,./*v*,.. Happy Chinese New Year 2009 ..,*v*.,/
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
'เรื่องนี้มีรัก' โปรเจคพิเศษของขวัญปีใหม่ : เชื่อมรัก...หวานเย็น (..2..)


สวัสดีค่ะ ผ่านไปอีกสัปดาห์แล้วนะคะ ไม่รู้ทำไม...ใกล้สิ้นปีทีไรโน้ตรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วกว่าปกติทุกทีเลย พอถึงช่วงเวลานี้ โน้ตมักจะนึกถึงสมุดจดความตั้งใจที่เขียนเอาไว้ตอนต้นปี ...จำไม่ได้จริงๆ ว่าเขียนอะไรลงไปบ้าง (พยายามจะไม่ขี้โกงแอบเปิดดู) และทำอะไรตามที่ตั้งใจได้สักเท่าไร แต่ที่แน่ๆ มีอยู่ข้อนึงที่สอบตกโดยตั้งใจเพราะความขี้เกียจของตัวเองเป็นหลัก ไม่อยากเชื่อว่าจะอู้และผัดผ่อนมาได้ตั้ง 1 ปี แย่จริง ^^'''

อ้อ พูดถึงเรื่องนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอวยพรวันเกิดนะคะ หลายคนน่ารักมาก อุตส่าห์เข้ามาอวยพรทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขอให้ทุกๆ คนมีความสุขเช่นกันนะคะ พูดแล้วก็ใจหาย ไม่อยากเชื่อเลยตัวเองอายุเพิ่มขึ้นอีกปีแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ อายุที่มากขึ้นไม่ได้แปลว่าเราจะมีความสุขน้อยลงนี่เนอะ (และไม่ยอมสวยน้อยลงด้วย อิอิ) ดูสาวๆ ใน Sex And The City เป็นตัวอย่าง พวกเธอเป็นผู้ใหญ่ สวย ดูดี และมีความสุขในแบบของตัวเอง

เม้าท์นอกเรื่องมานาน เข้าสู่บทที่ 2 ของ "เชื่อมรัก...หวานเย็น" กันเลยดีกว่า จากตอนที่แล้วหลายคนอาจจะสงสัยว่าคุณพี่ดามพ์จะตามขัดขวางความรักของน้องดรีมกับนายธีร์ยังไง วันนี้ได้รู้กันค่ะ


สัปดาห์นี้เกมชิงรางวัลแรลลี่จะเล่นกันที่บล็อกของโน้ตนะคะ เตรียมตัวพบกับคำถามในคอมเมนต์แรกค่ะ


########################






นับจากงานหมั้นลับๆ ระหว่างดาวิษากับธีรุตม์ นีราภาก็ไม่ได้เจอกับคนทั้งสองอีกเลยจนถึงวันที่มีคิวของกองถ่ายละคร ‘เชื่อมหัวใจไว้ด้วยรัก’ ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักของโรมิโอแอนด์จูเลียตยุคมิลเลนเนียม ที่ชายหนุ่มหญิงสาวต้องปีนป่ายกำแพงความรักฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย กว่าจะได้ลงเอยกันอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้งในตอนจบก็ทำเอาสะบักบอมทั้งคู่ ละครเรื่องนี้ทางผู้จัดโปรโมทเอาไว้มากว่าเป็นการคืนจอระหว่างคู่ขวัญที่เคยโด่งดังถึงขีดสุดมาจากละครแนวพ่อแง่แม่งอน คราวนี้พวกเขาทั้งสองกลับมาพบกันในบทบาทดราม่า แต่เชื่อว่าจะตราตรึงใจผู้ชมได้ไม่แพ้กัน

แม้จะไม่ได้อัพเดทข่าวคราว แต่เมคอัพอาร์ติสสาวก็ค่อนข้างโล่งใจไปสองเปลาะ เปลาะแรกเป็นเพราะข่าวการหมั้นหมายระหว่างบุคคลทั้งสองที่เธอเพิ่งแต่งหน้าเพื่อเข้าฉากให้เมื่อครู่ไม่ปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารบันเทิงฉบับใดๆ เลยแม้แต่กรอบเดียว ไม่มีแม้แต่ข่าวซุบซิบยิบย่อยในกองถ่าย ต้องถือว่าคราวนี้เจ๊นกน้อยพัฒนาฝีมือการปิดข่าวขึ้นมากทีเดียว ส่วนอีกเปลาะเป็นเพราะเธอรู้ว่าพิธีหมั้นหมายสำเร็จลงด้วยดี

รู้ได้อย่างไรงั้นหรือ ง่ายมาก…

ข้อแรก จี้ห้อยคอของดาวิษาเปลี่ยนจากรูปนางฟ้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวไปเป็นแหวนแพลตตินั่มฝังเพชรแทนน่ะสิ ซึ่งก็มีคนตาไวสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้และเอ่ยแซวนางเอกประจำกองถ่ายอยู่เหมือนกัน หากดาวิษาก็ตอบเลี่ยงไปว่า

‘เป็นเคล็ดน่ะค่ะ คุณแม่ขาเพิ่งพาดรีมไปดูดวงมา หมอดูบอกว่าช่วงนี้ดรีมควรจะใส่เครื่องประดับที่เป็นรูปแหวน ท่านว่าจะได้เล่นละครรักได้หวานซึ้งตรึงใจดีดรีมก็เลยเอาแหวนมาใส่เป็นจี้แทน สวยไหมคะ’

เท่านี้คนฟังก็ไม่ติดใจสงสัยอะไร ที่มีก็แค่ถามบ้างว่าหมอดูเจ้าไหน อยู่แถวไหน ราคาแพงไหม ซึ่งดาวิษาก็ไหลลื่นไปได้ว่าเป็นหมอดูเพื่อนของมารดาที่ดูให้เป็นพิเศษเพราะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพียงเท่านี้ก็ไม่มีใครเซ้าซี้ซักถามอะไรอีก

แต่ความจริงมาลองนึกๆ ดู นีราภาก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ดาวิษาและธีรุตม์จะต้องปิดบังความสัมพันธ์ที่มีต่อกันไว้เป็นความลับอีกต่อไป เพราะบุคคลที่ทั้งคู่ไม่อยากให้รับรู้มากที่สุดก็ล่วงรู้เข้าแล้ว…

...รู้จนถึงขนาดมานั่งเฝ้ากันจนถึงกองถ่ายอย่างนี้

ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ ขี้เกียจเห็นกองถ่ายกระจุย เมคอัพอาร์ติสสาวแอบกลุ้มใจแทนทีมงาน เพราะตามบทแล้วพระเอกนางเอกของเรื่องจะถูกอุปสรรคระหว่างสองตระกูลกีดกันเยอะมาก ดังนั้นเมื่อมีโอกาสพบกัน ต่างฝ่ายจึงแสดงความรักที่มีต่อกันอย่างเต็มที่ และเท่าที่ได้ลองอ่านบท แต่ละฉากก็หวานหยดย้อ จนพี่ชายหวงน้องสาวบางคนคงทนดูอยู่เฉยๆ ไม่ได้แหงๆ

คิดอย่างนั้น ร่างบางจึงตรงเข้าไปทักทายชายหนุ่มหลังจากที่มือว่างเพราะนักแสดงทั้งหมดแต่งหน้าพร้อมสำหรับเข้าฉากแล้ว

“สวัสดีค่ะ ตามมาดูแลน้องดรีมหรือคะ”

“ตามมากันไม่ให้ไอ้บ้านั่นเข้าใกล้ยัยดรีมเกินกว่าบทต่างหาก” เดชพนต์ตอบตามตรง “ผมว่าคุณคงจะรู้เรื่องราวระหว่างผมกับไอ้ธีร์มาบ้างแล้ว ดรีมคงเล่าให้คุณฟังแล้วใช่ไหม”

เมคอัพอาร์ติสสาวไม่เห็นประโยชน์ที่จะปฏิเสธจึงยอมรับแต่โดยดี หากไม่วายช่วยแก้ต่างให้กับดาวิษา
“ความจริงฉันก็เพิ่งได้รู้เรื่องทั้งหมดหลังจากที่คุณออกไปจากห้องในวันนั้นล่ะค่ะ ปกติน้องดรีมรักษาความเป็นส่วนตัวมาก แทบจะไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังเลยนะคะ”

“อ้อ งั้นผมคงเป็นต้นเหตุบังคับให้ยัยดรีมเล่าให้คุณฟังงั้นสินะ”

เดชพนต์ว่า คำพูดของเขาเหมือนจะยอมรับ หากน้ำเสียงของเขาฉายแววเยาะราวกับไม่เชื่อว่าเมคอัพอาร์ติสสาวจะไม่เป็นฝ่ายเซ้าซี้หาคำตอบจากน้องสาวของเขาก่อน

“หรือคุณคิดว่าไม่จริงล่ะคะ”

นีราภาย้อนถามพร้อมรอยยิ้มใสซื่อ ไม่นึกโกรธที่เขาถามกวนประสาทแบบนั้นเพราะเธอเองก็รู้ดีว่าถ้าให้พูดถึงช่างแต่งหน้า สิ่งแรกที่ผู้คนจะนึกเป็นสเตริโอ ไทป์ คือ ‘ช่างเม้าท์’ ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ผิดสักเท่าไร เพียงแต่นิสัยของเธอผ่าเหล่าผ่ากอเพื่อนร่วมวิชาชีพไปมากโขเท่านั้นเอง แต่เรื่องนั้นเดชพนต์คงจะไม่รู้ ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของเขาอีกเหมือนกันเพราะเขาก็เพิ่งจะเคยพบเธอเพียงครั้งเดียว พูดกันยังไม่ถึงสิบประโยคด้วยซ้ำ

ท่าทียอกย้อนนิ่มๆ ของหญิงสาวผิวเข้มตรงหน้าทำให้เดชพนต์ประหลาดใจอีกครั้ง…ดูเถอะ เพิ่งจะพบกันเพียงสองครั้ง ผู้หญิงคนนี้แสดงออกทุกครั้งว่าไม่มีความหวั่นเกรงเขาเลยแม้แต่เศษเสี้ยวของความรู้สึก

เออ…แต่ก็อาจจะไม่แปลกเท่าไรก็ได้ เพราะขนาดเขาโกรธปึงปังเป็นพายุเพลิงอย่างวันนั้น เธอยังหาญกล้ามาต่อกร ดับไฟในความรู้สึกของเขาได้โดยที่เขายังไม่ทันรู้ตัวราวกับใช้เวทมนตร์ ยิ่งพอได้ต่อยหน้าไอ้ธีร์ไปอีกครั้งอารมณ์โกรธทั้งหมดก็สลายไปเป็นปลิดทิ้งจนเขาไม่นึกอยากจะก่อเรื่องอะไรอีก ซึ่งผิดวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก

“เคยมีคนบอกไหมว่าคุณเป็นคนแปลก หือ”

“ไม่ใช่มีแต่คุณหรอกค่ะที่พูดแบบนี้ เพื่อนๆ ก็ว่าฉันออกบ่อยไป” นีราภาตอบกลั้วหัวเราะ “เขาว่าฉันเป็นมนุษย์ประหลาดกันค่ะ เห็นเหตุการณ์อะไรที่มันร้อนๆ แรงๆ แทนที่จะถอยก็ชอบเข้าไปยุ่งวุ่นวายอยู่เรื่อยจนน่ากลัวว่าจะไม่มีโอกาสอยู่จนแก่”

“ไอ้ ‘ร้อนๆ แรงๆ’ ที่ว่าเนี่ย คุณกำลังหมายความรวมถึงผมด้วยใช่ไหม!”

เสียงห้าวลึกตวัดถาม ซึ่งคนถูกถามไม่ตอบด้วยคำพูด หากรอยยิ้มใสซื่อและดวงตาเลื่อมพรายเป็นประกายเหมือนสายน้ำที่ไหลเรื่อยยามต้องแสงจันทร์ที่มองมาแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี

“ดีนะ หลอกด่าผม”

คำสรุปของเขาทำให้คนฟังหัวเราะเสียงใส

“เปล๊า…แหม ใครจะไปกล้าคะ แค่เห็นหน้าคุณฉันก็กลัวจะแย่แล้วต่างหาก”

คนฟังส่ายหน้า ก็หน้าตาท่าทางและแววตาของเธอช่างตรงกับคำพูดเหลือเกิ๊น ตรงเสียจนเขาอยากทำอะไรบางอย่างให้เธอหยุดกิริยาเหล่านี้เสียที ไม่รู้เจ้าตัวเคยรู้ตัวบ้างหรือเปล่านะว่ารอยยิ้มของเธอเป็นอาวุธประจำตัวที่น่ากลัวที่สุด เพราะมันสามารถหลอมละลายทุกสิ่งในโลกนี้ได้…แม้แต่เปลวไฟ

เพราะมัวต่อปากต่อคำกับเมคอัพอาร์ติสสาวเพลิน คู่ปรับของธีรุตม์ลืมไปเสียสนิทว่าวัตถุประสงค์ในการมากองถ่ายของเขาคืออะไร มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ผู้กำกับสั่งพักสิบห้านาทีนั่นล่ะ เขาถึงได้รู้ตัวว่าไม่ได้เหลือบแลไปยังศาลาริมน้ำที่ทางกองกำลังปักหลักถ่ายทำอยู่เลยตั้งแต่เธอเข้ามาทัก เพราะมัวแต่มองรอยยิ้ม มองดวงตาสวยๆ ของผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่เพิ่งจัดการกับมะม่วงจิ้มกะปิแห้งอันเป็นหนึ่งในของกินเล่นของกองถ่ายที่ไปไถมาจากแม่บ้านจนหมดเรียบ และกำลังเหล่ข้าวกล่องที่วางซ้อนกันอยูในห่อพลาสติก

เมื่อเห็นว่าน้องสาวผละจากฉากมุ่งตรงมา เดชพนต์ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงก้มลงกระซิบข้างหูเมคอัพอาร์ติสสาวที่กำลังง่วนหาของกินอยู่เบาๆ

“น้ำหมึก ผมอาจจะพูดอะไรบางอย่างที่มันฟังดูแปลกๆ แต่ยังไงคุณก็อือๆ ออๆ ตอบรับไปก่อนนะ”

“หือ??”

คนที่กำลังคุ้ยเขี่ยหาของกินงงเป็นไก่ที่ตาเกือบแตก เพราะเมื่อเงยหน้าขึ้นมา นางเอกละครที่เมื่อครู่ยังอยู่ในฉากมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอและชายหนุ่มข้างตัวพอดี

“นี่มันอะไรกันคะ พี่ดามพ์” ดาวิษาถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นกว่าปกติเล็กน้อยหากยังค่อนข้างเบาเพราะนางเอกสาวไม่อยากให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ยิน “พี่ดามพ์ตามดรีมมาที่กองถ่ายทำไมคะ”

“ใครบอกว่าพี่ตามดรีมมา” ผู้เป็นพี่ชายเถียงหน้าตาย

“อ้าว แล้วถ้าพี่ดามพ์ไม่ได้ตามมาเพื่อคิดจะขัดขวางดรีมกับพี่ธีร์ พี่ดามพ์จะมาที่นี่ทำไมล่ะคะ”

ดาวิษาถาม ซึ่งเป็นคำถามที่เดชพนต์คอยรับเอาไว้อยู่แล้ว เขาจึงสามารถตอบน้องสาวอย่างเต็มปากเต็มคำได้ทันที

“พี่มาหาน้ำหมึก” ไม่พูดเปล่า มือใหญ่ยังขยับดึงมือเรียวบางมากุมทับไว้ข้างตัว “เจ้าตัวเขาก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนเลยที่พี่มาหา มีแต่ดรีมนั่นแหละที่ร้อนตัว…จริงไหมน้ำหมึก”

หา ดะ...เดี๋ยวก่อนคุณดามพ์ เมื่อกี้ว่าไงนะคะ!!

คนถูกอ้างถึงแทบจะอ้าปากค้างด้วยความตกอกตกใจสุดขีด แต่นั่นไม่เท่าปฏิกิริยาของน้องสาวของเดชพนต์ น้ำเสียงใสที่ติดจะเอาเรื่องพี่ชายเมื่อครู่เปลี่ยนไปทันที

“จริงเหรอคะพี่น้ำหมึก”

มันจะไปจริงได้ยังไงล่ะคะน้องดรี๊มมมมม เมคอัพอาร์ติสสาวกรี๊ดตุ้บอยู่ในใจหากไม่กล้าพูดอย่างที่ใจคิดเพราะมือที่กุมกระชับอยู่บีบลอบบีบเบาๆ เป็นการเตือนให้เธอ ‘อือๆ ออๆ’ ไปตามที่เขา ‘สั่ง’

“เอ่อ…ก็…ค่ะ”

นีราภารีบตอบหลังจากที่อ้ำอึ้งอยู่นานเพราะแรงบีบเตือนชักจะเพิ่มมากขึ้นและถี่ขึ้นๆ ทุกที ...ขืนไม่ตอบมือจะหักเสียก็ไม่รู้

“แล้วทำไมพี่น้ำหมึกไม่เห็นบอกดรีมเลยล่ะคะ??”

ดาวิษาถามด้วยความสงสัย…จริงอยู่ที่เธอไม่ได้คุยกับเมคอัพอาร์ติสสาวรุ่นพี่เลยนับจากวันที่เจอกันครั้งสุดท้าย แต่พี่ชายของเธอนี่สิ ใจคอจะไม่บอกให้น้องสาวรู้เลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ หรือ แถม…หากเดชพนต์สนใจนีราภาจริงๆ เป็นไปได้หรือที่เขาจะไม่สืบข่าวคราวเกี่ยวกับนีราภาจากเธอผู้เป็นน้องสาว ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลก…

หากยังไม่ทันที่เดชพนต์จะได้หาคำพูดมาช่วยตอบน้องสาวแก้ต่างให้นีราภา เมคอัพอาร์ติสสาวก็ชิงตอบเสียงสดชื่น

“ก็เซอร์ไพรส์ไงคะ น้องดรีม” ไม่พูดเปล่า เมคอัพอาร์ติสสาวยังขยับเข้าไปใกล้คนข้างตัวมากขึ้นอีกด้วย “พี่อยากให้น้องดรีมกับคุณธีร์แปลกใจก็เลยไม่ได้เล่า เป็นไงคะ เซอร์ไพรส์กันหมดเลยวันนี้”

จบคำพูดของเธอ แทนที่จะมีคนเซอร์ไพรส์แค่คนเดียวก็เพิ่มมาเป็นสองไปเรียบร้อยแล้ว

“น้ำหมึก คุณ…” เดชพนต์งงจนเกือบลืม ‘บท’ ที่เขาสร้างขึ้นมา หากยังกลับตัวทันจึงเออออตามน้ำไป “…ไม่เห็นจำเป็นต้องแกล้งปิดบังเลยเพราะถึงยังไงทุกคนก็ต้องรู้อยู่ดี อย่าลืมสิว่าความลับไม่มีในโลก”

ประโยคสุดท้ายเขาพูดเพื่อกัดคนที่ทำท่าปิดๆ บังๆ เขาโดยเฉพาะ หากคนฟังแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หูทวนลมได้อย่างแนบเนียน ส่วนนีราภาที่เป็นคนนอกชักจะกลัวท่าไม่ดีเพราะเมื่อพูดถึงเรื่องนี้เจ้าตัวทำท่าจะไฟลุกอีกแล้วจึงรีบตัดบท

“น้องดรีมคะ มานั่งนี่มา เดี๋ยวพี่เติมหน้าให้”

มือเรียวบางดึงมือของตัวเองออกจากการเกาะกุมของมือใหญ่ รู้สึกโหวงๆ เล็กน้อยที่กระแสความอบอุ่นจางหายไปเหมือนมีใครมาดึงผ้านวมอุ่นๆ ออกไปจากตัวเวลานอนในห้องแอร์เย็นเฉียบ หากเมคอัพอาร์ติสสาวพยายามมองข้ามความรู้สึกแปลกๆ ของตัวเอง เธอจูงมือน้องสาวของคนที่เธอเพิ่งจะดึงมือของตัวออกมาจากมือเขาไปนั่งบนเก้าอี้แต่งหน้าที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย

“พี่น้ำหมึกมือเย็นเชียว แค่พี่ดามพ์มาหาแค่เนี้ย” ดาวิษาแซวขณะที่นีราภากำลังใช้แปรงปัดแป้งฝุ่นซับความมันให้ ทำเอาคนถูกแซวตกใจจนปัดตลับบลัชออนที่วางอยู่บนโต๊ะข้างตัวหล่นลงพื้น...เช่นเดียวกับหัวใจที่หล่นวูบลงเช่นกัน และนั่นยิ่งทำให้เสียงแซวสนุกสนานยิ่งขึ้น “เอ้าๆ ถูกแซวนิดเดียวเขินจนมือไม้สั่นเลยเหรอคะ ว้า งั้นดรีมไม่แซวแล้วดีกว่า เดี๋ยวพี่น้ำหมึกปัดเมคอัพร่วงหมดทั้งโต๊ะ เสียดายแย่”

เป็นครั้งแรกที่เมคอัพอาร์ติสสาวเถียงคนไม่ออกเพราะยิ่งเถียงก็น่าจะยิ่งเข้าตัวไปกันใหญ่จึงก้มหน้าก้มตาเก็บตลับบลัชออนที่โชคดีไม่ถึงกับแตกขึ้นมาจากพื้น เป็นปฏิกิริยาที่ทำให้คนมองยิ่งรู้สึกอยากแกล้ง เพราะใบหน้าของสาวรุ่นพี่เปลี่ยนเป็นสีเข้มจัด ทั้งๆ ที่มันค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากเพราะสีผิวที่เข้มของเจ้าตัวทำให้มักจะมองเห็นรอยเลือดฝาดได้ไม่ชัดเจน ยิ่งเห็นอีกฝ่ายพยายามสงบปากสงบคำ แต่งหน้าให้เธออย่างตั้งอกตั้งใจก็ยิ่งขำ

ไม่แน่ว่าบางทีเธอกับธีรุตม์อาจจะกลายเป็นคิวปิดโดยไม่ตั้งใจไปแล้วก็ได้

แอบลอบมองพี่ชายหน้าดุที่มองมาตลอด ดวงตาสวยก็ยิ่งเป็นประกายพราวเมื่อเห็นว่าเป้าสายตาไม่ใช่ผู้เป็นน้องสาวอย่างเธอ แต่เป็นสาวผิวสีน้ำผึ้งที่กำลังเติมปากให้กับเธออย่างตั้งอกตั้งใจต่างหาก

...เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ พี่ดามพ์จะได้รู้จักความรักเสียที ...และถ้าพี่ดามพ์มีความรักเขาอาจจะเข้าใจจิตใจของเธอบ้าง นอกจากนั้น ความสนใจของเขาจะได้ไม่พุ่งตรงมายังเธอกับธีรุตม์มากนัก

คิดได้อย่างนี้ นางเอกสาวสวยประจำกองถ่ายจึงถ่ายทำฉากที่เหลือต่ออย่างสบายอกสบายใจ (แม้ว่าความจริงแล้วบทตอนที่ถ่ายทำกำลังคุกรุ่นทีเดียว) หญิงสาวกระซิบข้างหูสาวรุ่นพี่ก่อนผละไปเข้าฉากว่า

“พี่น้ำหมึกขา ดรีมฝากดูพี่ดามพ์ให้ด้วยนะคะ”

แล้วเธอก็เดินไปหาผู้กำกับอย่างร่าเริง แตกต่างจากเมคอัพอาร์ติสสาวที่สับสนกับการกระทำของตัวเอง

ที่เธอยอมไหลตามน้ำ จริงๆ แล้วเธอแค่ต้องการตลบกลับแผนการของเขาเพื่อดึงเขาออกจากดาวิษา เพื่อช่วยเหลือหญิงสาวในฐานะรุ่นน้องและในฐานะผู้หญิงด้วยกัน หรือเป็นเพราะความรู้สึกจากส่วนลึกของหัวใจกันแน่นะ...

หญิงสาวทำงานต่อไปโดยที่หัวสมองคิดถึงแต่เรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ยิ่งเห็นเขามองมาทางเธอทุกครั้งที่เผลอชายตาไปทางเขาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว หัวใจยังคงเต้นแรงเมื่อนึกถึงคำพูดที่เขาบอกว่าเขามาหาเธอทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แถมเธอยังไปรับสมอ้างกับคำพูดนั้นเสียด้วย

…แล้วต่อไปเธอจะเข้าหน้าเขาติดไหมล่ะนี่



นีราภาเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองคิดมากเกินไปก็ตอนที่ผละออกจากหน้าจอมอนิเตอร์ที่ใช้เป็นเครื่องกำบังหลบชายหนุ่มหน้าเข้มเพื่อไปอ้อนขอของกินจากป้านิ่ม แม่บ้านประจำกองถ่าย หลังจากคิดว่าเดชพนต์คงจะเบื่อที่จะนั่งดูน้องสาวที่ทำงานอยู่ในฉากนานหลายชั่วโมงและกลับไปแล้ว เมื่อเสียงห้าวทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง

“ผมนึกคุณจะติดหนึบอยู่กับหน้าจอบ้าๆ นั่นตลอดไปเสียแล้วนะน้ำหมึก”

“คุณดามพ์!” หญิงสาวร้องออกมาหลังจากหันไปเผชิญหน้าบูดๆ ของเขา “ฉันคิดว่าคุณกลับไปแล้วซะอีก”

“คงยาก ตราบใดที่กองถ่ายยังไม่เลิก”

เสียงห้วนๆ ของเขาทำให้ดวงตาสวยเลื่อมระยับชำเลืองไปยังพระเอกนางเอกของเรื่อง และคาดไม่ผิดเมื่อเห็นดาวิษากับธีรุตม์กำลังประสานสายตากันอย่างหวานซึ้งก่อนจะโผเข้ากอดกันแนบแน่น…ภาพแบบนี้ล่ะที่กระตุ้นต่อมพิโรธของพี่ชายหวงน้องสาวได้ดีนักเชียว

“ผมล่ะอยากควักลูกตาไอ้ธีร์มันออกมานัก”

อาการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันของเดชพนต์ที่มีต่อธีรุตม์ทำให้นีราภารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก เพราะอย่างน้อยเขาก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ดึงให้เขาอยู่ที่นี่คือน้องสาวคนเดียวและคู่ปรับอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก และเขาไม่ได้ติดใจกับสิ่งที่ตนเองใช้เป็นข้ออ้างเพื่อบังหน้าดาวิษาเลยแม้แต่นิดเดียว ท่าทีที่เขามีต่อเธอยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง แม้จะผิดหวังอยู่บ้างแต่นีราภาก็รู้สึกดีกว่าตอนที่เดาท่าทีของเขาไม่ถูกจนต้องหนีไปอยู่หลังจอมอนิเตอร์แบบเมื่อกี้นี้ หญิงสาวจึงกลับมาเป็นคนเดิมที่กล้าต่อปากต่อคำกับชายหนุ่ม

“ปกติคุณชอบกินของหวานๆ เหรอคะคุณดามพ์”

“ว่าไงนะ??”

“คุณต้องชอบของหวานแน่ๆ เลย…ถึงได้ดุแบบนี้”

เมคอัพอาร์ติสสาวเฉลยประโยคหลังเผื่อว่าเขาจะไม่เข้าใจมุก และหัวเราะเมื่อเขาตีหน้าดุใส่

“ให้ตายเถอะ คุณนี่มันน่าตีจริงๆ พูดออกมาแต่ละอย่าง”

“หรือคุณจะเถียงล่ะคะ” นีราภาย้อนยิ้มๆ ได้แหย่คนใจร้อนเล่นก็สนุกดีเหมือนกันนะนี่

เดชพนต์เริ่มเหนื่อยที่จะต่อปากต่อคำกับเมคอัพอาร์ติสสาวสีน้ำผึ้งเพราะรู้ว่าเถียงยังไงเขาก็ไม่มีทางชนะ ผู้หญิงคนนี้ปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้เก่งเหมือนน้ำที่เปลี่ยนรูปไปตามภาชนะที่ใส่เสมอ เวลาที่อยู่กับน้องสาวของเขา นีราภาจะเป็นพี่สาวที่น่ารักอ่อนโยน เวลาอ้อนขอขนมจากแม่บ้านประจำกองถ่ายเธอจะทำตัวราวกับลูกแมวน้อยขี้อ้อน

แต่ดูเวลาเธอพูดกับเขาสิ กวนประสาทซะไม่มี!

“วันนี้เหลืออีกกี่ฉาก”

พี่ชายของดาวิษาถาม เขาเริ่มเบื่อหน่ายและกำลังจะหงุดหงิดเมื่อเห็นเวลาล่วงเลยมาจนถึงเย็นและเกือบจะค่ำแล้วแต่กองถ่ายก็ยังไม่มีวี่แววจะเลิกเสียที จนสาวผิวสีน้ำผึ้งกินขนมและข้าวกล่องหมดไปกองโต และเริ่มเปิดถุงผลไม้ที่แช่อยู่ในถังน้ำแข็งอีกแล้วด้วยซ้ำ

“ฉากสุดท้ายแล้วค่ะคุณดามพ์ วันนี้นานหน่อยเพราะบทค่อนข้างยาก” เธอตอบพลางจิ้มแตงโมในถุงที่ถืออยู่ส่งให้เขา “ทานผลไม้หน่อยสิคะจะได้สดชื่น” …และใจเย็นขึ้น (อันนี้เธอได้แต่คิดแต่ไม่กล้าบอกเขา)

เดชพนต์รับไม้จิ้มผลไม้สีแดงมาจากมือเรียวบางอย่างไม่เกี่ยงงอน ...จริงของสาวสีน้ำผึ้ง เขารู้สึกดีขึ้นเมื่อผลไม้หวานๆ เย็นๆ ผ่านพ้นลำคอลงไป

“การมานั่งแกร่วในกองถ่ายไม่สนุกเลยใช่ไหมคะ” เมคอัพอาร์ติสสาวถามยิ้มๆ ขนาดเธอชินแล้วยังเหนื่อยไม่น้อย แถมวันนี้อากาศก็ออกจะร้อนอบอ้าวเสียด้วย “ทางที่ดีฉันว่าคุณลืมเรื่องที่พูดก่อนหน้านี้ดีกว่าค่ะ คุณเองก็คงจะเห็นแล้วว่าน้องดรีมกับคุณธีร์ตั้งใจทำงานในส่วนของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้มีเวลาไปสวีทหวานกันสองคนอย่างที่คุณเข้าใจ”

“แล้วคุณจะให้เหตุผลที่ดรีมกับไอ้ธีร์หมั้นกันว่ายังไงล่ะน้ำหมึก ผมไม่เชื่อหรอกนะว่าแค่บทละครมันจะทำให้คนสองคนใจตรงกันได้ ไม่งั้นดาราทุกคู่ที่เล่นละครด้วยกันคงรักกันไปหมดแล้ว จริงไหม”

ฟังแล้วเมคอัพอาร์ติสสาวนิ่งไปนิด ก่อนจะพยักหน้ารับ

“ถูกของคุณ…แต่นี่ก็แปลว่าคุณจะไม่ล้มเลิกการตามน้องดรีมมากองถ่ายทุกวันอย่างนั้นหรือคะ”

“ใครบอกล่ะ แค่วันนี้ที่มาที่นี่ผมก็เห็นแล้วว่าเสียเวลาเปล่าแค่ไหน”

“อ้าว” คำตอบของเขาทำให้คนฟังงุนงง “แล้วคุณจะทำยังไงล่ะคะ”

นีราภาถาม…ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าเธอถามเพื่อจะได้ตั้งรับพฤติกรรมของเขาได้ถูก หรือเพราะใจหายที่เขาจะไม่มาให้เห็นหน้าอีกกันแน่ หากคำตอบของชายหนุ่มมาพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากที่ทำให้นีราภารู้สึกว่าเธอจะประมาทเขาไม่ได้เลย

“เดี๋ยวคุณก็รู้เองล่ะ”

เดชพนต์ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก็ผละไปจากกองถ่ายแต่โดยดี ทิ้งให้คนฟังนิ่วหน้ากับประโยคสุดท้ายของเขาเพียงลำพัง

…เขาคิดจะทำอะไรของเขานะ



((โปรดติดตามตอนต่อไป))


########################



ท้ายนี้ ขออนุญาตอธิบายกฏกติกาของ 'เรื่องนี้มีรัก' แรลลี่ อีกครั้งนะคะ


1. ผู้เข้าร่วมเล่นเกมทุกคนกรุณาอ่านกติกาข้างล่างนี้อย่างละเอียด มิเช่นนั้นหมดสิทธินะเออ สี่สาวขอเตือน

2. การเล่นเกมจะเล่นกันทั้งหมด 4 สัปดาห์ โดยเรียงลำดับดังนี้

- 05.12.08 เล่นที่บ้านจอย (กระแตดอก 'รัก')
- 12.12.08 เล่นที่บ้านโน้ต (เชื่อมรัก...หวานเย็น)
- 19.12.08 เล่นที่บ้านเปี๊ยก (หัวใจต้องลม)
- 26.12.08 เล่นที่บ้านเอ้ย (หวาน (ซ่อน) ใจ)

3. ผู้เล่นทั้งหมดจะต้องร่วมเล่นเกมส์เก็บคะแนนทั้งหมด 4 ฐานที่กล่าวมาแล้วข้างต้น โดยแต่ละฐานจะประกอบไปด้วยคำถามจากแต่ละเรื่องที่ได้อ่านกัน สัปดาห์ละ 4 ข้อ

4. ผู้เข้าเล่นเกมในแต่ละฐานมีสิทธิตอบได้แค่ฐานละ 1 ครั้งเท่านั้น โดยคำตอบแรกเราถือเป็นที่สุด (ดังนั้นคิดดีๆ ก่อนตอบนะคะ)

5. ผู้เล่นมีเวลาเล่นเกมทั้งหมด 6 วันในแต่ละฐาน นั่นก็คือ เจ้าบ้านจะลงเรื่องในแต่ละตอนทุกๆ วันศุกร์ ผู้เข้าร่วมเล่นมีเวลาในการตอบคำถามจนกระทั่งเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีถัดไปในการตอบ แล้วเจ้าบ้านจะปิดรับคำตอบสำหรับแต่ละฐาน อาทิเช่น บ้านจอยน้อยลงคำถามวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม ทุกคนสามารถตอบได้จนกระทั่งเที่ยงคืนของคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 แล้วรอเล่นเกมในฐานที่ 2 ถัดไป เป็นเช่นนี้ทุกๆ สัปดาห์ ดังนั้นหมายความว่าฐานสุดท้ายฐานที่ 4 จะปิดรับคำตอบในวันที่ 1 มกราคม 2552 นั่นเอง

6. ผู้เข้าตอบคำถาม เวลาตอบคำถามให้ระบุหัวข้อชอยด์มาด้วย เช่น ข้อ 1 พระเอกเรื่องกระแตดอกรักชื่ออะไร
1. ดวิษ
2. ดามพ์
3. พสิษฐ์
4. นักตะ
ถ้าจะตอบว่า ดวิษ ให้เพื่อนๆ ตอบว่า ข้อ 1 ตอบ 1 ดวิษ
ทั้งนี้และทั้งนั้นเพื่อเป็นการรักษาสิทธิของเพื่อนๆ เอง เผื่อว่าเขียนข้อผิดแต่ตอบถูกนะจ๊ะ

7. เนื่องจากเจ้าบ้านมี 4 คนมีหนังสือให้เพื่อนๆ คนละ 1 เล่มเท่านั้น หากมีผู้ได้คะแนนสูงสุด 4 อันดับมากกว่า 4 คน เจ้าบ้านจะนำชื่อของคนที่เกินมานำไปจับฉลาก โดยจะเรียงจากคนที่ได้รับคะแนนสูงสุดลงมานะคะ เช่น ถ้ามีคนได้คะแนนที่ 1 จำนวน 2 คน นั่นหมายความว่าจะไม่มีที่ 2 อันดับต่อไปก็จะเป็นอันดับที่ 3 เลย และ อันดับที่ 4 ตามลำดับ ถ้าหากมีที่ 4 มากกว่า 1 คน เราก็จะเอาคนที่ได้คะแนนในลำดับที่ 4 ทั้งหมดมาจับฉลากเพื่อให้ได้คนที่ได้รับหนังสือไป 4 คนค่ะ

8. การตัดสินของเจ้าบ้านถือเป็นที่สุดนะคะ

9. กรณีพิเศษ... เนื่องจากจอยน้อยและพี่เอ้ย มีทั้งเวปไซด์และบล็อก และโตมีสองบล็อก ดังนั้นเราจะเปิดให้เล่นเกมทั้ง 2 ที่นะคะ แต่ว่าคนที่เล่นให้เลือกเล่นที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น ห้ามเล่นทั้งสองที่ ไม่งั้นถือว่าผิดกติกา (เจ้าบ้านปรับตกจริงๆ นะเออ) และถ้าหากใครมี log in ที่เวปไซด์ไม่ตรงกับ bloggang เจ้าบ้านอนุญาตให้ระบุชื่อ log in ใน bloggang มาด้วยได้ถ้าหากอยากเล่นเกมในเวปค่ะ เพราะเราต้องเก็บคะแนน 4 ฐานเนอะ จะได้สะดวกๆ นะจ๊ะ

10. ขอให้มีความสุขกับการอ่านและสนุกกับการเล่นเกมค่ะ




Create Date : 12 ธันวาคม 2551
Last Update : 12 ธันวาคม 2551 19:42:03 น. 8 comments
Counter : 544 Pageviews.

 
สำหรับคำถาม 4 ข้อประจำสัปดาห์ที่ 2 โน้ตขอเรียงจากข้อที่ 5 ไปยัง 8 (ไม่เริ่มที่ 1-4) เพื่อป้องกันความสับสนนะคะ คำถามมีอยู่ว่า...

ข้อ 5 จากกระแตดอกรัก
ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติดีๆ ที่กฤษฎีว่าดีพอที่จะเป็นแฟนแรกขวัญ
1. หล่อ
2. แสนดี
3. เก่ง
4. เอาใจเก่ง

ข้อ 6 จากเชื่อมรัก...หวานเย็น
นีราภาเป็นเมคอัพอาร์ติสประจำกองถ่ายละครที่มีชื่อว่า...
1. ชื่นใจเมื่อใกล้รัก
2. ร้อยหัวใจไว้ด้วยรัก
3. เชื่อมหัวใจไว้ด้วยรัก
4. เชื่อมรัก...หวานเย็น

ข้อ 7 จากหัวใจต้องลม
จุ๊บจิ๊บเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพราะอะไร และพักที่เมืองอะไร
1. ไปงานแต่งงานของเพื่อนสนิท และพักที่โอซากา
2. ไปงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้อง และพักที่โอซากา
3. ไปงานแต่งงานของเพื่อนสนิท และพักที่โกเบ
4. ไปงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้อง และพักที่โกเบ

ข้อ 8 จากหวาน (ซ่อน) ใจ
ภารวีเกิดราศีใด
1. ราศีมังกร
2. ราศีเมษ
3. ราศีสิงห์
4. ราศีธนู
5. ราศีพฤษภ


สำหรับใครที่พลาดการเล่นเกมในสัปดาห์แรกที่บ้านของจอยน้อยก็อย่าเพิ่งท้อใจหรือตัดใจที่จะร่วมสนุกนะคะ คุณยังมีโอกาสทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาเพื่อรับรางวัลจากเราอยู่ ^^ ใครที่ตามอ่านครบ 4 เรื่องแล้ว อย่าลืมรีบส่งคำตอบก่อนเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ 18 ธค. นะคะ แล้วพบกับตอนที่ 3 ในวันศุกร์ที่ 19 ค่ะ


โดย: บทเพลงแห่งความฝัน วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:19:44:27 น.  

 
ข้อ 5 ตอบ 1. หล่อ
ข้อ 6 ตอบ 3. เชื่อมหัวใจไว้ด้วยรัก
ข้อ 7 ตอบ 2. ไปงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้อง และพักที่โอซากา
ข้อ 8 ตอบ 2. ราศีเมษ


โดย: vts IP: 61.19.199.142 วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:9:30:30 น.  

 

สวัสดีวันหยุดค่ะ..วารีมาเยี่ยม....เพื่อนชาว..Blog..วันนี้ไปเที่ยวไหนกัน
อย่าลืมเก็บภาพสวยมาฝากบางนะคะ..ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
วารีเอาภาพมาให้ดูเล่นค่ะ





โดย: สายน้ำริน ... วารี (yoja ) วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:10:10:53 น.  

 
ข้อ 5 ตอบ ข้อ 1 หล่อ
ข้อ 6 ตอบ ข้อ 3 เช่อมหัวใจไว้ด้วยรัก
ข้อ 7 ตอบ ข้อ 2 ไปงานแต่งลูกพี่ลูกน้อง และพักที่โอซากา
ข้อ 8 ตอบ ข้อ 2 ราศีเมษ


โดย: คนผ่านมา IP: 58.11.71.228 วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:13:46:16 น.  

 
สวัสดีค่ะ สบายดีไหมเอ่ย อากาศเปลี่ยนแล้ว รักษาสุขภาพด้วยน๊า ขอบคุณมากน่ะคะ ที่เข้าไปทักทาย เยี่ยมเยือนเจนนี่ในบล็อคที่แล้ว วันนี้ว่างนิดหน่อยคะ เลยเข้ามาอัพบล็อค อัพเดทรูปใหม่ๆ สดๆร้อนๆให้ชมกัน ว่างๆอย่าลืมเข้าไปชมน่ะคะ

ป.ล.หากเพื่อนๆคนไหนที่ไม่ชอบเสื้อแดงก็อย่าได้ถือโทษโกรธเจนนี่น่ะคะ ความคิดแตกต่างกัน แต่มิตรภาพผ่านตัวหนังสือของเรา ยังคงมั่นเหมือนเดิมน่ะคะ ขอบคุณค่ะ


โดย: สาวอิตาลี วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:16:57:12 น.  

 
ข้อ 5 ตอบ ข้อ 4 เอาใจเก่ง
ข้อ 6 ตอบ ข้อ 3 เช่อมหัวใจไว้ด้วยรัก
ข้อ 7 ตอบ ข้อ 2 ไปงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้อง และพักที่โอซากา
ข้อ 8 ตอบ ข้อ 2 ราศีเมษ


โดย: pumpam IP: 58.8.243.251 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:16:00:14 น.  

 


โดย: yoja วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:0:03:36 น.  

 

บ้านเชื่อมรัก...หวานเย็น ขอปิดคำทายของสัปดาห์ที่ 2 ณ ตรงนี้นะคะ

ขอบคุณทุกคนที่แวะมาเล่นเกมและส่งคอมเมนต์ ^^ แล้วช่วงเย็นๆ ค่ำๆ พบกันกับตอนที่ 3 ค่ะ



โดย: บทเพลงแห่งความฝัน วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:1:04:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บทเพลงแห่งความฝัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ผู้หญิงทำงานโลภมากที่อยากสวย เก่ง ประสบความสำเร็จ มีความสามารถรอบด้าน และมีความสุขมากที่สุดในโลก (ไม่ว่าจะโสดหรือไม่ก็ตาม อิอิ) ^^









Friends' blogs
[Add บทเพลงแห่งความฝัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.