เรื่องลับที่ไม่รู้ ของศพ
ช่วงนี้ ชีวิต ก็มีตารางเวลาแน่นเอี๊ยด
3 วันที่ผ่านมาก็มึนๆ นิดหน่อย
จะเล่าถึงเมือวานละกัน
พอเลิกงานเสร็จก็กลับบ้าน
ปวดเมื่อยไปทั้งตัว และรู้สึกว่าอ้วนขึ้น
ใจก็นึกอยากออกกำลังกาย...พิราทิส ซักหน่อยดีมะ (แต่ต้องเสียเงิน)
ระหว่างลงรถ ไฟฟ้าใต้ดิน แอบเห็นโฆษณา ของ DHL เค้าเขียนว่า "...live to deliver"
เราเอาบ้าง.....อยู่เพื่ออ่าน...."อยู่เพื่ออ่าน"
อ่านมันให้หมด....หมดทุกอย่าง
ช่วงนี้ คิดว่าจะเขียนเรื่อง ทำไมคนเราต้องอ่าน"
แต่ ยังไม่เสร็จดี .....
รถแน่นมาก เลยแวะ เซ็นทรัลพระราม 9
ทำธุระให้ชีวิตเสร็จ ก็แวะร้านหนังสือในที่สุด ....
ได้ เพื่อนร่วมทางกลับมา 1 เล่ม .....
ชื่อ เรื่องลับที่ไม่รู้ของ "ศพ" Stiff
โอเคเลย....
จะให้ไดฯนี้ เกี่ยวกับเรื่องอ่านแล้วน่าติดตาม สำหรับหนังสือเล่มนี้ละกัน
Stiff- เรื่องลับที่ไม่รู้ของ"ศพ" เขียนโดย Mary Roach
หนังสือเล่มนี้ภาค English //www.maryroach.net/stiff.html
ภาพของนักเขียน
//www.maryroach.net/maryroach.html
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เรื่องของ ออสการ์ ราฟาเอล ชายคุ้ยขยะ เกือบโดนดองฟอร์มาลีนทั้งเป็น
//www.davemarcus.com/content/corpse-selling-case-outrages-colombians-police-say-homeless-slain-get-bodies-med-school
เรื่อง จริง หรือ หลอก....(สรุปจากหนังสือ Stiff)
มีเรื่องที่กีฟท์จะเล่าให้ฟัง ...คือ คนเขียนหนังสือเรื่องนี้ เค้าก็อ่านพบว่า มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งที่จีน สัปเหร่อ แอบตัดเนื้อก้นของศพ ไปขายภัตตาคาร เพื่อทำซาลาเปา โดยตัดจากก้นของศพที่ตายเพราะอุบัติเหตุ ครั้งนึง และศพเด็กสาว อีกครั้งนึง
พ่อแม่ของเด็กสาวตกใจ จึงไปแจ้ง ความกับตำรวจว่าเนื้อตรงก้นของศพลูกสาวนั้นหายไป แต่ฝรั่งอ่านข่าวนี้ ก็คิดว่า เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อ พอเปิดโลงมา ลูกสาวน่าจะนอนหงาย แล้ว จะไปเห็นได้ยังไงว่าก้นหายไป
เพื่อไขข้อข้องใจ ผุ้เขียน (ฝรั่ง) คนนี้ ก็ถึงกับบินไปเมืองจีน แล้วตรงไปที่จีน เพื่อหาความจริงในเมืองเล็กๆที่เป็นข่าวนี้ แล้วตรงไปยัง โรงเผาศพของเมือง (โดยเอาล่ามไปด้วย) แล้วเรียก ผอ.โรงเผาศพมาคุย ถึงเรื่องของข่าวนี้
ผอ.โรงฯพอฟังคำถามเสร็จ ก็โกรธผู้เขียนมาก แล้วก็อธิบายว่าไม่เคยมีลูกน้องคนไหนทำอะไรบ้าๆแบบนั้น
ประมาณว่าเรื่องมันไม่ใช่เหมือนที่ข่าวเขียนแล้ว ก็เลยไปที่ห้องสมุด แล้วหา นสพ. วันเดือนปี ที่ลงข่าว ปรากฏว่า ไม่มีนสพ. ชื่อนั้น แล้วไปหาภัตตาคารที่ชื่อในข่าว (white temple) ก็ไม่พบ ก็เลยได้รู้ว่าข่าวที่ลงเป็นเรื่องกุขึ้น
(สารบัญ)
หนังสือเรื่องนี้ประกอบด้วย
1. สุดเสียหายหากทิ้งหัวไป -ฝึกผ่าตัดกับคนตาย
2. อาชญากรรมแห่งกายวิภาคศาสตร์ -การขโมยศพ และเรื่องต่ำช้า เมื่อรุ่งอรุณของการผ่าศพได้เริ่มขึ้น
3. ชีวิตหลังความตาย-ว่าด้วยเรื่องการเน่าเปื่อยศพและประโยชน์ของมัน
4. เมื่อคนตายขับรถ-การใช้ศพมนุษย์เป็นหุ่นทดสอบการชนและศาสตร์ที่น่าสะพรึงกลัวของการต้านทานต่อแรงอัด
5. ความลับเหนือกว่ากล่องดำ -เมื่อซากศพของผู้โดยสารถูกนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุการตกของเครื่องบิน
6. เมื่อกองทัพรับศพเข้าทำงาน -ศีลธรรมที่หมิ่นเหม่ของกระสุนและระเบิด
7. ศพศักดิ์สิทธิ์ -ประสบการณ์การตรึงกางเขน
8.จะรู้ได้ยังไงว่าคุณตายไปแล้ว-ศพที่หัวใจยังเต้นอยู่ การฝังทั้งเป็น และการค้นหาวิญญาณด้วยวิทยาศาสตร์
9. เรื่องหัวโดยเฉพาะ-การตัดหัว การทำให้กลับมีชีวิตและการผ่าตัดเปลี่ยนหัวมนุษย์
10. กินฉันสิ -การกินศพเพื่อเป็นยา และเรื่องเกี่ยวกับเกี้ยวมนุษย์
11. ออกจากเตาเผาสู่ถังปุ๋ย -และอีกหลายวิธีใหม่ๆเพื่อทำศพ
12. ศพของผู้เขียน -แล้วเธอจะทำหรือไม่?
ภาพ การสต๊าฟศพ ไว้ด้วย สารโพลิเมอร์ /corpse polymer พลาสติก
//www.knitnut.net/2007/06/corpse-controversy/
bodies exhibition ใน New York
//www.etravelblog.com/bodies-exhibition-in-new-york/
//www.partner.viator.com/en/8896/tours/New-York-City/Bodies-The-Exhibition-in-New-York-City/d687-5099NYCBODIES
การเสนอวิธีจัดการกับศพรูปแบบใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม : บ.โปรเมสสา โดย ซูแซน วีค-มาแซค : เอาศพมนุษย์มาย่อยสลายให้กลายเป็นปุ๋ย : ชูประเด็น เรามาจากธรรมชาติ ก็ต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติ กลับสู่พื้นดิน
//www.funeralinspirations.co.uk/information/Promession.html
//www.promessa.org.uk/ เวปไซด์ บริษัทโปรเมสสา
(คัดลอกจาก หน้า 217 ของหนังสือ....
พวกเราคือ ธรรมชาติ เรามาจากสสารอย่างเดียวกัน มีความต้องการพื้นฐานง่ายๆเหมือนกัน เราไม่ได้แตกต่างไปจาก เป็ด หอยแมลงภู่ และสลัดโคลสลอว์เมื่อสัปดาห์ก่อน ดังนั้น เราควรที่จะเคารพธรรมชาติ และเมื่อเราตาย เราควรคืนตัวเราให้กับโลก)
ภาพ ของซูซาน วีมาแซค เจ้าของบ.โปรเมสสา เสนอทางเลือกใหม่ในการจัดการกับศพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
(credits //openquestionswith.wordpress.com/tag/susanne-wiigh-masak/)
การนำเสนอการจัดการศพ โดยใช้การย่อยสลายน้ำ และแร่ธาตุที่เป็นด่าง
Alkaline Hydrolysis or Bio-Cremation
//voices.yahoo.com/alkaline-hydrolysis-biocremation-5488059.html?cat=57
//alkalinehydrolysis.com/
เนินเขา Knoxville -ห้องแล็ปธรรมชาติที่ประหลาดที่สุดในโลก ของม. แทนเนสซี่
University of Tennessee link ที่เกี่ยวข้อง //fac.utk.edu/
เอาไว้วางศพไว้ตามแต่ละที่ ที่นักวิทย์ฯตั้งข้อสงสัย
แล้วเฝ้าเรียนรู้ การเน่าเปื่อยของศพในแต่ละรูปแบบ ที่แตกต่างไปตามสภาพ ภูมิประเทศ สิ่งแวดล้อม
----> The world's premier forensic lab for the decomposition of human bodies.
"คัดลอกจาก หน้า 54 ของหนังสือ stiff
เพื่อค้นหาคำตอบที่ต้องการ ลำดับการเน่าเปื่อยก็ขึ้นกับปัจจัยต่างๆของสิ่งแวดล้อมและตำแหน่งของศพ เช่น สภาพอากาศเป็นอย่างไร ? ศพถูกฝังอยู่เหรอเปล่า? ฝังอยู่ในอะไร ? ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ เหล่านนี้ได้ดีมากขึ้น ทางคณะวิจัยฯ ของม. Tennessee จึงได้จัดให้มีการเอาศพมาฝังไว้ตามทีต่างๆ เช่น หลุมฝังศพ บ่อซีเมนต์ ท้ายรถ สระน้ำที่ขุดขึ้น หรือห่อด้วยถุงพลาสติก นักวิจัยจะใช้วิธีต่างๆ เหมือนกับที่ฆาตกรใช้ในการจัดการกับศพ"
website ที่เกี่ยวข้อง
//www.rense.com/politics6/flesh.htm
คุณ "อาร์พัด" พาชม เนินเขา knoxville เพื่อดูศพแต่ละศพ
//en.wikipedia.org/wiki/Arpad_Vass มาทำความรู้จัก กะ คุณอาร์พัด
credit photo from //newshopper.sulekha.com/arpad-vass_photo_1853597.htm
คร่าวๆ กะ ระยะเวลาของการเน่าเปื่อยของร่างกาย
-เพิ่งตายได้ไม่นาน -- ดู ระดับของโปแตสเซียมของวุ้นในลูกตา (สำหรับ 24 ชม.แรก)
หรือ การลดลงของอุณหภูมิของร่างกาย (ถ้าตัวยังอุ่นๆ ก็เพิ่งตายได้ไม่นาน)
- ภายใน 1-2 ชั่วโมง -ปรากฎการณ์ Rigor Mortis /Livor mortis
-ถ้าตายไปแล้ว 3 วัน -ได้เวลาของแมลงวัน จ้า ! (มาเรียนรุ้อายุของหนอนที่อยุ่บนศพ)
สภาพดิน ตรงที่มีศพตั้งอยู่ แน่นอน ต้องมี น้ำเหลือง และกรดไขมัน มาผสมกับดิน
ลองเอากระดาษซับมัน ซับดู -gift2say
"คัดลอกจาก หน้า 61 ของหนังสือ stiff
สาเหตุก็คืออย่างที่เราเห็นมา คือ ดินรอบๆศพนั่นแหละเต็มไปด้วยของเหลวที่มาจากการเน่าสลายของศพ ....ด้วยการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของดินพวกนี้ ถ้าหากไม่เจอกรดไขมัน และสารประกอบต่างๆ ที่มาจากการเน่าเปื่อยของศพในดิน บอกได้เลยว่าศพไม่ได้เน่าอยู่ตรงนั้น"
(เคยอ่านเจอ จาก เรื่อง ยอดตุลาการราชวงค์ซ่ง เล่ม 1 -การสอบสวนการตายของเพื่อน ในบทแรกๆ-gift2say)
เที่ยวบิน 800 สายการบิน TWA ที่ตก
//en.wikipedia.org/wiki/TWA_Flight_800
การใช้ศพของผู้โดยสาร บอกสาเหตุของการตกของเครื่องบิน
"คัดลอกจาก หน้า 98
เครื่องบินที่ตกมักจะบอกเรื่องราวโดยตัวมันเอง บางทีก็บอกกันตรงๆจากเครื่องบันทึกของเสียงนักบิน หรือบอกกันอ้อมๆ จากสภาพชิ้นส่วน และเถ้าถ่านของเครื่องที่ตก แต่เมื่อเครื่องบินตกลงในบริเวณทะเล เรื่องราวที่ได้ก็อาจจะไม่ครบถ้วน....เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจะหันมาใช้ "ซากมนุษย์"
DR. DENNIS SHANAHAN พบกับนักเขียน
++++++++++++++++++
เวปที่เกียวข้อง
//whatreallyhappened.com/RANCHO/CRASH/TWA/NTSB.html
วิดีโอการทำ public hearing เกี่ยวกับ สายการบิน TWA ตก
//www.c-spanvideo.org/program/96569-1
การที่ตกจากที่สูงมากๆ อาจะทำให้เสื้อผ้าหลุดลุ่ย จากแรงกดอัด
และการตกจาก เครื่องบิน ลงสู่พื้นน้ำ ทำให้ร่างกระแทกผิวน้ำบาดเจ็บได้
เทคนิคของนักกระโดดน้ำสูง ในกีฬาโอลิมปิกใช้ประโยชน์ ในเคสนี้ (เพื่อนำมาทดสอบสมมติฐาน)
//www.synthstuff.com/mt/archives/individual/2008/07/the_usa_olympic_diving_trials.html
คัดลอกจาก หน้า 110 ของหนังสือ stiff
ดร. ชานาฮานแนะนำ ...
"วิธีเอาตัวรอดเวลาขึ้นเครื่องบิน : ใช้ สามัญสำนึก นั่งอยู่ใกล้ๆ กับทางออก ก้มอยุ่ในระดับต่ำกว่าความร้อนและควัน กลั้นหายใจให้นานที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ปอดสุก และไม่สูดเอาควันพิษเข้าไปด้วย ..."
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
links ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ศพฯ ทดสอบการชนของรถ (เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่คนใช้รถให้มากทีสุด)
Researchers used human corpses in car crash tests
//www.telegraph.co.uk/news/worldnews/europe/austria/1487537/Researchers-used-human-corpses-in-car-crash-tests.html
Human Corpses Used in American Car Crash Tests
//www.nytimes.com/1993/11/25/us/human-corpses-used-in-american-car-crash-tests.html
ข้อคิดอื่นๆ ที่ได้จากหนังสือเล่มนี้
"ชีวิต มัก resist ที่จะ บ่งชี้สถานะของตัวเอง ว่า ฉันอยู่นี่! ฉันอยู่นี่!"
โลกที่อุดมฯ ไปด้วย อาหาร คือ แบคทีเรีย ที่อยุ่ในร่างกายมนุษย์ ที่กำลังจะตาย และเสียชีวิตไปแล้ว
นวัตกรรมใหม่ๆ จากการแต่งหน้าศพ คือ ที่ปิดตาศพ (ทำโดยคนทำศพ)
การใช้คำที่สุภาพ
(คัดลอกจาก หน้า 67 ของหนังสือฯ
อย่าใช้คำว่า ศพ ซากศพ คนตาย ให้ใช้คำว่า ผู้ล่วงลับ ,ร่างที่เหลือไว้ หรือ นาย ก. แทน
อย่าใช้คำว่า "กันเน่า" ให้ใช้คำ "รักษาสภาพ" ...
ตีนกา ให้เรียกว่า "รอยบนใบหน้าที่เกิดขึ้น"
มันสมองเน่าที่ไหล่ออกจากกระโหลกที่แตก และทะลักออกมาตามจมูก ให้เรียกว่า "ของเสียเหลว" )
-เรื่องสมองตาย , เรื่อง วิญญาณ อยู่ที่ไหน ?
-scandal เรื่องการขโมยศพ ในสมัยโบราณ เพราะหาศพอยากที่จะวิจัย หรือใช้ศึกษา
Robert Knox
//en.wikipedia.org/wiki/Robert_Knox
Burke and Hare
//en.wikipedia.org/wiki/Burke_and_Hare
แฮร์ เริ่มคิดขโมยศพ เมื่อผู้เช่าโรงแรมของเค้า เสียชีวิตลง โดยยังไม่ได้ทันจ่ายค่าโรงแรมให้แก่เค้า เค้าเลยใช้ศพของลูกหนี้คนนั้นเพื่อชดใช้ค่าโรงแรมแทน เค้าได้รับเงินประมาณ 7.10 ปอนด์ จาก น็อกซ์ จากการส่งศพให้ เพื่อร่วมงาน เบิร์กจึงร่วมด้วย จนถูกขนามนามว่า the West Port Murders ในที่สุด พวกเค้าก็ถูกจับ และนำตัวมาลงโทษด้วยการหั่นศพ และเอาซากศพประจานกลางเมือง
จนเกิดตำนานสยองขวัญ และ เพลงต่างๆ ในรูปแบบ ballad murder
ลองฟัง เพลง Burke and Hare ร้องโดย Robin Laing
https://www.youtube.com/watch?v=nIH91SoRMNs
เนื้อเพลง //www.theballadeers.com/lyrics_b6.htm
โจรขโมยศพ
//en.wikipedia.org/wiki/Anatomy_murder
การขโมยศพจากหลุม
//en.wikipedia.org/wiki/Body-snatching
เรื่อง ของเบิร์ก และ แฮร์ และ ดร.น็อกซ์ ถูกนำเอาทำเป็นหนังด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=LLqEizPaW0c
+++++++++++++++++++++++++++++++++
Mv เพลง ของ Dr.Robert Knox กับ burke & hare
https://www.youtube.com/watch?v=lvwHfyc7liY
ในที่สุด อังกฤษก็ออกกฎหมายมา The Anatomy Act 1832 ...ห้ามซื้อขายศพ และ ใครจะต้องทำชันสูตร หรือ ผ่าศพเพื่อเรียนรุ้ ต้องไปขออนุญาตจากทางการก่อน
//en.wikipedia.org/wiki/Anatomy_Act_1832
หนังสือบางเล่มถึงกับกล่าวว่า การกระทำอย่าง dr.knox คือ Mad science หรือ วิทยาศาสตร์บ้าๆ
Bates, A.W. (2010). The Anatomy of Robert Knox: Murder, Mad Science, and Medical Regulation. Sussex Academic Press. ISBN 9781845193814.
นี่คือ ข้อคิดของ....ถ้าคนฉลาด แต่ไม่มีศีลธรรม จะเป็นยังไง ...
+++++++++++++++++++++++++
คัดลอกจาก หนังสือ Stiff หน้า 177
"ไวท์ กล่าวถึงงานวิจัยเรื่องการแยกเดี่ยวในราวปี ค.ศ. 1970 คนที่ถูกทดลองจะไม่มีการรับรู้ทางประสาทสัมผัสใดๆ เลย ไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็น ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้รู้สึก ไม่ได้รส .....ฉันก็รู้สึกว่านี่คือการทดลองที่ใกล้เคียงกับการจับสมองมาไว้ในกล่องมากที่สุดแล้ว..."
โยงไปหา hikikomori
https://www.youtube.com/watch?v=50Y7R5zP0wc
Hikikomori Syndrome ฮิคิโคโมริ ซินโดรม ไม่ไปไหน ไม่ทำอะไร ไม่พบใคร
//www.ee43.com/content/topic/336.html
พวกฮิคกี้ เค้าอยู่กันยังไง ?
blog นี้มีคำตอบ
//lionardo.exteen.com/20061121/hikikomori-12288-24341-12365-31725-12418-12426
+++++++++++++++++++++++++++++++++
การใช้ศพ อัดฉีดด้วย Polymer หรือ พลาสติก เพื่อการศึกษาโครงสร้างภายในร่างกายของมนุษย์
ดูได้ที่พิพิทธภัณฑ์ ที่ New York และ ฮังการี
(ภาพจาก นสพ. m2f ฉบับ 3/4/55)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จากหนังสือ "ทำบุญใหญ่ไปอินเดีย" คุณ ณัฐพบธรรม
หน้า42 "พระอานนท์ ได้กราบทูลถาม(พระพุทธเจ้า) ว่าควรจะปฏิบัติอย่างไรกับพระสรีระของพระองค์ ....พระองค์จึงตรัสว่า ควรจะปฏิบัติเหมือนที่ทำกับพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิ ด้วยการห่อพระสรีระด้วยผ้าใหม่พันจนรอบ แล้วซับด้วยสำลีอีกชั้น แล้วทำแบบนี้อีก ๕๐๐ ชั้น จากนั้น จึงอัญเชิญพระสรีระลงในรางเหล็กที่เต็มไปด้วยน้ำมัน แล้วบูชาด้วยของหอมต่างๆ ก่อนจะถวายพระเพลิง และสร้างสถูปไว้ที่ถนนใหญ่เพื่อให้คนกราบไหว้บูชา"
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทความ สัปเหร่อ อินเดีย "คนอินเดีย ไม่ร้องไห้ เวลาญาติตาย" นั่นหมายถึงเค้าเข้าใจถึง ความจริงที่หลีกหนีไม่พ้น คือ ความตาย
คลิก //atcloud.com/stories/65138
+++++++++++++++++++++++++++++
การใช้ศพ เพื่อการทดสอบการชน (Corpse Test Car crash) เพื่อความปลอดภัย
//www.metacafe.com/watch/240673/crash_test_corpses/
+++++++++++++++++++++++++++++++
//www.wired.com/autopia/2010/08/how-a-cadaver-made-your-car-safer/
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ภาพปลงอสุภะ
chronical การตายของมนุษย์ และ สภาพการถูกทำลาย ไปตามกาลเวลา
ผ่านรูปศิลปะของญี่ปุ่น
//topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2007/08/Y5768311/Y5768311.html
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2558 |
| |
|
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2558 22:54:54 น. |
| |
Counter : 1117 Pageviews. |
| |
|
|