๐๕.*..ฤษีกรรแสง..*.
.*..ฤษีกรรแสง..*. . ...มาจะกล่าวบทปลง ถึงป่าพงมีพระฤษีผู้- รักษาศีลสมาธิต้านริปู กิเลสที่สิงสู่ในซอกทรวง . เมื่อจิตตั้งอยู่ตรงองค์ฌานสี่ สุขมากที่ในใจก็ใหญ่หลวง อนาคต..อดีต..ดั่งขีดดวง ท่านก็ล่วงรู้จริงทุกสิ่งเป็น . อนาคตังสญาณยิ่งกระชับ ก็มองการเกิดดับดังกับเห็น เหมือนดูสิ่งอยู่ในน้ำใสเย็น ทุกประเด็นรู้แจ้งด้วยแรงฌาน . มีฤษีอีกสองเป็นสหาย พักอยู่ชายป่าหนึ่งนอกหมู่บ้าน ห่างผู้คนสัญจรจากเมื่องกาญจน์ สามกิโลโดยประมาณระยะทาง . พระฤษีหนึ่งเขมรหนึ่งพม่า พำนักอยู่ซ้ายขวาไปด้านข้าง ฤษีไทยดำรงอยู่ตรงกลาง ทั้งสามต่างศึกษาเวทย์อาคม . จะแปดร้อยปีผ่านพนาเวศน์ เจ็ดร้อยเศษพรรษาที่สั่งสม พลังฌานช่ำชองน่าชื่นชม สั่งพิรุณเรียกลมและเมฆี . วันหนึ่งนั้นสนทนาหาความรู้ ว่าประเทศเราสูสามฤษี คอรัปชั่นหมดไปจนไม่มี ใช้เวลากี่ปีจะเปลี่ยนแปลง . ฤษีเมืองพม่าหลับตาเพ่ง เห็นตรงเป๋งจะจะกระจ่างแจ้ง หัวเราะร่าวาจาเปล่งสำแดง แค่สิบปีก็จะแล้งสิ่งเลวแล้ว . ส่วนเขมรดาบสกำหนดจิต เพ่งนิมิตมองให้ใสเหมือนแก้ว สิบห้าปีผ่านไปก็ใสแวว จะผ่องแผ้วพานพบประสบชัย . ณ ครานั้นพลันก้องเสียงร้องร่ำ สองฤษีถามย้ำกันยกใหญ่ เห็นน้ำตาหยาดรดดาบสไทย ท่านระกำทำไมฉันใดฤา . ฤษีไทยสะอื้นกลืนในอก น้ำตาตกพลางตอบเห็นมืดตื้อ เพ่งฌานไปไกลลิบผลลัพธ์คือ ข้าตายแล้วฮือฮือ..มันยังโกง . .*..พันคม..*. (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)
Create Date : 20 มีนาคม 2562 |
|
5 comments |
Last Update : 20 มีนาคม 2562 18:05:13 น. |
Counter : 714 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 29 มีนาคม 2562 23:51:22 น. |
|
|
|
|
|
สู้ ๆ นะตัวเอง อิอิ