Group Blog
 
All blogs
 

วุ้นลูกตาเสื่อม

วุ้นลูกตาเสื่อม (Vlireous degeneration) เตือนคนที่ใช้คอมพิวเตอร์บ่อย

เตือนคนที่ใช้คอมพิวเตอร์บ่อย ไม่ว่าจะใช้เล่นเกมส์ หรือใช้ว่าทำงานลองอ่านดูนะ แล้วก็ดูแลตัวเองด้วย ตอนนี้ในประเทศไทยมีคนเป็นโรค ' วุ้นในลูกตาเสื่อม '
ถึง 14 ล้านคนแล้วค่ะจากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์?? นี่เฉพาะแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้นะคะ คนที่ไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองก็เป็นจะมากขนาดไหน


เราคิดว่า ในขณะที่คุณอ่านข้อความของเรานี้จากทางเน็ตบางคนก็เป็นแต่ไม่รู้ตัวค่ะ


อาการก็คือ == > คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนยักใย่ ลอยไปลอยมา

เหมือนคราบที่ติดกระจกนะคะ จะเห็นชัดก็ต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง
เช่น ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา ถ้าอาการมากกว่านั้นก้อคือ ประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา (น่ากลัวมากๆ) และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด (ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม จะตาบอดหรือไม่ ?)


สาเหตุของโรคนี้คือ == > การใช้สายตามากเกินไป (เล่นคอมพ์)


แต่ ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้สายตามากๆ เช่น ช่างเจียรไนเพชรพลอย ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ แต่เดี๋ยวนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเน็ต หรือ เล่นคอมพ์


คุณฟังไม่ผิดหรอกค่ะ เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคนี้กันมากเพราะเล่นคอมพ์นี่แหละ ถามว่าทำไม คนเล่นเน็ต เล่นคอมพ์ ถึงเป็นกันมาก ? ไม่ว่าคุณจะเล่นเน็ต , เล่นเกมส์ , อ่านไดอารี่ , อ่านบทความ , อ่านหนังสือ หรืออะไรก็ตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้น
เพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ ระยะห่างระหว่าง ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอน เพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด
ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอน กล้ามเนื้อและประสาทตา จึงทำงานค่อนข้างคงที่


แต่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกัน เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่ชัด สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส
(เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว แต่เรามองผ่านมันไป
และจอ LCD เราก้อต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน ตัวหนังสือมันไม่ได้ติดอยู่ด้านบน เหมือนอยู่บนแผ่นกระดาษ การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน)


บวก กับ ลักษณะการอ่านหน้าหนังสือในคอมพ์นั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง เพื่อจะอ่านบรรทัดด้านล่างได้ หรือไม่ก็ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์ หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ แต่การเลื่อนบรรทัดนี้ มันไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษที่แขนกับคอ จะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน


แต่ ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้างหรือลูกกลิ้งบนเม้าส์นั้น มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ (คุณสังเกตุดู) มันจึงทำให้ปวดตามากๆ เพราะลูกตาจะต้องลากลูกตา เลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้นบางที คุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว
ว่ากดตำแหน่งบนแป้มพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้เดี๋ยวก้ม เดี๋ยวเงย ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก


กว่า จะพิมพ์งานเสร็จคุณจะปวดตามากๆๆ อย่างเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดโปรแกรม word ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีสว่าง
(ที่นิยมก็คือ ตัวหนังสือดำ พื้นสีขาว) สีพื้นที่สว่างขาวจ้า นี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง


ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป หรือไม่ก็ ในคนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อยๆ มักจะมีการปรับแสงสว่างให้จ้าที่สุด
เพราะเวลาเล่นเกมส์ ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ เป็นสีกำแพง เป็นสีปราสาท มันจะให้สีสวยสดดี


แต่ การทำแบบนี้มีข้อเสียคือ บางทีคุณหรือพี่น้องของคุณมาใช้คอมพ์เครื่องนั้นต่อ จะทำให้บางครั้งลืมปรับความสว่างกลับมาให้มืดเหมือนเดิม
จากที่แค่สว่างพอที่จะพิมพ์รายงาน กลายเป็นจ้องจอสว่างจ้าตลอดคืนไม่รู้ตัว สรุป ก้อคือ


1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก "ทำให้สายตาเสีย"


2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอมพ์ หรือ หน้าเน็ต มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ทำให้สายตาเสีย การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เองที่ทำให้สายตาเสีย ถ้าคุณอ่านหนังสือจากเวปมากๆ คุณจะติดนิสัยเสียอย่างนึงติดตัวไปคือ คุณจะติดนิสัย มองอะไรก็ตาม ไม่ว่าใกล้ไกล จะปรับโฟกัสมองเพ่งอยู่เสมอ


ผลก้อคือ กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก คุณจะเริ่มมองของที่อยู่ไกลๆ เบลอๆ คุณจะไม่สามารถปรับโฟกัส มองของใกล้ แล้วมองไกล ได้ทันทีเหมือนเคย (กล้ามเนื้อประสาทลูกตาจะล้า การปรับโฟกัสลูกตาเริ่มช้าลง)


3. การก้มๆ เงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอมพ์ กลับไปกลับมา ' ทำให้สายตาเสีย '


4. การปรับจอภาพที่มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว ' ทำให้สายตาเสีย '
(ข้อนี้ คล้ายๆ กับ การเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน)


5. การใช้จอคอมพ์ ที่มีความกว้างมากเกิน จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพดูหนัง แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ เพราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต
(12 นิ้ว) แต่จอคอมสมัยใหม่ กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น ซึ่งมันกว้างเกินระยะกวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่อีกขอบหนึ่ง
(ทำให้ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา)


แค่ คุณนั่งอ่านหนังสือบนจอกว้างแบบนี้หนึ่งชั่วโมง ลูกตาคุณจะทำงานปรับโฟกัส กลับไปกลับมาเป็นพันๆ ครั้ง และถ้าเป็นปี หรือ หลายปี ติดต่อกัน สายตาคุณเสียแน่นอน เพราะฉะนั้น ถ้าคุณจะอ่านหนังสือจากจอคอมพ์
ขนาดของจอคอมของคุณควรไม่เกิน 15 นิ้ว


ถามกลับไปว่า ทำไม กระดาษเอกสารที่ใช้ในการอ่าน การเขียนทั่วไป จึงมีขนาด A4 ?
(คำตอบ ก็คือ ความกว้างของกระดาษ A4 ไม่กว้างเกินไป กำลังพอดี ในการกวาดสายตามอง ยังไงล่ะคะ)


และเป็นคำตอบเดียวกับที่ว่า ทำไมขนาดของจอคอมพ์คุณที่จะเอามาอ่านหนังสือ ไม่ควรเกิน 15 นิ้ว นั่นเอง


ส่วน มากคนทั่วไป มักจะคิดไม่ถึงว่า การเล่นคอมพ์ทุกวัน ง่ายๆ นั้น จะเป็นสาเหตุให้ี่สามารถทำให้ตาบอดได้ ถ้าเกิดรุนแรง เพราะกว่าจะรู้ตัวไปหาหมอ หมอก็อาจจะบอกว่าคุณไม่สามารถรักษาหายได้แล้ว และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น!!! เราจึงอยากจะฝากประโยคเอาไว้ให้คนที่เล่นคอมพ์ทุกคนว่า คอมพิวเตอร์นั้น มีไว้สำหรับการค้นหามูล ไม่ได้มีไว้สำหรับการอ่านเป็นประจำ โดยเฉพาะการอ่าน อะไรก็ตามที่ยาวๆ เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นไดอารี่ หนังสือบนเนต คุณเสี่ยงทั้งนั้น


เพราะฉะนั้น เราควรจะกลับมาอ่านหนังสือกระดาษกันเหมือนเดิม เพื่อสุขภาพตา


เพิ่มเติม...........


ปกติ ที่เห็นใยแมงมุมดำๆ (เรียกว่า Floaters) เป็นผลจากการเสื่อมสลายของวุ้นในลูกตาจนเกิดเป็นตะกอนข้างใน ไม่ได้เป็นอันตรายค่ะ เมื่อเวลาผ่านไปตะกอนจะค่อยๆ ลอยออกจากลานสายตาไปอยู่บริเวณขอบๆ มากขึ้นจนเราจะไม่สังเกตเห็นมันไปเอง
แต่ คนที่เริ่มมีอาการเห็นแสงกระพริบ (Flashing) นั้นน่าสงสัยว่าอาจมีจอประสาทตาลอก (Retinal detachment) หรือวุ้นลูกตาลอก (Posterior vitreous detachment)


คนที่เพิ่งจะเริ่มสังเกตเห็น อาการนี้เป็นครั้งแรก แนะนำให้ไปพบจักษุแพทย์ค่ะ เพื่อตรวจดูว่าเริ่มมีจอประสาทตาลอก/วุ้นลูกตาลอกแล้วหรือยัง ถ้าแพทย์บอกว่ายังไม่มี เป็นแค่วุ้นลูกตาเสื่อมธรรมดา ก็สบายใจได้ แต่ไม่ใช่สบายจนลืมระวังตัวนะคะ ต้องคอยสังเกตตัวเองด้วยว่าถ้าเห็น Flashing กับ Floater ปริมาณมากกว่าเดิมแบบเฉียบพลัน ควรกลับไปพบแพทย์อีกครั้งค่ะ


ในคนปกติจะมีการเสื่อมสลายของวุ้นลูกตาอย่างช้าๆอยู่ตลอดเวลาค่ะ
แต่จะมีอาการเร็วหรือช้าก็ขึ้นกับปัจจัยเสี่ยงของแต่ละคนอีก
- คนที่มีสายตาสั้นมากๆ
- เคยมีประวัติกระทบกระเทือนลูกตาอย่างรุนแรง
- เคยมีการอักเสบหรือติดเชื้อภายในลูกตา
- เคยได้รับการผ่าตัดต้อกระจก
- คนที่มีวุ้นลูกตาลอกหรือจอประสาทตาลอกมาแล้วข้างหนึ่ง
- คนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรควุ้นลูกตาเสื่อมหรือจอประสาทตาลอก
คนเหล่านี้ก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการเสื่อมสลายของวุ้นลูกตาได้เร็วกว่าคนทั่วไป



การป้องกัน


จาก ที่ได้อ่านที่ดอสโพสไว้ การใช้สายตาให้น้อยลงก็อาจเป็นหนทางหนึ่งที่ป้องกันการเกิดได้นะ แต่ว่าในบทความของต่างประเทศส่วนใหญ่จะไม่ได้กล่าวถึงส่วนนี้
การป้องกัน ที่ดีที่สุดคือ การรู้จักอาการของโรค และระวังตัวเองอยู่เสมอ เมื่อเริ่มสังเกตเห็น Flashing หรือ Floaters ก็ควรพบจักษุแพทย์ทันทีเพื่อตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีจอประสาทตาหรือวุ้นลูก ตาลอกเกิดขึ้น เป็นการป้องกันไม่ให้โรคดำเนินไปถึงจุดที่อันตรายนั่นเอง


การ เห็น Floater ถือเป็นความผิดปกติ นะคะ แต่การที่เพิ่งมองเห็นเป็นครั้งแรก ปริมาณไม่มากนัก และได้พบจักษุแพทย์เพื่อยืนยันแล้วว่าไม่มีการเกิดจอประสาทตาหรือวุ้นลูกตาล อก เป็นเพียงแค่วุ้นลูกตาเสื่อม นี่คือไม่อันตรายค่ะ


แต่ถ้าเห็น Floater หรือ Flashing ปริมาณมากขึ้นกว่าเดิม อันนี้ต้องเริ่มสงสัยครับว่าโรคได้ดำเนินต่อไปถึงขั้นที่มีการลอกแล้วหรือ เปล่า ถ้าปล่อยไว้นานโดยไม่ใส่ใจถึงปริมาณที่เพิ่มขึ้นอยู่ อาจเป็นอันตรายได้ ซึ่งต้องรีบพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจค่ะ




 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 20 กรกฎาคม 2551 19:11:22 น.
Counter : 324 Pageviews.  

Test IQ

//www.kanid.com/iqtest.php




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 19:38:43 น.
Counter : 341 Pageviews.  

Test your brain...... คณุอาน่ได้มยั้

คณุอาน่ได้มยั้

ถ้าคณุอาน่บทคาวมนี้ได้ คณุมีความคดิที่แขง็แรงพอสวคมรเลยนะ คณุอาน่ได้หรอืเลป่าล่ะ
มีแค่ 55 คนจาก 100 เท่านนั้แล่หะที่อาน่ได้

ฉนัไม่อายกจะเชอื่เลยว่า ฉนัเข้าใจสงิ่ที่ฉนักำลงัอาน่อู่ยนี้
มนัเปน็ปฎกราากรณ์ของคาวมคดิของม์ษุยน
ผลการศกึาษวจิยัจาก มวหายิทัาลย แบมคิร์จด ก่าลวว่า มนัไม่สคำญเลย
ว่าตวัอรัษกเยีรงถตอ้กูงหรอืไม่ในคำคำหนงึ่ มนัสคำญแค่ว่า
ตวัอษักรแรกและตวัอษกัรตวัสดุทาย้ของคำนนั้อู่ยในตนำแห่งที่ถกูตอ้ง
ที่เลืหอนนั้มนัจะมวั่ซวั่อ่ายงไร คณุก็อาน่มนัได้อู่ยดี ไม่มีปหญัา


ที่เปน็อาย่งนี้เราพะคาวมคดิของมษุน์ยนนั้ ไม่ได้อาน่ตวัอษกัรทกุตวัซกัหอน่ย แต่อาน่เปน็คำเตม็ ๆ คำ
สดุยอดเลยใช่มยั้ล่ะ ใช่เลย
แต่ยงัไงฉนัก็คดิว่าการสกะดมนัสคำญันะ
ถ้าคณุอาน่บควาบมนี้ได้ ชว่ยสง่ตอ่หอน่ยนะ….




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2551 18:32:46 น.
Counter : 300 Pageviews.  

การเตรียมตัวก่อน......บ ริ จ า ค โ ล หิ ต

u>เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและของผู้ป่วยที่จะรับโลหิตของท่าน และจะได้ไม่ต้องเสียเวลาและความตั้งใจไปแล้วบริจาคไม่ได้ค่ะ

ขอความกรุณาอ่านเพื่อเตรียมตัวก่อนถึงวันบริจาคโลหิต ดังนี้

1. ท่านต้องมีอายุเต็ม 17 ปีบริบูรณ์ ถึง 60 ปี มีน้ำหนัก 45 กก. ขึ้นไป ทั้ง หญิงและชาย

2. ต้องนอนหลับเพียงพออย่างน้อย 6 ชม.

3. ไม่มีอาการท้องเสีย ท้องร่วงมาก ภายใน 7 วันที่ผ่านมา หรือกำลังเป็นไข้หวัด

4. น้ำหนักต้องไม่ลดผิดปกติในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

5 หากรับประทานยาแอสไพริน, ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาแก้ปวดอื่น ๆ ต้องหยุดยามาแล้ว 3 วัน
ถ้าเป็นยาแก้อักเสบหรือยาอื่น ๆ ต้องหยุดยามาแล้ว 7 วัน

6. ไม่เป็นโรคหอบหืด, ผิวหนังเรื้อรัง, ไอเรื้อรัง, วัณโรค หรือภูมิแพ้อื่น ๆ

7. ไม่เป็นโรคความดังโลหิตสูง, เบาหวาน, หัวใจ, ตับ, ไต, มะเร็ง, ไทรอยด์, โลหิตออกง่าย - หยุดยากหรือโรคประจำตัวอื่น ๆ

8. หากถอนฟันต้องทิ้งระยะอย่างน้อย 3 วัน

9. หากเคยได้รับการผ่าตัดใหญ่ต้องเกิน 6 เดือน หากผ่าตัดเล็กต้องเกิน 1 เดือน

10. ท่านหรือคู่ครองของท่านต้องไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือเบี่ยงเบนทางเพศ

11. ต้องไม่มีประวัติติดยาเสพติด หรือเพิ่งพ้นโทษต้องเกิน 3 ปี และมีสุขภาพดี

12. หากเจาะหู, สัก, ลบรอยสัก หรือฝังเข็มในการรักษา ต้องเกิน 6 เดือนไปแล้ว

13. หากมีประวัติเจ็บป่วย และได้รับโลหิตของผู้อื่นต้องเกิน 1 ปี

14. หากมีประวัติเป็นโรคมาเลเรีย ถ้าเคยเป็นต้องหายมาแล้วเกิน 3 ปี
หากเคยเข้าไปในพื้นที่ที่มีเชื้อมาเลเรียชุกชุม
ต้องทิ้งระยะอย่างน้อยเกิน 1 ปี จึงจะบริจาคโลหิตได้

15. สตรีต้องไม่อยู่ในระหว่างมีรอบเดือน

16. หลังการคลอดหรือแท้งบุตรต้องเกิน 6 เดือน

17. ต้องไม่ได้รับวัคซีนในระยะ 14 วัน หรือเซรุ่ม ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา
ถ้าเคยฉีดยาป้องกันพิษสุนัขบ้า ต้องเกิน 1 ปี

18. ก่อนบริจาคโลหิต ต้องรับประทานอาหารให้เรียบร้อย ยกเว้นประเภทมันจัด

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย



*** ข้อควรระวัง อย่าไว้ใจ...หลังจากบริจาคแล้ว 1 ชม. ***
จากประสบการณ์ของตัวเอง หลังจากบริจาคแล้วก็นั่งรับประทานขนม น้ำหวาน แล้วก็นั่งเล่นซักพัก รู้สึกกระปรี้กระเปร่าดี ไม่น่าจะเป็นอันตรายใด ๆ ก็เลยกลับออกมา แล้วก็ไปเดินดูหนังสือต่อที่ศูนย์หนังสือจุฬา สยามสแควร์

ปรากฎว่าหลังจากที่บริจาค ประมาณ 1 ชม. อาการไม่ค่อยดี หวิว ๆ ตาลาย
เหงื่อแตกตัวเปียกไปหมด เป็นลม รีบไปนั่งตรงบันไดทางขึ้นไปชั้นหนังสือต่างประเทศ

โอ้ย ! จะตายอยู่แล้ว ไม่มีใครสนใจเลย ต่างคนต่างดูหนังสือไป ยาดมก็ไม่มี สวดมนต์ไป เช็ดเหงื่อไป นั่งอยู่ประมาณ 20 นาที ถึงหาย อาการดีขึ้น ตัวเปียกเหงื่อไปหมด รีบกลับบ้านดีกว่า

อาการนี้ อาจจะไม่เกิดขึ้นกับทุกคนที่บริจาค และระยะเวลาที่จะเกิดอาการก็อาจจะต่างกัน เพียงแต่อยากแนะนำว่าอย่าประมาท อย่าคิดว่านั่งพักทานขนม น้ำหวาน แล้วจะแข็งแรงดี หรืออาจจะเพราะเที่ยวนี้บริจาคเพิ่มอีกนิดหน่อย เพราะระบุบริจาคสแต็มเซลล์ด้วย

สุดท้ายขอเชิญชวนให้ทุกท่านที่แข็งแรงดี ไปทำบุญบริจาคโลหิตและสแต็มเซลล์ (ต้องเคยบริจาคโลหิตมาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง) เพื่อผู้ป่วยที่นอนรอความช่วยเหลือจากท่าน




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 4 กรกฎาคม 2551 10:25:01 น.
Counter : 606 Pageviews.  

แจกยาฟรีผู้ป่วยลูคิเมียเรื้อรัง

ขอประชาสัมพันธ์ครับ สำหรับผู้ป่วย หรือมีคนใกล้ตัว คนข้างบ้าน หรือคนรู้จัก เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) และ
มะเร็งกระเพาะอาหาร จะได้ช่วยกันบอกต่อ...

แจกยาฟรีผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งกระเพาะอาหาร โรคร้ายที่นำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและคร่าชีวิตผู้คนในอันดับต้นๆ
ในทุกวันนี้ คงต้องนับรวมมะเร็งเม็ดเลือดขาวและ มะเร็งกระเพาะอาหารไว้ด้วย

โดยผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวเรื้อรังและโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของเลือดนี้
ส่วนใหญ่นอกจากจะต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายค่ ายาสูงลิบ ก็ยังประสบปัญหาเรื่องการท ำงานการใช้ชีวิตที่มีข้อจำกัดอย่างยิ่ง ภาวะของโรคจะบั่นทอนลงไปเรื่อยๆ
สร้างความหดหู่ทั้งต่อผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิด


ล่าสุด บริษัทยาข้ามชาติโนวาร์ตีส ได้จัดตั้งโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยนานาชาติจีแพป(GIPAP:Glivec InternationalPatient Assistance Program) ซึ่งเป็นโครงการให้ความ ช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง ( Chronic Myeloid Leukemia) ที่มีผลฟิลาเดเฟียโครโมโซม ( philadephia chromosome) เป็นบวก ผู้ป่วยมีอาการในระยะรุนแรง ของโรค หรือผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดจีสต์ (GIST-Grstro-Intesinal
Stromal Tumor) ที่ผ่าตัดไม่ได้ และอยู่ใน ระยะลุกล าม(มี c-Kill หรือ CD117 เป็นบวก)

โดยโครงการจะจัดมอบยาของบริษัทให้แก่ผู้ป่วยโดยไม่คิดมูลค่า รวมทั้งจะ มอบให้ต่อเนื่องจนกว่าจะมี
ยาอื่นที่เป็นทางเลือกของผู้ป่วยได้ต่อไป !

ดร.แดเนียล วาเซลลา ผู้บริหารระดับสูงของโนวาร์ตีส(สหรัฐอเมริกา) กล่าวว่าประเทศไทย เป็นหนึ่งใน 80 ประเทศทั่วโลก ที่ได้ร ับอนุมัติในโครงกา! รดังกล่าว ปัจจุบันจีนพบมีผู้ป่วยมากกว่า 1.8หมื่นราย โดย มีผู้ป่วยจากประเทศไทยประมาณ 800 คนซึ่งนับว่ายังน้อยมาก

จึงต้องการประชาสัมพันธ์เพื่อผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวอาจจะสนใจเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ได้จัดตั้งมูลนิธิแมกซ์ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลนานาชาติ ในการประเมินและอนุมัติผู้ป่วยที่มีสิทธิได้รับยาฟรีดังกล่าวทั้งนี้ สำนักงานมูลนิธิแมกซ์ ตั้งอยู่ที่ซีแอตเติล

ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 โดย ' เพโดร ริวาโรลา ' ( Pedro Rivarola) เพื่อเป็นเกียรติแก่บุตรชาย ' แม็กซิมิเลียโน ริวาโรลา ' (Maximilliano Rivarola) ซึ่งเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเม็ดโลหิตด้วยวัยเพียง 17 ปี

สำหรับมูลนิธิแมกซ์ในประเทศไทยได้จัดตั้งมูลนิธิสาขา ได้แก่ แมกซ์!
(ประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นผู้ทำการพิจารณาอนุมัติอย่างอิสระ

สำหรับผู้ป่วยที่จะขอความช่วยเหลือจากจีแพปได้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1.ผู้ป่วยจะต้องได้รับการวินิจฉัยโรคโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง

(CML-Ch ronic Myeloid Leukemia) หรือ มะเร็งกระเพาะอาหาร ( GIST)
ซึ่งได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า มีผล CD 117 เป็นบวก
2. ผู้ป่วยเป็นผู้มีสัญชาติไ! ทยและมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
3. ไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้

4.ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองได้ และไม่ได้รับเงินสนั บสนุนจากที่ใดทั้งสิ้น

หากมีคุณสมบัติครบให้ปฏิบัติดังนี้
1. แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการรับยาฟรีจากจีแพปกับแพทย์ผู้รักษา
แพทย์ของ ท่านจะดำเนินการจัดส่งใบ สมัครในนามของท่านออนไลน์ไปที่
//www.themaxfoundation

2. ให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเอง ที่อยู่
เบอร์โทรศัพท์และชื่อของแพทย์ผู้รักษา
3. ภายหลังจากที่แพท ย์ข!
องท่านส่งใบสมัครมาที่มูลนิธิแมกซ์แล้ว
เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับไปหาท่านเพื่อนัดสัมภาษณ์
4. กรณีที่ได้รับการอนุมัติ มูลนิธิจะแจ้งผลไปยังบริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) เพื่อจัดส่งยาผ่านแพทย์ผู้รักษาตัวท่าน

5. แพทย์จะเป็นผู้แจ้งผลการพิจารณาผลการอนุมัติให้ท่านทราบเอง

ส่วนโรงพยาบาลที่เข้าร่วมในโครงการมี 16 แห่ง คือ
1. สถาบันมะเร็งแห่งชาติ

2. โรงพยาบาลรามาธิบดี
3. ศิริราชพยาบาล
4. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
5. โรงพยาบา ลพระมงกุฎเกล้า

6. โรงพยาบาลราชวิถี
7. โรงพยาบาลวชิรพยาบาล
8. โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
9. โรงพยาบาลตำรวจ

10. โรงพยาบาลภู มิพล
11. โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
12. สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร

13.โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
1 4. โรงพยาบาลหาดใหญ่ !
15. โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และ
16. โรงพยาบาลสระบุรี



ผู้ป่วยหรือมีคนใกล้ชิดป่วยด้วยโรคดังกล่าวสามารถติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนศักดิ์ อุทิศชลานนท์ และบุษกร สนธิกร

หมายเลขโทรศัพท์02-439-4600 ต่อ8202
หรือจะเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ที่ //www.gipapthailand.org หรือ //www.themaxfoundation.com

//www.posttoday.com/newsdet.php?sec=magazine&id=148431




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 4 กรกฎาคม 2551 10:23:41 น.
Counter : 615 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

npmail
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
.....ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า, พระองค์นั้น

อะระหะโต
.....ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส

สัมมาสัมพุทธัสสะ
.....ตรัสรู่ชอบได้โดยพระองค์เอง

~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~

Blog นี้เอาไว้เก็บเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เอาไว้อ่านเองค่ะ ไว้ว่าง ๆ ค่อยกลับมาอ่าน ส่วนใหญ่ก็ก็อป ๆ มากจากคนอื่นค่ะ ต้องขอขอบคุณ ณ ที่นี้นะคะ

ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่าน ที่แบ่งปันของแต่งบล็อกสวย ๆ ให้มาแต่งบล็อกนี้

และขอขอบคุณทุกท่านที่ Vote ให้ด้วยนะคะ
โหลดเพลง นิยาย คลิปวีดีโอ การ์ตูน โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน ดูดวง โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคล 60 ปีราชาภิเษก และ 84 พรรษามหาราชา โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคล 60 ปีราชาภิเษก และ 84 พรรษามหาราชา โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคล 60 ปีราชาภิเษก และ 84 พรรษามหาราชา
Friends' blogs
[Add npmail's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.