มารู้จัก"แผลร้อนใน"กัน

lozocatlozocat





Free TextEditor


ร้อนใน : อาการเป็นอย่างไร?

ก็คือจะเกิดเป็นจุดแดงหรือตุ่มและต่อมาจะพัฒนาแยกออกมาเป็นแผลเปิด มีลักษณะเป็นสีขาว รูปวงรี
โดยมีขอบเป็นสีแดงนูนออกมา มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มม. ซึ่งในบางครั้งอาจจะกว้าง
ถึง 1 ซม. จะมีอาการเจ็บปวดบริเวณแผล

[ระยะเวลาของอาการอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 1 ถึง 2 สัปดาห์]

ร้อนใน : สาเหตุเป็นอย่างไร ?

สาเหตุของ"ร้อนใน"ไม่ทราบเป็นที่ชัดเจน แต่ปัจจัยที่มักจะก่อให้เกิด ความเครียด เหนื่อยล้า
การนอนดึก การกัดโดน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การมีประจำเดือน การแพ้อาหาร
หรืออาจเกิดจากการขาด วิตามิน B12 ธาตุเหล็ก หรือกรดโฟลิค อาจลด และป้องกัน
การเกิดแผลร้อนใน ได้ด้วยการไม่รับประทานน้ำในปริมาณมากๆ หลังหรือพร้อมอาหารในทันที
ควร รับประทานน้ำมากๆ ระหว่างมื้อแทน เพราะช่วยให้ กรดในกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น
และลดโอกาสที่ กรดจะเอ่อล้นขึ้นมาในท่อหลอดอาหาร ซึ่งจะทำให้ระคายเคืองเยื่อบุหลอดอาหาร
และช่องปาก จนทำให้เกิดแผลร้อนในได้ง่าย


ร้อนใน : ลักษณะเป็นอย่างไร ?

1. แผลร้อนในขนาดเล็ก (minor aphthous ulceration)
แผลลักษณะนี้พบได้บ่อยในกลุ่มผู้มีอายุระหว่าง 15 - 45 ปี พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายเล็กน้อย
มักพบบริเวณเยื่อเมือกด้านริมฝีปาก ด้านแก้ม, กระพุ้งแก้ม และขอบของลิ้น รอยโรคมักปรากฏอยู่ใน
ช่องปากประมาณ 14 วัน และมีอาการเจ็บปวดในช่วงสั้น ๆ แต่เมื่อเยื่อบุผิวในช่องปากฉีกขาด
จะเป็นแผลซึ่งมีลักษณะกลมรี มีสีเหลืองอ่อน จะมีความเจ็บปวดมากขึ้น

2. แผลร้อนในขนาดใหญ่ (major aphthous ulceration)
แผลชนิดนี้พบได้น้อยกว่าแผลขนาดเล็ก แผลขนาดใหญ่นี้จะทำให้ผู้ป่วยมีความเจ็บปวด การรับ
ประทานอาหาร การพูด การกลืนน้ำลายจะยากลำบาก พบได้ทุกบริเวณในช่องปาก การหายของแผลกิน
เวลาประมาณ 10 -40 วัน มักพบลอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่

3. แผลชนิดคล้ายเฮอร์ปีส์ (herpetiform ulceration)
แผลที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะคล้ายแผลขนาดเล็กพบได้บ่อยบริเวณใต้ลิ้น เพดานอ่อน ริมฝีปาก ด้านใน
ลักษณะแผลจะเป็นกลุ่ม และเจ็บปวด หายได้ภายใน 7 - 14 วัน ผู้ป่วยมักกลืนลำบาก และ น้ำหนักลด
เนื่องจากรับประทานอาหารลำบากและไม่เพียงพอ


ร้อนใน : วิธีป้องกันทำอย่างไร ?


1. ระวังอย่าให้ท้องผูก เพราะร้อนในมักจะเป็นร่วมกับท้องผูก
2. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ร้อนใน เช่น ของทอด ของมัน ๆ ขนม น้ำตาล ทุเรียน ลำไย ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ
อาหารพวกนี้กินแต่เพียงน้อย ๆ อย่ากินมาก
3. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น กระเทียม หอม ขิง ฯลฯ แต่พริกกินได้
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยลดอารมณ์เครียด ความเครียดส่วนมากทำให้เป็นโรคนี้
5. รักษาความสะอาดในช่องปากอย่างเข้มงวด คือแปรงฟันทุกครั้งหลังจากรับประทานอาหารแล้ว
(ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังอาหาร)
6. ดื่มน้ำมาก ๆ วันหนึ่ง ๆให้ได้ 5 แก้วขึ้นไป
7. อย่าอดนอน
8. กินผักและผลไม้มากๆ
9. หากเป็นอาการร้อนในให้อมน้ำเกลือ [กลวิธีปู่ย่า]


*ถ้าใครไม่อยากเป็นร้อนใน ก็ลองปฎิบัติตามคำแนะนำดูนะจะ ^^



ขอบคุณสาระอ้างอิง

* Dek-D

* Mthai

* วิกิพีเดีย

* Yenta4
lozocatlozocat






Create Date : 15 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2551 18:35:54 น. 0 comments
Counter : 780 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kun_isara
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
15 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kun_isara's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.