,./*v*,.. Happy Chinese New Year 2009 ..,*v*.,/
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
'เรื่องนี้มีรัก' โปรเจคพิเศษของขวัญปีใหม่ : เชื่อมรัก...หวานเย็น (..1..)

สวัสดีวันพ่อค่ะทุกคน ^^


เป็นยังไงกันบ้างคะ เชื่อว่าหลายคนคงจะแฮปปี้เหมือนกันแน่ๆ เลยเพราะวันนี้เป็นวันหยุด (ฮา... ปีทั้งปีดีใจก็ตอนได้หยุดนี่แหละน้า) แถมยังเป็นช่วงวันหยุดยาวซะด้วย ตอนนี้หลายๆ คนก็อาจจะกำลังท่องเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ไปไหน (เหมือนโน้ต) ก็อ่านนิยายรับเทศกาลอยู่บ้านด้วยกันก็แล้วกันนะคะ ^^

ถ้าพร้อมแล้ว เชิญพบกับ เชื่อมรัก...หวานเย็น ได้เลยค่ะ



########################






เช้านี้…ถือเป็นเช้าวันใหม่ที่เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้งสำหรับนีราภา

นอกจากนั้น ยังเป็นวันที่หญิงสาวจำใจต้องตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูกอีกด้วย จะว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของกาแฟที่ปกติแทบไม่ค่อยแตะนอกจากเช้าวันที่ง่วงจริงๆ ก็ไม่น่าจะใช่เพราะเพิ่งดื่มเข้าไปเมื่อกี้นี่เอง…แต่ถ้าอย่างนั้นเธอก็หาสาเหตุไม่พบว่าทำไมวันนี้ถึงตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยอาการหัวใจเต้นแรง…แรงมากๆ จนทนข่มตานอนต่อไปไม่ไหว ต้องจำใจสลัดผ้าห่มนุ่มๆ ลุกขึ้นแม้จะยังใช้เวลาบนที่นอนเพียงไม่ถึงสี่ชั่วโมงเต็มก็ตาม

หลายคนเคยทักว่านีราภามีซิกส์เซนส์ ลางสังหรณ์แม่น...ก็น่าจะจริง เพราะทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาพร้อมอาการแปลกๆ แบบนี้ มักจะเป็นนิมิตหมายว่าเธอจะได้พบเหตุการณ์บางอย่างหรือใครบางคนที่พิเศษต่อชีวิต ซึ่งถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเธอเองก็มักจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวแทน หากหญิงสาวพยายามไม่คิดอะไรมาก แม้จิตใต้สำนึกจะร้องเตือนอยู่ตลอดเวลาว่าวันนี้ชีวิตเธอน่าจะได้เจออะไรบางอย่างที่มัน...แปลกๆ

โอย นี่มันอะไรกันนักกันหนานะ เมื่อคืนก็เจอตะเกียบขาเกทำนายทายทักแบบไม่ตั้งใจไปทีหนึ่งแล้ว เช้านี้ร่างกายยังออกอาการประหลาดอีกหรือนี่…

เอ หรือว่าอาหารที่กินเข้าไปเมื่อคืนนี้จะเป็นพิษ เออ…ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะกินเข้าไปเยอะจัดจนตัวเองยังจำไม่ได้เลยว่าแต่ละอย่างที่คีบเข้าปากไปมีอะไรบ้าง

ตีสี่ห้านาที…

หญิงสาวพยายามดับเครื่องยนต์ให้เงียบที่สุดเพราะบริเวณรอบข้างยังคงมืดสนิท มือเรียวบางยกขึ้นป้องริมฝีปากที่เปิดกว้างจากอาการหาวอย่างเต็มที่
…ง่วงใจจะขาด ตาก็แทบจะลืมไม่ขึ้น ขับรถมาถึงได้อย่างปลอดภัยก็เป็นบุญนักหนาแล้ว

เฮ้อ... รู้อย่างนี้เมื่อคืนไม่น่าตามใจตัวเองเล้ยยยยยยย จริงๆ นะ

หลังแยกจากอีกสามสาวที่ร้านอาหารเพราะจิรชยาต้องรีบตรงไปแอร์พอร์ตเพื่อขึ้นเครื่องบินไปญี่ปุ่นให้ทัน แทนที่กลับไปถึงคอนโดแล้วจะรีบแช่น้ำอุ่นผสมสมุนไพรกลิ่นลาเวนเดอร์และเข้านอนให้สมกับที่ต้องตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น เธอกลับเผลอตัวเปิดดีวีดีเรื่อง Love Actually ที่เพิ่งได้คืนจากจิรชยาดูเสียนี่…แล้วพอเปิดหนังมันก็ต้องดูให้จบใช่ไหมล่ะไม่อย่างนั้นอารมณ์ก็ขาดช่วงขาดตอนพานนอนไม่หลับกันพอดี ซึ่งผลของมันก็ทำให้เธอเข้านอนแบบไม่มีอะไรติดค้างอยู่ในใจ แต่มีเวลานอนน้อยมากกกก จนง่วงเหงาหาวนอนอยู่อย่างนี้ไง

แต่จะว่าไป ถึงจะไม่นอนดึกการตื่นเช้าก็ไม่เคยใช่นิสัยของนกฮูกสาวอย่างนีราภาอยู่แล้วแม้จะค่อนข้างชินแล้วก็ตาม เพราะเป็นเรื่องปกติที่อาชีพเมคอัพอาร์ติสอย่างเธอจะต้องลงมือเนรมิตความงามให้กับผู้คนก่อนที่วันดีๆ ของคนคนนั้นจะเริ่มต้นขึ้น ไม่จะเป็นวันรับปริญญา วันแต่งงาน หรือว่าวันหมั้นหมาย

…อย่างเช่นวันนี้

เมคอัพอาร์ติสสาวจิบกาแฟร้อนที่แวะซื้อมาจากร้านสะดวกซื้ออึกสุดท้ายก่อนจะเปิดหลังรถเพื่อขนสารพัดเครื่องประทินโฉมจำนวนหลายกระเป๋าออกมาใส่รถเข็นคันเล็กที่มีติดรถเอาไว้เสมอ จากการคุยโทรศัพท์ตอนที่ขับรถมาใกล้จะถึงหน้าบ้านทำให้เธอรู้ว่าดาวิษาหรือน้องดรีม ดารานางแบบสาวสวยที่เธอจะมาแต่งหน้าให้วันนี้เพิ่งทำผมเสร็จพอดี

ยังไม่ทันที่นีราภาจะจูงขุมสมบัติความงามไปถึง ประตูบ้านหลังงามก็เปิดออกกว้างพร้อมๆ กับที่แฮร์ สไตลิสท์ชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทยกำลังจะเดินสวนกลับออกไป

“อ้าว หนูน้ำหมึก” ช่างผมมืออาชีพทักทายเนื่องจากพบกันที่งานแฟชั่นโชว์และกองถ่ายละครบ่อยๆ จนสนิทกัน “โทษทีนะหนู วันนี้พี่ต้องมาเร็วไปเร็วหน่อยเลยไม่มีเวลาอยู่เม้าท์กันเลย พอดีพี่รับอีกงานไว้ตอนตีสี่ครึ่งน่ะ ไปก่อนนะ”

ยังไม่ทันที่นีราภาจะไหว้หรือพูดอะไร เจ๊นกน้อยก็รีบผลุนผลันขึ้นรถของตัวเองขับออกไป ทิ้งให้เมคอัพอาร์ติสสาวมองตามอย่างงงๆ กับอาการมาเร็วไปเร็วปานลมพัดของช่างผมรุ่นพี่ ก่อนจะก้าวตามหลังเด็กรับใช้ที่ดาวิษาส่งมาพาเธอไปที่ห้องส่วนตัว

“สวัสดีค่ะ พี่น้ำหมึก เข้ามาได้เลยค่ะ”

เจ้าของห้องเชื้อเชิญเสียงใสเมื่อได้ยินเสียงนีราภาจูงรถเข็นมาถึงหน้าประตูห้องนอนที่เปิดแง้มอยู่ ดาวิษาที่ยังสวมเสื้อคลุมกันเปื้อนสีขาวลายตารางวาฟเฟิลลุกขึ้นมาช่วยเปิดประตูให้อย่างไม่ถือตัว เมื่อเข้ามาถึงในห้อง เมคอัพอาร์ติสสาวถึงได้รู้ว่าดาวิษามิได้อยู่คนเดียว

“สวัสดีค่ะ คุณน้า” นีราภายกมือไหว้เนื่องจากรู้จักมารดาของดาวิษาดีอยู่แล้ว ซึ่งอีกฝ่ายก็รีบรับไหว้อย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเรียกเธอไปนั่งข้างๆ

“ไหว้พระเถอะ หนูน้ำหมึก…มานี่มา มานั่งกับน้าก่อน เพิ่งมาถึงเหนื่อยๆ กินอะไรมาหรือยังล่ะ ต๊าย…ดูซิ ข้าวของมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมไม่มีใครไปช่วยถือ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ น้ำหมึกบอกเองค่ะว่าจะจัดการไหว…แค่นี้สบายมากค่ะ”

นีราภาออกตัวเพราะไม่อยากเห็นใครต้องถูกดุเพราะเธอเป็นต้นเหตุ เพราะเป็นอันรู้กันว่าถึงแม้ว่าดาวิษาจะเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน น่ารักน่าทะนุถนอม แต่มารดาของเธอนั้นตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง…ซึ่งก็แน่ล่ะ หากไม่เป็นผู้หญิงที่เข้มงวด เข้มแข็งและแข็งแกร่งพอก็คงจะดูแลกิจการของครอบครัวที่จัดเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของเมืองไทยมาจนถึงทุกวันนี้ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้หรอก โชคดีที่เธอค่อนข้างจะชอบและเอ็นดูเมคอัพอาร์ติสสาวหน้าคมผิวเข้มคนนี้มากพอสมควรจึงไม่โต้แย้งอะไรเมื่อดาวิษาบอกว่าช่างแต่งหน้าที่จะมาแต่งให้ในวันหมั้นคือนีราภา

…ลอง ‘เจ้าแม่’ ท่านไม่ชอบหน้าสิ อย่าหวังเลยว่าเมคอัพอาร์ติส ที่ยังไม่โด่งดังระดับแถวหน้าของประเทศจะได้แตะต้องใบหน้าของเธอและลูกสาวคนสวยแม้แต่ปลายเล็บ ให้ตายก็ไม่มีทาง!

“แน่ใจนะหนู...เนี่ย พอรู้ว่าหนูจะมา น้องดรีมเขาก็กลัวหนูจะหิวเลยสั่งให้เตรียมอะไรเอาไว้เยอะแยะ ร็อกเก็ต สลัด ใส่อิตาเลียน เดรสซิ่งนี่อร่อยมากเลยนะ ผลไม้ก็เยอะแยะ เชื่อน้าเถอะ กินอะไรรองท้องสักหน่อย”

นีราภาพนมมือไหว้ก่อนจะยอมหยิบฝรั่งชิ้นหนึ่งเข้าปากด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่แม้จะไม่มีความหิวเลยแม้แต่นิดเดียว ...จริงอยู่ที่ปกติเธอเป็นสาวท้องยุ้งพุงกระสอบจนใครๆ ที่ได้เห็นวีรกรรมการกินต่างพากันอึ้ง ทึ่ง ซึ่งขัดกับรูปร่างที่ผอมบางยิ่งนัก คนที่เห็นเธอรับประทานอาหารเป็นครั้งแรก (โดยเฉพาะผู้ชาย) มักจะอ้าปากค้างทำหน้าเหวอทุกคนเพราะหญิงสาวฟาดเรียบทุกอย่างที่ขวางหน้าจริงๆ ไม่มีเสียล่ะที่จะกินทิ้งกินขว้าง

ก็เขาบอกไม่ใช่หรือว่า ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า...แล้วเธอจะทิ้งของที่มีค่าไปเปล่าๆ ทำไม เสียดายแย่

แต่แม้ว่าจะกินเก่งขนาดเพื่อนๆ แซวว่าชีวิตนี้คงจะแยกแยะสสารต่างๆ ออกเป็นแค่สองประเภท คือ ‘สิ่งที่กินได้’ และ ‘สิ่งที่กินไม่ได้’ แต่เช้าๆ แบบนี้นีราภาถือเป็นข้อยกเว้น...จะว่าเป็นเพราะปกติเวลานี้ยังไม่ใช่เวลาตื่นของเธอ จึงยังไม่ถึงเวลาทำงานของพยาธิในกระเพาะด้วยเช่นกันก็อาจจะเป็นไปได้

หลังจากยอมจิ้มผลไม้ชิ้นมารยาทเข้าปากแล้ว เมคอัพอาร์ติสสาวผู้กระฉับกระเฉงก็ไม่ยอมเสียเวลาทำงาน เธอบรรจงกางเครื่องมือแต่งหน้าออกมาจัดเรียงเป็นหมวดหมู่อย่างเรียบร้อยสวยงาม พร้อมทั้งจัดแจงให้นางแบบสาวมานั่งประจำที่ให้เรียบร้อย

“วันนี้น้องดรีมจะใส่ชุดไหนคะ”

เมคอัพอาร์ติสสาวถามพลางฉีดสเปรย์น้ำแร่ไปทั่วใบหน้าเนียนใสและซับออกด้วยกระดาษทิชชู่อย่างเบามือ ก่อนที่จะค่อยๆ ไล้เมคอัพ เบส สำหรับป้องกันหน้ามันไปตามผิวหน้าบริเวณทีโซน

“ชุดที่แขวนอยู่หน้าตู้เลยค่ะ”

ดวงตาสวยกวาดสายตาไปตามที่บอก และได้เห็นชุดฉลองหมั้นแบบยาวสีครีมอมส้มอ่อนจาง สายคาดไหล่และเข็มขัดที่รัดใต้อกสีครีมถูกปักด้วยลูกปัดเล็กๆ อย่างวิจิตรบรรจง งดงามราวกับนำลูกกวาดสวยๆ มาโรยไว้จนทั่ว ชายกระโปรงประดับด้วยลูกไม้สีส้มสวยแปลกตาภายใต้ถุงคลุมชุดพลาสติกใส

“โอ้โห...สวยมากเลยค่ะน้องดรีม”

หญิงสาวอุทานออกมาหลังจากตะลึงกับความงามของชุด...ลำพังแค่คนใส่ก็สวยจับจิตบาดตาบาดใจคนมองจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งถ้าได้ใส่ชุดสวยขนาดนี้คงงดงามจนไม่ใครก็ใครที่มางานได้เผลอมองจนลืมตัวลืมหายใจกันไปข้างหนึ่ง

“พี่ว่านะ ถ้าคุณธีร์เห็นน้องดรีมใส่ชุดนี้คงเพ้อละเมอไม่เป็นอันทำอะไรไปอีกสามวันแหงๆ”

หากสาวสวยหัวเราะเสียงใส

“ยอกันเกินไปแล้วค่ะ พี่น้ำหมึก เดี๋ยวดรีมก็ตัวลอยกันพอดี...เอ แต่ถ้าดรีมทำได้ขนาดนั้นจริงๆ คงต้องยกความดีให้ฝีมือแต่งหน้าของพี่น้ำหมึกเป็นพิเศษแล้วล่ะค่ะ...เพราะความจริง....ที่ดรีมมีวันนี้ ก็เพราะฝีมือแต่งหน้าของพี่น้ำหมึกในวันนั้น”

‘วันนั้น’ ของดาวิษาทำให้นีราภาอมยิ้ม...เพราะเป็นวันที่เธออยู่ในเหตุการณ์ในฐานะช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายที่มีดาวิษาเป็นนางเอก และมี คุณธีร์ หรือ ธีรุตม์ เป็นพระเอกของเรื่อง ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งสอง ตามที่ทีมงานในกองถ่าย ไม่ว่าจะเป็นเมคอัพ แฮร์ คอสตูม แคสติ้ง ไปจนถึงผู้ช่วยผู้กำกับต่างเม้าท์กันก็คือ

‘โอ๊ย อะไรจะอินกับบทขนาดนั้นก็ไม่รู้ ทั้งคู่เลย ในละครเขม่นหน้ากันยังกับอะไร เรื่องจริงก็เป็นอย่างนั้นไม่มีผิด เฮ้อ ชั้นล่ะเหนื่อยจริงๆ แทน แขวะกันด้วยสายตาอยู่ได้ อึดอัดเป็นบ้า’

‘อ้าว แล้วไม่ดีหรือไงคะ’ นีราภาจำได้ว่าตัวเองเคยแย้งผู้ช่วยผู้กำกับไปอย่างนั้น ‘ข่าวเลยออกตู้มว่าพระเอกนางเอกเรื่องนี้เกาเหลากันทั้งในจอและนอกจอ...เอ เขาเขียนว่าอะไรอีกนะ...มาลุ้นกันตอนปิดกล้องซิว่าบทละครจะทำให้ทั้งสองอินจนกันมารักกันเหมือนตอนจบหรือเปล่า’

‘โอ๊ยยยย ยัยน้ำหมึก เสียแรงนะยะที่อยู่ในวงการนี้มานาน ข่าวบันเทิงยังไงมันก็เป็นข่าวบันเทิงวันยันค่ำนั่นแหละย่ะ ตีไข่ใส่สีคาดเดาสนุกๆ ไว้ก่อนก็ขายได้แล้ว แต่เรื่องจริงน่ะมันไม่ใช่ละครนะยะ คนมันไม่ถูกกันมันก็เกลียดขี้หน้ากันอยู่วันยันค่ำ จะให้ปุบปับมาชอบกันน่ะ ยากส์’


แต่ดาวิษาและธีรุตม์ก็หักปากกาเหล่าเซียนเขียนบทละครนอกจอจนหน้าแตกยับไปตามๆ กัน เมื่อทั้งสองเปิดเผยความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต่อหน้าทีมงานละครในวันปิดกล้องแบบหวานหยดไม่เกรงใจใครชนิดที่สามารถสร้างเป็นละครอีกเรื่องหนึ่งได้เลย แต่ทั้งสองก็ขอร้องให้ทีมงานปิดบังเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับเพราะไม่อยากเป็นข่าวและคอยระวังตัวอยู่เสมอไม่ให้ใครจับได้ คนที่รู้เรื่องนี้จึงมีอยู่จำนวนหนึ่ง (ซึ่งความจริงก็ไม่น้อยหรอก เพราะธรรมชาติของคน เรื่องแบบนี้มีหรือจะไม่เม้าท์ต่อ) แต่ก็ไม่มากพอที่สื่อบันเทิงเล่มไหนจะเอาไปเขียนถึงอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

และ...แน่นอน งานหมั้นวันนี้ก็จัดขึ้นอย่างเป็นการภายใน ปิดเป็นความลับสุดยอด ซึ่งนีราภาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าดาวิษาระมัดระวังกับเรื่องนี้มาก แม้จะอยากรู้อยากเห็นตามวิสัยของปุถุชนหากนีราภาก็ไม่กล้าถามตรงๆ เพราะถ้าความลับนี้แพร่กระจายออกไป เธอเองก็ไม่แคล้วจะต้องตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ซึ่งบอกตรงๆ ว่าเธอไม่อยากลำบากใจและเสียความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันจึงไม่เคยคิดจะถามดาวิษาถึงเหตุผลส่วนตัวในเรื่องนี้เลย

เธอไม่คาดคิดสักนิดว่าคำตอบของสิ่งที่สงสัยจะเดินเข้ามาหาในเช้าวันนี้เอง...

ประตูห้องนอนของดาวิษาถูกเหวี่ยงออกอย่างแรงในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ซึ่งทำให้เจ้าของห้องที่กำลังหลับตาพริ้มให้แรเงาเปลือกตาคู่สวยอยู่ลืมตาขึ้นโดยเร็วแล้วเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด

“พี่ดามพ์!! ทำไมพี่ดามพ์มาอยู่ที่นี่!!”

“ดามพ์ มาได้ยังไง!!”

มารดาของดาวิษาอุทานออกมาแทบจะพร้อมกัน ทำให้สาวผิวเข้มที่ยังถือพู่กันและตลับอายแชโดว์ค้างเอาไว้ในมือต้องหันขวับไปมองในทิศทางเดียวกับทุกคน...

แค่แวบแรกที่ได้เห็น ‘พี่ดามพ์’ ของดาวิษา นีราภาก็แทบจะปล่อยทุกสิ่งที่ถืออยู่ในมือพลัดหล่นลงพื้น โชคดีเหลือเกินที่สายตาของคนในห้องมองไปยังคนมาใหม่เป็นจุดเดียวจึงไม่มีใครสังเกตว่าดวงตาที่ใครๆ ก็ชมว่างดงามเลื่อมระยับเหมือนท้องทะเลในยามค่ำคืนของเมคอัพอาร์ติสสาวสะท้อนวูบไหวเหมือนมีเกลียวคลื่นซัดสาดอยู่ในนั้น หญิงสาวรู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองมีชีวิตและกระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริงอยู่ในอก ร่างทั้งร่างกระตุกวูบแล้วชาราวกับถูกไฟช็อต

แวบหนึ่ง…เธอรู้สึกเหมือนเห็นเงาบางอย่างที่คุ้นเคยซ้อนเข้ามาในหัว แต่แล้วภาพมายานั้นก็จางหายไป ทิ้งไว้แต่ความรู้สึกปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อนับล้านตัวบินไปทั่วร่างกาย

..อาการที่เคยคิดว่ามีแค่ในหนังสือ แต่บัดนี้มันเกิดขึ้นจริง!

นี่เอง…สิ่งที่ลางสังหรณ์พยายามร้องเตือนมาตั้งแต่เมื่อคืน…

นับเป็นโชคดีที่ไม่มีใครสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงนี้แม้แต่คนเดียว เพราะดวงตาคมกริบของบุคคลที่มาใหม่เล็งไปยังดารานางแบบสาวที่นั่งหน้าซีดเผือดอยู่บนสตูลเพียงคนเดียว

“ดรีม ทำไมถึงทำกับพี่แบบนี้!!”

ริมฝีปากบางหยักลึกของชายหนุ่มเพียงคนเดียวในที่นี้ขยับเพียงนิดเดียว แต่น้ำเสียงที่ออกมากลับห้าวกังวานทรงพลัง ซึ่งสามารถสลายความรู้สึกแปลกๆ ของนีราภาได้ราวกับเวทมนตร์คลายคำสาป และแค่ขยับเพียงสองสามก้าว ขายาวๆ ก็พาเขามาถึงตัวดาวิษา

ส่วนนีราภานั้นหรือ ถอยหลบไปแทบไม่ทันตั้งแต่เขาตั้งท่าจะเดินเข้ามาทางนี้แล้ว

“เอ่อ...พี่ดามพ์คะ คือ ดรีม...ดรีม...” ดารานางแบบสาวปากคอสั่น ดวงตาสวยเริ่มมีสีแดงเจือปน แต่นั่นก็ไม่ทำให้อีกฝ่ายลดดีกรีความแรงลงเลยแม้แต่นิดเดียว

“ไม่นึกเลยนะว่าดรีมจะกล้าทำอะไรลับหลังพี่แบบนี้...นี่ถ้าพี่ไม่รู้เองก็คงจะกลายเป็นคนโง่แล้วสิ หรือเดี๋ยวนี้ดรีมเห็นพี่เป็นคนนอกไปแล้ว”

“ดามพ์! ถ้าไม่ได้กลับมาเพื่อที่จะอวยพรน้องก็อย่าทำแบบนี้ นี่มันวันสำคัญของน้อง แม้แต่ดามพ์ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำลายนะ”

มารดาของดาวิษาร้องเสียงเฉียบขาดขณะเข้าคั่นกลางระหว่างทั้งคู่ ทั่วทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบ และแน่นอนว่าคนที่อึดอัดที่สุดคงจะหนีไม่พ้นคนนอกอย่างเมคอัพอาร์ติสสาวผิวเข้มที่อยากจะใช้วิชานินจาหายตัวหนีไปให้พ้นใจจะขาด เสียแต่ว่าเธอไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขานี่สิ

…โอ๊ย นี่ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนนอกอยู่คนเดียวก็จะดีหรอก ถ้าเจ๊นกน้อยอยู่ด้วยป่านนี้คงปรึกษากันหาทางหนีทีไล่ไปได้แล้ว และเธอก็จะไม่ต้องมายืนตัวแข็งทื่อเป็นน้ำหมึกสตั๊ฟฟ์แบบนี้!

“หึ คุณแม่ก็เอาแต่เข้าข้างดรีม ทั้งๆ ที่คุณแม่ก็รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร” ผู้มาใหม่ขยับริมฝีปากหยักลึกเอ่ยหยันๆ “และอีกอย่าง...ดรีมไม่มีทางกล้าทำอะไรแบบนี้หรอก ถ้าคุณแม่ไม่คอยให้ท้ายสนับสนุน”

“จะมากไปแล้วนะดามพ์”

“ไม่มากไปหรอกครับ สำหรับคนที่ถูกทุกคนรวมหัวกันปิดบังแบบผม”

ชายหนุ่มจบประโยคด้วยการกวาดดวงตาคมกริบไปรอบๆ ห้อง และตอนนี้เองที่เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่านอกจากดารานางแบบสาวสวยและมารดาแล้ว ยังมีหญิงสาวผิวเข้มรูปร่างแบบบางที่ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ด้วยอีกคน

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท่าทางสำหรับทักทายคนที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรกของผู้ชายหน้าดุคนนี้คือการกระตุกหางคิ้วเข้มขึ้นเพียงเล็กน้อย ดวงตาคมกล้าของเขาจ้องมองหญิงสาวแปลกหน้าเขม็ง ทำให้ผีเสื้อที่เกือบจะหลับใหลไปแล้วกระพือปีกในร่างกายของผู้ตกเป็นเป้าสายตาอีกครั้ง

ตายแล้ว เธอจะยืนนิ่งตะลึงงันเหมือนถูกสาปแบบนี้ไม่ได้นะ น้ำหมึก นีราภาร้องบอกตัวเอง พูดอะไรสักอย่างสิ ทำอะไรสักอย่าง…

“เอ้อ...คุณ…คะ” นีราภาหลุดคำพูดออกมาจากปากจนได้ น้ำเสียงของเธอนิ่งและนุ่มนวลจนตัวเองยังประหลาดใจไม่น้อย เพราะความรู้สึกภายในร่างกายนั้นสั่นไหวยิ่งนัก “ขอโทษนะคะ…หวังว่าคุณคงจะไม่โกรธที่ฉันพูดแบบนี้…”

เมคอัพอาร์ติสสาวลอบหายใจเข้าลึกๆ คลี่ยิ้มน้อยๆ หากหวานนุ่มละมุนก่อนจะเอ่ยต่อ...ด้วยคำพูดที่แม้แต่ตัวเธอก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองเอ่ยมันออกไป “คือ…ฉันอยากจะขอให้คุณช่วยออกไปจากห้องนี้ก่อน…ได้ไหมคะ…”

ไม่ต้องคาดเดาเลยว่าคนที่ถูก ‘ไล่’ แบบนิ่มๆ จะรู้สึกอย่างไร เขาคงจะยิ้มแย้มหน้าชื่นตาบานหรอกนะ แน่นอนว่าเป็นใครก็ต้องโกรธ นี่กริ้วเป็นไฟอยู่แล้วคงยิ่งกว่าสาดน้ำมันเข้าไปในกองเพลิงให้ลุกกระพือโหมกระหน่ำไปกันใหญ่

เฮ้อ…ถึงแม้จะรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนนอกและไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย แต่ถ้าปล่อยให้ดาวิษาถูกข่มขู่ คุณน้าถูกก้าวร้าวโดยที่ตัวเองยืนมองอยู่เฉยๆ ได้ก็ไม่ใช่นีราภาแล้ว

แม้จะคิดอย่างนั้น หากเมคอัพอาร์ติสสาว (ที่ทำเป็น) ใจกล้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นๆ จนต้องแอบกลืนน้ำลายฝืดเหนียวลงคออย่างช้าๆ ระหว่างนั้นก็ส่งยิ้มละมุนให้เขาไปพลางๆ ด้วยความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ถูกจับบีบคอ ยิ่งชายหนุ่มหน้าเข้มผู้มีดวงตาคมกล้าจ้องมองเข้ามาในดวงตาของหญิงสาวที่กล้าบ้าบิ่นพอจะไล่เขาด้วยแววตาโกรธจัด นีราภาก็ยิ่งหลบตาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นที่ทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่า แต่ยิ่งมองให้ลึกลงไป หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง

…ผู้ชายคนนี้เหมือนเปลวไฟที่คุโชน...ยิ่งยามโกรธไฟก็ยิ่งกระพือโหมพร้อมที่จะเผาไหม้สรรพสิ่งให้วอดวาย คนอย่างเขาคงไม่เกรงกลัวแม้แต่นิดเดียวที่จะมีเรื่องขัดแย้งกับใคร ผิดกับเธอที่มักจะหาทางประนีประนอมรอมชอมเรื่อยไป

แต่ถ้าเขาเป็นไฟจริงๆ ก็ดีน่ะสิ อย่างน้อยน้ำหมึกกระจ้อยร่อยอย่างเธอจะได้ระเหยหายไปในอากาศ ไม่ต้องมายืนประจันหน้ากับเขาแบบนี้…

อาจเป็นลูกบ้าส่วนตัวหรือสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด นีราภาไม่รู้ตัวเลยว่าตลอดเวลาที่เธอประสานสายตากับเขา เธอไม่ได้ท้าทายเขาหรือวิงวอนขอความเห็นอกเห็นใจ หากแต่ส่งกระแสของความสงบนิ่งไปทั่วใบหน้า ริมฝีปาก และนัยน์ตาสีดำโดยที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจ รู้แต่ว่าอยากทำให้สถานการณ์คลี่คลาย อยากทำให้ความโกรธสลายไปจากดวงตาคมกล้าที่อยู่ตรงหน้า…

ไม่รู้ว่าเพราะความเงียบที่เกิดขึ้นและเวลาที่ผ่านไป หรือเป็นเพราะความสงบเยือกเย็นราวกับลำน้ำยามค่ำคืนที่เลื่อมพรายใต้แสงจันทร์ในดวงตาคมสวยที่เผลอจ้องมองนิ่งนานกันแน่ที่ทำให้กระแสความร้อนรุ่มของชายหนุ่มอ่อนกำลังลง ระลอกน้ำที่เย็นฉ่ำตรงหน้าเหมือนค่อยๆ เป่าไฟในใจเขาจนมอดดับไป และนั่นทำให้เดชพนต์ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยอมหมุนกายออกไปจากห้องแต่โดยดี

ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิทโดยไม่มีอาการกระแทกหรือกระชากอย่างรุนแรง เจ้าของห้องก็อดไม่ได้ที่จะกระพริบดวงตาที่ยังแดงก่ำปริบๆ ด้วยความงุนงง

“แปลกจัง…ทำไมวันนี้พี่ดามพ์ยอมถอยทัพง่ายๆ แบบนี้”

“นั่นน่ะสิ” ผู้เป็นมารดาเปรยบ้าง ก่อนจะหันมามองเมคอัพอาร์ติสสาวด้วยแววครุ่นคิด หากไม่ได้ให้ความเห็นอะไรมากไปกว่านั้น เพียงแต่ก้มลงบอกกับบุตรสาวเบาๆ ว่า

“แต่ยังไง วันนี้ก็เป็นวันดีของน้องดรีมนะ แม่ไม่อยากให้เราต้องเสียน้ำตาตั้งแต่เช้า อยู่ในห้องนี้กับพี่น้ำหมึกเขาก่อนแล้วกัน เดี๋ยวแม่จะออกไปดูตาดามพ์เอง” หญิงสูงวัยพูดพลางบีบมือบางของนีราภา “น้ำหมึก น้าฝากดูแลน้องสักพักนะ เดี๋ยวน้าจะออกไปดูพ่อคนนั้นก่อน เกิดเคราะห์ดีเคราะห์ร้ายเดินออกไปเจอพ่อธีร์เข้า ทีนี้ล่ะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่”

ถูกฝากฝังอย่างนี้ นีราภาจะทำอะไรได้นอกจากรับคำแม้ว่าตัวเองจะยังงงๆ อยู่เหมือนกันที่อยู่ดีๆ ‘ชายหนุ่มพายุไฟ’ ยอมหันหลังกลับไปง่ายๆ อย่างไม่น่าเชื่อ…หากก็เป็นการจากไปแต่ตัว เพราะพิษของการประสานสายตามาราธอนเมื่อครู่ยังตกค้างอยู่ ทำให้หัวใจของเธอสั่นหวิวๆ ไม่ยอมหยุดเสียที

เมคอัพอาร์ติสสาวเดินไปรินน้ำเย็นจากเหยือกจนเต็มแก้วแล้วดื่มรวดเดียวด้วยหวังว่าความเย็นของน้ำผสมน้ำแข็งลอยฟ่องจะช่วยบรรเทาอาการ ‘ถูกพิษ’ ซึ่งก็ได้ผลพอสมควร ทันทีที่รู้สึกถึงความเย็นของสายน้ำที่ไหลผ่านลำคอ นีราภาก็กลับมาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เธอจึงรินน้ำเย็นอีกแก้วแล้วยื่นให้ดาวิษาที่ยังนั่งหน้าเสียอยู่

“ดื่มน้ำเย็นจะได้ใจเย็นๆ นะคะน้องดรีม นั่งพักให้สบายแล้วเดี๋ยวเราค่อยมาทำหน้าสวยปิ๊งกันต่อ” เธอพูดพลางกอดบ่าบอบบางแล้วลูบแขนเบาๆ อย่างปลอบใจ “หรือถ้าน้องดรีมอยากจะอยู่คนเดียวเดี๋ยวพี่น้ำหมึกแวบออกไปก่อนก็ได้ ยังพอมีเวลา เดี๋ยวเราค่อยลงมือแต่งหน้ากันต่อตอนที่น้องดรีมพร้อมก็ได้ค่ะ”

หากคนถูกปลอบกลับยึดมือเรียวบางเอาไว้แน่น “ดรีมอยากให้พี่น้ำหมึกอยู่กับดรีมค่ะ…”

นีราภาฟังคำขอนั้นอย่างไม่แน่ใจเท่าไร เธอไม่เคยอยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องภายในครอบครัวของใคร (ซึ่งผิดวิสัยเมคอัพอาร์ติสทั่วไปเอามากๆ)

“จะดีหรือคะ”

เมคอัพอาร์ติสสาวถาม…ถามจริงๆ ถามแบบเกรงใจ ไม่ใช่ปากเกรงใจแต่ในใจระริกระรี้อยากรู้อยากเห็นเต็มที่ แม้จะสะดุดใจไม่น้อยว่า ’พี่ดามพ์’ ของดาวิษาเป็นใครกันแน่

จากรูปการณ์…ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็นคนเดียวกับในข่าวที่นิตยสารบันเทิงเล่มหนึ่งเคยเขียนแซวเมื่อนานมาแล้ว แล้วทำนองว่าเป็นหนุ่มนอกวงการหน้าตาดีที่มาคอยตามรับส่งดาวิษา เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่นีราภาจะรู้จักกับดาวิษาเสียด้วยซ้ำ จำได้ว่าดาวิษาที่ตอนนั้นยังเป็นนางแบบหน้าใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มมีชื่อเสียงและยังไม่ก้าวเข้าสู่วงการจอแก้วปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องนี้หรือให้ความกระจ่างใดๆ จนในที่สุดข่าวที่ไม่มีมูลและไม่มีหลักฐานชิ้นนี้ก็เงียบหายไปเอง

…ถ้าจำไม่ผิด หนุ่มนอกวงการคนนั้นมีอักษรย่อว่า ด.

“ดีสิคะ ดรีมเองก็อยากเล่าเรื่องนี้ให้ใครสักคนฟังเหมือนกัน และถ้าดรีมจะบอกใครสักคน คนคนนั้นก็คงจะเป็นพี่น้ำหมึก พี่สาวที่ดรีมไว้ใจมากที่สุด แถม…”

“แถมอะไรคะ”

นีราภาถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหยุดประโยคลงกลางคันเสียดื้อๆ แต่ฝ่ายนั้นกลับสั่นหน้า

“ไม่มีอะไรค่ะ”

เมื่อดาวิษาไม่อยากบอก นีราภาก็ไม่คิดจะเซ้าซี้ถามอีก เมคอัพอาร์ติสสาวเก็บพู่กันทาอายแชโดว์ที่ใช้แต่งดาวิษาค้างเอาไว้เข้ากระเป๋าแล้วหยิบจานผลไม้มาตั้งไว้ตรงหน้าแทน

“งั้นโอเคค่ะ น้องดรีม พี่พร้อมแล้ว”

พูดจบนีราภาก็แสดงอาการ ‘พร้อม’ ด้วยการหยิบแอปเปิ้ลเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ขณะรอฟัง ซึ่งทำให้คนที่เตรียมจะเล่าถึงกับทึ่ง

…คนปกติถ้าเพิ่งมีเรื่องต่อกรกับ’พี่ดามพ์’ ของเธอถึงขนาดยืนคุมเชิงประสานสายตากันเปรี๊ยะๆๆๆ แบบนี้ แค่กลืนน้ำลายยังแทบไม่ลงเลย นี่ยังมานั่งกินผลไม้อย่างสบายใจเฉิบได้อีก

แต่นี่แหละ…เพราะพี่น้ำหมึกเป็นอย่างนี้ เธอถึงได้รู้สึกสนิทใจที่จะคบหาด้วย จะว่าไปครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นีราภาสร้างความประหลาดใจให้กับเธอ หลายครั้งแล้วที่เมคอัพอาร์ติสสาวรุ่นพี่แสดงออกให้เห็นถึงความสามารถในการรับมือกับปัญญาเฉพาะหน้าด้วยการนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว

แต่นั่นล่ะ ใครจะนึกว่าน้ำใสไหลเย็นอย่างพี่น้ำหมึกจะมีอานุภาพรุนแรงถึงขนาดทำให้เปลวไฟที่ร้อนแรงอย่างพี่ดามพ์ยอมรามือไปได้ พี่ดามพ์เองก็เป็นเปลวไฟกองย่อมๆ เสียเมื่อไร ที่เขาว่ากันว่า ‘น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ’ เห็นจะไม่จริงเสียแล้วล่ะมั้ง




“เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นขึ้นมานานมากกกกก แล้วค่ะพี่น้ำหมึก”
ดาวิษาเริ่มต้นเล่าหลังจากจิบน้ำเย็นไปหลายอึก ซึ่งนีราภาก็พยักหน้าตั้งใจฟังเป็นอย่างยิ่งแม้ว่าริมฝีปากของเธอจะไม่ว่างเว้นจากผลไม้นานาชนิดในจานเลย (ทั้งๆ ที่ก็ยังไม่ถึงเวลาตื่นตามปกตินั่นแหละ แต่สงสัยเมื่อกี้จิตใจสั่นไหว ผีเสื้อบินพั่บๆ ไปทั่วร่างกายหลายรอบ พยาธิเลยถูกปลุกให้ตื่นตามไปด้วย)

“ค่ะ”

“มันเริ่มต้นตั้งแต่สมัยที่พี่ดามพ์กับพี่ธีร์ยังอยู่ม. ปลายน่ะค่ะ สองคนนี้เขาเป็นคู่แข่งกันมาตั้งแต่ตอนนั้น…พี่ดามพ์เป็นประธานฝ่ายกิจกรรมที่ใครๆ เกือบทั้งโรงเรียนก็โหวตให้เพราะไม่มีใครเหมาะกับตำแหน่งนี้เท่าพี่ดามพ์อีกแล้ว…ดรีมไม่แน่ใจว่าพี่น้ำหมึกจะพอดูออกหรือเปล่าว่าพี่ดามพ์เป็นคนที่มีคาริสมา มีพลังความเป็นผู้นำในตัวสูงมาก ออกแนวเหมือนเจ้าพ่อในโรงเรียนน่ะค่ะ ใครมีปัญหาบอกพี่ดามพ์ได้เลย พี่ดามพ์ยินดีช่วยทุกอย่าง ส่วนพี่ธีร์ก็เป็นประธานฝ่ายวิชาการ มาคนละแบบกับพี่ดามพ์เลยค่ะ จะเป็นแนวสุขุมเยือกเย็น มีเหตุมีผล จะพูดอะไรทีก็ต้องมีมาดมีหลักการ ดูฉลาดหลักแหลม ซึ่งนโยบายของพี่ธีร์ในการเป็นประธานนักเรียนคือการทำให้โรงเรียนเน้นความสำคัญของการเรียนมากกว่ากิจกรรม…คือพี่ธีร์มักจะคิดน่ะค่ะว่าพี่ดามพ์ชอบหาเรื่องชวนเพื่อนๆ โดดเรียนโดยอ้างว่าทำกิจกรรมโน้นกิจกรรมนี้ของโรงเรียน ชอบปกป้องนักเรียนที่ทำตัวมีปัญหา ก็เลยมีเรื่องเขม่นกันอยู่บ่อยๆ”

“ค่ะ” นีราภารับคำอีกครั้งให้รู้ว่ายังฟังอยู่

“จริงๆ แล้วมันก็ไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงนักหนาหรอกค่ะ ถ้าไม่บังเอิญว่ามีอยู่วันนึง…เอ เรื่องมันเป็นยังไงน้า ดรีมก็จำไม่ค่อยได้เพราะมันนานมากแล้ว จำได้คร่าวๆ ประมาณว่ามีรุ่นน้องคนนึงเป็นเด็กเรียนดี กีฬาเด่นที่ต้องไปเข้าแข่งขันเคมีรอบชิงชนะเลิศแต่ปรากฏว่ารุ่นน้องคนนั้นกลับขอถอนตัวซะดื้อๆ ก่อนถึงวันแข่งไม่กี่วันโดยอ้างว่าต้องไปแข่งบาสฯ ให้พี่ดามพ์ในวันเดียวกันค่ะ พี่ธีร์เลยโกรธมากๆ หาว่าพี่ดามพ์ไม่ยอมร่วมมือกับกิจกรรมวิชาการของโรงเรียน ซึ่งพี่ดามพ์ไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียวก็เลยปฏิเสธไป แต่ปรากฏว่าพอถึงวันแข่งขันนักเรียนคนนั้นกลับเข้ามาลงแข่งบาสฯ ในฐานะนักกีฬาตัวจริงเสียด้วย แถมยังเป็นตัวทำคะแนนให้ทีมชนะโรงเรียนคู่แข่งขาดลอยอีก ในขณะที่ทางฝ่ายของพี่ธีร์แพ้โรงเรียนที่ได้แชมป์ไปนิดเดียวเองค่ะ ซึ่งตอนแรกพี่ธีร์ก็ไม่ได้คิดอะไรมากที่แข่งแพ้นอกจากเสียดายนิดหน่อย แต่มายัวะจัดๆ ก็ตอนรู้เรื่องที่สนามบาสนั่นล่ะค่ะ คราวนี้ถึงกับเป็นเรื่องเป็นราวกันใหญ่โตเกือบถึงขั้นถูกพักการเรียนเลยค่ะ”

“อาฮะ”

“แล้วพอพี่ธีร์ไปเรียกตัวรุ่นน้องคนนั้นมายืนยัน เขาก็ยืนยันว่าพี่ดามพ์บังคัข่มขู่ให้เขาไปช่วยแข่งค่ะ ซึ่งพี่ดามพ์ก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ พอพี่ดามพ์บังคับให้ทางเจ้าตัวต้นเรื่องพูดใหม่อีกครั้งเขาก็ยังยืนยันแบบเดิมจนพี่ดามพ์ขึ้นเสียงหนักเข้าก็กลายเป็นข่มขู่อีก พี่ธีร์โกรธจนลมออกหูหาว่าพี่ดามพ์ปากแข็งไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ ซึ่งพี่ดามพ์เองจากตอนแรกงงๆ ก็กลายเป็นโกรธจัดเหมือนกัน ไปๆ มาๆ เลยสงสัยว่าพี่ธีร์จงใจกุเรื่องขึ้นมาใส่ความหรือเปล่าถึงต้องทำให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ทั้งๆ ที่มันก็แค่การแข่งขันธรรมดาๆ ใครจะแพ้ชนะก็ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิต แต่พี่ธีร์ก็ว่าพี่ดามพ์ก็พูดได้สิเพราะตัวเองชนะนี่ แต่เป็นชัยชนะที่ได้มาจากการขโมยผู้เข้าแข่งขันไปจากเขา ประมาณนี้ค่ะ”

“ค่ะ…เอ แต่พี่สงสัยจังว่าน้องดรีมอยู่ตรงไหนของเรื่องนี้ล่ะคะ”

นีราภาถามด้วยความสงสัย ทีแรกเธอเดาว่า ‘พี่ดามพ์’ กับ ‘พี่ธีร์’ คงจะมาตกหลุมรักสาวน้อยคนเดียวกัน แต่ฟังไปฟังมาเหมือนไม่น่าจะใช่ เพราะเท่าที่รู้ ดาวิษาเพิ่งจะเคยพบกับธีรุตม์ครั้งแรกที่กองถ่ายละครนี่เอง

“อ๋อ…ตอนนั้นเรื่องยังไม่เกี่ยวกับดรีมค่ะ แล้วดรีมก็ไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับสองคนนั้นด้วย…คือ ดรีมยังเล่าไม่จบค่ะ…จากเหตุการณ์นั้นพี่ดามพ์กับพี่ธีร์ก็เลยเขม่นกันอย่างรุนแรงใช่ไหมคะ…แต่โชคร้ายมากๆ ที่ทั้งสองคนก็ยังหนีกันไม่พ้นอยู่ดีค่ะ ขนาดไม่ถูกกัน ทั้งสองคนใจตรงกันมากๆๆๆๆๆๆ ถึงขนาดเอนทรานซ์ก็ยังเลือกคณะเดียวกันอีก แล้วพอเอนท์ติดทั้งคู่ ก็เลยเข้าเป็นน้องใหม่ที่คณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยเดียวกันซะอย่างนั้น”

“ค่ะ”

“ทีนี้ มันก็มีเหตุเกิดขึ้นอีกแล้วค่ะ คือพี่ดามพ์ไปปิ๊งผู้หญิงคนนึงเข้าน่ะค่ะ ตามจีบแบบเช้าถึงเย็นถึงตลอด แต่…ทายสิคะว่าเกิดอะไรขึ้น”

“อืม…คุณธีร์ไปแย่งจีบผู้หญิงคนนั้นมาใช่ไหมคะ” คนฟังเดา “คราวนี้ทางคุณดามพ์ก็เลยเข้าใจว่าคุณธีร์จงใจแก้แค้นคืน”

“เกือบถูกค่ะ พี่น้ำหมึกเดาเก่งจัง…ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ได้ชอบพี่ดามพ์แต่ชอบพี่ธีร์ค่ะ เรื่องมันเลยเหมือนกับว่าพี่ธีร์จงใจแก้แค้นคืน ทีนี้เลยยิ่งเกลียดขี้หน้ากันสุดๆ ไปเลยค่ะ…เฮ้อ จะว่าไปผู้ชายนี่ก็ตลกดีนะคะ เรื่องไม่เป็นเรื่องบางทีก็เก็บมาคิดเล็กคิดน้อยจนเกินเหตุยิ่งกว่าผู้หญิงอีก แล้วยังชอบมาหาว่าผู้หญิงคิดมาก”

“อือฮึ”

นีราภาขานรับในลำคออีกครั้งแม้จะไม่เห็นด้วยกับดาวิษาเท่าไรนัก เพราะบางครั้งถ้าคนเราไม่ถูกผงเข้าตา ก็ไม่มีทางรู้หรอกว่ามันเจ็บหรือระคายเคืองแค่ไหนถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงผงชิ้นเล็กๆ ก็ตาม เรื่องที่คนนอกมองว่าเล็กอาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครบางคนก็เป็นได้ และความขัดแย้งก็เหมือนอาการแพ้ หากเป็นเหตุที่เกิดขึ้นจากคนเดิมๆ ความรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจจะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าการเกิดกรณีพิพาทกับบุคคลทั่วไป

นอกจากนั้น…ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่เมคอัพอาร์ติสสาวรู้สึกสงสารชายหนุ่มหน้าดุตาเข้มคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก นอกจากนั้นยังแปลกใจไม่น้อยที่ดาวิษาเล่าเรื่องนี้ได้อย่างเรียบเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งๆ ที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแท้ๆ ผิดวิสัยของดาวิษาที่อ่อนโยนและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเสมอ…

เมื่อเห็นสาวรุ่นพี่นิ่งเงียบไป คนเล่าเดาว่าเธอคงจะพูดมากเกินไปจนคนฟังเบื่อ ดารานางแบบสาวจึงจัดท่านั่งให้เข้าที่เข้าทางแล้วเอ่ยว่า

“เอ ดรีมก็มัวแต่เล่าเรื่องไร้สาระอยู่ได้ แย่จังเลย…เราลงมือแต่งหน้ากันต่อเลยดีไหมคะ ดรีมพร้อมแล้วW มือเรียวบางผุดผ่องแกะกิ๊บติดผมที่เลื่อนออกจากที่แล้วติดเข้าไปใหม่ “อย่าให้เรื่องบ้าๆ ของพี่ชายของดรีมมาทำให้พี่น้ำหมึกเสียอารมณ์แต่เช้าเลยนะคะ ถ้าเมื่อกี้พี่ดามพ์ทำให้พี่น้ำหมึกโกรธหรือตกใจ ดรีมก็ขอโทษแทนพี่ดามพ์ก็แล้วกันค่ะ…เฮ้อ เพราะพี่ดามพ์เป็นคนแบบนี้แหละ ดรีมกับคุณแม่ถึงได้ห่วงนักห่วงหนาว่าถ้าพี่ดามพ์รู้ว่าดรีมคบหากับพี่ธีร์ ศัตรูเก่าของพี่ดามพ์ จนถึงขั้นจะแต่งงานพี่ดามพ์จะต้องคัดค้านอย่างหนักแน่ๆ ถึงได้ต้องพยายามปิดบังกันขนาดนี้ หลายคนอาจจะคิดว่าดรีมกับพี่ธีร์กลัวเสียภาพพจน์ กลัวนักข่าวมาขุดคุ้ยเอาเรื่องของเราไปลงกอสซิปแล้วจะไม่มีเวลาส่วนตัว มีผลต่องานหรืออะไรก็แล้วแต่ ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะคะ ที่ดรีมกลัวมากที่สุดถ้าข่าวของดรีมกับพี่ธีร์จะแพร่ออกไปก็คือพี่ดามพ์จะต้องรีบบินกลับมาจากนิวยอร์กเพื่อมาขัดขวางเราต่างหาก”

ดาวิษาอธิบายเสียงแจ้วๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเสียงใสๆ ของตัวเองซึมซาบเข้าไปสู่คนฟังได้เพียงแค่ประโยคแรกๆ เท่านั้น เพราะพอเข้าสู่คำว่า ‘พี่ชายของดรีม’ ความสนใจของสาวรุ่นพี่ก็สะดุดกึกทันที

“เดี๋ยวนะคะน้องดรีม พี่กำลังงง ตกลงว่าคุณดามพ์คนเมื่อกี้เป็น ‘พี่ชาย’ ของน้องดรีมหรือคะ”

“ใช่ค่ะ พี่ดามพ์เป็นพี่ชายแท้ๆ ของดรีม ทำไมหรือคะ” น้องสาวของเดชพนต์ถามกลับด้วยความงุนงง หากเมื่อเห็นคนฟังทำคิ้วขมวดมุ่นก็เข้าใจ จึงรีบอธิบายก่อนที่สาวรุ่นพี่จะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ “อุ๊ย…สงสัยว่าเมื่อกี้ดรีมจะเล่าไม่ค่อยเคลียร์เท่าไร อาจจะเพราะเหตุการณ์พาไปด้วย…พี่น้ำหมึกอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ ผู้หญิงที่อยู่ในเรื่องที่ดรีมเล่าน่ะไม่ใช่ตัวดรีมนะคะ และพี่ดามพ์ก็ไม่ได้มาโวยวายเพราะหึงหวงดรีมด้วยค่ะ …อย่างที่บอกพี่น้ำหมึกไปเมื่อกี้ พี่ดามพ์น่ะเป็นพี่ชายแท้ๆ ของดรีมเลย แล้วก็เป็นพี่ชายที่หวงน้องสาวมากกกกกกกที่สุดในโลกด้วย แต่ไหนแต่ไรมาไม่ว่าผู้ชายคนไหนมาเข้าใกล้ดรีม พี่ดามพ์ก็ตีเขากระเจิงต้องรีบหนีหัวซุกหัวซุนแทบทุกราย ยิ่งพอพี่ดามพ์รู้ว่าดรีมเข้าวงการ ทั้งเดินแบบ เล่นละคร พี่ดามพ์ก็ยิ่งหวงหนักเลยค่ะ มีอยู่ช่วงนึงถึงขนาดคุมเข้มตามรับส่งไม่ยอมให้นอกลู่นอกทางอย่างกับพี่ดามพ์เป็นผู้คุมและดรีมเป็นนักโทษอย่างนั้นแหละ โชคดีที่คุณแม่เห็นใจเลยส่งพี่ดามพ์ไปดูตลาดที่อเมริกาซะดรีมจะได้เป็นอิสระบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยจะได้ผลนักหรอกค่ะเพราะพี่ดามพ์น่ะขยันโทรเช็กดรีมตลอด ช่วงแรกนี่โทรยิกๆ เลยค่ะ แถมหูตากว้างไกลยังกะสับปะรด เพื่อนฝูงก็เยอะ ดรีมถึงต้องพยายามทำตัวเป็นข่าวให้น้อยที่สุดไงคะพี่ดามพ์จะได้ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรแล้วมาคอยจับผิดดรีมอีก”

คนฟังพยักหน้าหงึกๆ หลังจากฟังมายืดยาว ไม่แน่ใจว่าอุปาทานหรืออย่างไรหากนีราภารู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายมากๆ เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของดาวิษา สบายใจถึงขนาดหยิบชมพู่มะเหมี่ยวส่งเข้าปากอีกชิ้น

เอ๊ะ! แล้วเธอเกี่ยวข้องอะไรกับเขาด้วยล่ะนี่!

แถม…ยังไม่รู้เลยว่าตั้งแต่พี่ชายของดาวิษาเดินออกจากห้องนี้ไปแล้วข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง จะมาสบายอกสบายใจตอนนี้ออกจะเร็วไปหน่อยล่ะมั้ง ไม่รู้ว่าหลังจากพ้นประตูไปแล้วชายหนุ่มคนนั้นจะเกิดอาการเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาอีกหรือเปล่า เกิดเขาคิดบ้าๆ ถึงขนาดทำลายสถานที่จัดพิธี (ซึ่งได้แก่ห้องโถงจัดเลี้ยงภายในบ้าน) ขึ้นมาล่ะ หรือถ้าเขาเกิดบุกเข้าไปลุยธีรุตม์ที่กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องนอนของแขกล่ะ…

แค่คิดนีราภาก็รู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หากมืออาชีพอย่างเธอตระหนักดีถึงคำว่า เดอะ โชว์ มัส โก ออน …บ่อยครั้งไปที่การทำงานในกองถ่ายไม่ราบรื่นทำให้ทีมงานทุกฝ่ายรวมถึงเมคอัพอาร์ติสต้องโดนหางเลขไปด้วย ยิ่งงานแต่งงานและงานหมั้นนี่ยิ่งแล้วใหญ่เพราะแต่ละครอบครัวหรือคู่รักแต่ละคู่ก็มีรูปแบบความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงสิ่งที่แสดงออกด้วย…นีราภาเคยรับมือมามากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสาวที่ไม่ถูกกับพ่อแม่ของตัวเอง ญาติพี่น้องผู้แสนจะเรื่องมากของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ต่างคนต่างอยากได้อย่างนั้นอยากได้อย่างนี้ วิพากษ์วิจารณ์กันสุดชีวิต กระทั่งคู่บ่าวสาวที่เปิดศึกทะเลาะกันใหญ่โตในวันแต่งงานของตัวเองก็เคยเจอมาแล้ว ดังนั้นหากยังไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้นเมคอัพอาร์ติสสาวรู้ดีว่าเธอมีหน้าที่ต้องทำงานของตัวเองให้ดีที่สุดเสียก่อน

และหากมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ก็ต้องมีคนวิ่งมาส่งข่าวดาวิษาแล้วล่ะน่า…

คิดดังนั้น นีราภาจึงบรรจงแต่งหน้าให้ดารานางแบบสาวต่อแม้จะเห็นว่าอีกฝ่ายยังมีความกังวลในสีหน้าไม่น้อย และหลายครั้งก็มีท่าทีเหมือนกระวนกระวายนั่งไม่ติดจนหญิงสาวกำลังคิดว่าจะให้ดาวิษาออกไปคุยกับพี่ชายของเธอให้เรียบร้อยดีกว่าตึงเครียดอยู่อย่างนี้ ก็พอดีที่มารดาของดาวิษาเปิดประตูกลับเข้ามาในห้อง

“น้องดรีม พี่ดามพ์ของเราเขายอมแล้วนะ” ยังไม่ทันที่คนฟังทั้งสองในห้องจะได้มีโอกาสถอนหายใจโล่งอก คนเล่าก็เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงค่อยลงว่า “หลังจากได้ชกหน้าพ่อธีร์ไปหมัดนึง”

“อะไรนะคะ!”

ว่าที่คู่หมั้นของธีรุตม์ตกใจแม้จะรู้ดีถึงนิสัยใจร้อนของพี่ชาย และเพราะรู้ดีนี่สิถึงน่าเป็นห่วง เดชพนต์เป็นนักกิจกรรมตัวยงและยังเป็นนักกีฬาด้วย เรื่องพละกำลังจึงไม่ต้องพูดถึง ยิ่งกำลังโกรธจัดแบบนี้ไม่รู้ว่าผู้ถูกทำร้ายจะบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน

“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นหรอกน้องดรีม พ่อธีร์ยังไม่มีอะไรแตกหักเสียหายมากไปกว่าแค่ฟกช้ำดำเขียวนิดหน่อย แม่ก็เลยให้เด็กช่วยหาผ้าชุบน้ำเย็นจัดๆ มาประคบไปก่อน...เฮ้อ แม่ล่ะเบื่อจริงๆ กับนิสัยใจร้อนของดามพ์ เพราะแบบนี้ถึงได้ไม่อยากบอกเรื่องวันนี้ให้รู้ นึกอยู่แล้วเชียวว่าถ้าข่าวออกรั่วไปดามพ์จะต้องมาอาละวาดแบบนี้ นี่ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ทำให้งานพังไปด้วย ...แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน ถ้าแม่ไม่เดินออกไปคุมไม่รู้ว่าดามพ์จะทำอะไรลงไปบ้าง นี่ยังดีหรอกที่รู้จักเกรงใจแม่อยู่บ้างถึงยังไม่กล้าออกอาการอะไรมาก”

หากคำว่า ‘ฟกช้ำดำเขียว’ ดูจะมากพอสำหรับดาวิษา หญิงสาวรีบรุดออกไปจากห้อง แต่ยังไม่ทันได้ล่วงพ้นประตูไปมากกว่าสองก้าว คนที่เธอทั้งคิดถึงและเป็นห่วงก็ใจตรงกัน ตรงมาหาที่ห้องพอดิบพอดี

“เป็นอะไรมากไหมคะพี่ธีร์ เจ็บมากไหมคะ” เสียงหวานร้องถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นคนรักอังผ้าขนหนูสีขาวไว้ข้างแก้ม “ดรีมขอโทษนะคะ ดรีมไม่รู้จริงๆ ว่าพี่ดามพ์รู้เรื่องวันนี้ได้ยังไง...ดรีม...”

หยาดน้ำใสๆ เอ่อขึ้นมาคลอดวงตาคู่สวยแล้วค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้มโดยที่เจ้าตัวจนใจจะห้าม ซึ่งทำให้นักแสดงหนุ่มห้ามใจไม่ได้ที่จะดึงร่างบอบบางของคนตรงหน้าเข้ามากอดไว้แน่น

“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ความผิดของดรีมหรอกครับ พี่เข้าใจ” ชายหนุ่มพูดพลางเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน “ไม่เอาครับ อย่าร้องไห้ ดูซิ น้ำหมึกอุตส่าห์แต่งหน้าให้สวยๆ ตอนนี้เลอะเทอะหมด ดูไม่ได้เลย”

“ใจร้ายจัง ว่าดรีมดูไม่ได้เหรอคะ” ดาวิษาทำท่างอน หากดูยังไงก็ยังน่ารักแม้เครื่องสำอางบางส่วนจะเลอะไปด้วยคราบน้ำตา (เพราะต่อให้ลงวอเตอร์ พรูฟก็ไม่มีเครื่องสำอางที่ไหนกันน้ำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก) “แล้วนี่พี่ธีร์มาหาดรีมทำไมคะ”

“พี่ตั้งใจจะมาดูว่าดรีมเป็นยังไงบ้าง เห็นคุณน้าว่าก่อนที่จะไปเจอพี่ ไอ้ดามพ์แวะมาพ่นไฟใส่ดรีมเรียบร้อยแล้ว พี่ก็เลยจะมาดูสักหน่อย ดรีมโอเคนะ?”

“พี่ธีร์...” ดาวิษาเรียกชื่อคนรักของเธอด้วยน้ำเสียงตื้นตัน “พี่ธีร์ไม่ได้โกรธใช่ไหมคะ”

“โกรธ?? โกรธไอ้ดามพ์น่ะเหรอ อันนั้นมันแหงอยู่แล้ว” ธีรุตม์ตอบตามตรง...โดนซัดเข้าเต็มหน้าหล่อๆ คนที่มีดีกรีเป็นถึงพระเอกชื่อดังมีหรือจะไม่โกรธ เกิดเสียโฉมขึ้นมาจะว่ายังไง “ดรีมก็รู้ว่าพี่กับมันเคยเข้ากันได้เสียที่ไหน ถ้าวันไหนดรีมเห็นพี่ดีกับมันสิถึงจะเป็นเรื่องแปลก”

“พี่ธีร์คะ...”

“แต่ไอ้ดามพ์ก็ส่วนไอ้ดามพ์ ดรีมก็ส่วนดรีมนะครับ” ชายหนุ่มยิ้มให้ว่าที่คู่หมั้นสาวสวยอย่างอ่อนโยนแม้คำว่า ‘ไอ้’ จะถูกเน้นย้ำด้วยน้ำเสียงที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง “ความจริงพี่ทำใจไว้ตั้งแต่ตอนที่ตกหลุมรักดรีมแล้ว ว่าไอ้ดามพ์จะต้องทำตัวเป็นกำแพงเมืองจีนที่ทั้งสูงและเป็นอุปสรรคกับความรักของพี่ไปอีกยาวไกลแน่ๆ แต่เรื่องแค่นี้ไม่มีทางทำให้พี่ยอมแพ้ได้หรอกครับ”

“แปลว่าพี่ธีร์จะไม่ยกเลิกงานหมั้นวันนี้ใช่ไหมคะ”

“ไม่หรอก ถ้าดรีมไม่เป็นฝ่ายบอกเลิกสิ่งนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นระหว่างเราอย่างแน่นอน...เอ๊ะ หรือว่าดรีมเปลี่ยนใจ เห็นพี่เสียโฉมเลยไม่อยากรับหมั้นจากพี่ โอ๊ย!!!”

เสียงร้องสุดท้ายดังขึ้นเมื่อดาวิษาหยิกเขาแรงๆ ด้วยความหมั่นไส้ หลังจากรู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่ธีรุตม์ไม่คิดเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ที่เขามีต่อเธอ

“พี่ธีร์คะ ดรีมว่าตอนนี้ดรีมขอตัวไปล้างหน้าก่อนดีกว่าค่ะ เกรงใจพี่น้ำหมึกต้องมาเสียเวลารอ แล้วยังต้องเสียเวลาแต่งหน้าให้ดรีมใหม่อีก”

เจ้าของงานหมั้นสาวสวยบอกคนรักก่อนที่จะเดินกลับเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวด้วยกัน ซึ่งในขณะนั้นนีราภากำลังแต่งหน้าให้กับมารดาของดาวิษาอยู่ แม้อากัปกิริยาของทั้งสองจะบ่งบอกว่าแต่งหน้าไปพลางคุยกันไปอยู่อย่างนั้นมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เธอก็ดูออกอีกเช่นกันว่าบทสนทนาของเธอและธีรุตม์ไม่รอดพ้นหูตาของคนทั้งสองไปได้ เสียงหวานจึงออกมาเพียงอ้อมแอ้มด้วยความเขิน

“คุณแม่คะ พี่น้ำหมึกคะ ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้เสียเวลา…พี่น้ำหมึกคะ ดรีมขอโทษด้วยค่ะที่ทำหน้าตาเลอะเทอะหมด สงสัยดรีมคงต้องให้พี่ให้น้ำหมึกแต่งให้ใหม่แล้วล่ะค่ะ”

ประโยคหลังดาวิษาหันมาบอกนีราภาด้วยใบหน้าเจื่อนจ๋อย หากนีราภาเข้าใจสถานการณ์ของหญิงสาวเป็นอย่างดี จึงไม่ว่าอะไรนอกจากให้คำแนะนำว่า

“ไม่เป็นไรจ้ะ แต่ล้างหน้าเบาๆ นะคะน้องดรีม โดยเฉพาะบริเวณรอบตา เสร็จแล้วให้คาดอาย เจล เย็นจัดๆ ไว้สักพักด้วย ตาจะได้สวยปิ๊งไม่บวม”

คนฟังรับคำแล้วเดินเข้าไปจัดการตามที่เมคอัพอาร์ติสสาวบอก ส่วนพระเอกหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ที่วางอีกฟากหนึ่งของห้อง นีราภาเหลือบตามองก่อนแซว

“ไม่น่าเลยน้า มาหมดหล่อเอาวันสำคัญแบบนี้”

หากคนถูกแซวหัวเราะ “ไม่ต้องมาเยาะเย้ยเลยน้ำหมึก วันนี้แหละจะได้พิสูจน์ฝีมือของช่างแต่งหน้าประจำกองถ่าย เคยเห็นแต่แต่งหน้าดีๆ ให้ฟกช้ำดำเขียว ดูซิวันนี้จะแต่งหน้าช้ำๆ ให้กลายเป็นหล่อๆ ได้ไหม”

นีราภาหัวเราะบ้าง บอกอย่างมั่นอกมั่นใจว่าไม่ต้องห่วง มือชั้นนี้แล้ว รับรองว่าพระเอกสุดฮ็อตอย่างเขาจะต้องหล่อเหนือชั้นขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน แล้วลงมือแต่งหน้าให้กับมารดาของดาวิษาต่อ จากนั้นก็เป็นคิวของดารานางแบบสาวที่ประคบใบหน้าและดวงตามาเป็นอย่างดีจนไม่เหลือร่องรอยของการร้องไห้ ตามด้วยพระเอกหนุ่มเป็นลำดับสุดท้าย กว่าเมคอัพอาร์ติสสาวจะทำงานเสร็จก็ใช้เวลานานกว่าที่คิดไปไม่น้อย ท้องฟ้าภายนอกที่มืดมิดยามที่เพิ่งขับรถมาถึงเปลี่ยนเป็นสีฟ้าสดใสสว่างจ้าตั้งแต่เมื่อไรไม่ทันได้สังเกต

“โอเค เรียบร้อย”

นีราภาบอกธีรุตม์หลังจากช่วยอภินันทนาการจัดทรงผมให้เข้าที่อีกเล็กน้อยเป็นการแถมท้าย (เดาว่าตอนแรกเจ๊นกน้อยก็คงทำให้เขาเรียบร้อยดีหรอก แต่พอถูก ‘พายุไฟ’ ซัดเข้าก็เลยยับยุ่งไปบ้าง) ก่อนที่จะขอตัวเพราะช่วงสายของวันนี้เธอยังมีอีกงานหนึ่งที่ต้องไปแต่งหน้าให้กับงานอีเวนท์เปิดตัวสินค้าใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

“อยู่ร่วมงานด้วยไม่ได้จริงๆ หรือคะพี่น้ำหมึก”

ดาวิษาเอ่ยชวนซึ่งมารดาของเธอก็สนับสนุน หากนีราภาพนมมือไหว้พลางปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ขอบคุณที่ชวนนะคะคุณน้า แต่น้ำหมึกต้องขอโทษจริงๆ ค่ะที่อยู่ร่วมงานด้วยไม่ได้ ใจจริงน้ำหมึกก็อยากอยู่ร่วมเป็นพยานในวันสำคัญของน้องดรีมนะคะ แต่งานนี้น้ำหมึกรับปากกับเขาเอาไว้นานแล้วน่ะค่ะ จะขอเปลี่ยนตัวเป็นคนอื่นทางนั้นก็ไม่ยอมเสียด้วย แถม…” เมคอัพอาร์ติสสาวก้มลงมองเสื้อแขนกุดตัวเล็กสีดำกับกางเกงยีนสีซีดของตัวเองแล้วยิ้มเขินๆ “วันนี้หนูก็แต่งตัวไม่เหมาะเลยค่ะ”

“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ” คู่หมั้นฝ่ายหญิงแย้ง “งานนี้เราจัดขึ้นเป็นการภายในนะคะ มีแต่คนกันเองทั้งนั้น คนที่มาร่วมงานมีแต่ครอบครัว ญาติสนิท แล้วก็เพื่อนที่สนิทจริงๆ แค่สองสามคนเองค่ะ ดรีมรับรองว่าไม่มีใครถือสาหรอก”

นีราภาได้แต่ยิ้มอย่างขอลุแก่โทษหากไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่อยากปฏิเสธซ้ำสองให้คนเชิญเสียน้ำใจ โชคดีที่มารดาของเธอรับรู้ได้ถึงความลำบากใจของสาวผิวเข้ม จึงปรามลูกสาวเบาๆ

“ไม่เอาน่าน้องดรีม น้ำหมึกทำถูกแล้วที่เลือกไปทำงานตามที่รับปากไว้ แม่ก็คิดเหมือนน้ำหมึกว่าความรับผิดชอบต้องมาก่อน เราน่ะโตแล้ว จะเอาแต่ใจตัวเองเหมือนเด็กๆ ไม่ได้แล้วนะ”

ฟังแล้ว ดารานางแบบสาวยอมรับแต่โดยดี หากยังไม่วายกำชับว่า

“โอเคค่ะ งั้นวันแต่งดรีมขอจองตัวพี่น้ำหมึกเป็นเพื่อนเจ้าสาวไว้เลยนะคะ คราวนี้ไม่มีการบอกว่าไม่ว่างหรือติดงานแล้วนะ ดรีมไม่ยอมจริงๆ ด้วย”

“แน่นอนค่ะ งานแต่งน้องดรีมพี่ไม่ยอมพลาดแน่ๆ”

คราวนี้นีราภาตอบรับด้วยความเต็มใจ ก่อนที่จะรีบเก็บสารพัดบรรดาเครื่องประทินโฉมสีสวยลงกระเป๋าแล้วหอบหิ้วลงไปที่รถ ตอนนี้ที่บ้านของดาวิษาเริ่มวุ่นวายแล้วเพราะญาติพี่น้องของเจ้าของบ้านและคู่หมั้นทยอยกันมาถึง เด็กในบ้านและทีมงานที่เจ้าภาพจ้างมาช่วยดูแลความเรียบร้อยของงานต่างพากันวิ่งวุ่นเพราะเวลาสำคัญใกล้เข้ามาทุกที มือเรียวบางสีน้ำผึ้งยกกระเป๋าใส่หลังรถ ขณะพับรถเข็นเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองกลับขึ้นไปชั้นบนของบ้านอีกครั้ง

…ยังเหลือเวลาอีกพอสมควรกว่าพิธีจะเริ่ม ‘พี่ดามพ์’ ของดาวิษา และ ‘ไอ้ดามพ์’ ของธีรุตม์จะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือเปล่านะ




“มัวแต่มองอย่างอื่น เมื่อไรจะเก็บของเสร็จล่ะคุณ”

เสียงห้าวลึกดังมาจากด้านหลังทำให้เมคอัพอาร์ติสสาวสะดุ้งสุดตัวเนื่องจากกำลังอยู่ในภาวะใจลอยเต็มที่ ไม่ต้องหันไปมองต้นเสียงก็แน่ใจว่าบุคคลที่ยืนอยู่ด้านหลังคงไม่ผิดไปจากคนที่เธอใจของเธอกำลังลอยไปถึงนั่นล่ะ

“เอ้า ขวัญอ่อนจริง แค่นี้ก็ตกใจ”

ริมฝีปากบางกระตุกเยาะที่มุมปาก แต่นั่นไม่ทำให้หญิงสาวสะดุ้งสะเทือนอีก นีราภาแต้มรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม

“ก็คุณเล่นมาไม่ให้สุ้มให้เสียงนี่คะ เป็นใครก็ต้องตกใจทั้งนั้นแหละ”

คำตอบและรอยยิ้มของเธอทำให้มุมปากที่ยิ้มเยาะๆ เมื่อครู่จางหายไป เดชพนต์พยักหน้า

“จริงของคุณ” เขายอมรับก่อนบุ้ยใบ้ไปด้านในบ้าน “ไม่อยู่ร่วมงานหรือ”

เมคอัพอาร์ติสสาวสั่นหน้า

“ไม่ล่ะค่ะ พอดีฉันมีงานต่อ” หญิงสาวว่าขณะวางรถเข็นลงนอนแล้วปิดฝากระโปรงรถ “คุณล่ะคะ คิดแผนการถล่มพิธีวันนี้ไปถึงไหนแล้ว”

เพราะได้รับคำถามที่ไม่คาดคิด เดชพนต์นิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่จะระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

…ผู้หญิงคนนี้แปลก ไม่รู้ว่าความรู้สึกช้าหรือกล้าบ้าบิ่นไม่เกรงกลัวใครกันแน่ ถึงได้ยืนต่อปากต่อคำกับคนอย่างเขาแบบนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เป็นแค่ช่างแต่งหน้าตัวเล็กๆ ธรรมดาๆ คนหนึ่ง

“แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ”

คนถูกถามโคลงศีรษะอีกครั้ง “บอกตรงๆ ฉันเดาความคิดของคุณไม่ออกหรอกค่ะ”

“งั้นหรือ” พี่ชายของดาวิษาย้อนถาม…นอกจากคำพูด นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มดุของเขายังจ้องเข้าไปในดวงตาสีดำวาววับของหญิงสาวอย่างค้นหา มีผลให้เมคอัพอาร์ติสสาวเสกลับตัวเดินไปที่ประตูรถทันที

…การอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้เป็นอันตรายต่อหัวใจและความรู้สึกจริงๆ ...เกือบไปแล้ว แค่วินาทีเดียวที่เขาใช้สายตาเพ่งพินิจเข้ามาในดวงตา หัวใจก็สั่นไหวไปหมด

แย่แล้วน้ำหมึกเอ๊ย…ถ้าเมื่อกี้หลบไม่ทันมีหวังทำอะไรไม่ถูกแหงๆ

“ฉันเดาไม่ได้จริงๆ ค่ะ ได้แต่หวังว่าคุณคงจะไม่ใจร้ายกับน้องสาวของคุณนัก” นีราภาตอบพลางไขกุญแจรถ เปิดประตูออกกว้าง “ขอโทษด้วยนะคะแต่ฉันคงต้องขอตัวแล้วค่ะ ฉันมีงานต่อและนี่ก็กำลังจะสายแล้ว”

“เดี๋ยว” ชายหนุ่มร้องห้าม มือใหญ่เอื้อมมาจับประตูรถขณะที่หญิงสาวสอดตัวเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย “ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร”

“คุยกันมาตั้งหลายประโยค เพิ่งนึกอยากจะถามหรือคะ” คนถูกถามหัวเราะออกมากิ๊กหนึ่งอย่างอดไม่อยู่แต่ก็ยอมบอกแต่โดยดี “น้ำหมึกค่ะ ฉันชื่อน้ำหมึก”

“ชื่อแปลกดีนะ” เสียงห้าววิจารณ์ตรงๆ “โอเค น้ำหมึก ผมจะจำไว้ ตอนนี้คุณไปได้แล้ว”

นีราภายกมือไหว้ลาเพราะถ้าเดชพนต์รุ่นเดียวกับธีรุตม์ เขาก็ต้องเป็นรุ่นพี่ของเธออย่างไม่ต้องสงสัย ท่าทีของเธอทำให้คนถูกไหว้เก้อไปเล็กน้อยเพราะไม่นึกว่าหญิงสาวที่ดูสมัยใหม่อย่างเมคอัพอาร์ติสสาวผิวเข้มแต่งหน้าสวยเฉี่ยวจะมือไม้อ่อน ยกมือไหว้แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเพียงไม่กี่ปีอย่างเขา กว่าที่ชายหนุ่มจะยกมือขึ้นรับไหว้หญิงสาวก็เกือบจะสตาร์ทรถขับออกไปแล้ว

น้ำหมึก…ผู้หญิงคนนี้ชื่อน้ำหมึก

ไม่รู้ว่าชื่อนี้ได้มาจากความเข้มลึกล้ำของดวงตาหรือว่าสีผิวกันแน่

เดชพนต์ยิ้มให้ตัวเอง ดวงตาคมสีน้ำตาลไหม้มองเข้าไปในตัวบ้านที่กำลังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาช่วยและมาร่วมงานหมั้นของดาวิษา น้องสาวสุดที่รักคนเดียวของเขา

…ช่างเถอะ ก็แค่งานหมั้นเล็กๆ ที่จัดขึ้นเป็นการภายในงานหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ใช่งานใหญ่โตหรูหรา เป็นที่รับรู้กันอย่างเอิกเกริกในวงสังคมเสียหน่อย แถมนี่ก็แค่งานหมั้นไม่ใช่งานแต่ง เขายังไม่ได้เสียน้องสาวให้คู่ปรับเก่าไปหรอกน่า ปล่อยให้ดาวิษามีความสุขสักวันคงไม่เสียหายอะไร

คิดอย่างนั้น ชายหนุ่มจึงขับรถออกจากบ้านอย่างเงียบๆ หากในสมองยังคงมีเสียงนุ่มๆ ของผู้หญิงตัวบางผิวเข้ม ที่หวังว่าเขาจะไม่ใจร้ายกับน้องสาวของเขามากนัก

“สำหรับวันนี้ก็คงเป็นอย่างที่คุณหวังแหละน้ำหมึก แต่…ผมบอกเลยว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไปผมจะไม่ใจดีอย่างวันนี้แน่ๆ”

เดชพนต์สัญญากับตัวเอง คนบ้างานอย่างเขาอุตส่าห์ลงทุนหยุดงานมาเชียวนะ จะยอมให้วันหยุดของเขาเสียไปเปล่าๆ ได้อย่างไร

คอยดูเถอะ นับจากนี้ไปธีรุตม์ไม่มีทางได้อยู่อย่างสุขสงบแน่ๆ เพราะเขาจะทำหน้าที่พี่ชายหวงน้องสาวให้ถึงที่สุดเลยทีเดียว!



((โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ))



########################






Create Date : 06 ธันวาคม 2551
Last Update : 6 ธันวาคม 2551 10:32:56 น. 43 comments
Counter : 1027 Pageviews.

 
จะเห็นได้ว่าในที่สุดสาวธาตุน้ำของเราก็ได้พบเหตุการณ์ดังที่เธอได้พูดเอาไว้ว่าโชคชะตาอาจจะเล่นตลกกับชีวิตของพวกเธอทั้งสี่ก็ได้ ซึ่งเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ติดตามต่อได้ในวันศุกร์หน้านะคะ


และ...เพราะว่า 'เรื่องนี้มีรัก' ของเราเป็นโปรเจคของขวัญพิเศษ ดังนั้น เราทั้ง 4 คนจึงขอเปิดการการเล่นเกมชิงรางวัลเป็นแบบแรลลี่นะคะ... หากสนใจลงไปอ่านด้านล่างเลยค่ะ


กติกาสำหรับเล่นเกมเรื่องนี้มีรัก

1. คำเตือน ผู้เข้าร่วมเล่นเกมทุกคนกรุณาอ่านกติกาข้างล่างนี้อย่างละเอียด มิเช่นนั้นหมดสิทธินะเออ สี่สาวขอเตือน

2. การเล่นเกมจะเล่นกันทั้งหมด 4 สัปดาห์ โดยเรียงลำดับดังนี้

... 05.12.08 เล่นที่บ้านจอย (กระแตดอก 'รัก')

... 12.12.08 เล่นที่บ้านโน้ต (เชื่อมรัก... หวานเย็น)

... 19.12.08 เล่นที่บ้านเปี๊ยก (หัวใจต้องลม)

... 26.12.08 เล่นที่บ้านเอ้ย (หวาน(ซ่อน)ใจ)

3. ผู้เล่นทั้งหมดจะต้องร่วมเล่นเกมส์เก็บคะแนนทั้งหมด 4 ฐานที่กล่าวมาแล้วข้างต้น โดยแต่ละฐานจะประกอบไปด้วยคำถามจากแต่ละเรื่องที่ได้อ่านกัน สัปดาห์ละ 4 ข้อ

4. ผู้เข้าเล่นเกมในแต่ละฐานมีสิทธิตอบได้แค่ฐานละ 1 ครั้งเท่านั้น โดยคำตอบแรกเราถือเป็นที่สุด

5. ผู้เล่นมีเวลาเล่นเกมทั้งหมด 6 วันในแต่ละฐาน นั่นก็คือ เจ้าบ้านจะลงเรื่องในแต่ละตอนทุกๆ วันศุกร์ ผู้เข้าร่วมเล่นมีเวลาในการตอบคำถามจนกระทั่งเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีถัดไปในการตอบ แล้วเจ้าบ้านจะปิดรับคำตอบสำหรับแต่ละฐาน อาทิเช่น บ้านจอยน้อยลงคำถามวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม ทุกคนสามารถตอบได้จนกระทั่งเที่ยงคืนของคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 แล้วรอเล่นเกมในฐานที่ 2 ถัดไป เป็นเช่นนี้ทุกๆ สัปดาห์ ดังนั้นหมายความว่าฐานสุดท้ายฐานที่ 4 จะปิดรับคำตอบในวันที่ 1 มกราคม 2552 นั่นเอง

6. ผู้เข้าตอบคำถาม เวลาตอบคำถามให้ระบุหัวข้อชอยด์มาด้วย เช่น ข้อ 1 พระเอกเรื่องกระแตดอกรักชื่ออะไร
1. ดวิษ
2. ดามพ์
3. พสิษฐ์
4. นักตะ
ถ้าจะตอบว่า ดวิษ ให้เพื่อนๆ ตอบว่า ข้อ 1 ตอบ 1 ดวิษ
ทั้งนี้และทั้งนั้นเพื่อเป็นการรักษาสิทธิของเพื่อนๆ เอง เผื่อว่าเขียนข้อผิดแต่ตอบถูกนะจ๊ะ

7. เนื่องจากเจ้าบ้านมี 4 คนมีหนังสือให้เพื่อนๆ คนละ 1 เล่มเท่านั้น หากมีผู้ได้คะแนนสูงสุด 4 อันดับมากกว่า 4 คน เจ้าบ้านจะนำชื่อของคนที่เกินมานำไปจับฉลาก โดยจะเรียงจากคนที่ได้รับคะแนนสูงสุดลงมานะคะ เช่น ถ้ามีคนได้คะแนนที่ 1 จำนวน 2 คน นั่นหมายความว่าจะไม่มีที่ 2 อันดับต่อไปก็จะเป็นอันดับที่ 3 เลย และ อันดับที่ 4 ตามลำดับ ถ้าหากมีที่ 4 มากกว่า 1 คน เราก็จะเอาคนที่ได้คะแนนในลำดับที่ 4 ทั้งหมดมาจับฉลากเพื่อให้ได้คนที่ได้รับหนังสือไป 4 คนค่ะ

8. การตัดสินของเจ้าบ้านถือเป็นที่สุดนะคะ

9. กรณีพิเศษ... เนื่องจากจอยน้อยและเอ้ยมีทั้งเวปไซด์และบล็อก หรือโน้ตทั้งบล็อกศุวิลาและบทเพลงแห่งความฝัน ดังนั้นเราจะเปิดให้เล่นเกมทั้ง 2 ที่นะคะ แต่ว่าคนที่เล่นให้เลือกเล่นที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น ห้ามเล่นทั้งสองที่ ไม่งั้นถือว่าผิดกติกา (เจ้าบ้านปรับตกจริงๆ นะเออ) และถ้าหากใครมี log in ที่เวปไซด์ไม่ตรงกับ bloggang เจ้าบ้านอนุญาตให้ระบุชื่อ log in ใน bloggang มาด้วยได้ถ้าหากอยากเล่นเกมในเวปค่ะ เพราะเราต้องเก็บคะแนน 4 ฐานเนอะ จะได้สะดวกๆ นะจ๊ะ

10. ขอให้มีความสุขกับการอ่านและสนุกกับการเล่นเกมค่ะ



โดย: บทเพลงแห่งความฝัน วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:0:07:49 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

...ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ...


โดย: doctorbird วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:0:06:07 น.  

 


โดย: veerar วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:0:12:15 น.  

 


::::::: H A P P Y :: B I R T H D A Y :::::::


ขอให้มีความสุขมากๆและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ



โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:0:30:59 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



โดย: อุ้มสี วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:0:46:09 น.  

 
ในวันคล้ายวันเกิดของ คุณ บทเพลงแห่งความฝัน ขอให้มีความสุขสันต์สมปรารถนา ดั่งใจนึกทุกประการ จ๊ะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:2:07:01 น.  

 


สุขสันต์วันเกิดนะคะ ขอให้มีความสุข
สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา สุขภาพแข็งแรงค่ะ


โดย: นู๋นิด (happypig@nk ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:2:07:17 น.  

 


HAPPY BIRTHDAY ขอให้มีความสุขตลอดไปค่ะคุณ บทเพลงแห่งความฝัน




โดย: ยูกะ (YUCCA ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:3:00:38 น.  

 


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:5:10:33 น.  

 

Happy Birthday Today
ขอคุณพระ ไตรรัตน์ ประสาทผล
อวยพรชัย สรรพสิ่ง มิ่งมงคล
ให้เจ้าของวันเกิด พ้นทุกข์ภัย
ให้มีบุญ อุดหนุนอยู่ คู่ธรรมะ
มีพละ กำลังดี ที่สดใส
ประโยชน์สร้าง ทางสวรรค์
นิพพานใจ โปรดเวไนย
ให้สุขสันต์ ตราบนานเทอญฯ
wa@yoja



โดย: มาขอลงชื่อด้วยคน (yoja ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:5:30:22 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ขอให้มีความสุขมากๆๆนะค่ะในวันเกิด พบเจอแต่สิ่งดีๆๆในชีวิต มีเงินมีทองไหลมาเทมา ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด

สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะเจ้าค่ะะะะะ


โดย: zalitalin วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:5:31:57 น.  

 
Happy Birthday ค่ะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ สุขภาพแข็งแรงนะค่ะ


โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:6:20:47 น.  

 






โดย: พ่อระนาด วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:7:27:31 น.  

 



โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:7:31:25 น.  

 


สุขสันต์วันเกิด จ้า

พรใดทีเป็นของชาวโลก

สุขใดที่ช่วงโชติของชาวสวรรค์

รักใดที่อมตะและนิรันดร์

ขอรักนั้นและพรนั้น จงเป็นของ...จขบ...จ้า



โดย: หน่อยอิง วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:8:11:11 น.  

 
07.34 น.

วัน----สุข ไม่สุขเข้า.............เศร้าแทรก
เกิด---สุข ไม่เป็นแขก..........แปลกหน้า
ให้----สุข ไม่ขอ,แจก..........จ่ายสุข
พร----สุข ไม่เสื่อม,ฟ้า.........สั่งให้สุขสันต์

ให้----ท่าน"โคลง"บทนี้........นำพร
พร----ท่าน"ความ"รักศร.......ส่งชี้
วัน----ท่าน "คิด" ยามนอน...ยามตื่น
เกิด---ท่าน "ถึง" วันนี้.........สุขด้วยพรดี ๚ะ๛

07.58 น.


ได้เกิดมาร่วมชาตินับเป็นวาสนา ได้เกิดมาสุขด้วยตักบาตรร่วมขันกับคู่ชีวิต

>บรรจงเรียงร้อยมาลัย'โคลงความคิดถึง'พรพ่อฟ้ามาด้วยใจถึงพี่น้องทุกท่าน<

เป็นบุญวาสนาเราที่ได้'เกิดมาร่วมชาติ'เป็นข้ารองพระบาทพ่อฟ้าหลวงจอมจักรา
เป็นบุญวาสนาเราที่ได้เกิดมา'ตักบาตรร่วมขัน'ของสาวกพระพุทธองค์ร่วมกัน

08.20 น.

-----------------------------------------------------------เกิดวันเดียวกัน...สุขสันต์ในวันเกิด...มีความสุขร่วมกันครับ


โดย: นกโก๊ก วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:8:38:54 น.  

 


โดย: ลูกสมอเรือ วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:9:17:57 น.  

 
สุขสันต์วันครบรอบวันเกิดค่ะ เจนนี่ขอให้คุณเจ้าของวันเกิดวันนี้ มีความสุขมากๆน่ะคะ คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมหวังดังใจปรารถนา เจริญก้าวหน้า ในหน้าที่การงานน่ะคะ เป็นที่รักใคร่ของคนรอบข้าง สุขภาพแข็งแรงตลอดปีและตลอดไปค่ะ เพี้ยง เพี้ยง เพี้ยง

ป.ล. ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าของบล็อคค่ะ ว่างๆก็แวะมาทักทายเจนนี่ได้เสมอน่ะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ





โดย: สาวอิตาลี วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:9:51:02 น.  

 


โดย: dongdangka วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:9:53:14 น.  

 


โดย: wbj วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:9:56:54 น.  

 

Happy Birthday นะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ
และมีสุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมหวังคะ






โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:10:03:14 น.  

 


โดย: meaw Hk วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:12:42:39 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดนะครับ มีความสุขมาก ๆ


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:12:56:06 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดนะคะ
ขอให้มีความสุข
สุขภาพแข็งแรง
และมีเงินทองใช้
ตลอดทุกปี
คิดถึงสิ่งใดก็ให้
สมปรารถนะคะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ยายกุ๊กไ่ก่ วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:12:58:26 น.  

 
ขอให้สวยวันสวยคืน ความรักสดใสซาบซ่าส์นะคัรบ คิดอะไรก็ขอให้สมหวังนะครับ



โดย: joblovenuk วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:13:23:34 น.  

 


สุขสันต์วันเกิด จ้า

พรใดทีเป็นของชาวโลก

สุขใดที่ช่วงโชติของชาวสวรรค์

รักใดที่อมตะและนิรันดร์

ขอรักนั้นและพรนั้น จงเป็นของ...จขบ...จ้า



โดย: หน่อยอิง วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:13:36:20 น.  

 
มีความสุขมาก ๆ นะคะ


โดย: a_music วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:13:47:54 น.  

 
Happy Birthday แด่คนดี
สำหรับวันนี้ที่พิเศษ


โดย: chabori วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:14:39:15 น.  

 
เข้ามาอวยพรพี่โน้ตอีกรอบที่บล็อกนี้

พี่โน้ตได้ sms ที่ส่งไปยังค้า...


โดย: อันติกา วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:14:53:14 น.  

 

็Happy Birth Day จ้า

สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ทำสิ่งใดก็ขอให้ประสบความสำเร็จทุกประการค่ะ


โดย: แม่น้องแปงแปง (แม่น้องแปงแปง ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:14:54:06 น.  

 


โดย: Takaw วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:18:23:02 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ ^^


โดย: Charlotte Russe วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:19:01:44 น.  

 


วันพิเศษเพียงปีละวัน
คู่ควรกับของขวัญล้ำค่า
และถ้อยคำอวยพรที่ฝากมา
สุขสันต์วันเกิดค่ะ...


โดย: I_sabai วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:19:32:16 น.  

 


โดย: หนูเมเปิล (หนูเมเปิล ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:20:55:22 น.  

 


""""""ขอให้มีความสุขกาย สุขใจ ตลอดปีตลอดไปนะคะ"""""""


โดย: จุดหมายที่มิใช่ปลายทาง วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:21:14:11 น.  

 

HBD ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน
คุณพระคุ้มครอง มีความสุขมากๆนะคะ




โดย: Joy*~Joystick~* วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:23:58:08 น.  

 

HBD ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน
คุณพระคุ้มครอง มีความสุขมากๆนะคะ




โดย: Joy*~Joystick~* วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:23:59:12 น.  

 


สวัสดีครับ ขอบคุณที่แวะเข้ามา ผมหวังว่าเราคงได้พบกันอีกนะครับ


โดย: veerar วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:0:52:01 น.  

 
มาเยี่ยมพร้อมด้วยอากาศเย็นสบายค่ะ
พร้อมโหวต...เช่นกันค่ะยินดีที่ได้รู้จักค่ะกัลยาณมิตรที่ดี
+3ค่ะ


โดย: มาโหวตให้ค่ะกัลยาณมิตร (yoja ) วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:9:02:12 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนและยินดีที่ได้รู้จักครับ...


โดย: doctorbird วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:9:12:45 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

...แวะมาทักทายยามเย็น...

...ขอให้มีความสุขกับชีวิตมากๆ นะครับ...


โดย: doctorbird วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:17:50:47 น.  

 


สวัสดีครับ ขอบคุณที่แวะเข้ามานะครับ


โดย: veerar วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:19:47:36 น.  

 

สุขสันต์วันเกิดค่ะ ทุกคนชาวไทยขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญนะค่ะและขอให้ประสบความสำเร็จในการงานค่ะสาธุ............................................


โดย: เอมี่ IP: 124.122.221.4 วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:54:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บทเพลงแห่งความฝัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ผู้หญิงทำงานโลภมากที่อยากสวย เก่ง ประสบความสำเร็จ มีความสามารถรอบด้าน และมีความสุขมากที่สุดในโลก (ไม่ว่าจะโสดหรือไม่ก็ตาม อิอิ) ^^









Friends' blogs
[Add บทเพลงแห่งความฝัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.