ในทุกวันนี้หากใครที่มีเงินก้อนหรือเงินเก็บและคิดหวังจะได้เก็บกินดอกเบี้ยเป็นกอบเป็นกำจากเพียงแค่บัญชีเงินฝากธรรมดานั้นคงจะต้องฝันสลายเสียแล้ว เพราะดอกเบี้ยที่มีอัตราชนิดที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แทบจะไม่ให้ผลตอบแทนที่งอกเงยขึ้นมาเลย หลายคนที่มีเงินเก็บจึงมองหาช่องทางอื่นที่จะทำเงินก้อนของพวกเขาให้งอกเงยขึ้นมา การจะนำเงินก้อนที่มีโยกย้ายไปไว้ในจุดที่ได้ดอกผลที่งอกเงยนั้น ก่อนอื่นเราต้องตอบคำถามสองข้อนี้ให้ได้เสียก่อน
1. ปัจจัยในเรื่องของระยะเวลา
เราต้องการลงทุนอะไรดีเพื่อให้ได้ผลตอบแทนหรือกำไรที่งอกเงยกลับมาในช่วงระยะเวลาช้าหรือเร็วเท่าไร เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี และเงินก้อนนี้เป็นเงินที่จำเป็นต้องหยิบมาใช้เมื่อไหร่ หรือเป็นเงินเย็นที่ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้ใด ๆ ในระยะยาว เช่น เป็นเงินก้อนที่สะสมไว้เพื่อเป็นทุนสำหรับศึกษาต่ออีกสองปีข้างหน้า ระหว่างนี้จึงอยากจะนำมาลงทุนให้งอกเงยหรือเป็นเงินที่จะเก็บไว้เป็นเงินทุนสำหรับไปเดินทางท่องเที่ยวในอีก 6 เดือนข้างหน้า เป็นเงินที่จะเก็บไว้ออมเพื่อใช้ในยามแก่เฒ่า เป็นต้น
2. การยอมรับความเสี่ยงและการคาดหวังในผลตอบแทน
เราจะต้องสำรวจและตอบตนเองให้ได้ว่า ความเสี่ยงที่มากที่สุดที่พร้อมจะเสี่ยงนั้นเป็นมูลค่าเท่าไรที่เราสามารถยอมรับได้ และผลตอบแทนเท่าไรที่เราตั้งเป้าคาดหวังไว้ว่าต้องการจะได้รับ ซึ่งอย่าลืมว่าการคาดหวังผลตอบแทนสูง ๆ แต่ไม่ต้องการเสี่ยงหรือเสี่ยงน้อยที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเป็นไปได้เลยในทางปฏิบัติ
หลังจากนั้นเป็นขั้นตอนที่เราต้องมาพิจารณาว่า เราจะเลือกลงทุนอะไรดีในทรัพย์สิน ทุนหรือ หุ้น ใดที่มีความสัมพันธ์กันอย่างลงตัวระหว่างระยะเวลา และมูลค่าผลตอบแทนตามที่เราต้องการนั้น
มีเงิน 100,000 บาท ลงทุนอย่างไรดี
เรามาเริ่มกันที่เงินก้อน 100,000 บาท ว่าจะลงทุนอะไรดีให้งอกเงยเป็นที่น่าพอใจ ตัวอย่างเช่น เราตั้งเป้าคาดหวังผลตอบแทนที่ 1% เราก็ต้องมองหาวิธีลงทุนแบบต่าง ๆ ที่มากกว่า 1% ก็จะเรียกว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย
สำหรับเงินจำนวนนี้ ถ้าเลือกจะลงทุนในธุรกิจก็น่าจะยากมาก อย่างมากก็ได้แค่ธุรกิจส่วนตัว และยังต้องมีเงินทุนหมุนเวียนและเงินสำรองอีก ดังนั้น ถ้ามีเงินเย็นระดับนี้ แนะนำให้นำไปฝากไว้กับธนาคาร ซึ่งมีทั้งแบบออมทรัพย์และฝากประจำจะดีกว่า หรือไม่ก็เลือกมองหาหุ้นปันผลที่มีความมั่นคง กิจการดีและมีประวัติจ่ายปันผลต่อเนื่อง ซึ่งจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนต่อปีมากกว่า % ที่คาดหวังด้วย
ทั้งนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นต้องพึงรู้ไว้ก่อนว่ามีความเสี่ยงต่อเงินต้นมากกว่าเงินฝากธนาคาร แต่ถ้าวิเคราะห์หาหุ้นดี ๆ ไม่ซื้อหุ้นปั่น หุ้นเน่า ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว เงินแสนบาทก็สามารถงอกเงยได้แน่นอน ถ้ามีหลายแสนก็ทบกันไปตามสัดส่วน