.
คนเราเมื่อมีลาภ ก็เสื่อมลาภ เมื่อมียศ ก็มีเสื่อมยศ เมื่อมีสรรเสริญ ก็มีนินทา เป็นของคู่กันมาเช่นนี้ จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดี ... มันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่ว ... มันก็ชม นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐเลิศยิ่งกว่ามนุษย์เทวดา ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกะธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได ้ ต้องคิดเสียว่า เขาจะติ ... ก็ช่าง เขาจะชม ... ก็ช่าง เราไม่ได้ทำอะไรให้เขาเดือดเนื้อร้อนใจ ก่อนที่เราจะทำอะไร เราคิดแล้วว่าไม่เดือดร้อนแก่ตัวเราและคนอื่น ... เราจึงทำ เขาจะนินทา.. ว่าใส่ร้าย อย่างไร ก็ช่างเขา บุญเราทำ กรรมเราไม่สร้าง พยายามสงบกาย สงบวาจา สงบใจ ไยจะต้องไปกังวล กลัวใครจะติเตียนทำไม ... ไม่เห็นมีประโยชน์ เปลืองความคิดเปล่า ๆ
(ธรรมะของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต)
นักจิตวิทยาของอเมริกัน ทำการศึกษา ค้นคว้า วิจัยแล้วพบว่า คนเราเฉลี่ยแล้ว คนๆ หนึ่ง ในวันหนึ่งๆ มีความรู้สึก ไม่พอใจ ไม่ถูกใจ นึกเป็น วิภวตัณหาถึง 3 หมื่นครั้งต่อวัน ครึ่งหนึ่ง อาจจะนึกตำหนิ ออกมาเป็นคำพูด เป็นคำนินทา วันหนึ่ง ๆ เรานึกตำหนิคนอื่นเท่าไร และนินทาคนอื่นเท่าไร เราไม่รู้ตัว แต่ถ้าเราได้ยินว่า มีใครมานินทา เราสักประโยคเดียว เราเจ็บใจ เกือบทำใจไม่ได้ เราลืมมองดูตัวเองว่า เราก็นินทาคนอื่นมากมาย ใจเราไม่มีความยุติธรรมเท่าไร
(ธรรมะของพระอาจารย์ มิตซุโอะ คเวสโก วัดป่าสุนันทวนาราม)
ขอบคุณลานธรรมจักร
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
29 comments |
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2553 14:02:08 น. |
Counter : 673 Pageviews. |
|
|
|
ชอบภาพประกอบจังเลยค่ะ สวยมากกก