|
ไทยกูเกิลเอิร์ธ ชู ยอดคนสนใจเพิ่ม เผย คนไทย ฮิตดาวน์โหลด แผนที่
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ภาพจำลอง วัดโสธรฯ แบบสามมิติ ที่สามารถหมุนได้ทุกมุม สร้างโดยฝีมือคนไทย
เว็บไซต์ ไทยกูเกิลเอิร์ธ ดอท คอม เดินหน้าสวย หลังคนไทยสนใจ แห่ดาวน์โหลดแผนที่ไปเล่นกันมากมาย ผู้ก่อตั้งเผย เตรียมจัดแคมเปญ สนับสนุนให้คนไทยช่วยปักหมุดสร้างแบบจำลองสถานที่ โดยเชื่อว่า จะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้มากขึ้นด้วย
นายพงษ์ระพี เตชพาหพงษ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Thai Google Earth เว็บท่าแห่งแรก สำหรับ Google Earth ในประเทศไทย ได้กล่าวว่า หลังจากที่กูเกิลได้เข้าไปซื้อบริษัท Keyhole แล้วนำมาปรับเปลี่ยนเป็น Google Earth พร้อมกับแจกให้ใช้ฟรีนั้น ได้สร้างกระแสการใช้แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมกันทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเมืองไทยด้วย ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่สื่อต่างๆ ได้นำเสนอสกู๊ปเกี่ยวกับความน่าสนใจ และศักยภาพการเอาโปรแกรมนี้ไปใช้
โดย นายพงษ์ระพี กล่าวว่า ความน่าสนใจของกูเกิลเอิร์ธคือ ตัวบริการจะไม่ได้ลงหมุดในรายละเอียดของสถานที่ไว้ เขาแค่เอาภาพถ่ายดาวเทียมมารวบรวม และสร้างโปรแกรมให้เข้าถึงสถานที่ต่างๆ จากนั้น เมื่อผู้ใช้ต้องการจะกำหนดตำแหน่งสถานที่ ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก
บริการของกูเกิลเอิร์ธจะมีแต่ภาพถ่ายดาวเทียมล้วนๆ และจะมีโปรแกรมสำหรับให้ผู้ใช้สามารถปักหมุดสถานที่ ซึ่งอาจจะเป็นจังหวัดบ้านเกิดตัวเอง หรือสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ เพื่อช่วยให้สามารถสืบค้นได้ง่ายมากขึ้น ผู้ใช้บางรายถึงกับสร้างโมเดลสามมิติของวัดโสธร แล้วเอาไปวาง ณ สถานที่จริงบนแผนที่กูเกิลเอิร์ธ เพื่อให้ผู้ใช้คนอื่นหมุนดูรอบอุโบสถได้รอบ ส่วนบางคนชื่อชอบฟุตบอลมาก ก็ไปนั่งไล่ปักหมุดสนามบอลเอาไว้ เพื่อมาดูภาพมุมสูงได้เช่นกัน
นอกจากบริการสืบค้นหาไฟล์ที่ต้องการอย่างง่ายๆ แล้ว กูเกิลเอิร์ธยังกลายเป็นแหล่งความรู้ และจุดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้ใช้กูเกิลเอิร์ธอีกด้วย โดยไฟล์ที่นิยมดาวน์โหลดกันมาก จะเป็น 741 อำเภอทั่วไทย, Thailand Placemark 7.0 ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับปักหมุดสถานที่สำคัญทั่วประเทศ นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นไฟล์แผนที่ในประเทศเป็นส่วนใหญ่
คนเล่นกูเกิลเอิร์ธครั้งแรก ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มจากการค้นหาบ้านตัวเองก่อนว่าอยู่ตรงไหน มองเห็นหลังคาบ้านหรือเปล่า ซึ่งเมื่อเจอส่วนใหญ่จะประทับใจกับเทคโนโลยีมากขึ้น จุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่ง ก็คือการประยุกต์เอากูเกิลเอิร์ธไปใช้ในงานต่างๆ เพราะแผนที่นั้นเกี่ยวข้องกับทุกคน ทุกธุรกิจ ไม่ว่าเป็นงานทางด้านภูมิสถาปัตย์ งานป้องกันภัย งานที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ งานประกัน งานพยากรณ์อากาศ งานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว
และในช่วงต้นปีหน้า ทางเว็บไซต์ไทยกูเกิลเอิร์ธก็มีแผนจะจัดแคมเปญ ToBeArchitect เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนคนทั่วไปได้เข้ามาปักหมุดบอกสถานที่ หรือแข่งสร้างโมเดลจำลองบนกูเกิลเอิร์ธด้วย โดยใช้โปรแกรมการสร้างภาพจำลองแบบ 3 มิติ ซึ่งนายพงษ์ระพีระบุว่าจะมีประโยชน์มาก เพราะจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นการสร้างโมเดลจำลองสถานที่สำคัญ หรือวัดโบราณ ก็มีความสำคัญไม่แพ้การปักหมุดแผนที่เช่นกัน
งานนี้เราอยากเปิดให้คนทั่วไปได้เข้ามาร่วมแข่งขันกัน ไม่จำเป็นต้องเรียนสถาปัตยกรรมจึงจะมาแข่งได้
คงไม่แปลก ถ้าจะเห็นธุรกิจต่างๆ เริ่มศึกษาความสามารถของโปรแกรมนี้ แล้วเอามาประยุกต์ใช้กับตัวเองได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตเราคงเห็นการประยุกต์ใช้มันๆ จากโปรแกรมนี้เพิ่มขึ้นอีกมากมายแน่นอน.
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 ตุลาคม 2548 13:15 น.
Create Date : 26 ตุลาคม 2548 | | |
Last Update : 26 ตุลาคม 2548 19:09:23 น. |
Counter : 577 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
แฮมเบอร์เกอร์ เมนูดังจาก ฮัมบูร์ก
แฮมเบอร์เกอร์ เมนูจากฮัมบูร์ก แต่มาฮิตที่อเมริกา
วันนี้ คอลัมน์ ถามตอบรอบโลก จะมาช่วยไขปัญหาให้กับคุณ เดือน ซึ่งสงสัยว่าเจ้าแฮมเบอร์เกอร์ อาหารยอดฮิตของชาวสหรัฐฯ ที่คนไทยอย่างคุณเดือนเองก็ชอบกินนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร และทำไมถึงต้องเรียกว่า แฮมเบอร์เกอร์ ด้วย
ก่อนอื่นต้องขอบอกคุณเดือนก่อนเลยว่ายังไม่มีการบันทึกที่ชัดเจนว่าประเทศหรือชนชาติใดเป็นต้นตำรับของแฮมเบอร์เกอร์ แต่คำที่ใช้เรียกขนมปัง 2 ชิ้นที่มีเนื้ออยู่ตรงกลางว่าแฮมเบอร์เกอร์นั้น เริ่มต้นขึ้นที่เมืองฮัมบูร์ก(Hamburg) ประเทศเยอรมนี ขณะที่เมนูกินด่วนแบบนี้ยังไปฮิตติดอันดับที่สหรัฐ แทน ส่วนคนในฮัมบูร์กเองนั้น กลับนิยมทานแซนด์วิชมากกว่า
อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้ที่แนะนำให้ชาวฮัมบูร์กรู้จักกับการปรุงอาหารชนิดนี้ โดยมีผู้กล่าวถึงที่มาเอาไว้ 2 ทฤษฎีด้วยกัน โดยทฤษฎีแรกมีการกล่าวเอาไว้ว่า ในช่วงยุคกลาง เมืองฮัมบูร์กเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญระหว่างโลกอาหรับและยุโรป ทำให้พ่อค้าอาหรับเข้ามาติดต่อกับชาวบ้าน และได้แนะนำอาหารที่ชื่อกะบาบ ซึ่งเป็นเนื้อลูกแกะบดผสมเครื่องเทศ ที่มักจะกินกันดิบๆ ให้กับชาวบ้าน
หลังจากนั้นชาวเมืองฮัมบูร์กได้ดัดแปลงเปลี่ยนจากเนื้อลูกแกะไปเป็นเนื้อหมูหรือว่าเนื้อวัวแทน พร้อมกับปรุงรสขึ้นใหม่ จนกลายเป็น ฮัมบูร์กสเต็ก และสุดท้ายก็พัฒนากลายมาเป็น แฮมเบอร์เกอร์ ในเวลาต่อมา
ส่วนอีกทฤษฎีนั้นกล่าวไว้ว่า ในช่วงที่กองทัพมองโกลของเจงกีสข่านยกทัพบุกรัสเซียนั้น เหล่าทหารจะกินเนื้อลูกแกะดิบที่ปั้นเป็นก้อนกลม ซึ่งเหล่าทหารมีวิธีการทำให้เนื้อนิ่มด้วยการวางไว้ใต้อานม้า
จากนั้นชาวรัสเซียก็รับเอาอาหารชนิดนี้ไป และเรียกว่า ทาร์ทาร์สเต็ก เนื่องจากชาวรัสเซียเรียกชาวมองโกลว่า ทาร์ทาร์ และในช่วงศตวรรษที่ 17 รัสเซียเริ่มที่จะค้าขายติดต่อกับเมืองฮัมบูร์กและก็ได้นำอาหารชนิดนี้ไปเผยแพร่ด้วย โดยชาวเยอรมันได้เปลี่ยนไปใช้เนื้อวัวไปปรุงรสด้วยเครื่องเทศในท้องถิ่นจนกลายเป็น ฮัมบูร์กสเต็ก และอาจจะนำไปรมควันหรือว่าหมักเกลือ เพื่อที่จะสามารถเก็บได้นานระหว่างที่กำลังเดินทาง
จากนั้น ทหารเรือชาวเยอรมันและผู้อพยพก็ได้นำเมนูนี้ติดตัวไปยังสหรัฐฯด้วยในช่วง 1800s และในช่วงทศวรรษที่ 1820 หรือ 1830 นี่เองที่มีการนำชื่อ แฮมเบอร์เกอร์สเต็ก ไปปรากฏอยู่บนรายการอาหารของร้านอาหารที่ชื่อเดลโมนิโก ซึ่งตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก ก่อนจะได้รับความนิยมแพร่หลาย ไปอย่างรวดเร็ว
ช่วงต้นยุค 1900s ร้านอาหารในสหรัฐฯมากมายหลายร้านได้เริ่มนำแฮมเบอร์เกอร์สเต็กมาใส่ระหว่างขนมปัง 2 ชิ้น หรือว่าใส่ข้างในขนมปัง และเมื่อแฮมเบอร์เกอร์สเต็กถูกนำมาใส่ไว้ข้างในขนมปัง จึงถูกเรียกว่า แฮมเบอร์เกอร์แซนด์วิช และผู้ที่คิดค้นขนมปังก้อนสำหรับแฮมเบอร์เกอร์ขึ้นมาก็คือพ่อครัวที่ชื่อ เจ. วอลเตอร์ แอนเดอร์สัน ในปี 1916 ก่อนที่เขาค้นนี้จะไปเปิดร้านอาหารที่ชื่อ ไวท์คาสเซิล ในปี 1921
สำหรับ ชีสแฮมเบอร์เกอร์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ชีสเบอร์เกอร์ นั้น ว่ากันว่า ผู้ที่เริ่มคิดค้นลงมือทำเป็นคนแรก ก็คือเชฟ ที่ชื่อ ไลโอเนล สไตน์เบอร์เกอร์ จากร้านอาหารที่ชื่อ ไรท์สปอต ในเมืองพาซาดีนา มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วนผู้ที่ทำให้ชื่อเสียงของฟาสต์ฟูดส์อย่างแฮมเบอร์เกอร์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในยุคปัจจุบันก็คือ เรย์ ครอก ซึ่งเริ่มเปิดตัวร้านแมคโดนัลด์สาขาแรกช่วงกลางทศวรรษที่ 1950.
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 ตุลาคม 2548 10:38 น.
Create Date : 26 ตุลาคม 2548 | | |
Last Update : 26 ตุลาคม 2548 19:00:32 น. |
Counter : 421 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
"ตั้งท้องในวัยเรียน" อนาคตมีแต่ "เหนื่อย" และ "มืดมน" !!
คอลัมน์ ทีนเทศ
ปัญหาเด็กสาวตั้งท้องในวัยเรียน ยังคงเป็นปัญหาที่ "แก้ไม่ตก" ในหลายประเทศ และนับวันดูเหมือนจะยิ่งมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ประเทศอังกฤษ ก็มีผลสำรวจอย่างเป็นทางการระบุว่า อังกฤษเป็นประเทศที่มีอัตราของเด็กสาววัยรุ่นตั้งท้องสูงที่สุดในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก โดยจากตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว พบว่ามีเด็กสาวอังกฤษอายุต่ำกว่า 16 ปี ตั้งครรภ์ถึง 8,076 ราย!!
ล่าสุด ก็มีข่าว เด็กนักเรียนสาว กลายเป็นคุณแม่ลูก 3 ตั้งแต่มีอายุเพียง 16 ปี และที่ "แย่" ไปกว่านั้นก็คือ ลูกทั้ง 3 คนของเธอนั้นเป็น "ลูกแฝด 3" ทำให้คุณแม่ยังเด็กต้อง "เหนื่อยหนัก" กับการต้องรับหน้าที่ "แม่ลูกอ่อน" ที่มีชีวิตน้อยๆ ให้ดูแลถึง 3 ชีวิตในคราวเดียวกัน แถมตอนนี้แฟนหนุ่มวัยรุ่นอายุ 19 ซึ่งเป็นพ่อของเด็กๆ ได้ทิ้งเธอไปแล้ว!!
ทั้งนี้ จากข่าวเล่าว่า การตั้งครรภ์ในวัยเรียนทำให้ นาตาลี สแกนเลน เด็กสาวเมืองแมนเชสเตอร์ ต้องทิ้งอนาคตทางการศึกษา และตอนนี้ก็ไม่มีงานทำ หลังจากต้องลาออกจากงานที่บริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ตอนท้องแก่ใกล้คลอด!!
ด้วยสภาพที่ไม่มีทั้งเงิน และงาน ทำให้ปัจจุบันนาตาลีและลูกแฝดหญิงทั้ง 3 ต้องอาศัยอยู่ในบ้านสงเคราะห์หญิงแม่ลูกอ่อน ซึ่งเธอเล่าว่า ทุกวันนี้เธอต้องนั่ง "ชงนม" ถึงวันละ 18 ขวด เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกสัปดาห์ละ 90 ผืน!!
ขณะที่อนาคตข้างหน้า หากพิจารณาจากสภาพชีวิตของนาตาลีตอนนี้ ก็ต้องบอกว่าช่าง "มืดมน" จริงๆ !!
โดย มติชนออนไลน์ 26 ตุลาคม 2548
Create Date : 26 ตุลาคม 2548 | | |
Last Update : 26 ตุลาคม 2548 18:55:51 น. |
Counter : 624 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|