กระต่ายกับเต่า
ในยุคสมัยหนึ่งซึ่งนานมาแล้ว มีเจ้ากระต่ายตัวหนึ่งชอบการแข่งขันอยู่เป็นนิจ ได้ท้าวิ่งแข่งกับเหล่าบรรดาสัตว์ต่าง ๆ เพื่อยึดอาหารและสมบัติของสัตว์ที่พ่ายแพ้มันมาตลอด
หลังจากชนะมาร่วมกว่าร้อยแปดรายการ เจ้ากระต่ายก็ได้มายังของบึงกลางป่าทึบแห่งหนึ่ง ที่นั่นเอง เจ้ากระต่ายก็ได้มาพบกับเจ้าเต่ากำลังคลานต้วมเตี้ยมอยู่ข้างริมตลิ่ง

"ช้าชะมัด ! เดินช้าอย่างนี้ไม่เบื่อแย่หรือไง ?" กระต่ายพูดทักเจ้าเต่า พร้อมเอาเท้ากระทืบเบา ๆ ที่กระดองสองที
"ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ข้าไม่เห็นประโยชน์อันใดที่จะรีบร้อน ยิ่งช้ายิ่งชีวิตยืนยาว เร็วไปจะตายไวเอานะ" เจ้าเต่าตอบกลับไป

แต่ด้วยคำตอบนี้ทำให้เจ้ากระต่ายไม่พอใจเป็นอันมาก จึงจัดการพลิกเจ้าเต่าให้หงายขึ้นมาในทันที
"อย่ามาพูดให้ข้าโมโห ไม่รู้หรือไงว่าข้าผู้นี้เป็นใคร ด้วยความเร็วของข้า ข้าจัดการพวกชักช้าเช่นเจ้ามานักต่อนักแล้ว"
"งั้นมาวิ่งแข่งวิ่งกันไหม ?" เจ้าเต่าถาม
"อะ ฮ้า ฮ่า!" เจ้ากระต่ายหัวเราะ "ก็ได้ แต่คนที่แพ้ต้องทำตามคนที่ชนะทุกอย่าง"
"ก็ได้ตกลง แต่ข้ามีเงื่อนไขในการแข่งขันสองอย่าง"
"ไหนลองพูดมาสิ ?"
"อันดับแรก ต้องให้คนที่เคยวิ่งแพ้เจ้าเข้ามาร่วมวิ่งแข่งในครั้งนี้ด้วย แต่หากพวกเขาแพ้อย่าให้พวกเขาต้องทำตามผู้ชนะสั่ง ส่วนอีกข้อ เส้นทางการวิ่งแข่งข้าต้องเป็นผู้กำหนดเอง"
"ก็ได้" เจ้ากระต่ายยอมรับเงื่อนไข



หลังจากที่ตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าเต่าก็ไปหานกแก้ว เพื่อให้ป่าวประกาศการแข่งขันครั้งนี้ขึ้น พร้อมทั้งหาผู้ที่เคยแข่งวิ่งแพ้เจ้ากระต่ายให้กลับมาแก้มืออีกครั้งหนึ่ง
และอีกหลายวันต่อมา การเตรียมการแข่งขันครั้งนี้ก็สมบูรณ์ สัตว์ทุกตัวที่จะเข้ามาร่วมการแข่งขันก็มากันอย่างพร้อมเพรียง ส่วนสัตว์ตัวอื่นที่ไม่ได้เข้าร่วมก็ต่างมาเฝ้ามองการแข่งขันครั้งนี้อย่างหนาตา

เส้นทางการแข่งขันครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่บึงกลางป่าซึ่งเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่ามาพบกันนี่เอง ส่วนเส้นชัย อยู่ที่ยอดเขาลิบ ๆ ห่างจากบึงนั่นเอง

"หวังว่าเจ้าคงจะไม่แก่ตายก่อนที่จะเดินไปถึงหรอกนะ" เจ้ากระต่ายพูดถากถางเจ้าเต่า แต่เจ้าเต้าเองกลับไม่ได้สนใจอะไรในคำพูดเจ้ากระต่ายมากนัก

เจ้านกฮูกที่ได้รับเชิญมาเป็นกรรมการในการแข่งขันครั้งนี้ ก็ประกาศให้ผู้เข้าแข่งขันเตรียมพร้อม ก่อนที่จะส่งสัญญาณให้วิ่ง

ตามที่คาดเดากัน เจ้ากระต่ายเป็นรายแรกที่วิ่งพรวดแซงหน้าทุกตัวไปอย่างรวดเร็ว โดยมีสัตว์ตัวอื่นนำอยู่ห่าง ๆ ส่วนเจ้าเต่ารั้งอยู่ทายสุด เจ้ากระต่ายเห็นดังนี้จึงคิดว่าชัยชนะเป็นของมันแน่
แต่จู่ ๆ เจ้ากระต่ายกลับเจอสิ่งที่ไม่คาดหมาย

ต้นไม้ขนาดยักษ์ ล้มขวางทางอยู่ จะให้อ้อมก็ทำได้ยาก เพราะข้างทางนั้นต่างมีพืชขึ้นรกขวางทางไปหมด เจ้ากระต่ายจึงจำเป็นต้องพยายามปีนต้นไม้นี้ขึ้นไปให้ได้
แต่พยายามอยู่นาน เจ้ากระต่ายก็ปีนไม่ขึ้นสักที จนกระทั่งสัตว์ตัวอื่นต่างตามเจ้ากระต่ายทันกันหมด
"อะไรกัน โดนตามทันแล้วเรอะ !?" เจ้ากระต่ายบ่นระหว่างที่กำลังพยายามปีนข้ามต้นไม้นั้นอยู่

แต่สัตว์ตัวอื่นก็ไม่ต่างกันมาก เพราะต่างก็ปีนข้ามกันไม่ค่อยได้เช่นกัน ยกเว้นแต่เจ้านกกระจิบกับเจ้ากระรอกที่สามารถปีนข้ามไปอย่างง่ายดาย
"ไปก่อนนะ" นกกระจิบกับกระรอกพูดทิ้งท้าย ซึ่งสร้างความเดือดดาลให้กับเจ้ากระต่ายเป็นอันมาก แต่กว่ามันจะข้ามพ้น ก็ผ่านไปอีกหลายนาที

พอพ้นอุปสรรคอันแรก อุปสรรคต่อมาที่เจ้ากระต่ายเจอ ก็คือเหวขนาดใหญ่ ตอนนี้เจ้ากระต่ายวิ่งแซงเจ้ากระรอกทันแล้ว แต่ยังตามเจ้านกกระจิบไม่ทัน เพราะมันสามารถบินข้ามเหวไปได้โดยง่าย
แต่เจ้ากระต่ายก็ต้องวิ่งอ้อมไปไกลเพื่อที่จะข้ามหุบเหวอันนี้
กว่าจะผ่านได้ก็เหนื่อยหอบ แต่สิ่งต่อมาที่เจ้ากระต่ายเจอ ก็คือปากถ้ำยักษ์แห่งหนึ่ง ข้างในนั้นไม่มีแสงแดดส่องถึงเลยทำให้มืดมิดเป็นอันมาก
เจ้ากระต่ายจึงจำเป็นต้องคลำทางไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับเจ้านกกระจิบ ที่มันเองก็ตาบอดกลางคืนมองในที่มืดไม่เห็น

ระหว่างที่งมทางกันอยู่นั้นเอง สัตว์ตัวอื่นก็วิ่งตามมากันทันคราวนี้เจ้าตุ่นกับวิ่งฉิวนำหน้าสัตว์ทุกตัวไปอย่างง่ายดาย

"วะฮ่าฮ่า ถ้าเป็นที่มืดข้าก็วิ่งได้ไม่แพ้ใครหรอก" เจ้าตุ่นวิ่งฉิวนำหน้าเจ้ากระต่ายไปในทันที เพราะแต่เดิมเจ้าตุ่นเองก็อยู่แต่ในโพรงในถ้ำตลอด มันจึงถนัดที่จะวิ่งในที่มืดแบบนี้

ซึ่งเจ้ากระต่ายกว่าจะผ่านมาได้ มันก็มีบาดแผลเต็มตัว เพราะวิ่งชนทั้งผนังและก้อนหินใน ถ้ำจนน่วมไปเสียทั้งตัว
และต่อมาอุปสรรคสุดท้ายก็เป็นลำธารกว้างแห่งหนึ่ง เจ้าตุ่นที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ได้แต่นั่งจ้องอยู่ริมตลิ่ง

เจ้ากระต่ายเองก็เช่นกัน มันว่ายน้ำไม่เป็น จังพยายามหาทางอื่นเพื่อที่จะข้าม ช่วงที่หาทางข้ามอยู่นั้นเจ้าเป็ดก็โผล่มาพอดี

"การวิ่งครั้งนี้ถูกใจข้าเสียจริง ไม่ว่าจะเดินบนดิน จะบินบนฟ้า จะว่ายน้ำในบึง ข้าก็ทำได้หมด" เจ้าเป็ดพูดอย่างอารมณ์ดี แต่คำพูดนี้ไม่ได้ทำให้เจ้ากระต่ายอารมณ์ดีตามไปด้วยเลยสักนิดเดียว

"นี่แหละ เขาถึงบอกว่าเก่งแบบเป็ด ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่ดีสักอย่าง"

หลังจากพูดทับถมเสร็จ เจ้ากระต่ายก็พยายามข้ามลำธารโดยกระโดดไปตามก้อนหินที่อยู่ในลำธารไปเรื่อย ๆ ซึ่งกว่าจะผ่านได้ ก็ทำให้เจ้ากระต่ายหอบแฮ่กเลยทีเดียว
แต่จากตรงนี้ถึงเส้นชัย ก็มีเพียงแค่ทางตรงเส้นเดียว ที่นำหน้าอยู่ก็มีเพียงเจ้าเป็ดเท่านั้น การแข่งครั้งนี้ หากเจ้ากระต่ายไม่อู้นอนหลับ ยังไงมันก็คงชนะแน่ ๆ

"ฮ่า ๆ ๆ คราวนี้ข้าก็ชนะอีกแน่ เจ้าเต่า !" เจ้ากระต่ายกัดฟันด้วยความแค้น "ข้าจะล้างแค้นแกที่หลอกให้ข้ามาวิ่งบ้า ๆ แบบนี้ให้สาสมเลย !"
"เรียกข้ารึ ?" เจ้ากระต่ายตกใจ เพราะจู่ ๆ เจ้าเต่าก็มาอยู่ด้านหลังของเจ้ากระต่ายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"คงจะรู้แล้วสินะ ว่าที่เจ้าวิ่งเร็วก็วิ่งเร็วแค่ทางธรรมดาบนดินเท่านั้น หากไปวิ่งบนฟ้า วิ่งในถ้ำ วิ่งกลางผิวน้ำ เจ้าก็แพ้ตัวอื่นอยู่ดี"
"ข้าไม่สน เพราะยังไงคราวนี้ข้าก็จะชนะอยู่แล้ว ยังไงอย่าลืมสัญญาเสียล่ะ !"
"เจ้าเองก็อย่าลืมสัญญาเช่นกัน หากข้าชนะเจ้าจะต้องทำตามคำพูดข้าทุกอย่างด้วยนะ" ได้ยินเจ้าเต่าเช่นนี้เจ้ากระต่ายก็หัวเราะ
"คิดว่าเจ้าจะชนะข้าได้รึ ?"
"ได้สิ"
"หา ?" แล้วเจ้ากระต่ายก็ต้องตกใจ เพราะพอเจ้าเต่าพูดเสร็จ เจ้าเต่าก็ถอดกระดองของมันออกมาในทันที
"มันถอดได้ด้วย !?" เจ้ากระต่ายแทบไม่เชื่อสิ่งที่มันเห็น
"ฟู่ว ! ไม่ได้ถอดกระดองนี้มากี่ปีแล้วนะ"
พูดเสร็จ เจ้าเต่าก็เหวี่ยงกระดองออกไปข้างทาง กระดองของเจ้าเต่านั้นพอกระทบกับก้อนหินใหญ่ ก้อนหินนั้นก็แหลกไม่มีชิ้นดี แถมผืนดินที่ก้อนหินนั้นอยู่ก็ยุบตัวลงไป โดยมีกระดองของเจ้าเต่านอนนิ่งอยู่ตรงกลาง

"มันหนักเท่าไหร่กันแน่ !" เจ้ากระต่ายที่ตะลึงกับกระดองของเจ้าเต่านั้นก็หันกลับไปมองยังตัวเจ้าเต่า ซึ่งก็ตะลึงกว่าเดิม
เพราะตอนที่มองจากภายนอกนั้น เจ้าเต่าก็เหมือนกับสัตว์แก่ ๆ ที่มีหนังเหี่ยวย่นธรรมดา แต่ภายใต้บริเวณที่เคยมีกระดองบดบังนั้นกลับไปเต็มกล้ามเนื้อทั้งสิ้น

"เตรียมตัว ฮ่าห์ !" เสร็จแล้วเจ้าเต่าก็พุ่งพรวดออกไปทันที

"ระ.... เร็ว !?" เจ้ากระต่ายมองไม่ทันด้วยซ้ำ แป๊บเดียวเจ้าเต่าก็ถึงยังเส้นชัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



สุดท้ายเจ้ากระต่ายก็ยอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมทั้งยอมรับฟังคำสั่งของเจ้าเต่าทั้งหมด
เมื่อเห็นดังนั้น เจ้าเต่าจึงออกคำสั่งกับเจ้ากระต่ายด้วยกันทั้งหมดสามข้อ โดยมีสัตว์ตัวอื่นฟังอยู่ด้วย

"ข้อแรกเจ้าต้องคืนอาหารและสมบัติให้กับเจ้าของเดิมทั้งหมด ข้อสองห้ามเจ้าท้าประลองเช่นนี้อีก ข้าสามอย่ามาโผล่ให้ข้าเห็นหน้าอีกเด็ดขาด !"

เจ้ากระต่ายยอมทำตามทั้งสามข้อของเจ้าเต่า แต่ปัญหามีอยู่คือที่ข้อแรก
"อาหารข้ากินไปหมดแล้ว จะให้ข้าทำยังไง ?"
"งั้นก็สละตัวเจ้าเป็นอาหารแทน"
"ข้าคงทำอย่างนั้นไม่ได้" เจ้ากระต่ายพูดค้าน
"ต้องทำได้สิ  เจ้าก็ใช้ความเร็วที่เจ้าภูมิใจนักหนาหนีรอดเอาให้ได้ดูก็แล้วกัน"

เรื่องนี้ที่จริงแล้วเจ้าเต่าแค่พูดติดตลกเท่านั้น ใจจริงของเจ้าเต่ามันไม่ได้ต้องการจะให้เป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย
แต่ดูเหมือนสัตว์อื่นหลายตัวจะไม่คิดเช่นนั้นด้วย พวกมันต่างจับจ้องไปยังเจ้ากระต่ายด้วยสายตาที่หิวกระหาย

โดยนับตั้งแต่นั้นมา เจ้ากระต่ายและสัตว์อื่นต่างยึดถือสัญญานี้มาตลอด สัตว์หลายตัวที่เคยวิ่งแพ้เจ้ากระต่าย บัดนี้ก็ยังพยายามเอาคืนอาหารที่ไม่ได้กลับมาด้วยการล่าเจ้ากระต่ายกิน
และเจ้ากระต่ายเองก็ไม่เคยท้าวิ่งแข่งกับใครอีก รวมทั้งไม่ไปให้เจ้าเต่าเห็นหน้าอีกเลยสักครั้ง



เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เสือซ่อนเล็บ เต่าซ่อนกล้าม อย่าดูถูกผู้อื่น เพียงเพราะผู้อื่นทำอะไรไม่เก่งเท่าเรา บางครั้งเขาอาจจะ"เทพ"กว่าเรา แต่ไม่อยากอวดความสามารถก็ได้



Create Date : 02 เมษายน 2552
Last Update : 2 เมษายน 2552 21:43:23 น.
Counter : 443 Pageviews.

2 comments
  
สุดยอดดดด

เป็นสิ่งเดียวที่จะคอมเม้นท์นิทานเรื่องนี้ได้!!

ขออนุญาตเอาไปเล่าให้เด็กๆ ที่บ้านฟังล่วงหน้านะครับ!!
โดย: badinblood วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:21:28:53 น.
  
เชิญเลยจ้า

แต่ถ้าจะเอาไปเผยแพร่ที่อื่น ขอเครดิตด้วยนะ
โดย: ซ่อนนาม วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:21:49:50 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ซ่อนนาม
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]