Bloggang.com : weblog for you and your gang
ย้ายบ้านแล้วครับผม มีดอทคอมเป็นของตัวเองเรียบร้อยครับ
10000tip.com
หมื่นทิพ
's Movie Review
เทพบุตรตบะแตก!!
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 116 คน [
?
]
ค้นหารีวิวหนังเก่าๆ ได้ที่นี่ครับ
Group Blog
First Page: หน้าแรก
Thai Movie: หน้าหนังไทย
Chinese Series: หนังจีนชุด
About a Book หนังสือน่าสน
My Write
The Latest Post 3
The Latest Post 5
Diary of Me
<<
พฤษภาคม 2552
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
12 พฤษภาคม 2552
"ตีสนิทกับลูก Positive Daddy & Mommy" พ็อกเก็ตบุ๊ค สำหรับพ่อแม่ที่อยากตีสนิทกับลูกวัยรุ่นครับ
All Blogs
"เข็มทิศชีวิตคู่" พ็อกเก็ตบุ๊คสำหรับคนที่อยากถนอมรักให้ยืนยาว และทำให้ "ครอบครัว" มีความหมาย
"ตีสนิทกับลูก Positive Daddy & Mommy" พ็อกเก็ตบุ๊ค สำหรับพ่อแม่ที่อยากตีสนิทกับลูกวัยรุ่นครับ
Get Life Get Rich รู้ทันชีวิต พิชิตความจำ อีกหนึ่งพ็อกเก็ตบุ๊คที่ขอแนะนำครับผม (ผลงานผมเอง อิอิ)
พ็อกเก็ตบุ๊คลำดับที่ 3 ของผม "CREATIVE สร้างสรรค์สร้างได้"
"ความมั่นใจในตัวเองของผู้หญิง สร้างสรรค์ได้" พ็อกเก็ตบุ๊คเล่ม 2...ผมเขียน ให้คุณผู้หญิงอ่านครับ
ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนงานเล่มแรกของผม "ขายแบบมีศักดิ์ศรี" ตามด้วยการแจ้งข่าวหนังสือเล่มต่อไปครับ
ขอพื้นที่เล็กๆ แนะนำหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มแรกที่ผมเขียนเองครับ กับ "ขายแบบมีศักดิ์ศรี"
แนะนำนิยาย - ชอลิ้วเฮียง ตอน ศึกวังค้างคาว (2514)
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add เทพบุตรตบะแตก!!'s blog to your web]
Links
CINEMAG Magazine online
JEDIYUTH ข่าวหนังเพียบ
เว๊บ Film Club สำหรับผู้รักการวิจารณ์ภาพยนตร์
Happy Hour Club รวมพลชาว Psy 27
Thaifilmdb ศูนย์รวมข้อมูลภาพยนตร์ไทย
BlogGang.com
"ตีสนิทกับลูก Positive Daddy & Mommy" พ็อกเก็ตบุ๊ค สำหรับพ่อแม่ที่อยากตีสนิทกับลูกวัยรุ่นครับ
นี่คือผลงานพ็อกเก็ตบุ๊คลำดับที่ 8 ของผมนะครับ กำลังวางจำหน่ายในขณะนี้ทีเดียว
ผมเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่ออยากจะให้คนสองกลุ่มต่อไปนี้ได้อ่านนะครับผม
กลุ่มแรกคือ
พ่อแม่
ที่อยากเข้าใจลูกวัยรุ่น หลังจากอ่านจะได้เพิ่มมุมมอง เข้าใจลูกและสิ่งที่ลูกเป็นมากยิ่งขึ้น
กลุ่มที่สองคือ
วัยรุ่น
ที่อยากให้พ่อแม่เข้าใจ จะได้นำหนังสือไปให้พ่อแม่อ่านเพื่อสานสัมพันธไมตรี
ในฐานะที่เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน บอกได้เลยครับว่าช่วงนั้นไม่ต่างจากพายุลูกเบ้อเริ่มที่รุมเร้าเล่นเอาเราเหนื่อยกว่าจะผ่านมาได้
ผู้ใหญ่ส่วนมากมักคิดว่าวัยรุ่นน่ารำคาญ
เพราะอารมณ์ไม่อยู่กับที่ บางครั้งก็มีพฤติกรรมที่ยากเกินความเข้าใจ เช่น ทำไมต้องไปคลั่งไคล้นักร้องเกาหลีให้มันมากมาย หรือ เวลาจะกลับบ้านทำไมต้องดึกเกินสามทุ่ม
แต่คุณเชื่อไหมล่ะครับว่าคนเป็นวัยรุ่นเองก็ใช่ว่าจะสบายแฮไปเสียหมด ตัวเราเองก็เต็มไปด้วยความสับสนที่น่าปวดหัวเหมือนกัน
วัยรุ่นคือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ทั้งทางร่างกาย เมื่อเหล่าฮอร์โมนเริ่มผลิตและออกฤทธิ์ต่อจิตใจกับความต้องการของเรา มันมีผลทำให้เรามองเพื่อนผู้หญิงเปลี่ยนไป จากเดิมไม่คิดอะไรกลายเป็นมีคำว่ารักหรือคำว่าใคร่ปรากฏขึ้นมายามจ้องตาสาว หรืออวัยวะบางส่วนที่ขยายขนาดจนเราขาดความมั่นใจ ความเปลี่ยนแปลงยังเกิดกับระบบสังคมที่เราได้เจอกับคนมากกว่าเดิม และคนส่วนใหญ่ที่เจอก็คือเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างคนต่างก็มีความสับสนเนื่องจากต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน เรียกว่าเป็นเพื่อนกันน่ะได้ แต่ช่วยกันระงับความสับสนไม่ใคร่จะได้เท่าไร
เมื่อร่างกายกับสังคมและสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน ก็ย่อมส่งผลให้จิตใจผันแปรไปตามอารมณ์
วันไหนสับสนมากหรือมีเรื่องไม่สบอารมณ์มากๆ ก็มักจะออกอาการพาล วันไหนสงบหน่อยก็ค่อยนั่งนิ่งได้ แต่จะนิ่งได้นานแค่ไหนไม่มีทางรู้ และพอเกิดเหตุการณ์เหล่านี้พ่อแม่จำนวนมากก็คิดตรงกันว่าวัยรุ่นนั้นเลี้ยงยาก เพราะท่าทีเอาแน่เอานอนไม่ได้ อารมณ์ขึ้นลงมั่วไปหมด จนวัยรุ่นได้รับการขนานนามว่าเป็นวัยพายุบุแคม
เมื่อลูกออกอาการมากๆ เข้าพ่อแม่ที่เหนื่อยจากงานหรือสังคมภายนอกก็ออกอาการตาม กลายเป็นการทะเลาะเบาะแว้ง เป็นช่องว่างระหว่างวัยที่ทำให้พ่อแม่ลูกต้องห่างกันไปเรื่อยๆ เพราะ
แทนที่ทุกคนจะพยายามทำความเข้าใจความสับสนของวัยรุ่น แต่ดันไปเออออผสมโรงใช้อารมณ์ตามไปด้วย ไปๆ มาๆ วัยรุ่นจึงเป็นวัยที่ครองสถิติทะเลาะกับพ่อแม่และเครือญาติบ่อยที่สุด
ทำอะไรเอาแต่ใจที่สุด (ในสายตาพ่อแม่และผู้ใหญ่) และยังก่อปัญหาไว้เยอะแยะ ปัญหารูปแบบใหม่ๆ หลายตัวก็มาเกิดในช่วงวัยรุ่นนี่แหละ เช่น เรื่องแวนท์บอยสก๊อยซ์เกิร์ลเป็นต้น
ผมอยากให้เข้าใจก่อนครับว่า
ทุกครอบครัวที่มีลูกเป็นวัยรุ่นต้องเจอปัญหาเหล่านี้ จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่กันไป แต่ไม่ใช่ทุกครอบครัวที่มันจะกลายเป็นปัญหาที่บานปลาย
ยังมีพ่อแม่ที่รับมือกับเรื่องพวกนี้ได้สำเร็จ
เมื่อลูกอารมณ์แรงมาเขาก็มีวิธีจัดการอย่างเหมาะสม นอกจากจะทำให้ตัวเองอารมณ์นิ่ง ทำให้ลูกสงบได้ ยังสอนให้ลูกเรียนรู้วิถีแห่งการดำเนินชีวิต เรียนรู้การระงับปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเองได้อีกด้วย ... เขาทำได้อย่างไร นี่สิครับที่น่าสนใจ
โปรดตระหนักว่าวัยรุ่นคือ
วัยรากฐานสำคัญ
ทุกสิ่งและทุกประสบการณ์ที่เกิดกับเขาจะเป็นโครงสร้างชีวิตและพฤติกรรมเมื่อเขาก้าวไปเป็นผู้ใหญ่ ว่ากันง่ายๆ คือคนจะมีคุณภาพมากแค่ไหนก็อยู่ที่ว่าพวกคุณสอนและให้ความรู้ เสริมพลังแห่งความแกร่งให้ลูกวัยรุ่นของคุณได้มากน้อยเพียงใด และผมขอยืนยันตรงนี้เลยว่ามันเสริมได้ ว่าแต่คุณจะเสริมหรือไม่ คุณอยากคุยดีกับลูกหรือเปล่าครับ คุณอยากรู้วิธีทำใจร่มๆ ตอนเจอลูกอาละวาดใส่หรือไม่ คุณอยากให้ลูกคุณเป็นนักแก้ปัญหารุ่นเยาว์ที่ใครๆ ก็ต่างยกย่องชื่นชมหรือไม่ (ซึ่งถ้าจะมีใครชมย่อมต้องชมมาถึงพ่อถึงแม่ด้วย แบบนี้ดีหลายต่อว่าไหมครับ)
หากคุณอยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดกับคุณและครอบครัว ผมก็ต้องขอเวลาสักนิดเพื่อให้คุณอ่านหนังสือเล่มนี้
ค่อยๆ ทำความเข้าใจให้คุณเองรู้แนวทางและรู้ธรรมชาติของวัยรุ่น ขณะเดียวกันก็ต้องปรับตนเองให้ฐานะพ่อแม่ผู้ปกครองหรือตัวแบบที่ดีของวัยรุ่น (แน่นอนว่าในแต่ละสาขาอาชีพ โดยเฉพาะดาราก็ควรอ่านครับ เพราะการวางตัวของคุณมีผลต่อวัยรุ่นจำนวนมาก) นี่คือยุคแห่งการรักลูกให้ถูกทาง เข้าใจลูกให้ถูกเรื่อง การเอาแต่ความคิดเราไปกดใส่หัวลูกไม่ใช่ทางที่เหมาะสม เราเห็นตัวอย่างได้มากมายครับ ลูกบางคนหนีออกจากบ้าน บางคนขาดความมั่นใจกลายเป็นลูกแหงวัยยี่สิบปี เราสามารถระงับไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้ครับ
เขาว่ากันว่าพ่อแม่คือครูคนแรกของลูก คือเพื่อนคนแรกของลูก คืออรหันต์ของลูก พวกคุณคือทุกอย่างของลูก จงเอาคำถามว่า
เราจะช่วยลูกได้หรือไม่ เราจะเลี้ยงลูกวัยรุ่นได้ดีหรือเปล่า
ออกไปครับ อย่าถามตัวเองอย่างนั้น เพราะคุณทำได้อยู่แล้วหากตั้งใจ คุณควรถามว่า
ทำอย่างไร
มากกว่าครับ
ถ้าคุณยังลังเลว่าจะอ่านหนังสือเล่มนี้หรือไม่ ขอให้คิดตัดสินใจง่ายๆ โดยการนึกถึงลูกครับ ถ้าคุณอยากรู้จักพวกเขามากขึ้น อยากรู้วิธีเลี้ยงพวกเขาให้มากกว่าเดิม ... อ่านเถอะครับ
ผมขอบอกวิธีใช้หนังสือเล่มนี้ว่า หนังสือแบ่งเป็นสามภาค สองภาคแรกจะลงลึกว่าพ่อแม่ควรรับมือกับลูกวัยรุ่นอย่างไรให้ได้ผลดี สำหรับภาคสามจะเป็นส่วนพิเศษ มีไว้สำหรับพ่อแม่ที่ต้องการรู้ด่วนเมื่อเกิดปัญหากับลูกแบบฉุกเฉิน จนไม่มีเวลามาอ่านข้อความโดยละเอียดในภาคหนึ่งและภาคสอง ภาคสามจะเป็นเสมือนพลาสเตอร์ยาที่ใช้แปะแผลทันทีที่มันเกิดขึ้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
Create Date : 12 พฤษภาคม 2552
Last Update : 12 พฤษภาคม 2552 10:13:13 น.
1 comments
Counter : 1123 Pageviews.
Share
Tweet
โดย:
baareeraa
วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:44:10 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.