|
ประเภทของอนุบาลในญี่ปุ่น (3)
ประเภทของสถานรับดูแลเด็กเล็ก ที่อยู่นอกรูปแบบและข้อกำหนดของรัฐ
共同保育所 Kyoudou Hoikusho
คือ สถานรับดูแลเด็กเล็กที่ผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ดูแล ทำงานบริหารร่วมกัน
แบ่งเป็น 2 ประเภท
1.ไม่ได้ขอรับอนุบัติจากส่วนราชการ 無認可 Muninka
ทุก ๆ เดือน ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ของสถานรับดูแลเด็ก จะต้องมีการนัดประชุมคุยกันเกี่ยวกับนโยบายการดูแลอบรมเด็กร่วมกัน แต่ผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมทำกิจกรรมกับเด็กทุกวันเสมอไป เนื่องจากไม่ได้ขอรับอนุมัติจากทางส่วนราชการ จึงไม่มีการขอรับการสนับสนุนด้านใดๆ จากทางส่วนราชการเลย ค่าใช้จ่ายในการฝากเลี้ยงก็จะสูง
2. ได้รับการพิจารณาเห็นชอบ 認証 Ninshou
ทางสถานรับดูแลเด็ก ได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากทางส่วนราชการ และได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนในบางเรื่อง เช่นค่าแบบเรียน ค่าอุปกรณ์ เครื่องใช้ จะไม่หนักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงมีบางส่วนต้องเป็นไปตามกฎข้อบังคับของทางรัฐ เช่น อุปกรณ์ เครื่องใช้, ความกว้างของพื้นที่ในสถานรับดูแลเด็กเป็นต้น
************************
ส่วนอื่น ๆ
保育ママ Hoiku Mama
ใช้บ้านพักอาศัยของตนเองเป็นสถานที่รับดูแลเด็กเล็ก จำนวนหลายคน โดยขอรับการพิจารณาอนุญาต จากทางส่วนราชการเรียบร้อย ชื่อเรียกมีแตกต่างกันไปหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่ที่จะใช้เรียกกันคือ "Hoiku Mama" ได้รับความช่วยเหลือบางส่วนจากทางราชการด้วย ลักษณะการเลี้ยงดู จะเป็นลักษณะแบบครอบครัว Hoiku Mama เพิ่งจะจัดให้เป็นระบบอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2010
自主保育 Jisyu Hoiku
มี 2 แบบ - มีเจ้าหน้าที่ดูแลเด็ก และ -ไม่มีเจ้าหน้าที่ ผู้ปกครองเด็กช่วยกันทำหน้าที่ดูแล
ลักษณะเด่นคือไม่มีอาคารเรียน เน้นเล่นที่สนามเป็นหลัก เป็นกลุ่มที่เลี้ยงดูแลเด็กแบบอิสระเสรี บางที่ผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ก็บริหารงานร่วมกัน
ส่วนแบบที่ไม่มีเจ้าหน้าที่นั้น เหมือนกับการที่ผู้ปกครองมาช่วยกัน ดูแลเด็กในช่วงกลางวัน ฝากเลี้ยงกัน สลับกันทำหน้าที่ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
Create Date : 26 สิงหาคม 2554 | | |
Last Update : 26 สิงหาคม 2554 22:44:16 น. |
Counter : 740 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ประเภทของอนุบาลในญี่ปุ่น (2)
保育園 Hoikuen สถานเลี้ยงดูเด็กเล็ก ควบคุมโดยกระทรวงสาธารณสุขและแรงงาน รับดูแลเด็กเล็กแทนครอบครัวเด็ก เวลาตามเกณฑ์คือ 8 ชม.ต่อวัน มีอาหารกลางวัน
ตามกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิภาพของเด็ก กำหนดไว้ว่า สถานรับดูแลเด็กเล็ก (Hoikusho) เป็นสถานที่ที่จัดตั้งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดูแลอบรมเด็กที่ขาดการอบรมดูแล จากผู้ปกครอง โดยมุ่งหวังให้เด็กมีพัฒนาการอย่างสมบูรณ์ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
คำว่า "เด็กที่ขาดการดูแลอบรม" นั้นหมายความถึง ผู้ปกครองของเด็กไม่สามารถ หรือไม่สะดวกที่จะอบรม เลี้ยงดู บุตรของตัวเองที่บ้านได้ เนื่องจากสาเหตุ ต้องทำงาน, ป่วย, หรือ ต้องดูแลผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น คนชรา, คนพิการ
ดังนั้นเงื่อนไขข้อสำคัญของเด็กที่จะนำมาฝากเลี้ยงที่ Hoikuenได้ จะต้องเข้าข่ายเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนดไว้ดังนี้
1. โดยปกติผู้ปกครองทำงานในช่วงเวลากลางวัน
2. มารดาจะต้องไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือหลังคลอด *สามารถฝากเลี้ยงได้ก่อนวันกำหนดคลอด 2 เดือน และหลังคลอด 2 เดือนเท่านั้น
3. ป่วย หรือได้รับบาดเจ็บ, มีภาวะพิการทางจิตใจหรือร่างกาย
4. ผู้ปกครองต้องดูแลบุคคลในครอบครัวที่อยู่ร่วมหลังคาเรือนเดียวกัน
5. อยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังจากได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยแผ่นดินไหว วินาศภัย, อุทกภัย, อัคคีภัย เป็นต้น
6. มีเหตุผลอื่นที่มีสภาพคล้ายคลึงกับ 5 ข้อข้างต้น เช่น
- มีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านในช่วงกลางวันเพื่อหางานทำ (อนุญาตให้ 2 เดือน) - อยู่ในช่วงกำลังศึกษา จึงต้องไปสถานศึกษาในช่วงเวลากลางวัน - กำลังอยู่ในช่วงขอรับใบประกาศเกี่ยวกับความรู้ความเชี่ยวชาญพิเศษ มีความจำเป็นต้องไปสถาบันนั้น ๆ เพื่อฝึกทักษะฝีมือ - ผู้ปกครองของเด็กเสียชีวิต, สูญหาย , หรือแยกกันอยู่ไม่สามารถ อยู่ร่วมกับเด็กได้
認可保育所 Ninka hoikusho สถานเลี้ยงดูเด็กเล็กที่ได้รับอนุมัติ **เป็นไปตามกฎระเบียบที่ทางประเทศกำหนดไว้ เช่น โครงสร้างของสถานที่ จำนวนเด็ก จำนวนเจ้าหน้าที่ เป็นต้น
* 公立 Kouritsu ก่อตั้งโดยหน่วยงานราชการท้องถิ่น
เป็นสถานเลี้ยงดูเด็กเล็กที่ทางเขต , อำเภอ, เมือง ของแต่ล่ะจังหวัด เป็นผู้ดำเนินการ เจ้าหน้าที่เลี้ยงดูเด็กเป็นพนักงานราชการ ทำให้มีเจ้าหน้าที่หลายช่วงอายุ และเจ้าหน้าที่อาจไม่ประจำที่นั้น ๆ เสมอ เพราะอาจมีการโยกย้ายเปลี่ยนที่ประจำการได้ แนวทาง วิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กของแต่ล่ะที่ ไม่ค่อยมีความแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะเน้นเล่นเป็นหลัก อบรมเลี้ยงดูเด็กแบบให้อิสระกับเด็ก ปัญหาที่พบมากขึ้นเรื่อย ๆ คือ มีเด็กเล็กจำนวนมากที่รอเข้า โดยเฉพาะที่เขตเมืองใหญ่ ๆ จากปัญหาการโดนตัดงบประมาณ ทำให้ทางเขต,อำเภอ หลายแห่งต้องแปลงรูปองค์กร ให้บุคคลภายนอกเข้ามาดำเนินการ เปลี่ยนเป็นเอกชนไป ซึ่งก็จะทำให้สถานรับเลี้ยงดูเด็กเล็กแห่งนั้น เริ่มมีความเป็นธุรกิจเข้ามาแทรกเรื่อย ๆ แนวความคิดในการบริหารอย่างมีเหตุผลก็อาจจะลดลง รวมถึงการลดจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้วย
* 私立 Shiritsu สถานรับดูแลเด็กเอกชน
แนวทางการอบรมเลี้ยงดูเด็กเล็กของแต่ล่ะที่จะแตกต่างกันไป ลักษณะเด่นของสถานรับดูแลเด็กเอกชนคือ หลายแห่งรับดูแลตั้งแต่เด็กทารกอายุไม่ถึงขวบ และมีขยายเวลาดูแลหลังหมดเวลาปกติด้วย อาหารกลางวันก็จะเหมือนกับสถานรับดูแลเด็กของราชการ มีการเตรียมอาหารภายในสถานรับดูแลเด็กเอง
เนื่องจากเป็นสถานดูแลเด็กเล็กที่ได้รับอนุมัติจากส่วนราชการ ค่าใช้จ่ายในการฝากเลี้ยงจะไม่ต่างกับสถานรับดูแลเด็กของราชการ แต่ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นนอกเหนือเพิ่มขึ้นจากค่าฝากเลี้ยงหลัก
* 認定こども園 Nintei kodomo en
*ไม่รู้จะแปลเป็นชื่อเฉพาะภาษาไทยว่าอะไรดี แต่ความหมายก็คือ เป็นสถานที่รับดูแลเด็กที่ได้รับการรับรอง
ลักษณะของสถานดูแลเด็กเล็กแบบนี้จะมีลักษณะผสมผสาน การดำเนินการแบบอนุบาล (Yochien) และสถานรับดูแลเด็กเล็ก (Hoikuen) เข้าไว้ด้วยกัน จากข้อมูลล่าสุดเดือนเมษายน 2011 มีสถานดูแลเด็กเล็กลักษณะนี้ ในญี่ปุ่นทั้งหมด 358 แห่ง
ลักษณะเด่นคือมีโครงสร้างการเรียนการสอนแบบโรงเรียนอนุบาล แต่สามารถรับฝากเด็กได้เป็นระยะยาวแบบสถานรับดูแลเด็กเล็ก คือ 8 ชม. เพื่อตอนสนองความต้องการของผู้ปกครองเด็ก
การรวมเอาอนุบาล และสถานรับดูแลเด็กเล็กเข้ามาไว้รวมกัน กฎข้อบังคับต่าง ๆ จึงมีการพิจารณาอนุญาตให้ยึดหยุ่นจากเกณฑ์ได้ แต่ก็อาจทำให้คุณภาพการเลี้ยงดู และการสอนลดหย่อนลง ปัญหาที่เห็นได้ชัดคือ ความยากในการกำหนดหลักสูตรการเรียน เพราะระยะจำนวนชั่วโมงของเด็กที่อยู่ในสถานดูแลของแต่ล่ะคน มีความแตกต่างกัน
*****************************
สถานรับดูแลเด็กเล็กที่ได้รับการอนุมัติ ไม่ว่าจะเป็นของทางส่วนราชการ หรือของเอกชน ต่างก็มีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนเด็กที่จะสามารถรับเข้าดูแล เพราะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เลยมักจะได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าเข้ายาก รอนาน ต้องมีการพิจารณาความจำเป็น พิจารณารายได้ครอบครัว เอกสารในการสมัครเข้าเยอะ วุ่นวาย
แต่ก็ยังมีอีกทางเลือกคือสถานรับเลี้ยงเด็กแบบที่ไม่ได้อยู่ในกรอบ เกณฑ์กำหนด ที่เรียกกันว่า 無認可 muninka อ่านต่อ ประเภทของอนุบาลในญี่ปุ่น ตอน 3
Create Date : 22 สิงหาคม 2554 | | |
Last Update : 29 สิงหาคม 2554 19:55:41 น. |
Counter : 895 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ประเภทของอนุบาลในญี่ปุ่น (1)
幼稚園 YouChiEn โรงเรียนอนุบาล ควบคุมโดยกระทรวงศึกษาธิการ เป็นสถานศึกษาสำหรับเด็กเล็ก เวลามาตรฐานในการดูแลอบรมให้ความรู้คือ 4 ชั่วโมงต่อวัน และมีเงื่อนไขว่าจำเป็นต้องมีสนามสำหรับเด็กวิ่งเล่น
โรงเรียนอนุบาลที่ได้รับการอนุมัติ 認可幼稚園 Ninka YouChiEn
คืออนุบาลที่ถูกก่อตั้งอย่างถูกต้องสมบูรณ์ตามมาตรากฎหมายเกี่ยวกับ การก่อตั้งสถานศึกษาที่ทางประเทศญี่ปุ่นกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเด็กที่รับเข้าเรียน อุปกรณ์ อาคาร โครงสร้างของสถานศึกษา
ถูกแบ่งเป็น 国立 kokuritsu รัฐบาล ประเทศเป็นผู้ก่อตั้ง อนุบาลที่อยู่ในเครือมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศญี่ปุ่น มีอยู่ทั้งหมด 49 แห่ง ค่าเรียนถูก ความพิเศษของอนุบาลประเภทนี้คือ มีโอกาสได้เข้าร่วมคลาสวิจัยได้ ระบบการรับเด็กเข้าเรียน ครึ่งหนึ่งจะเป็นการสอบเข้า ส่วนอีกครึ่งก็จะเป็นการจับฉลาก ถึงแม้ว่าหากเด็กได้เข้าอนุบาลที่นี่ แต่ก็ไม่เสมอไปว่าเด็กจะสามารถ เข้าเรียนต่อในระดับชั้นประถมของเครือมหาวิทยาลัยได้เลย
公立 kouritsu ส่วนราชการประจำท้องถิ่นเป็นผู้ก่อตั้ง
อนุบาลส่วนใหญ่จะเน้นการเล่นเป็นหลัก รายละเอียดการเรียนการสอนของแต่ล่ะที่ แทบจะไม่ค่อยมีความแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะให้เด็กเอาอาหารกล่องไปเอง แต่ในปัจจุบันนี้ทางราชการส่วนท้องถิ่นมีการตัดงบประมาณ ทำให้อนุบาลของทางส่วนราชการประจำท้องถิ่นปิดตัวลงเรื่อย ๆ
私立 shiritsu หน่วยงานเอกชนเป็นผู้ก่อตั้ง
อนุบาลเอกชนจะมีจำนวนมากที่สุด ลักษณะการเรียนการสอนก็มีหลากหลาย มีทั้งแบบแนวการเลี้ยงดูแบบอิสระ, เน้นการเรียนในช่วงเด็กเล็กเป็นหลัก... อนุบาลที่บริหารโดยสำนักศาสนา อนุบาลที่มีแนวการสอนลักษณะพิเศษเน้นในเรื่องจินตนาการ ความคิดของเด็ก ส่วนใหญ่อนุบาลเอกชนจะมีรถรับส่ง มีอาหารกลางวัน มีระบบรับฝากเลี้ยงด้วย
**********************
อนุบาลเอกชนที่ไม่ขออนุมัติการเปิดดำเนินการจากทางส่วนราชการ
อนุบาลประเภทนี้ไม่ต้องอยู่ในกรอบกำหนด ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเด็ก, ขนาดของสนามเด็กเล่น, หลักสูตรการเรียนการสอนก็สามารถที่จะ กำหนดได้เอง จัดอยู่ในกลุ่มสถานศึกษาที่ดำเนินการโดยอิสระ ซึ่งสถานศึกษานานาชาติ, โรงเรียนการกีฬา ก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย อนุบาลที่ดำเนินการโดยอิสระกลุ่มนี้ จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือสนับสนุน จากทางราชการส่วนท้องถิ่น ดังนั้นค่าเรียนจึงมีราคาสูง
****แต่ล่ะปีอนุบาลที่เปิดรับฝากเด็กเริ่มมีเพิ่มมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วอนุบาลจะปล่อยเด็กกลับบ้านเวลาประมาณบ่ายสองโมง แต่ในช่วงระยะหลังนี้เริ่มมีอนุบาลที่เปิดรับฝากเลี้ยงช่วงเย็นเพิ่มมากขึ้น รายละเอียดในการรับฝากเลี้ยงช่วงเย็นนั้นแต่ล่ะที่ก็จะแตกต่างกันไป
Create Date : 21 สิงหาคม 2554 | | |
Last Update : 21 สิงหาคม 2554 21:17:52 น. |
Counter : 1642 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เลือกอนุบาลให้เหมาะกับลูก? (ญี่ปุ่น)
ซื้อนิตยสาร のびのび子育てมาอ่านเมื่อหลายวันก่อน อ่านแล้วก็ทำให้ได้มุมมอง แนวคิดเพิ่มขึ้นในเรื่องการเลือกอนุบาลเพิ่มขึ้น
ในคอลัมภ์นี้จะเป็นการตั้งคำถามกับผู้เชี่ยวชาญพัฒนาการเด็ก เกี่ยวกับพื้นฐานการเลือกอนุบาลรวมถึงสิ่งที่จำเป็นในเด็กเล็ก
■พอถึงวัยที่จะต้องเข้าอนุบาลแล้ว แต่ไม่เคยสอนลูกอ่านเขียนตัวหนังสือ หรือภาษาอังกฤษเลย จะเป็นอะไรไหม?
วัยเด็กเล็กจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้มีความสนใจในเรื่องของตัวหนังสือ คันจิ หรือว่าภาษาอังกฤษ แต่เด็กจะรู้สึกชอบใจเมื่อเวลาที่ได้เห็นหน้าพ่อแม่ตอนดีใจมีความสุข หากว่าเร่งสอนก่อนวัยมากเกินไป ก็จะเท่ากับว่า ละทิ้งความเป็นตัวตนของเด็ก เด็กจะหยุดทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจ แล้วหันไปพยายามทำตามสิ่งที่พ่อแม่ต้องการแทน การที่เด็กพยายามทำตามที่พ่อแม่บอก เพื่อที่จะได้รับคำชม ทำให้พ่อแม่ดีใจนั้น ก็เป็นเหตุให้พ่อแม่ไม่ได้เห็นในสิ่งที่เด็กอยากจะทำจริง ๆ ซึ่งผลกระทบจากปัญหานี้จะเห็นได้ก็ตอนช่วงที่เด็กเข้าสู่วัยรุ่น เด็กบางคนพอตัวเองไม่สามารถทำตามความคาดหวังของคนรอบข้างได้ ก็จะหมดหวังในตัวเอง ทั้งยังมีปัญหาวัยรุ่นที่เร่งเรียนก่อนวัย หรือเรียนแนวการศึกษาอัจฉริยะ มีปัญหาป่วยทางทางด้านจิตใจ ไม่ยอมกินอาหาร, ทำร้ายตัวเอง เกิดขึ้นด้วย
■สิ่งที่จำเป็นในเด็กเล็กคืออะไร
เด็กวัยนี้เป็นวัยที่ควรสอนให้เรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 สิ่งที่จำเป็นที่จะให้เด็กได้เรียนรู้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ก็คือ พลังของธรรมชาติอย่าง ดิน น้ำ ต้นไม้ สิ่งแวดล้อมตัวเอง เช่นเด็กรู้สึกได้เมื่อลมพัด ได้ลองจับแมลง, ต้นหญ้า .. รวมถึงได้รู้จักความกลัวในเวลาเดียวกัน
ในด้านของจิตใจสิ่งที่จำเป็นคือ ให้เด็กได้รับรู้ถึง 1.ความปลอดภัย ความเชื่อใจ ในความเป็นครอบครัว 2.รู้จักเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น โดยการมีเพื่อน 3.รับรู้ สัมผัสได้ถึง ความปลอดภัย ความเชื่อใจ ของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว
วัยเด็กเล็กเป็นช่วงเวลาหลักที่จะสอนให้เด็กรู้จักการสร้างสัมพันธ์กับบุคคลอื่น
■สิ่งสำคัญในการเลือกอนุบาล?
พื้นฐานของอนุบาลดี ควรเป็นอนุบาลที่ให้ความสำคัญในเรื่องของ การพัฒนาสัมผัสทั้ง 5 , พัฒนาด้านจิตใจ และพัฒนาทางด้านร่างกายในการสอนเด็กวัยนี้ และควรเป็นอนุบาลที่มีแนวความคิดว่า อนุบาลกับครอบครัวจะต้องร่วมมือกันในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก , รับฟังและรับมือกับสิ่งที่พ่อแม่ขอร้องได้ ไม่ใช่ว่า เรื่องการสอนเด็กปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางอนุบาลเอง พ่อแม่ไม่ต้องห่วง อนุบาลบางแห่งมีแนวความคิดว่าเด็กเล็กน่าสงสาร ประคบประหงมเกินไป ก็ไม่ดี เพราะจะไม่สามารถสอนให้เด็กใช้ความสามารถของตัวเองได้
■ถ้าไม่ให้ลูกเข้าเรียนอนุบาล จะทำให้เด็กมีปัญหาในการใช้ชีวิตร่วมกับคนหมู่มากหรือไม่
พ่อแม่บางคนอาจจะเลือกที่จะสอนลูกเองแบบ home school ไม่ส่งไปเรียนอนุบาล กรณีนี้หากสามารถสอนให้เด็กเรียนรู้ ทั้งด้านร่างกาย ด้านจิตใจ และสอนให้ได้รู้จักธรรมชาติได้ ก็ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ก็คือ ปัญหาในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เพราะเด็กจะมีประสบการณ์ความสัมพันธ์ของคน ก็เฉพาะแค่กับคนในครอบครัวเท่านั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่เด็กจะไม่ถนัดที่จะสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนวัยเดียวกัน หรือผู้ใหญ่ คือถ้าไม่ให้เด็กเข้าเรียนอนุบาล แล้วให้ไปเริ่มเข้าเรียนตอนประถมเลย ซึ่งตอนประถมจะยิ่งเป็นกลุ่มคนที่ใหญ่กว่ากลุ่มเด็กอนุบาล ก็จะเป็นการโหดเกินไปสำหรับเด็ก เพราะเด็กไม่ชินกับการอยู่ในหมู่คน
■อนุบาลแบบ 3 ปี ดีกว่าใช่หรือไม่?
พ่อแม่ที่เลือกให้ลูกเรียนอนุบาลแบบระยะยาว 3 ปี เหตุผลส่วนใหญ่ก็คือแม่จำเป็นต้องการที่จะกลับไปทำงาน นอกจากนั้นก็ยังมีพ่อแม่ที่กังวลกลัวลูกจะใช้ชีวิตในรร.ประถมไม่ได้ เลยอยากให้ลูกเข้าเรียนไว ๆ บางคนก็คิดว่าต้องรีบให้ลูกรู้จักใช้ชีวิตร่วมกับคนเป็นกลุ่มเร็ว ๆ
สิ่งที่สำคัญก็คือสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการให้เด็กได้เล่น ช่วงวัยเด็กเล็กนั้นควรให้เด็กได้เล่นอย่างเหมาะสม ถ้าสภาพแวดล้อมที่อยู่สามารถให้เด็กได้เรียนรู้จากการเล่นแล้วล่ะก็ ไม่จำเป็นเลยว่าจะต้องให้เด็กเข้าเรียนอนุบาลแบบ 3 ปีเสมอไป
Create Date : 21 สิงหาคม 2554 | | |
Last Update : 21 สิงหาคม 2554 8:57:41 น. |
Counter : 634 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|