทิ้ง กลายเป็นน้องหมาที่เจ้าของพานั่งรถเล่น เอาหน้าแนบหน้าต่าง ลุ้นไงคะ ว่าที่เรากำลังจะไป จะเป็นอย่างไรหนอ อีกอย่าง อยู่กับเพื่อนก็คงสนุกดีแท้

พอถึงบ้านใหม่ (ซึ่งเป็นบ้านเก่าของเพื่อน) ดิฉันก็ได้ห้องนอนใหม่เป็นห้องรับแขก บ้านมีสองชั้น เพื่อนนอนห้องนอนชั้นสอง ดิฉันก็อาศัยถุงนอนเป็นเตียง นอนอยู่ชั้นล่าง บ้านทำเลดีค่ะ อยู่ตรงกันข้ามร้านขายเหล้าเลย พักหลังเริ่มจะเป็นกรรมกรแบกหาม คนนึงแบกน้ำแข็ง คนนึงแบกสุรา บ้างก็หามลังเบียร์ แล้วแต่ว่าใครจะชอบอะไร หนึ่งเดือนก่อนเริ่มเทอมใหม่ ก็พักผ่อนเต็มที่ สนุกสนาน ไปสำรวจที่เที่ยวใกล้ๆ บ้าง ไกลๆ บ้าง ดื่มเหล้าสรวลเสเฮฮา เพื่อนคนไทยเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็รู้จักกันจากโรงเรียนภาษาน่ะค่ะ เดี๋ยวมีรุ่นน้องคนนี้มา ก็แนะนำกันปากต่อปาก บางทีก็ดื่มกันมากจนต้องค้างคืนที่บ้านเพื่อน เป็นปาร์ตี้วนไปเรื่อยๆ คิดว่าเป็นเรื่องปกติ (เฉพาะคนที่ดื่มนะคะ) เห็นมาหลายบ้านเหมือนกัน ส่วนมากเพื่อนคนไทยที่ดิฉันรู้จัก ก็จะชอบดื่มที่บ้าน หนึ่งประหยัด สองเมาแล้วก็หลับ สามไม่ต้องขับรถ
อย่างที่สามนี่แหละค่ะ ที่อาจจะทำให้เราเสียทรัพย์สิน หรือเสียอนาคตได้ จะมากจะน้อยก็อยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ออกมากับลมหายใจนั่นแหละค่ะ

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ตำรวจออสซี่มักจะตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ หรือไม่ถ้าขับรถเคียงๆ กันไป หรือสวนกันมา ถ้าเค้าคิดว่าเราผิดปกติ ก็จะส่งสัญญาณให้หยุดรถ แล้วก็ทำการตรวจ ส่วนโทษก็มีตั้งแต่ปรับ ไปจนถึงริบใบขับขี่ จะสามเดือน หกเดือนก็ว่ากันไป อันนี้แหละค่ะ ที่พวกเราไม่อยากจะเสี่ยงกัน จะว่าไป กฎหมายเค้าก็ดีนะคะ อย่างน้อย ก็จะได้ไม่ต้องมีผู้เคราะห์ร้าย เอาชีวิตมาเสี่ยงกับนักดื่มที่ไม่มีวินัยและความรับผิดชอบ อุบัติเหตุบนท้องถนนบ้านเรา ก็เห็นมามากต่อมากที่ญาติผู้เคราะห์ร้ายจะต้องมาเสียใจ มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นอะไรที่เงินไม่สามารถชดใช้ได้ทั้งหมด จะย้อนเวลากลับไปก็ไม่ได้ จริงไหมคะ

พอมีปาร์ตี้ แน่นอนค่ะ ต้องมีการแบ่งหน้าที่ เช่นว่า ถ้าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้านเรา เราจะทำอะไรเลี้ยงเพื่อนดี คนไทยน่ะค่ะ ใจดี ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ ถึงแม้ว่าเงินบาทจะถูกหารด้วยเงินดอลก็ตาม ไม่อั้นค่ะพี่น้อง อยากกินไร ดื่มไร มิกเซอร์อะไรให้บอก พี่จัดให้ ส่วนมากก็ไม่มามือเปล่าค่ะ อาจจะเอาโซดามา ซึ่งจริงๆ ก็แพงนะคะ ขวดหนึ่งลิตร ของ KIRKs ก็หนึ่งเหรียญ ถ้าของ Schwepps ก็ประมาณ 2-3 เหรียญได้ หรืออาจจะเอามันฝรั่งคล้ายๆเลย์บ้านเรา ของออสซี่ ดิฉันชอบ Smiths ค่ะ แผ่นใหญ่หนา มีหลายรสให้เลือก นี่ก็ตก ถุงละ 3 เหรียญได้ หรือบางคนทำงานร้านอาหารไทย ก็อาจจะหิ้วอาหารจำพวกยำ พนักงานสั่งอาหารร้าน ส่วนมากจะได้ลด 20% เราก็จะสั่งซีฟู้ดกันค่ะ เพราะเป็นอะไรที่แพงมาก ถ้าเพื่อนทำงานเป็น Kitchen Hand และสนิทกับแม่ครัว ก็จะได้เนื้อ ๆ เน้น ๆ ประมาณว่า เจ็ดคน ได้ซีฟู้ดทั่วถึง แหมลืมสิ่งสำคัญไปได้ มองข้ามเรื่องสุราไป เพื่อนๆคนไทยจะชอบดื่ม BLACK RED หรืออะไรก็ได้จากตระกูล Johnie Walker ถัดจากนั้นก็คงเป็น Ballentine's ไม่ก็ Chivas พอดีไม่มี 100 Pipers ค่ะ ไม่งั้นก็คงเหมากันแล้ว ส่วนมากจะเป็น Red ไม่ก็ Ballentines ค่ะ เพราะราคาย่อมเยา 700 ml 2 ขวด ตกที่ประมาณ 50 เหรียญได้ไม่เกินนี้ ดื่มกันบ่อยยิ่งกว่าดื่มยาบำรุงอีกนะคะ ดีว่าที่นี่มีถังขยะรีไซเคิลให้ สองอาทิตย์เข็นถังไปวางหน้าบ้าน ดึก ๆ รถขยะมา ได้ยินแล้วค่ะ เสียงเพล้งๆ ขวดกระทบกันตอนเค้ามาเก็บ บางคนก็เอาไปเป็นขวดน้ำ ใส่ตู้เย็น ชื่นใจดีแท้ค่ะ แหม คิดถึงแม่ค้ารับซื้อของเก่าแถวบ้าน ป่านนี้คงได้ขวดไปขายโรงงาน เฉพาะบ้านนี้ก็คงได้เยอะแบบไม่ต้องไปแวะบ้านอื่นเลยล่ะค่ะ

ขอวกกลับไปเรื่องกับแกล้ม ดิฉันชอบทำไก่ย่างค่ะ หมักไปมั่วๆ เพื่อนก็ชมว่าอร่อย สูตรดิฉันก็ไม่มีอะไร อย่างแรก ปีกไก่ค่ะ แน่นอนเลย เพราะราคาถูกมาก หนึ่งกิโล สี่เหรียญ สองกิโลลดให้เหลือห้าเหรียญ แค่สองกิโลก็เยอะมากแล้วค่ะ ต้องมานั่งล้าง ถอนขน แล้วก็หมักด้วย ซอสหอยนางรมยี่ห้อหมีแพนด้า ของประเทศจีนค่ะ ขวดสีแดง ตามด้วยเมล็ดพริกไทยโขลก พริกไทยดำ น้ำตาลและซีอิ้วขาวตราเด็กสมบูรณ์ ของเค้าขายขวดละสองเหรียญค่ะ ก็พอๆ กับราคาบ้านเราตอนนี้ บ้านฝรั่งส่วนมากจะมีเตาอบใหญ่ๆ แบบ Build-in ดิฉันก็ใช้เตานั่นแหละค่ะ ด้วยความร้อน 160 C ด้านละสิบห้านาที แค่นี้ก็หอมฉุน ควันคลุ้งเต็มบ้านแล้วค่ะ นี่ยังไม่รวมถึงบิลค่าแก็สตอนสิ้นเดือนอีกนะคะ เพราะเตาที่นี่เค้าต่อท่อแก็สด้วยค่ะ น้ำร้อนในห้องน้ำ หรือฮีตเตอร์ ส่วนมากก็ใช้แก็สหมดเลย

สิ่งสำคัญอีกอย่าง ที่ขาดไม่ได้ ก็คือแก้วน้ำค่ะ แก้วทรงอะไรก็ได้ แต่ขอให้มีพอกับจำนวนคนที่มา สมาชิกบ้านดิฉัน ชอบไปซื้อของแต่งบ้านที่ IKEA เป็นห้างที่ขายเฟอร์นิเจอร์ของ Sweden โดยเฉพาะ ดีไซน์เก๋ไก๋หรูหรา ราคาย่อมเยา จะสังเกตได้ว่า ช่วงไหนที่เด็กไทยขายของกลับบ้าน จะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งชิ้น ที่ซื้อมาจากไอเกีย ดีไซด์เค้าเก๋ค่ะ ถึงเป็นมือสอง เราก็ยอมซื้อ ดิฉันได้โต๊ะเก้าอี้ทำการบ้านของไอเกียมาหนึ่งชุด ผ้าห่มของไอเกีย และที่อยากแนะนำมากคือโคมไฟ ติดโต๊ะ ทนมากค่ะ หมุนได้รอบตัว ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นแล้ว ราคาเค้าอาจจะสูงกว่านิดหน่อย แต่ความทนเป็นเลิศค่ะ คุ้มเงินแน่นอน

โอ้โห กว่าปาร์ตี้จะเริ่มได้ พาคุณผู้อ่านไปไหนต่อไหน ไม่เริ่มซักที ไว้เริ่มตอนต่อไปก็แล้วกันนะคะ


Create Date : 20 ตุลาคม 2551
Last Update : 20 ตุลาคม 2551 20:37:03 น. 1 comments
Counter : 331 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ เอาดอกไม้มาฝากค่ะ





โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:21:50:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Indian Butterfly
Location :
Melbourne Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน เคยติดตามอ่านบล็อกมาหลายสำนัก ก็เล็งเห็นประโยชน์มากกว่าโทษ อ่านแล้วได้ความรู้สารพัดอย่าง เลยคิดว่าดิฉันควรจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมบ้าง ที่เคยคิดว่าจะเป็นครู พยาบาล นางสาวไทย ก็คิดนานซะจนอายุล่วงเลยมาจะสามสิบ จะไปสมัครงานที่ไหนใครก็คงไม่รับ นางงามไม่ต้องพูดถึง แต่มิสคานทองยังพอไหวนะคะ พออ่านมาก ๆเข้า ก็เกิดไอเดีย ว่าการเขียนก็เป็นการแบ่งปันเหมือนกัน วัตถุดิบก็มาจากประสบการณ์ ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องขาย ไม่มีค่าลิขสิทธิ์ให้เสียเวลา ใครอยากอ่านก็อ่าน อยากแสดงความคิดเห็นก็เชิญ รู้สึกว่าเป็นอิสระ และมีความเป็นส่วนตัวดี แถมอาจจะยังให้ประโยชน์ (อันน้อยนิด) ไม่มากก็น้อย

ดิฉันจะนำเสนอ เรื่องราว ประสบการณ์ที่คั่งค้างอยู่ในความทรงจำ ที่พูดไม่ออก บอกคนใกล้ชิดไม่ได้ แต่บอกผ่านตัวกลางแล้วสบายใจ แอบเข้าข้างตัวเองค่ะ ว่าเราคงมีพรสวรรค์ด้านการถ่ายทอดอยู่บ้างล่ะน่า น่าจะมีคนติดตามอ่าน หรือรู้สึกชอบเรื่องราวบางตอนบ้างก็ได้ ลองอ่านกันเลยดีกว่า รู้สึกไม่ดี ไม่ชอบอย่างไร คอมเม้นต์กันได้นะคะ ไม่โกรธไม่เคือง เปิดกว้างทางความคิดค่ะ

ผุ้อ่านท่านใดชอบอ่านบล็อกนี้ก็ขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะ ส่วนท่านที่คิดว่ามันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีรับคำติชมเสมอ
Friends' blogs
[Add Indian Butterfly's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.