สิ่งที่วางอยู่บนชั้นเหล่านี้ไม่ใช่แค่หนังสือหรือปึกกระดาษที่ปราศจากชีวิต แต่มันคือความคิดจิตใจที่มีชีวิต
Group Blog
 
All blogs
 

เจ้าสาวจอมเวทย์



ชื่อหนังสือ : เจ้าสาวจอมเวทย์ (Which Witch?)
ผู้แต่ง : Eva lbbotson
ผู้แปล : วิลาวัณย์ ฤดีศานต์
จัดพิมพ์โดย : สนพ.มติชน
พิมพ์ครั้งที่ 1 : สำนักพิมพ์มติชน มกราคม 2550
จำนวนหน้า : 244 หน้า
ราคา : 160 บาท

ส่วนผสมอันลงตัวระหว่างพ่อมดหนวดงาม แม่มดสติแตก และการประลองเวทย์เหนือจินตนาการ

รายละเอียด

การประลองเวทย์มนตร์เพื่อชิงตำแหน่งเจ้าสาวแห่งภาคเหนือเริ่มขึ้น เมื่ออาร์ริมานพ่อมดแห่งความชั่วร้ายต้องมีทายาทเพื่อสืบทอดตำแหน่งเจ้าแห่งโลกมืด โดยมีแม่มดทั้งสาวและไม่สาวทั้งเจ็ดนางเข้าร่วมการประลอง เบลล่าดอนน่าแม่มดสีขาวแสนดีที่หลงรักอาร์ริมานตั้งแต่แรกเห็น จะฝ่าด่านแม่มดดำที่เหลือ เพื่อชนะการประลองได้อย่างไร

**รูปภาพและข้อตวามข้างบนนำมาจากwww.matichonbook.com**

เมื่ออาริมานพ่อมดผู้ได้รับการขนามนามว่าชั่วร้ายที่สุดเกิดเบื่อหน่ายกับการทำความชั่ว และได้รับคำทำนายว่าจะมีพ่อมดที่วืบทอดความชั่วร้ายมาแทนที่ แต่ด้วยการรอคอยที่นานแสนนาน คนรับใช้ของอาริมานจึงเสนอให้เขาแต่งงานเสีย เพื่อจะได้มีพ่อมดคนใหม่มาแทน เพราะไม่มีทางเลือกแม้จะเกลียดชังแม่มดเพียงใด อาริมานก็อยากจะหลุดพ้นจากหน้าที่เขาจึงยอมจัดงานเลือกคู่เพื่อจะได้แต่งงาน (อย่างไม่เต็มใจ)

มีแม่มดมารับการคัดเลือกทั้งหมดเจ็ดคน ซึ่งรวมถึง เบลลาดอนน่า ผู้ได้รับการเกลียดชังจากบรรดาแม่มดทั่วไปด้วยเธอเป็นแม่มดขาว ที่ไม่เคยทำอะไรชั่วร้ายได้ ซ้ำร้ายยังสามารถรักษาและเปลี่ยนสิ่งรอบข้างให้สวยงามได้ด้วย

แต่เธอก็เข้าประลองเพราะว่าได้ตกหลุมรักอาริมานเข้าเสียแล้ว และด้วยความดีงามของเธอนั่นเองที่ทำให้คนรับใช้ของอริมานเอาใจช่วยเธอห่างๆ
พบกับบททดสอบของการเลือกคู่ การประลองเวทย์สุดพิลึก แม่มดสติแตกที่ชั่วร้าย และพ่อมดแปลกๆ ที่มาพร้อมกับความคิดพิลึกพิลั่นที่ไม่เคยมีในหนังสือเล่มไหนมาก่อน




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 21:53:01 น.
Counter : 732 Pageviews.  

ด้วยรักบันดาล...นิทานสีขาว






เล่าเรื่องโดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
หมวดหนังสือ: นิทานชุด
Publisher: สำนักพิมพ์ ฟรีมายด์
จำนวนหน้า: 224 หน้า
ราคาปก: 185.00 บาท

ท่ามกลางสังคมอันหลากสี ที่มีการปะปนคลุกเคล้ากัน ของสีสันสดใสแห่ง “ภาพมายาทางวัตถุ” และสีที่หม่นหมองแห่ง “ความทุกข์ทั้งปวง”...ยังคงมี “สีขาว” เกิดขึ้นในสังคม อันเป็นสีแห่งคุณงามความดี ความพอดีพอเหมาะในทุกสรรพสิ่ง

ดั่งที่ได้ปรากฏชัดอยู่ ในนิทานร่วมสมัยเล่มนี้ ด้วยเจตนารมณ์ของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ที่มุ่งหวังให้ “พลังสีขาว” เกิดขึ้นได้จริงกับทุกๆ คน ซึ่งสามารถสร้างความสงบสุข ในชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์... ดังเช่นที่เกิดขึ้นแล้ว กับเด็กนักเรียนของโรงเรียนสัตยาไสทุกคน

ที่โรงเรียนสัตยาไสทุกเช้า หลังจากที่นักเรียนสวดมนต์ นั่งสมาธิเสร็จแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะขาดเสียมิได้ ในการปลูกฝังคุณธรรมของที่นี่คือ การเล่านิทาน ซึ่งเล่าโดยตัวกระผมเอง นิทานที่เลือกสรรมาเล่านั้น ล้วนเป็นนิทานคุณธรรม ที่เคยมีคนเล่าต่อกันมา เป็นเวลาหลายร้อยปี กระผมได้นำนิทานเหล่านี้ มาเล่าให้นักเรียนฟัง ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบ้าง ตามความเหมาะสม เพื่อให้นักเรียน ได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน แต่ในขณะเดียวกัน คุณธรรม และบทเรียน จากนิทานก็ได้หยั่งรากลึก ลงไปในจิตใจของเขาด้วย

กระผมหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านผู้อ่าน จะได้รับคุณประโยชน์ จากนิทานเหล่านี้ เช่นเดียวกัน และนำไปเล่าต่อ เพื่อช่วยให้ผู้ฟัง ได้ซึมซับคุณธรรม ซึ่งจะเป็นประต ูสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิต ที่ดีงามต่อไป..

**รูปภาพและข้อตวามข้างบนนำมาจาก//www.freemindbook.com**

ขึ้นชื่อว่านิทานคงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่เคยอ่านหรือเคยฟัง ลองย้อนกลับไปในวัยเด็ก ก่อนนอนก็คงไม่พ้นต้องให้คุณพ่อหรือคุณแม่มาเล่าทินทานให้ฟังแล้วหลับฝันดี นิทานที่มักจะแฝงข้อคิดดีๆมาให้พร้อมกับความสนุกสนานเพื่อให้เด็กๆค่อยๆรับความรู้ความดีเข้าไปอย่างช้าๆเพื่อให้กลายเป็นนิสัยที่ดีในอนาคต และได้รับความรักความอบอุ่นจากผู้ปกครองด้วย

ผู้ใหญ่หลายคนอาจจะเดินผ่านหนังสือเล่มนี้ไปได้ง่ายๆเมื่อเห็นว่ามันเป็นนิทาน นอกเสียจากว่ามีลูกแล้วซื้อไปให้ลูกอ่าน แต่นิทานในเล่มนี้ไม่เหมือนกับนิทานทั่วๆไป สามารถอ่านได้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ใช่จำกัดว่านิทานต้องคู่สำหรับเด็กเท่านั้น หากตัดความคิดที่ว่า “นิทานคือเรื่องของเด็ก” ออกไปแล้วลองหยิบขึ้นมาดูก็จะได้รับรู้ถึงข้อคิดดีๆที่ได้จากหนังสือเล่มนี้

นิทานในเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสั้นๆหลายเรื่อง เป็นนิทานที่ครูนำมารวบรวมเพื่อจะได้เผยแพร่ให้แก่ทั่วไป ซึ่งได้เล่าให้นักเรียนฟังหลังเคารพธงชาติที่ทางโรงเรียนเห็นว่าควรจะปลูกฝังคุณธรรมให้เด็กนักเรียนทั้งหลายที่ยังมีจิตใจที่บริสุทธิ์และใสซื่ออยู่ หากปลูกฝังให้เด็กจดจำแต่สิ่งที่ดี เมื่อเติบโตขึ้นเด็กเหล่านี้ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีนำความเจริญมาสู่ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา

ตัวคนอ่านเองก็เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือและนิทานตั้งแต่ยังไม่เข้าโรงเรียนแม่จะยังอ่านไม่ออก ก็ยังขอร้องให้พี่ๆแถวบ้านช่วยอ่านให้ฟังและจะเกิดอาการไม่พอใจหากได้ฟังเรื่องเดิม ไม่อายเลยที่จะบอกว่าแม้ตอนนี้จะอายุมากเกินกว่าที่จะอ่านนิทานแล้ว ก็ยังคงชอบนิทานอยู่ดี เพราะนิทานมักจะทำให้มีสีสันสดใสและมีข้อคิดดีๆสอดแทรกอยู่ทุกเล่ม

สะดุดตาตอนแรกคือความสวยงามของรูปเล่มที่เดินผ่านเห็นหนังสือหน้าปกสีฟ้าขาวสะอาดตาและมีรูปน่ารักจึงไม่ยากที่จะหยิบขึ้นมาดู เมื่อได้พลิกดูด้านในก็ยิ่งชอบมากขึ้นเพราะนิทานไทยส่วนมากที่อ่านจะไม่มีบอกว่าเรื่องนี้ให้ข้อคิดอะไรแก่เรา เหมือนกับว่าให้เราได้คิดเอง ซึ่งบางครั้งข้อคิดที่ได้นั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะสื่อให้แก่คนอ่าน แต่เล่มนี้เป็นนิทานที่ผู้เขียนแต่งขึ้นที่ไม่เคยได้อ่านจากที่ไหน และข้อคิดที่มีให้นั้นทำให้ตกหลุมรักหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้อ่าน

เนื่องด้วยนิทานในเล่มมีหลายเรื่อง จึงขอยกตัวอย่างเรื่องที่อ่านแล้วชอบที่สุดในเล่มให้ฟัง “เรื่องหัวใจนิสริน” นิสรินเป็นเด็กสาวผู้น่ารัก มีจิตใจดีงามและเป็นที่รักของทุกคนในหมู่บ้าน วันหนึ่งเธอเกิดเจ็บหน้าอกข้างซ้ายขึ้นมา จึงไปหาหมอและได้รู้ว่าเธอมีปัญหาที่หัวใจและยังไม่มีวิธีรักษาได้ เมื่อได้รับรู้ความจริง เธอไม่เสียใจเลยและรับฟังด้วยความสงบนิ่ง ทั้งยังบอกกับพ่อแม่ว่าเธอจะใช้ชีวิตที่เหลือให้เป็นประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด

วันหนึ่งเธอไปหาหมอรับยามาทานและได้พบกับยาย่า เด็กหญิงตัวเล็กและผอมเซียวผู้เป็นโรคเนื้อร้าย จะรักษาได้ต้องไปยังต่างประเทศ แต่พ่อของเธอไม่สามารถหาเงินจำนวนมากมายที่ใช้ในการรักษาได้ นิสรินรู้สึกสงสารและต้องการจะหาทางช่วยเหลือ โดยที่ไม่รบกวนทรัพย์สินเงินทองของพ่อแม่ที่เธออาจจะไม่ได้มีโอกาสได้ดูแลท่านจนแก่เฒ่า และเธอก็คิดได้ว่าจะวิ่งไปทั่วประเทศเพื่อขอรับเงินบริจาค

เมื่อพ่อแม่ของนิสรินรู้ก็ต้องคักค้านด้วยว่าเธอป่วยหนัก แต่ไม่สามารถเปลี่ยนใจเด็กสาวได้ จึงได้แต่สนับสนุนเธอในหลายๆทาง นิสรินจึงได้เริ่มต้นออกเดินทาง พบเจอและพูดคุยกับคนมากมายที่ได้ช่วยเหลือและบริจาคเงินให้แก่เธออย่างมีน้ำใจ ผู้คนต่างก็ซึ้งใจในน้ำใจของเธอและได้พูดคุยกระจายข่าวกันไป เรื่องราวของเธอโด่งดังและไปเข้าหูของจ้าวผู้ปกครองประเทศ เมื่อได้รู้ความจริงจึงได้สั่งให้ทหารองครักษ์ตามไปช่วยเหลือและคุ้มครองนิสรินและสละเงินส่วนตัวให้เธอใช้สำหรับเดินทาง

เมื่อนิสรินนำเงินที่ได้ให้พ่อของยาย่า ยาย่าจึงได้เดินทางไปรักษาโรคเนื้อร้ายจนหายดี ส่วนนิสรินนั้น เมื่อหมอมาตรวจเธออีกครั้งกลับพบว่าหัวใจของเธอปกติดี สร้างความยินดีแก่พ่อแม่และคนที่รู้จักเธออย่างมาก หลังจากนั้นเธอก็ได้แต่งงานกับองครักษ์หนุ่มคนหนึ่งที่เคยเดินทางร่วมกับเธอ และมีลูกที่น่ารักน่าเอ็นดูถึงสามคน

ฟังดูแล้วเหมือนกับว่ามีปาฏิหาริย์ที่ทำให้เด็กสาวคนหนึ่งที่ป่วยด้วยโรคที่รักษาไม่ได้ จนหายเป็นปกติเพราะการทำความดี เสียสละความสุขของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่นที่ไม่รู้จัก ทำให้เธอได้รับสิ่งตอบแทนที่ไม่คาดฝันจากการเสียสละ

หากพูดถึงความเป็นจริงแล้ว คงจะหาได้ยากมากสำหรับคนที่มีพร้อมทั้งความงามและความดี เรียกว่างดงามทั้งกายและใจ หายากที่สองสิ่งนี้จะคู่กัน และหายากที่จะได้พบคนที่มองคนจากภายนอก เพราะคนจำนวนมากมักจะมองรูปลักษณ์ที่สวยงามมากกว่าที่จะมองถึงความดีงามของจิตใจ คนที่งามภายนอกแล้วก็ควรที่จะทำให้ภายในสมบูรณ์ไปด้วย ส่วนคนที่ภายนอกไม่งดงาม ไม่น่าดู ก็ควรจะทำให้ภายในงดงาม แม้จะไม่สามารถสู้ความงามของคนอื่นได้แต่สักวันความงามภายนอกก็จะค่อยๆเสื่อมสลายลงไปตามกาลเวลา แล้วความงามที่แท้จริงจากภายในที่เราทำก็จะประจักษ์แก่สายตาของผู้คน

นิทานคือเรื่องเล่าที่ให้ทั้งความเพลิดเพลินและข้อคิดนั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเพียงเด็กเท่านั้นที่อ่านเพราะนิทานเล่มนี้สามารถให้ข้อคิดได้แก่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หากว่าตอนนี้ใครได้เป็นพ่อแม่แล้วมองหานิทานดีๆให้ลูกอ่าน อย่าได้มองข้ามหนังสือเล่มนี้ อ่านให้ลูกฟังก่อนอน เด็กก็จะได้ทั้งความรู้และความอบอุ่นที่หาซื้อไม่ได้จากพ่อแม่ที่รัก




 

Create Date : 08 มีนาคม 2552    
Last Update : 8 มีนาคม 2552 21:50:21 น.
Counter : 549 Pageviews.  

บทเพลงแห่งสายฝน



เขียนโดย น้ำปาย
จำนวนหน้า 288
ราคา 185 บาท
สำนักพิมพ์ fine-book

เรื่องย่อ

ในอดีต โชคชะตาได้พา พระลอ มาพบกับ ธารธารา เด็กหญิงที่ป่วยเรื้อรังและอยู่ใกล้ความตายแค่เอื้อมมือ เด็กชายใช้ความรู้สึกดีๆ ที่เขามีอยู่ทั้งหมดหัวใจ แบ่งปันความสวยงามในโลกของเขาให้เธอ

เวลาแห่งความสุขแสนสั้น ไม่นานนักทั้งคู่ก็ต้องพรากจาก โดยได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาพบกันอีกครั้งเมื่อเติบโตขึ้น

แล้วเวลาก็ได้หมุนไป ทั้งคู่ไม่ได้พบกันอีกเลย จนกระทั่งเมื่อวันที่หญิงสาวออกเดินทางตามหาคำสัญญาในอดีต เมื่อรู้ว่าเวลาของตัวเองนั้นเหลือน้อยเต็มที

เธอหวังว่าจะเจอเขาก่อนที่จะจากโลกใบนี้ไปตลอดกาล แผนที่ของเธอมันว่างเปล่าเหลือเกิน เพราะมีเพียงถ้อยคำของเด็กชายเท่านั้นที่จะสามารถนำทางเธอไปพบกับเขาได้

ในโลกของชายหนุ่มคือการรอคอยที่อ้างว้าง ความสุขและความหวังก็คือการได้พบเด็กหญิงในอดีต ครอบครัวที่อบอุ่นของเขาต้องพังทลายลง ก่อนที่จะแยกจากน้องชายฝาแฝดที่เติบโตและผูกพันกันอย่างมากมาย เขาได้ฝากฝังให้น้องชายดูแลและออกตามหาเด็กหญิงในอดีต เพราะมีบางอย่างบอกว่าเขาอาจไม่มีโอกาสอยู่รอจนถึงวันนั้น

แล้วในวันหนึ่ง เธอก็ได้กลับมาหาเขาอีกครั้ง แต่น่าเศร้าที่การพบกันนั้น เป็นเพียงเพราะความรักอันยิ่งใหญ่และปาฏิหาริย์ แต่อีกไม่นานปาฏิหาริย์กำลังจะหมดลง ชายหนุ่มหวังเพียงแค่ว่า โชคชะตาจะพา พระพาย น้องชายฝาแฝดของเขามาพบกับหญิงสาว และในวันนั้น...น้องชายจะดูแลคนที่เขารักอย่างดีที่สุด

เขาหวังว่าเธอจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างสวยงาม และสายฝนที่โปรยปรายลงมาในโลกของเธอคงสิ้นสุดเสียที

**รูปภาพและข้อตวามข้างบนนำมาจากwww.fine-book.com**

พระเอก-นางเอกเจอกันในวัยเด็กและยังจดจำเรื่องราวได้แม้จะผ่านไปนานแล้ว ฟังแล้วโรแมนติกมากๆเลยค่ะ เรื่องนี้อ่านๆไปแล้วจะรู้ว่ามันมิปาฏิหาริย์ด้วยเพราะพระเอกต้องจากนางเอกไปแต่ด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ของเขาทำให้สามารถกลับมาดูแลเธอได้เป็นเวลาช่วงหนึ่ง

พระลอ (ที่ไม่ใช่พระเอก) นิสัยดีมากๆ เป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้ใหญ่ ใจเย็น มีความคิดอ่าน ฉลาด ดีไปหมด เสียอย่างเดียวไม่ได้อยู่กับนางเอก เมื่อรู้ว่าตัวเองจะตายพระลอจึงฝากฝังธารธาราไว้กับพระพายน้องชายให้ดูแลเธอแทนเขา

พระพายได้รับข่าวการหายตัวไปจากพ่อที่เป็นเพื่อนกับพ่อแม่นางเอกจึงสั่งให้เขาช่วยตามหา เพียงแค่ได้เห็นรูปถ่ายของธารา พระพายก็ตกหลุมดวงตาเศร้าๆของเธอ เมื่อธารารู้ว่าพระลอหายตัวไปเธอจึงออกตามหาแต่ได้พบพระพายและปักใจเชื่อว่าเขาคือพระลอ และเขาก็ไม่อาจบอกความจริงให้เธอรับฟังได้

แต่เรื่องยังไม่จบเมื่อก่อนที่เขาจะพบธารา เขาเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น พวกเธอเหล่านั้นที่หลงรักในตัวเขาจึงไม่ยอมให้ทั้งสองได้ลงเอยกันง่ายๆ พระพายจึงต้องหาทางยุติปัญหาอันน่าปวดหัวและเรื่องยุ่งๆจากรุ่นน้องที่หลงรักพระลอที่ตอนนี้เห็นพระพายเป็นตัวแทนและคิดแย่งชิงมา แล้วยังเกิดเรื่องอีกเมื่อธารารับรู้ความจริงว่าเขาไม่ใช่พระลอและหนีหายไป งานนี้พระพายจึงต้องหาทางตามหาหัวใจตัวเองอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะต้องเสียเธอไป

นางเอกเรื่องนี้เป็นคนเรียบร้อยมากๆ แถมยังอ่อนเพราะโรคประจำตัวตั้งแต่เด็กจึงไม่ค่อยได้ออกไปไหน หรือรับรู้โลกภายนอกเท่าไหร่ แล้วยังเป็นคนดีสุดๆอีกต่างหาก น่าเสียดายที่ไม่ได้อยู่กับพระลอที่สมควรจะเป็นพระเอกมากกว่า (พระเอกที่สมกับเป็นพระเอกและเป็นคนดี มักจะไม่ได้คู่กับนางเอก เรื่องมันเศร้า)




 

Create Date : 14 ตุลาคม 2551    
Last Update : 14 ตุลาคม 2551 22:21:16 น.
Counter : 602 Pageviews.  

a day story คู่มือเด็กดื้อฉบับปัจจุบัน



วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์
ราคา 40 บาท

หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนมุมองในการใช้ชีวิตและอาจจะตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำเหมือนมองข้ามไป

ผู้เขียนหนังสือคือคนที่เป็นต้นคิดและทำนิยสารนาม a day ที่โด่งดังและมียอดขายทั่วประเทศ

แนวคิดของเขาไม่เหมือนกับใคร บางคนอาจจะว่ามันเป็นแนวคิดเพี้ยนๆหรือทำตัวไม่เหมือนชาวบ้าน แต่ส่วนหนึ่งก็ทำให้ได้เข้าใจว่าเพราะแนวคิดที่ไม่เหมือนใครนี้เองที่ทำให้เขา "แตกต่าง" กับคนอื่น

ในหนังสือจะเล่าถึงความคิดริเริ่มในการอยากจะเป็นคนทำหนังสือ แนวความคิดและความเป็นไปในชีวิตที่น่าสนใจของเขา

และมีส่วนหนึ่งในหนังสือที่อยากให้ทุกคนโดยเฉพาะอยางยิ่งคนที่กำลังเรียนอยู่ในมหาลัยได้อ่านและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเอง

เรียกว่าแต่ละข้อติดนั้น่าสนใจนำไปใช้ไม่น้อย

คำแนะนำการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย

1. อย่าเรียนเก่งไปเลย หากการ “เรียนเก่ง” นั้นทำให้คุณต้องคร่ำแคร่งอยู่แต่กับตำราเรียน จนไม่ได้ทำกิจกรรมดีๆอย่าง เข้าชมรม ออกเดินทาง ดูหนัง ทำงานศิลปะ อ่านวรรณกรรม ฯลฯ แต่ถ้าคุณทำควบคู่กันไปได้ดีทั้งสองอย่างก็นับว่ายอดเยี่ยม

2. ลงเรียนวิชาภาษาอังกฤษมากๆ และเรียนอย่างตั้งใจว่าเอาให้เก่งให้ได้ โดยเฉพาะการพูดและอ่าน โลกยุคนี้และยุคหน้า ภาษาอังกฤษมีบทบาทมากขึ้นทุกขณะ ถ้าคุณเก่งภาษาอังกฤษคุณได้เปรียบ

3. เข้าชมรมการแสดงของมหาวิทยาลัย และหาโอกาสให้ได้ร่วมทำลครเวทีสักเรื่อง รับรองว่าคุณจะได้ประสบการณ์มากมาย ละครเวทีเป็นโลกจำลองของการทำงานร่วมกับผู้อื่นที่ครบเครื่องที่สุด

4. มีแฟนสักคนก็ดี ถ้ายังไม่มีใครก็ให้หาเสียตอนเรียนมหาวิทยาลัยนี่แหละ โอกาสเหมาะสุดแล้ว เลือกแฟนที่ดี ที่ช่วยส่งเสริมกันทั้งในด้านการเรียนและความรัก

5. หากมีเพศสัมพันธ์กับแฟน คุณต้องรู้จักวิธีป้องกันด้วย

6. การลองยาเสพติดเป็นเรื่องที่โง่มาก เพื่อนที่ชวนคุณลองยาอย่าไปนับเขาเป็นเพื่อน ผมมีเพื่อนหลายคนที่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยใช้ยาเสพติดเพราะเห็นเป็นเรื่องเท่ ทุกวันนี้แต่ละคนที่ว่าไม่มีอนาคต บางคนเสียชีวิตไปแล้ว นี่เป็นเรื่องจริง

7. ปี 1- ปี 2 ใช้ชีวิตเรียนและเล่นให้สนุก พอขึ้นปี 3 คุณควรรู้แน่แล้วว่า คุณต้องการและมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำอาชีพอะไร โดยให้เลือกเผื่อไว้สัก 2 อาชีพ แล้วใช้เวลาที่เหลืออยู่ 2 ปี ทำพอร์ตโฟลิโอที่แสดงถึงทักษาความสามารถที่คุณมีต่องานที่คุณอยากทำ เพื่อจะได้นำไปใช้สมัครงานเมื่อเรียนจบ ต่อไปการเขียนจดหมายสมัครงานอย่างเดียวไม่มีประโยชน์แล้ว คุณต้องมีผลงานแนบไปด้วย เขาจึงจึเชื่อว่าคุณทำงานได้จริง

8. หางานพิเศษทำยามว่าง ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งประสบการณ์และความภาคภูมิใจ ขดขำไว้ว่าประสบการณ์ไม่มีขายที่ไหน อยากได้ต้องเอาตัวลงไปคลุก

9. ตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้าไปเป็นนักศึกษา ลองเก็บสะสมเงินทุกวัน วันละ 20 บาท เรียนมหาวิทยาลัย 4 ปี วันสุดท้ายที่เดินออกจากมหาวิทยาลัย คุณจะมีเงินเก็บทันที 29,200 บาท หรือถ้าเก็บวันละ 100 บาท ในเวลา 4 ปี คุณจะเป็นเจ้าของเงินที่มากอย่างไม่น่าเชื่อคือ 146,000 บาท เงินนี้จะเอาไปใช้อะไรก็ตามสบาย เพราะคุณเก็บสะสมมาได้ด้วยความพยายามของตัวคุณเอง

10 . ทำแต่ละวันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด-ทั้งต่อตัวคุณเอง ครอบครัว คนรอบข้างและสังคม

ขอให้อ่านแล้วนำข้อคิดไปใช้หับตัวเองอย่างเป็นประโยชน์ที่สุดแล้วชีวิตของคุณจะมีความหมายมากขึ้น




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2551    
Last Update : 8 มิถุนายน 2551 12:54:04 น.
Counter : 708 Pageviews.  

ด้ายแดง รหัสรักปาฏิหาริย์

ความรักที่ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยี



ชื่อหนังสือ : ด้ายแดง รหัสรักปาฏิหาริย์
หมวด : วรรณกรรม -- โรมานซ์
ผู้แต่ง : Giddens
ผู้แปล : โจอี้ ตงฟาง
จัดพิมพ์โดย : สนพ.มติชน
พิมพ์ครั้งที่ 1 : สำนักพิมพ์มติชน ตุลาคม 2550
กระดาษปอนด์เหลือง
ปกอ่อน
จำนวนหน้า : 244 หน้า
ราคา : 190 บาท

ร่วมกันค้นหานิยามความรัก ในโลกที่เทคโนโลยีสามารถเนรมิตรักแท้เพียงแค่กดรีโมต

รายละเอียด

ไล่เหยียนเสียง นักวิทยาศาสตร์ไฟแรง ผู้เอาแต่หมกมุ่นอยู่ในห้องทดลองกับทีมงานอัจฉริยะ เพื่อคิดค้นไมโครชิพที่สามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของมนุษย์ได้ ต้องสูญเสียคนรักไป เนื่องจากเขาไม่มีเวลาให้เธอเลย จนกระทั่งคนรักมีแฟนใหม่ ไล่เหยียนเสียงจึงรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเขารักเธอ และเงินทอง เกียรติยศที่เขาได้มานั้นไม่มีความสำคัญเลย เมื่อไม่มีเธออยู่ข้างกาย ไล่เหยียนเสียงจึงคิดหาวิธีที่จะทวงความรักกลับคืนมา และวิธีเดียวที่เขาทำได้คือ ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มี ไล่เหยียนเสียงฝังไมโครชิพไว้ในเครื่องประดับ และส่งกลับไปให้คนรักเก่า เมื่อเธอสวมใส่เครื่องประดับเหล่านั้น เขาจะใช้รีโมทควบคุมจูนคลื่นสมองให้เธอเปลี่ยนความรู้สึกกลับมาชอบเขา ในที่สุดไล่เหยียนเสียงก็เริ่มเข้าใกล้ความรักที่ต้องการ แต่ทว่ายิ่งได้ความรักมาเท่าไหร่ เขากลับยิ่งถลำลึกลงไปในอำนาจของไมโครชิพเท่านั้น และท้ายที่สุดเมื่อความรักของเขากลายเป็นโศกนาฏกรรม ไล่เหยียนเสียงก้ได้เรียนรู้ว่า แท้จริงแล้ว ไม่มีอะไรสามารถลิขิตรักแท้ได้ นอกจากหัวใจของคนสองค

**รูปภาพและข้อตวามข้างบนนำมาจากwww.matichonbook.com**

ความรักคือความรู้สึกที่คนสองคนมีต่อกันอย่างลึกซึ้งและต้องการที่จะอยู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต รักแท้คือความรักที่เป็นนิรันดร์ไม่มีสิ่งใดมาพรากจากพวกขาทั้งสองคนได้แม้สิ่งนั้นจะเป็นความตายหรือกาลเวลา หากแต่ในโลกอนาคตที่มีการเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี คนบางคนที่มีความคิดได้สามารถสร้างสรรค์ประดิษฐ์สิ่งของที่สามารถปรับเปลี่ยนจิตใจของผู้คนให้มาชอบคนที่ถูกกำหนดไว้ได้ หรือว่ารักแท้ในอนาคตจะเป็นเพียงสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นราวกับสิ่งของจอมปลอม

ไล่เหยียนเสียงทำงานอยู่ในองค์กรของบริษัท Sony (ไต้หวัน) เป็นทีมงานลับสุดยอดที่ผู้ร่วมงานเป็นพวกหัวกะทิอย่างจับตัวยาก ซึ่งกำลังทำการทดลองคิดค้นไมโครชิปขนาดจิ๋วที่สามารบังคับเลี่ยนแปลงจิตใจคนได้ มันถูกตั้งชื่อว่า ไมโครชิป M แต่เพราะว่าเหยียนเสียงทำแต่งานไม่สนใจจื่อฉิง จึงได้บอกให้เธอไปหาคนที่ดีกว่า

หลังจากที่ห่างจากเธอได้เพียงไม่นาน เหยียนเสียงกลับเพิ่งประหนักได้ว่าเธอเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา แม้จะมีเงินทองหรืออะไรมากมายก็มีสิงใดเทียบกับเธอได้ เขาจึงพยายามขอกลับไปคืนดีแต่จื่อฉิงปฏิเสธ ในที่สุดเกยียนเสียงจึงได้นำผลงานทดลองมาใช้กับเธอด้วยความร่วมมือกับเมโนะที่ต้องการจะพบความรักเช่นกัน แม้ทั้งสองจะมีจุดประสงค์ที่ต่างกันก็ตาม เหยียนเสียงจึงใช้มันเพื่อที่จะเปลี่ยนใจเธอให้กลับมาเป็นดังเดิม

เหยียนเสียงฝังไมโครชิป M ในสิ่งของเครื่องประดับแล้วให้จื่อฉิง แล้วบังคับให้คลื่นสมองของเธอนึกถึงแต่เขา (คลื่นสมองของคนเราจะมีค่าไม่เหมือนกัน ไม่มีทางเหมือนกันได้) และมันก็ได้ผลจื่อฉิงยอมคืนดีและกลับมาเป็นคนรักของเขาอีกครั้ง ส่วนเมโนะนำไปใช้เพื่อมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงสวยๆหลายคนซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่สนใจแต่แล้วเมโนะกลับหันมาสนใจเจียหลิง เพื่อนร่วมทีมสาวสวยของพวกเขา เหยียนเสียงไม่ต้องการให้เขาทำอะไรไม่ดีกับเธอจึงได้พยายามจะตามไปช่วย แต่ระหว่างนั้นกลับเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เหยียนเสียงต้องพิจารณาการใช้ไมโครชิปเพราะมันอาจเกิดผลร้ายกับจื่อฉิงได้เช่นเดียวกันกับเจียหลิง

ในที่สุดเหยียนเสียงก็ตกลงใจว่าจะฝังไมโครชิปลงไปในทั้งสมองของตัวเองและจื่อฉิงเพื่อให้เธอรักเขาตลอดไป และไม่ให้เธอต้องเจ็บอยู่คนเดียว และเรื่องราวทั้งหลายก็ดำเนินมาด้วยดีจนกระทั่งในงานแต่งงาน จื่อฉิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวโดยสมบูรณ์ของเหยียนเสียงกลับเกิดอาการข้างเคียงเหมือนกับเพื่อนของเขา ผลมาจากการที่ดาวเทียมที่ใช้บังคับคลื่นสมองของจื่อฉิงได้ตกลงมาทำให้สมองของเธอตามหาคลื่นสมองของเหยียนเสียงไม่เจอและบาดเจ็บทางร่างกายแทน

เพราะไม่อาจเห็นคนรักต้องเจ็บปวดได้ ในที่สุดเหยียนเสียงก็ตระหนักได้ว่าเขาควรจะเป็นเพียงคนที่ได้เห็นเธอในชุดแต่งงานข้างผู้ชายคนอื่นมากกว่าเพราะถ้าทำแบบนั้นแล้วมีเพียงเขาคนเดียวที่จะเจ็บปวด เขาคนเดียวที่จะต้องหัวใจสลายแต่จื่อฉิงจะไม่เป็นอะไร สุดท้ายเหยียนเสียงจึงหาทางทำลายไมโครชิป M เสีย เพื่อไม่ให้จื่อฉิงต้องทุกทรมานไม่ว่าตัวเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ตาม

อ่านแล้วดูออกจะเวอร์ไปหน่อยที่เราสามารถสร้างของที่บังคับจิตใจของมนุษย์ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตจะเกิดเรื่องนี้จริงหรือไม่ มันอาจจะมีทางเป็นไปได้ในเมื่อเทคโนโลยีเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเป็นความจริงขึ้นมาสิ่งที่เรียกว่ารักแท้ก็จะหายไปเหลือเพียงความรู้สึกรักจอมปลอมที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมา

แม้ว่าจะรู้สึกสมเพชเหยียนเสียงที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อไขว่คว้าหาคนรักกลับมาอย่างไรก็ตาม ในความสมเพชนั้นก็มีทั้งความรู้สึกสงสารและเห็นใจด้วย เขารู้สึกตัวช้าเกินไปว่าตัวเองเป็นคนที่ทิ้งสิ่งสำคัญเอง จึงต้องมานั่งเสียใจภายหลังคนเดียว แต่ในตอนสุดท้ายที่เขายอมทำร้ายตัวเองเพื่อให้จื่อฉิงกลับเป็นปกติ ไม่อาจทนเห็นเธอเจ็บปวดได้ก็ทำให้รู้สึกชื่นชมในความรักของเขาที่มีต่อจื่อฉิงได้ดีแม้ว่าการกระทำที่ทำให้เธอกลับมาจะเป็นสิ่งที่ผิด แต่มีคนบอกว่าเรื่องความรักไม่มีใครผิดใครถูกก็คงจะเข้ากับการกระทำของเหยียนเสียงได้ไม่น้อย ยังดีที่สุดท้ายเหยียนเสียงรู้สึกตัวทันและแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นกับจื่อฉิงได้

เขายังเป็นคนที่รู้จักผิดชอบชั่วดี ห่วงใยเพื่อนร่วมงานที่กำลังจะถูกทำร้ายจึงได้หางช่วย และเขาไม่หลงผิดนำไมโครชิปไปใช้เช่นเดียวกับเมโนะแม้ว่าจุดประสงค์ที่ใช้จะไม่ต่างกัน เพราะเหยียนเสียงเพียงแค่ต้องการให้จื่อฉิงกลับมารักเขาเหมือนครั้งอดีตเท่านั้น เหมือนกับว่าเขาอยากจะใช้มันเพื่อย้อนเวลากลับไปยังตอนที่ดีที่สุด จุดเริ่มต้นและจุดจบของเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะความรักของเขา แต่สุดท้ายเหยียนเสียงก็ได้ตระหนักและเข้าใจถึงความรักที่แท้จริงที่เขามีต่อจื่อฉิงว่าเขาเพียงต้องการจะเห็นเธอมีความสุขไม่ว่าจะอยู่กับใครก็ตาม การกระทำสุดท้ายที่เกิดขึ้นพร้อมกับคำสาบานว่าจะรักเธอตลอดไปทำให้เราสามารถอภัยให้เขาได้อย่างหมดใจกับการกระทำทั้งหลายที่ผ่านมา

“อยากให้เธอบอกฉันสักคำว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นอาจไม่จริงทั้งหมด แต่มีสิ่งหนึ่งเป็นความจริง คือคำว่า รัก...” ประโยคนี้แหละที่ทำให้เราสามารอภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการะกระทำของเขาได้ นั่นเป็นคำพูดประโยคสุดท้ายที่เหยียนเสียงกล่าวกับจื่อฉิงก่อนจะจากเธอไป แต่เขาจะยังคงรักเธอตลอดไป นั่นเป็นความจริงที่เขาไม่เคยโกหกเธอและหัวใจตัวเอง

"ของมีค่าที่เคยอยู่ในมือเราจะรู้ว่ามันมีค่าที่สุดก็ต่อเมื่อมันสายเกินไป"

อย่ามองข้ามของมีค่าที่มีอยู่ ไม่งั้นคุณอาจจะต้องสูญเสียมันไปในที่สุดเหมือนกับเหยียนเสียงก็เป็นได้




 

Create Date : 04 มิถุนายน 2551    
Last Update : 4 มิถุนายน 2551 21:15:30 น.
Counter : 565 Pageviews.  

1  2  3  

Whan14
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




หนอนหนังสือตัวจริง
Friends' blogs
[Add Whan14's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.