Group Blog
 
All blogs
 

อาหารทำลายกระดูก

อาหารทำลายกระดูก




ใช่ว่าจะกินแต่แคลเซียม แล้วจะทำให้กระดูกแข็งแกร่ง ไม่เป็นสาวกระดุกเปราะ หลังโก่ง เมื่อเป็นคุณยาย เพราะทุกวันนี้คุณอาจเผลอกินอาหารที่ทำลายกระดูกแบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้


อาหารที่ลดความหนาแน่นของกระดูก

1. ดื่มกาแฟมากกว่าวันละ 2 ถ้วย

มีงานวิจัยล่าสุดจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กาแฟแค่ 2 ถ้วยก็มากพอที่จะทำให้กระดูกเปราะบางได้ เนื่องจากคาเฟอีน ในกาแฟ จะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะว่าแล้วสาว ๆ ที่ติดกาแฟ ก็ดื่มน้อย ๆ ลงจะดีกว่าค่ะ

2. น้ำอัดลม

มีงานวิจัยล่าสุดพบว่า เครื่องดืมเย็นซ่าชื่นใจชนิดนี้ มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะกระดูกหักง่ายค่ะ โดยผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะมีโอกาสเกิดกระดูกพรุนมากกว่า ผู้ที่ไม่ดื่ม 3-4 เท่าทีเดียวละค่ะอยากให้กระดูกแข็งแรง ดื่มให้น้อยลง จะดีกว่าค่ะ

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสุขภาพของกระดูก

ผู้หญิงที่มีอายุเกิน 30 ปีแล้ว ความหนาแน่นของกระดูก นอกจากจะไม่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังเริ่มลดลงด้วยค่ะ หากช่วงก่อนหน้านี้ คุณไม่ได้บำรุงกระดูกให้แข็งแรงเต็มที่ ก็อาจทำให้คุณกลายเป็นยายแก่ ที่กระดูกเปราะบางและแตกหักได้ง่าย โดยเฉพาะกระดูกบริเวณสะโพกซึ่งจะเจ็บปวดและทรมานมาก

นอกจากนี้

ผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน กระดูกจะบางลงราว ๆ 2 เปอร์เซ็นต์ทุก 1 ปี ในขณะที่ การกินแคลเซียม เมื่ออายุมากขึ้น ไม่ได้ช่วยความเพิ่มความหนาแน่นให้กับกระดูกแต่อย่างใด เพียงแต่ช่วยชะลอการสูญเสียปริมาตรของกระดูกลง มาเริ่มต้นสร้างความแข็งแรงให้กระดูก ตั้งแต่วัยสาว ๆ หน้ายังใสดีกว่าค่ะ

5 วิธีเสริมความแข็งแรงให้กระดูก

นอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายความหนาแน่นของกระดูกแล้วควรหาวิธีปกป้องและเสริมความแข็งแรงให้กระดูกกันตั้งแต่ยังเป็น ตอนนี้ดีกว่าค่ะ

1. ออกกำลังกาย

เป็นวิธีที่ช่วยให้กระดูกแข็งแรงค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง แอโรบิค เล่นเทนนิส ยกเวท กระโดดเชือก ช่วยเสริมความหนาแน่นให้กระดูกได้ ยกเว้นการว่ายน้า ที่กลับไม่ได้ผลดีนัก

2. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม

แคลเซียม เป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับกระดูกและฟัน โดยเฉพาะแคลเซียมในนมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต เนยแข็ง เป็นแคลเซียมที่ดูดซึมได้ดี แต่ก็มักได้ไขมันเป็นของแถม หากเลือกเป็นนมพร่องมันเนย ก็น่าจะปลอดภัยกว่า

นอกจากนี้อาหารพื้นบ้านเช่น

ปลากรอบ กุ้งแห้ง กะปิ ผักใบเขียว เต้าหู้แผ่น และถั่วเหลือง ก็เป็นเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูงเช่นกัน โดยเฉพาะถั่วเหลืองนั้น นอกจากช่วยชะลอความเสื่อมของกระดูกแล้ว ยังลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมอีกด้วยค่ะ

3. ควบคุมน้ำหนักตัว

การที่ปล่อยให้น้ำหนักตัวมากเกินไป จะทำให้คุณเสี่ยงกับการเป็นโรคกระดูกผุได้

4. เลิกสูบบุหรี่

สาว ๆ ที่ติดบุหรี่ มักมีปัญหาโรคกระดูกผุก่อนเวลาได้ เนื่องจากบุหรี่จะขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้

5. วิตามินดี

วิตามินดี ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้ ช่วยเพิ่มปริมาตรของกระดูกได้ โดยเฉพาะนม มีทั้งแคลเซียมและวิตามินดีสูงแต่การซื้อวิตามินดีมารับประทาน จะทำให้เกิดการสะสมในร่างกาย มากเกินไป และเกิดอันตรายได้

ที่มา : teenee




 

Create Date : 02 เมษายน 2551    
Last Update : 2 เมษายน 2551 20:12:50 น.
Counter : 843 Pageviews.  

5 พฤติกรรมซ้ำ ๆ ทำให้สมองฝ่อ

พฤติกรรมซ้ำ ๆ ทำให้สมองฝ่อ


ในโลกที่เราคาดเดาเกือบทุกอย่างได้ล่วงหน้า กิจวัตรส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมจากจิตใต้สำนึกที่เรากระทำโดยใช้พลังจากสมองน้อยมาก ทำให้ไม่ค่อยมีการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาทในสมองชั้นนอก สมองจึงไม่ค่อยได้ออกกำลัง


ถ้าคุณขับรถหรือนั่งรถไปทำงานโดยใช้เส้นทางเดิมทุกวัน สมองคุณก็จะใช้ประสาทส่วนเดิมทุกวันเช่นกัน การใช้ประสาทเฉพาะส่วนนั้นๆ เป็นประจำทำให้เซลล์ส่วนนั้นแข็งแรง แต่ขณะเดียวกันประสาทส่วนอื่นๆกลับอ่อนแอเพราะถูกละเลย ผลดีก็คือ คุณเริ่มช่ำชองกับเส้นทางจาก ก ไป ข แต่ผลเสียคือ สุขภาพสมอง เพราะสมองพลาดโอกาสที่จะได้รับการกระตุ้นด้วยทัศนียภาพใหม่ๆ กลิ่นใหม่ๆ หรือเสียงใหม่ๆ ซึ่งเป็นความแปลกและหลากหลายที่จะช่วยให้เซลล์ประสาทหลายส่วนได้มีกิจกรรมออกกำลัง

ถ้าสมองได้รับสิ่งใหม่ ส่วนของสมองชั้นนอกหลายส่วนจะมีกิจกรรมมากขึ้นและหลากหลายขึ้น และเกิดการเชื่อมโยงเซลล์ประสาทสมองส่วนต่างๆในรูปแบบใหม่ ส่งผลให้มีการหลั่งสาร นิวโรโทรฟินส์ หรืออาหารสมองมากขึ้น เซลล์สมองจึงแข็งแรงขึ้น

5 วิธีฟิตสมองในตอนเช้า


1. หลับตาอาบน้ำ เปิดก็อกน้ำ ปรับความแรงหรืออุณหภูมิของน้ำโดยใช้ประสาทสัมผัสและความรู้สึก (อย่าลืมฝึกวิธีปรับอุณหภูมิให้แม่นก่อนลงมือเพื่อป้องกันน้ำร้อนลวกตัว) หลับตาใช้มือสัมผัสหาอุปกรณ์อาบน้ำ จากนั้นจึงล้างหน้า อาบน้ำหรือโกนหนวด

2.เกมสลับมือ ขยับสมอง ฝึกใช้มือข้างที่คุณไม่ถนัดแปลงฟัน หมุนฝาหลอดยาสีฟันและป้ายยาสีฟันบนแปรง อาจใช้วิธีนี้กับกิจกรรมยามเช้าอื่นๆ

การฝึกลักษณะนี้เป็นการกระตุ้นสมองส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ให้เริ่มสั่งการเพื่อปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ที่สมองซีกนี้ไม่ค่อยมีส่วนร่วม มีการวิจัยพบว่าการฝึกเช่นนี้ส่งผลให้วงจรและเครือข่ายสมองในส่วนเยื่อหุ้มสมองคอร์แทกซ์ที่ทำหน้าที่ควบคุม และรับส่งคำสั่งจากมือ มีการขยายตัวอย่างมากและในอัตราที่รวดเร็ว หรืออาจลองทำสิ่งต่างๆด้วยมือข้างเดียว ก็ได้

3. อยู่ในโลกไร้เสียง ปิดหูด้วยการใส่หูฟังขณะรับประทานอาหารกับครอบครัวเพื่อสัมผัสโลกเงียบ...คนใกล้ตัวคงเคยบ่นว่าคุณฟังสิ่งที่เขาพูดเพียงครึ่งเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่มักเกิดขึ้นตอนยุ่งอยู่ ลองฝึกตัวเองด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณบังคับตัวเองให้ใช้ตัวช่วยอื่นในการทำกิจกรรม เช่น รู้ว่าขนมปังปิ้งที่อยู่ในเครื่องปิ้งได้ที่แล้วโดยไม่ต้องพึ่งเสียง

4. เช้าวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ลองเลือกกิจกรรมต่อไปนี้หนึ่งหรือสองข้อ แต่ไม่ควรทำหมดทุกข้อในเช้าวันเดียวกัน

• สลับลำดับกิจวัตรตอนเช้า เช่น ถ้าคุณเคยแต่งตัวก่อนกินข้าว ลองเปลี่ยนมากินข้าวก่อนแต่งตัว

• ถ้าคุณเคยรับประทานกาแฟกับขนมปังทุกเช้า ลองเป็นข้าวโอ๊ตและชาสุขภาพ หรืออาหารอื่นบ้าง

• เปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุก เปลี่ยนรายการวิทยุ หรือทีวีไปเป็นรายการที่คุณไม่เคยฟัง รายการเด็กเป็นตัวอย่างที่ดีในการกระตุ้นสมองให้สนใจในเรื่องที่คุณเคยมองข้าม

• เปลี่ยนเส้นทางที่จะเดินทางไปทำงาน
จากการศึกษาภาพถ่ายของสมอง กิจกรรมใหม่ๆจะกระตุ้นเซลล์ประสาทที่กินพื้นที่สมองชั้นนอกในบริเวณกว้าง วิธีเติมกิจกรรมใหม่นี้จะให้ผลลดลงเมื่อกิจกรรมนั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำเป็นกิจวัตรหรือเป็นอัตโนมัติ เนื่องจากสมองต้องใช้พลังในการทำสิ่งใหม่ๆ มากกว่าต่อนทำกิจกรรมที่ทำจนชินแล้ว

5. เซ็กซ์ สุดยอดกิจกรรมออกกำลังสมอง ความตื่นเต้นระทึกใจจากกิจกรรมแปลกใหม่ เป็นหัวใจหลักของการเร้าอารมณ์รักโดยเฉพาะในคู่สมรสที่แต่งงานมานาน เพราะช่วยให้คู่รักพบกับความท้าทายและตื่นเต้นจากประสบการณ์ทางเพศแบบใหม่ ใช้จินตนาการและดึงอารมณ์ความรู้สึกทุกส่วนออกมาปรับใช้ เช่น สวมชุดนอนผ้าไหมที่ให้ความรู้สึกสัมผัสที่เรียบลื่น โรยกลีบกุหลาบหอมกรุ่นบนเตียง นวดสัมผัสกันและกันด้วยน้ำมันหอมระเหย หรือสร้างบรรยากาศด้วยเสียงเพลงโรแมนติค
เซ็กซ์ที่ดีนับเป็นการออกกำลังสมองที่ดี ฟังดูอาจเป็นการสรรเสริญเยินยอกิจกรรมบนเตียง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริง เพราะในกิจกรรมร่วมรักมีการใช้ประสาทสัมผัสทุกอย่างที่ก่อให้เกิดการกระตุ้นในวงจรสมองทุกส่วนรวมทั้งวงจรที่รับรู้เรื่องอารมณ์

เคล็ดลับดีๆอีกมากกับการบริหารสมอง ติดตามรายละเอียดได้จากหนังสือ สมองฟิต ความคิดปิ๊ง
หนังสือแปลจากเรื่อง Keep Your Brain Alive โดย Lawrence C.Katz, Ph.D & Manning Rubin
----------------------------------------------
อ่านจาก forward mail -- hunsa.com ค่ะ




 

Create Date : 02 เมษายน 2551    
Last Update : 2 เมษายน 2551 20:09:43 น.
Counter : 692 Pageviews.  

ห่างไกลโรคข้อ - ปวดคอ ปวดหลัง และการปวดกล้ามเนื้อจากการทำงาน (2 ปรับปรุงท่าทาง)


การปรับปรุงท่าทางในกิจวัตรประจำวัน

ท่านอน ต้องเหมือนกับคนยืนตรง เวลานอนให้ใช้หมอนหนุนคอ จงจำไว้หมอนมีไว้หนุนคอ ไม่ใช่หนุนหัว หมอนที่ดีมีลักษณะตรงกลางบางกว่าซ้ายและขวา หากไม่มีหมอนจะใช้ผ้าขนหนูม้วนเป็นแท่ง แล้วรองหนุนคอให้พอดีก็ได้
นอนหงาย การนอนหงายจะทำให้หลังแอ่น วิธีแก้ ต้องงอสะโพกและเข่า โดยมีหมอนรองใต้โคนขา หลังจะแบบเรียบติดที่นอน
นอนตะแคง เป็นท่านอนที่ดีที่สุด หลังจะตรง นอนตะแคงข้างใดก็ได้โดยกอดหมอนข้างใบใหญ่ ขาล่างเหยียดตรง ขาบนงอก่ายบนหมอนข้าง
-2-
นอนคว่ำ เป็นท่านอนที่ไม่ดี ห้ามนอนท่านี้เด็ดขาด เพราะจะทำให้กระดูกสันหลังแอ่น ทำให้ปวดหลังระดับเอวมากขึ้น กระดูกเอวและคอเสื่อม สำหรับเด็กถ้าต้องการให้หัวทุย ให้เด็กนอนคว่ำได้ 3 เดือน หลังจากนั้นค่อยหัดให้เด็กนอนหงาย หัวก็ยังทุยอยู่

การลุกจากที่นอนและการลงนอน ห้ามสปริงตัวลุกขึ้นมาตรง ๆ เพราะหลังจะสึกมาก ควรปฏิบัติดังนี้
 ถ้านอนหงายอยู่ให้งอเข่าขึ้นมาก่อน
 ตะแคงตัวในขณะเข่ายังงออยู่ ใช้ข้อศอกและมือยันตัวขึ้นในขณะที่ห้อยเท้าทั้ง 2 ข้าง ลงจากเตียง
 ดันตัวขึ้นมาในท่านั่งตรงได้ โดยให้เท้าวางราบบนพื้น ในท่าลงนอนให้ทำสวนกับข้างบนนี้
การดูโทรทัศน์ หรืออ่านหนังสือ ห้ามนอนดู TV หรือนอนอ่านหนังสือ เพราะจะทำให้หมอนรองกระดูกคอสึก นั่งจะดีกว่า
การนั่ง
 ควรนั่งเข้าให้สุดที่รองก้น
 หลังพิงสนิทกับพนักพิง หลังจะตรง
 เท้าวางบนพื้นได้เต็มเท้า
 ส่วนสำคัญของเก้าอี้
– สูงพอดีเท้าวางราบบนพื้นได้
- ที่นั่ง รองรับจากก้นถึงใต้เข่า
- พนักพิง เริ่มจากที่นั่งสูงถึงระดับสะบัก โดยทำมุม 110 องศากับที่นั่งรองก้น

โต๊ะทำงาน ควรจะลาดเอียงเทเข้าหาตัว แบบโต๊ะสถาปนิก คอจะได้ไม่ต้องก้มอ่านหนังสือ

ท่านั่งคอมพิวเตอร์และพิมพ์ดีด >จอคอมพิวเตอร์ควรตั้งอยู่ตรงระดับหน้าเหมือนที่ตั้งโน้ตดนตรีและอยู่สูงพอดีระดับตา จะได้มองตรง ๆ ได้ ห่างประมาณ 2-3 ฟุต มีแผ่นกรองแสง คีย์บอร์ดควรอยู่ระดับเอว หรืออยู่เหนือตักเล็กน้อย ไม่ควรวางคีย์บอร์ดบนโต๊ะเพราะต้องยกไหล่ ทำให้ปวดไหล่

ท่านั่งของผู้บริหาร เก้าอี้ส่วนใหญ่ของผู้บริหารจะเอนไปข้างหลังได้ จึงจำเป็นต้องก้มคออยู่เสมอ ทำให้เหมือนกับนอนหมอนสูง วิธีแก้ ควรให้พนักพิงสูงขึ้นไปจนรองรับศรีษะได้ และควรจะให้บริเวณต้นคอนูนกว่าส่วนอื่น เพื่อรองรับกระดูกต้นคอด้วย หรือมิฉะนั้นให้นั่งเก้าอี้ที่เอนไม่ได้จะดีกว่า ลุกจากที่นั่ง ให้เขยิบก้นออกมาครึ่งหนึ่ง ก้าวเท้าออกไป มือยันที่ท้าวแขน แล้วลุกขึ้น

นั่งขับรถยนต์
 เลื่อนที่นั่งให้ใกล้พวงมาลัย เมื่อเวลาเหยียบครัชเต็มที่ เข่าควรสูงกว่าสะโพก

 หลังควรมีหมอนรองถ้าที่นั่งลึกเกินไปและพนักพิงไม่ควรเอนเกิน 100 องศา

ถ้าที่นั่งนุ่มและนั่งแล้วก้นจมลงในเบาะ ต้องมีเบาะเสริมก้นด้วย

 การเข้านั่งรถยนต์ ให้เปิดประตู หันหลังให้เบาะนั่ง ลงนั่งตรง ๆ แล้วจึงค่อย ๆ หมุนตัวไปข้างหน้าพร้อมยกเท้าเข้ามาในรถทีละข้าง

 การลงจากรถยนต์ ให้ทำย้อนทาง

การดันหรือผลักรถ หันหลังใช้ก้นดัน
การฉุดลาก หันหลังให้วัตถุที่จะฉุดลาก

ไอจาม ห้ามก้มหลังขณะไอจามเด็ดขาด เพราะเวลาไอจามจะมีแรงกระแทกมาก ให้ยืดหลังให้ตรง ใช้มือหนึ่งกดหลังไว้ อีกมือหนึ่งปิดปาก แล้วค่อยไอ หรือจาม
แปรงฟัน ให้นั่งแปรง ห้ามก้มหลังแปรงฟัน

อาบน้ำ ให้นั่งอาบ เวลาถูขาให้ยกขาขึ้นมาถู โดยไม่ต้องก้ม

การยืนนาน ๆ ควรมีตั่งรองเท้า สูงประมาณครึ่งน่อง เพื่อยกเท้าขึ้นพักสลับข้างกัน ทั้งนี้เพราะเวลางอสะโพกและเข่า กระดูกสันหลังจะตั้งตรงไม่แอ่นหรืองอ ทำให้ยืนได้นานโดยไม่ปวดหลัง และช่วยพักขาเวลาเมื่อยขา เปลี่ยนสลับขาบนตั่งได้




 

Create Date : 02 เมษายน 2551    
Last Update : 2 เมษายน 2551 20:08:33 น.
Counter : 317 Pageviews.  

เกร็ดความรู้มี 10 พฤติกรรมที่ทำให้สมองฝ่อเร็วมาบอกกัน...


1. ไม่ทานอาหารเช้า จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำนี่จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม

2. กินอาหารมากเกินไป จะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัวเป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น

3. สูบบุหรี่ สาเหตุที่ทำให้เป็นโรคสมองฝ่อและโรคอัลไซเมอร์

4. ทานของหวานมากเกินไป ไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารเป็นประโยชน์เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาของสมอง

5. มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกายการสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง

6. อดนอนเป็นเวลานาน จะทำให้เซลล์สมองตายได้เพราะการนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อน

7. นอนคลุมโปง ไปเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพ การทำงานของสมอง

8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วยจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว

9. ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมองการขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ

10. เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง รู้อย่างนี้แล้วก็หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ว่า เพื่อจะได้มีสมองที่ดีกว่า

````````````````````````````````````````````````````
ฝ่อไปเกือบ 60% แล้วเรา




 

Create Date : 02 เมษายน 2551    
Last Update : 2 เมษายน 2551 20:07:04 น.
Counter : 508 Pageviews.  

รักษาไมเกรนด้วนตนเอง

กันจะทำให้เส้นเลือดในสมองตีบได้ค่ะ เพราะอาการไมเกรนจะทำให้เส้นเลือดในสมองพองตัวตามจังหวะการเต้นของหัวใจ

ผลข้างเคียงที่ 2 คือ ยาทำให้คลื่นไส้อาเจียนค่ะ ให้แบ่งทานครึ่งเม็ดก่อนแล้วอีกสักพักค่อยทานต่ออีกครึ่งเม็ดค่ะ จะช่วยได้บ้าง จริง ๆ แล้วเป็นไมเกรนก็ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน อยู่แล้วค่ะ

sibilium จะออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไปสมองลดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ ค่ะ

วิธีรักษา ง่าย ๆ แต่อาจจะทำยาก ของเราใช้เวลา 1 ปีเห็นผลชัดเจน

หนึ่ง ออกกำลังกาย

สอง ฝึกสมาธิ เริ่มแรกก็ นั่งหายใจเข้า หายใจออก วันละ 2-3 นาทีก่อน
ไม่บอกให้ทำ 5 นาที เพราะเดี๋ยวจะอึดอัดใจตายซะก่อน ฮ่า..ฮ่า
พยายามทำทุกวัน

สาม หัดปล่อยวาง งานด่วนงานเร่ง ทำไม่ทันก็ช่างมัน เราพยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว

สี่ มองโลกในแง่บวก ทุกอย่างจะดีขึ้น เดี๋ยวปัญหามันก็ผ่านไปได้
ลองอ่านของหนูดี วนิษา เรซ ก็ได้ค่ะ

แค่นี้ล่ะค่ะ หายแน่ ยกเว้นสภาพอากาศกดดัน อบอ้าว กดดันสุด ๆ อันนี้ก็คงต้องทานยากันบ้างล่ะค่ะ เดี๋ยวนี้เราไม่ต้องพกยาอะไรเลย...สบายดีแท้
เลยอยากแนะนำเพื่อน ๆ ที่เป็นอ่ะค่ะ ถือเป็นการทำบุญไปในตัว เพราะรู้ว่าเวลาปวดมันทรมานแค่ไหน




 

Create Date : 02 เมษายน 2551    
Last Update : 2 เมษายน 2551 20:05:57 น.
Counter : 526 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

npmail
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
.....ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า, พระองค์นั้น

อะระหะโต
.....ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส

สัมมาสัมพุทธัสสะ
.....ตรัสรู่ชอบได้โดยพระองค์เอง

~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~

Blog นี้เอาไว้เก็บเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เอาไว้อ่านเองค่ะ ไว้ว่าง ๆ ค่อยกลับมาอ่าน ส่วนใหญ่ก็ก็อป ๆ มากจากคนอื่นค่ะ ต้องขอขอบคุณ ณ ที่นี้นะคะ

ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่าน ที่แบ่งปันของแต่งบล็อกสวย ๆ ให้มาแต่งบล็อกนี้

และขอขอบคุณทุกท่านที่ Vote ให้ด้วยนะคะ
โหลดเพลง นิยาย คลิปวีดีโอ การ์ตูน โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน ดูดวง โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคล 60 ปีราชาภิเษก และ 84 พรรษามหาราชา โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคล 60 ปีราชาภิเษก และ 84 พรรษามหาราชา โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคล 60 ปีราชาภิเษก และ 84 พรรษามหาราชา
Friends' blogs
[Add npmail's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.