Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 

พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๓๙ ตอนจบ..พระสุรินทฦๅไชยฯ

ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง
ตอนที่ ๓๙ ตอนจบ..พระสุรินทฦๅไชยฯ

กระผมสัญญาไว้ว่าจะนำบทที่ไม่ใช่เสภา มาเล่าให้ท่านฟังกันในตอนนี้ บทที่ว่านั้นคือ แอ่ว พรรณนาถึงความลำบากยากแค้นในการเป็นเชลยของกรุงศรีอยุธยา ดังต่อไปนี้ ขอรับ

แอ่ว

โอแสนวิตก ระหกระเหิน
หาบคอนย่อนเยิ่น ดุ่มเดินเข้ารก
บุกแฝกแหวกคา หย่อมหญ้ากอกก
เหงื่อไคลไหลตก ตะกรกตะกรำ

กินข้าวกะเกลือ กินเหงื่อต่างน้ำ
กินเช้าต่อสาย กินงายต่อค่ำ
หยุดบ้างก็บ่ได้ บักไทยตีร่ำ
นั่งเยี่ยวบ่ทันสุด มันฉุดมันคลำ

ของหกตกคว่ำ ลากร่ำเข้าในรก
มันทันมันก็ตี วิ่งหนีมันก็ชก
ริมลู่ริมทาง ย่างย่างหยกหยก
ขึ้นปกลงปก อกจะแตกตายเอย ฯ

...

โอ้กูหนอกู เมืออยู่เมืองเรา
กินค่ำกินเช้า กับข้าวบ่ขัด
สาวแก่แออัด นัดกันออกทุ่ง
เที่ยวเก็บผักบุ้ง จับกุ้งจับปลา

หอยโข่งหอยขม งมใส่ตะกร้า
ขึ้นบนคันนา มองหารูปู
ขุดตุ่นขุดหนู ขุดรูดักแย้
ฉวยด้วงดักแด้ เที่ยวแหย่รูบึ้ง

จับกบขาเหยียด จับเขียดจับอึ่ง
สิ้นไต้ใบหนึ่ง เป็นครึ่งค่อนข้อง
เอามาแจ่วพล่า แจ่วห้าแจ่วบ่อง
จะไปเวียงใต้ ของไม่เคยท้อง

กินเผ็ดกินจืด ท้องปืดท้องป่อง
ท้องขึ้นท้องพอง จะลงท้องตายเอย ฯ


ในที่นี้ กระผมค่อนข้างสงสัยจริง ๆ ว่าท่านผู้ใดเป็นผู้แต่ง ในบทนี้ จึงได้มี แอ่วลาว ที่มีสัมผัสและลีลาต่างจาก เสภา เป็นอันมาก เข้ามาแทรกอยู่ระหว่างบทอย่างนี้ และท่านนักปราชญ์ผู้นั้น กระผมคิดว่า ท่านจะต้องคลุกคลีกับชาวบ้านพื้นนี้เป็นอันดีทีเดียวแหละขอรับ จึงได้ครบทั้ง คำ และทั้ง ความ ดังที่ยกมาเล่าเป็นนิทานให้พ่อแม่พี่น้องฟังดังที่ว่ามานี้ ขอรับ

จากนั้นกองทัพไทยก็กวาดต้อนครัวลาว เดินทางผ่านเมืองพิจิตร เมืองที่ท่านเจ้าเมือง พระพิจิตร มีบุญคุณต่อขุนแผนเป็นหนักหนาเมื่อคราตกยาก พอไปพักพลอยู่ได้สักพักหนึ่ง ขุนแผนก็ลากองทัพ ยกเข้ากรุงศรีอยุธยาต่อไป ท่านพระพิจิตรก็อวยชัยให้พร

ครั้นบรรทุกสำเร็จเสร็จสรรพ
จะให้ล่องกองทัพกลับกรุงใต้
ขุนแผนลูกยาพากันไป
กราบไหว้พระพิจิตรบุษบา

ลูกจะขอกราบลาฝ่าเท้า
ลงไปเฝ้าสมเด็จพระพันวษา
พอเฝ้าแหนเสร็จสรรพจะกลับมา
ตามสัญญาว่าไว้ให้ทันการ

พระพิจิตรบุษบานารี
ใจดีอวยพรสุนทรสาร
ลงไปให้พระองค์ทรงโปรดปราน
พระราชทานยศอย่างทั้งรางวัล

จำเริญจำเริญสุขีศรีสวัสดิ์
สมบูรณ์พูนสมบัติทุกสิ่งสรรพ์
ทั้งพ่อลูกอยู่เย็นเป็นนิรันดร์
อันตรายขุ่นข้องอย่าพ้องพาน

เมื่อไปทำราชการงานแผ่นดิน
เสร็จสิ้นแล้วจึงกลับขึ้นมา บ้าน
มาปรึกษาหารือเรื่องการงาน
คิดอ่านให้สำเร็จเสร็จไป ฯ


เอ...ขุนแผนเขาสัญญาอะไรกับท่านพระพิจิตรไว้หนอ...? กระผมจะไม่เฉลยละขอรับ เอาเป็นว่าค่อยไปทราบความกันใน นิทานข้างกองฟาง ชุดใหม่ ที่ชื่อชุด จมื่นไวยวรนาถ ก็แล้วกันนะขอรับ

พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ มาถึงตรงนี้ ขุนแผนก็กลับถึงกรุงศรีอยุธยาพร้อมกับลูกชายพลายงามและกองทัพไทยโดยสวัสดิภาพแล้วขอรับ

ครานั้นขุนแผนแสนเสนี
ถึงกรุงศรีชื่นชมสมหมาย
จึงปรึกษาหารือกับลูกชาย
ให้ผู้คนทั้งหลายทั้งลาวไทย

ไปจอดนาวาที่ท่าคั่น
อยู่ด้วยกันกับเรือเจ้าเชียงใหม่
ส่วนเรือประเทียบทองทั้งสองไซร้
ให้เข้าไปจอดท่าวาสุกรี

แล้วสั่งขุนหมื่นพนักงาน
ประจำชานพระฉนวนเป็นถ้วนถี่
เสร็จพลันชวนกันจรลี
เข้าไปที่ศาลาลูกขุนใน

กราบเรียนเจ้าพระยาจักรี
ว่าบัดนี้กระบวนเรือทั้งน้อยใหญ่
รับนางมาถึงซึ่งกรุงไกร
ทั้งตัวเจ้าเชียงใหม่ก็เอามา

แต่พวกครัวลาวเป็นชาวไพร
มอบไว้เมืองพิจิตรนั้นหนักหนา
ทั้งวัวควายเกวียนต่างแลช้างม้า
เครื่องศาสตราอาวุธสารพัน

ครั้นจะให้รวบรวมเอาลงมา
ก็เกรงจะชักช้าจึงผ่อนผัน
ให้ยับยั้งคอยฟังตราสำคัญ
พณหัวเจ้าท่านจะบัญชา

อนึ่งพวกลาวชาวเวียงจันทน์
ที่มาส่งนางนั้นสามร้อยกว่า
รับแต่กึงกำกงนั้นลงมา
แล้วแต่พระกรุณาจะโปรดปราน ฯ


ฝ่ายท่านเจ้าพระยาจักรีได้ฟังความดังนั้น ก็ให้ดีใจเป็นอันมาก ให้เรียกหาราชมัลมากุมตัวเจ้าเชียงใหม่ไว้ทันที

พอวันรุ่งขึ้น ก็ให้ขุนแผนกับพลายงามเตรียมตัวเข้าเฝ้าเพื่อถวายรายงาน แล้วก็มีปรารภว่า สงสารแต่พระท้ายน้ำซึ่งคราวนี้คงจะโดนลงโทษอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ต้องมีพระบริภาษบ้างแน่ละ

แล้วในที่สุด ก็ถึงเวลาเสด็จออกท้องพระโรงรัตนา ซึ่งกระผมก็อดไม่ได้อีกตามเคย ที่จะต้องยกสำนวนกลอนอันงดงามมาให้พ่อแม่พี่น้องฟังอีกแล้ว เพื่อลองเปรียบเทียบกันดูหลาย ๆ สำนวนน่ะขอรับ

จะกล่าวถึงพระองค์ดำรงโลก
ระงับโศกราษฎรให้ร้อนสูญ
เนาในปรางค์รัตน์จำรัสจรูญ
เพิ่มพูนสุขาสถาพร

ล้วนเหล่าสาวสนมกำนัลนาง
เคียงข้างพระแท่นบรรจถรณ์
พอสุริย์ฉายสายส่องช่องบัญชร
บทจรจากห้องบรรทมพลัน

เสด็จสู่ที่ทรงสรงสนาน
สุคนธารหอมฟุ้งทั้งปรุงกลั่น
ทรงภูษาพื้นแดงแย่งสุบรรณ
รัดพระองค์ดวงกุดั่นเด่นมณี

พระหัตถ์ซ้ายทรงพระขรรค์อันบวร
บทจรออกจากข้างในที่
นางเชิญเครื่องเนื่องตามจรลี
พระภูมีออกพระโรงรัตนา

ประทับพระที่นั่งบัลลังอาสน์
งามดังเทวราชไตรตรึงษา
ให้เบิกหมู่ข้าเฝ้าท้าวพระยา
เข้ามาในท้องพระโรงชัย

เจ้าพระยาพระหลวงกระทรวงการ
คุกคลานพรั่งพรูดูไสว
เข้าเฝ้าพระองค์ทรงภพไตร
บังคมไหว้แล้วก็หมอบอยู่พร้อมกัน ฯ


แล้วเจ้าพระยาจักรีก็กราบทูลถวายรายงานว่า บัดนี้ขุนแผนและพลายงาม ได้ยกทัพกลับมาจากเมืองเชียงใหม่แล้ว พร้อมด้วยชัยชนะอย่างงดงาม ได้คุมตัวพระเจ้าเชียงใหม่มาด้วย กับเงินทองเจ็ดสิบกำปั่น ได้ครอบครัวลาวมาห้าพัน คน หนุ่มฉกรรจ์อีกพันห้าร้อยคน ปืนใหญ่สามร้อยกระบอกปืนยาวอีกสามพันกระบอก ดาบไพร่พลหนึ่งพันสองร้อยเล่ม ดาบสำคัญ จากพระโรงแสงต้นอีกประมาณเกือบหกร้อยเล่ม ผู้คนทั้งหลาย มิได้เป็นอันตรายใด ๆ ส่วนเจ้าเชียงใหม่นั้นให้คุมตัวครบขื่อคาห้าประการแล้วพระเจ้าข้า

สมเด็จพระพันวษาก็ทรงปลาบปลื้มพระทัย แล้วก็ทรงมีพระราชปรารภว่า ศึกครั้งนี้มิใช่ศึกธรรมดา แต่เป็นศึกที่แปลกประหลาดยิ่งนัก เพราะทางเชียงใหม่ได้จับผู้คนของเราไว้เป็นตัวประกันไว้มาก เคราะห์ดีที่อ้ายขุนแผนกับอ้ายพลายงามไปหากลอุบายช่วยมาได้ กรุงศรีอยุธยาจึงได้รับชัยชนะ

ฉะนั้น ท่านเจ้าคุณ ไปเบิกตัวอ้ายแผนมากับลูกชาย จะได้ปูนบำเหน็จมันเสียให้สมกับงานสงครามที่มันอาจหาญขนาดนี้

ท่านเจ้าพระยาจักรีจึงได้เบิกตัวขุนแผนมาเข้าเฝ้า สมเด็จพระพันวษาก็ทรงมีประภาษรับสั่งว่า เป็นอย่างไรบ้างเล่าอ้ายแผน ไหนลองเล่าเรื่องให้ข้าฟังบ้างซิ เห็นว่าไปรบกันใหญ่เหมือนกันนี่เว้ย

ฝ่ายขุนแผนก็กราบทูลเรื่องราวทั้งหมดให้ทรงทราบฝ่าธุลี สมเด็จพระพันวษาจึงมีพระราชโองการไปดังนี้ขอรับ

อ้ายขุนแผนพลายงามมีความชอบ
ข้าจะตอบแทนเจ้าให้ถึงที่
ขุนแผนให้ไป รั้งกาญจน์บุรี
มีเจียดกระบี่เครื่องยศให้งดงาม

สัปทนคนโทหมากทอง
ช้างจำลองของประทานทั้งคานหาม
สำหรับใช้ไปณรงค์สงคราม
ให้สมตามความชอบที่มีมา

ให้เป็นที่ พระสุรินทฦๅไชย
มไหสูรย์ภักดี มีสง่า
แล้วตรัสสั่งพระคลังในมิได้ช้า
เติมเงินตราสิบห้าชั่งเป็นรางวัล ฯ


ก็เป็นอันว่า ชีวิตของ นายพลายแก้ว ได้ขึ้นมาถึงจุดที่งดงามที่สุดแล้ว ในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง - ขุนแผน นี้นะขอรับกระผม โดยได้ทรงยศศักดิ์อัครฐาน เป็นถึงที่

พระสุรินทฦๅไชยมไหสูรย์ภักดี ผู้รั้งเมือง กาญจนบุรี


อันเป็นที่ตนเองได้เติบโตมานั้นเอง เรียบร้อยแล้วนะขอรับ ท่านพ่อแม่พี่น้อง

และก็เป็นอันว่ากระผมผู้เล่า นิทานฉบับข้างกองฟาง นี้ ก็ได้ทำหน้าที่เล่าความเรื่อง พระสุรินทฦๅไชย ฯ มาจนสมบูรณ์แล้วในบรรทัดนี้ ขอรับกระผม.

##############################







 

Create Date : 16 มีนาคม 2551
5 comments
Last Update : 16 มีนาคม 2551 11:07:21 น.
Counter : 1566 Pageviews.

 

เรียน ท่านสหาย

ถ้าว่ากันมาถึงอย่างนี้
กระผมก็จักต้องขอขอบพระคุณ ท่านสหาย
ผู้กรุณาอ่าน แล ติดตาม
นิทาน เรื่องนี้


 

โดย: พจนารถ๓๒๒ 16 มีนาคม 2551 11:06:32 น.  

 

ผ่านมาตั้งครึ่งค่อนเดือน
ลืมตบท้าย
เมื่อคราวที่แล้ว

ขออนุญาต เพิ่มเติมเล็กน้อย ขอรับ

เรียน ท่านสหาย

ถ้าว่ากันมาจนถึงอย่างนี้

กระผมก็ต้องขอขอบพระคุณท่านสหาย

ผู้กรุณาอ่าน แลติดตาม
นิทานเรื่องนี้

เปนอย่างยิ่ง ขอรับ

แฮ่. . .


 

โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.188.88 5 เมษายน 2551 3:21:11 น.  

 

คารวะท่านเจ้าของเว็บ

ที่อุตสาหะอธิบายความขุนช้างขุนแผนให้คนทั่วไปได้เข้าใจและมองเห็นความงามของวรรณกรรม

ผมเพิ่งมาได้อ่านเว็บของท่านก็เดือนตุลาปี 2553 พอเหลือบไปเห็นวันที่ที่ท่านโพสไว้ ก็เป็นเวลาสองปีกว่าแล้วทีเดียว

ผลงานของท่านเป็นอมตะครับ

เขียนมาเยอะ ๆ นะครับ

ขอบคุณครับ

 

โดย: zaffer IP: 118.175.29.1 9 ตุลาคม 2553 1:48:20 น.  

 

เข้ามาตามอ่านรวดเดียวไม่ได้นอนเลยครับ 555


ขอบคุณผู้เขียนครับ

 

โดย: Waasuthep IP: 49.228.166.208 1 กรกฎาคม 2554 5:41:08 น.  

 

เข้ามากราบ สวัสดีค่ะ

เข้ามาฝากเนื้อฝากตัว เป้นลูกหลานด้วยคนนะคะ
ส่วนมาก จะเข้ามาอ่านเงียบๆแล้วก็จากไปเงียบๆค่ะ
แบบแอบชื่นชมเงียบๆ
เป็นคนชอบดนตรีไทยเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว
เรื่องโหมโรง ดูเป็น10รอบ (ลุกแฃว CDยืดแล้วแม่)ประมาณนั้นเลย
ดูทีไร ร้องไห้ทุกที ไม่รู้เป็นอะไร ค่ะ อธิบายความรู้สึกไม่ได้ ค่ะ
กราบอีกครั้ง
ชื่นชมและชื่นชอบ
ค่ะ

 

โดย: คนตัดผ้าตัดกระดาษ IP: 88.159.174.134 6 สิงหาคม 2554 14:15:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พจนารถ๓๒๒
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พจนารถ๓๒๒'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.