Bloggang.com : เทพบุตรตบะแตก!! : "ความมั่นใจในตัวเองของผู้หญิง สร้างสรรค์ได้" พ็อกเก็ตบุ๊คเล่ม 2...ผมเขียน ให้คุณผู้หญิงอ่านครับ

"ความมั่นใจในตัวเองของผู้หญิง สร้างสรรค์ได้" พ็อกเก็ตบุ๊คเล่ม 2...ผมเขียน ให้คุณผู้หญิงอ่านครับ

ขอแนะนำหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มที่ 2 ของผมนะครับ

"ความมั่นใจในตัวเองของผู้หญิง สร้างสรรค์ได้ และนั่นจะทำให้ผู้หญิงพบแต่สิ่งดีดีในชีวิต"

เนื้อหาก็เป็นแนวจิตวิทยาเช่นเคยครับ แต่เขียนเพื่อคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ เพื่อสร้างสร้างกำลังใจ สดใสในการดำเนินชีวิต และรู้จักนำเอา "อาวุธลับ" ประจำตัวของผู้หญิงมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณผู้หญิงทุกคนบริหารชีวิตได้อย่างปลอดอุปสรรคที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ระหว่างปั่นต้นฉบับหนังสือนี้ มีกระทาชายนายหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนผมเองเดินมาตั้งคำถามน่าสนใจว่า ทำไมผู้ชายอย่างผมถึงมาเขียนหนังสือเพื่อผู้หญิง

ผมตอบไปตามตรงว่า “ไม่ใช่เรื่องแปลก ผู้หญิงยังเขียนเรื่องผู้ชายได้เลย” เจ้าเพื่อนรายนั้นก็กล่าวขยายความต่อว่า “มันไม่เหมือนกัน ผู้หญิงกับผู้ชายมีความเปิดกว้างที่จะฟังต่างกันเยอะ” คำตอบที่ว่าเข้าไปสะกิดสมองผม พลางคิดไปว่านี่เป็นโอกาสที่ดี หากอยากจะสำรวจผู้ชายในปัจจุบันว่ามีมุมมองต่อผู้หญิงอย่างไร (แม้ผมจะเป็นผู้ชายทั้งแท่ง แต่ชอบมองต่างจากคนรอบข้างครับ เลยอยากลองเช็คมันจากคนอื่นบ้าง) ผมเลยสานต่อการพูดจาด้วยคำถาม “นายจะบอกว่าผู้หญิงไม่ค่อยฟังผู้ชายเหรอ?” เจ้าเพื่อนผมเงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะบอกว่า “... ฉันว่าผู้หญิงเก่งๆ เข้าใจยาก ฟังเราก็ยาก ...” พอจบการสนทนารอบนั้น ผมก็ผุดคำนำประจำเล่มขึ้นมาได้หนึ่งจบพอดี

คุณคิดอย่างไรกับเรื่องที่ผมเล่าครับ หลายคนน่าจะมองว่า ผู้ชายคนหนึ่งกำลังพูดบ่นถึงผู้หญิง คุณอาจคิดว่าผู้ชายนี่คับแคบ ชอบคิดว่าตัวเองเก่ง ... นั่นก็คือหนึ่งในมุมคิดที่หลากหลาย ทว่าผมมองเห็นอีกมุมหนึ่งว่า อันที่จริงผู้ชายที่ทำตัวข่มผู้หญิง บอกว่าผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจยาก เรื่องมาก ไม่ค่อยฟัง อาจมาจากความกลัวที่แอบซ่อนอยู่ลึกๆ ในหลืบจิตใจ มันเป็นกลไกป้องกันตัวอย่างหนึ่งของคนเราครับ อะไรที่เราไม่ชอบหรือไม่ได้อย่างใจก็จะเอาความคิดลบๆ มาโปะให้สิ่งนั้นเพื่อความสบายใจส่วนตัว

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ว่าผู้ชายไม่น้อย “กลัว” หรือคำที่เบาลงมาหน่อยคือ “เกรงใจ” ผู้หญิงที่มีความสามารถ

เราเคยได้ยินแต่คนเอาเรื่องสามีที่กลัวเมียมาพูดล้อกันให้ขำขัน แต่ขณะเดียวกันในสังคมจริงๆ ผู้ชายก็กลัวผู้หญิงเก่งเหมือนกัน ไม่ว่าจะกลัวความคิดที่ล้ำลึกในบางเรื่อง เช่น เรื่องศิลปะหรือการเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนได้อย่างลึกซึ้ง ไหนจะความละเอียดของพวกเธออีก เหนืออื่นใดคือกลัวความพ่ายแพ้ (ก็คิดดูสิครับ ผู้ชายทำงานสู้ผู้หญิงไม่ได้ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น) ทำให้เมื่อจำต้องติดต่อประสานงานกับผู้หญิงเก่ง เลยอดจะเกร็งไม่ได้ หรือไม่บางทีก็สวนความรู้สึกด้วยการทำตัวเหนือกว่าเสียอย่างนั้น ซึ่งนั่นเป็นการไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลยนะครับ ซ้ำยังไม่ให้เกียรติตัวท่านเองอีกด้วย

กรอบความคิดประเภท “ผู้ชายต้องเป็นแบบนั้น ผู้หญิงต้องเป็นแบบนี้” จำกัดความคิดคนเราให้คับแคบมานาน แต่เผอิญยุคนี้มันเลยช่วงไดโนเสาร์ครองอำนาจมานานแล้ว ดังนั้นหากอยากก้าวให้ไกลไปข้างหน้า ต้องหัดมองมุมอื่นกันบ้าง อย่างเช่น เรื่องผู้หญิงเก่งอาจเป็นคู่แข่งขันที่น่ากลัวสำหรับผู้ชาย แต่ผมกลับมองว่า หากชายเก่งกับหญิงเก่งมาร่วมมือกันทำสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเพื่อบริษัท, ครอบครัว หรือเพื่อสังคมมันย่อมให้ผลดีที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมได้ อีกทั้งหากคุณเป็นคนที่สนุกกับการพัฒนาตนเอง ไม่ว่าใครจะเก่งกว่าแค่ไหนคุณก็พร้อมจะทำการเพิ่มศักยภาพตัวเอง เป็นการแข่งขันที่น่าเพลิดเพลินดีออกนะครับ

เช่นเดียวกับผู้หญิงที่ไม่จำต้องไปหัวเสียกับความคับแคบของผู้ชายบางคน หากคุณเก่งและมีศักยภาพก็แสดงมันออกมาให้ใครต่อใครได้ประจักษ์ เพราะคนที่จะได้รับประโยชน์ไปเนื้อๆ ก็คือตัวคุณเอง และที่ทำงานของคุณก็จะได้ประโยชน์อีกหนึ่งต่อ จุดนี้ถ้ามองให้ลึกลงไปอีก เมื่อที่ทำงานคุณได้รับผลดี หน้าที่การงานของคุณก็จะมีความมั่นคงเป็นผลพลอยได้อีกหนึ่งประการเลยทีเดียว งานมั่นคงใครจะไม่อยากได้จริงไหมครับ

ผู้หญิงหลายรายเดินทางไปถึงฝั่งฝันแห่งความสำเร็จ ได้ยืนอยู่หัวแถว (หรือหน้าแถว) ขององค์กร พร้อมคำชื่นชมจากคนมากมาย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความบังเอิญหรือโชคชะตาขีดเขียนมา แต่มันสำเร็จเนื่องด้วยความพยายามและความสามารถของพวกเธอที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคขวากหนามทุกประเภท ไม่ให้โลกทัศน์ถูกจำกัดด้วยกรอบเดิมๆ

มีคำกล่าวเปรียบเปรยที่ดีเยี่ยมว่า ต้นไม้จะสูงใหญ่ได้เมื่อปลูกในดินที่ดี และผืนดินที่เปิดกว้างให้รากได้ชอนไชไปทั่ว หากต้นไม้ถูกเลี้ยงในกระถางเล็กๆ ของห้องลึกๆ ที่แสงแดดส่องไม่ถึง มันย่อมแคระแกรนไม่อาจเติบใหญ่เป็นต้นไม้ที่งดงามได้ ซึ่งหญิงสาวมากมายก็เปรียบได้กับพันธุ์ไม้งามชั้นดีนั่นเองครับ หากไม่ขยับขยายก็ย่อมไม่อาจเติบใหญ่ได้อย่างที่ควรจะเป็น

เจตนาในการเขียนหนังสือเล่มนี้ก็เนื่องด้วยเล็งเห็นสิ่งเหล่านี้ครับ ตระหนักว่าผู้หญิงเก่งที่มีความสามารถมีอยู่มากมายและแนวความคิดแบบไหนกันหนอที่หล่อหลอมพวกเธอจนเป็นดอกไม้งามที่แกร่งได้ถึงเพียงนี้ ผมว่าผู้หญิงหลายคนหรือแม้แต่ผู้ชายก็ตามสนใจใคร่รู้ว่าทำอย่างไรจึงจะเดินทางสู่การเป็นผู้หญิงแถวหน้า และต้องทำอย่างไรจึงจะกล้าก้าวออกมาหน้าแถวได้ ดังนั้นเป้าหมายหลักของผมคือเขียนเพื่อให้ผู้หญิงทุกคนเข้าใจในศักยภาพของตนเอง อย่าปล่อยให้ใครมาจำกัดสิ่งต่างๆ ในชีวิตหรือการงานของคุณเพียงเพราะคุณเป็นผู้หญิงครับ ในหนังสือของผมเล่มนี้ได้รวบรวมเอาแนวคิดดีๆ ที่สามารถพลิกชีวิตคุณได้ อีกทั้งยังมีแนวทางการบริหารจัดการชีวิต เพื่อทำให้ทุกอย่างก้าวนับจากนี้มีความสำเร็จเป็นจุดหมายปลายทาง

ที่สำคัญที่สุดคือการเอาชนะความทุกข์ ศัตรูตัวฉกาจที่คอยจ้องจะทำลายสิ่งต่างๆ ในชีวิต ผมจะพาคุณมารู้จักมันอย่างถ่องแท้และหาทางเอาชนะมันปราบมันให้ถึงรากถึงโคน ไม่ใช่แค่หนีมันไปชั่วคราว เพราะการทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการผัดผ่อนรอให้มันไล่ล่าในวันต่อๆ ไป

นอกจากนี้ผู้หญิงยุคใหม่ที่ก้าวล้ำนำหน้าไม่ใช่แค่ต้องเป็นผู้หญิงแถวหน้าเท่านั้น แต่ยังต้องมีความกล้าที่จะก้าวออกมาหน้าแถวอีกหนึ่งขั้นเพื่อความสำเร็จสูงสุด

สำหรับหญิงสาวรายใดที่ยังไม่แน่ใจว่าตนจะทำได้หรือไม่ หรือได้แต่คิดในใจว่าสักวันฉันจะโดดเด่น ทว่ากลับได้แต่คิด มาครับ อย่ารอช้าที่จะพลิกหน้าหนังสืออ่าน ผมมั่นใจว่าคุณจะได้แนวทางที่ดีในการทำให้คุณกลายเป็นผู้หญิงแถวหน้า หากคุณเริ่มเร็วยิ่งได้เปรียบครับ

“มันไม่ยากที่จะใช้ตามองหนังสือสักเล่ม แต่มันไม่ใช่ของง่ายที่จะใช้สมองและใจไปพร้อมๆ กับการอ่าน”

ผลงานเล่มนี้ของผมก็วางแผงแล้วนะครับ สามารถหามาอ่านได้ตามร้านหนังสือทั่วไป หรือหากหาไม่เจอก็ถามได้นะครับ เพราะบางร้านอาจหมดไปแล้ว (เคยลองเดินไปถามเองน่ะครับ

นึกว่าไม่เอามาวางขาย พอถามเขาบอกหมด เราก็ อ๋อๆ I See

)

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2551

Last Update : 21 พฤศจิกายน 2551 17:05:00 น.

0 comments

Counter : 1390 Pageviews.