ข่าวดารา



ข่าวดารา






‘ทาทา’ฝันอยากมีลูก ไม่แคร์!ท้องก่อนแต่ง


หลังจากปะทะหน้าหมอดูฟันธง ในรายการ “แซดทีวีฯ” ที่ทายทักนักร้องสาวว่า ทาทา ยัง มีแววท้องก่อนแต่ง ทำเอาวงการฮือฮาอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เคยทำนาย สาวแหม่ม-คัทลียา ได้แม่นยำมาแล้ว


เมื่อมีโอกาสเจอ ทาทา แบบตัวต่อตัว เจ้าตัวเปิดใจกับ “บันเทิง เดลินิวส์” ถึงโครงการในอนาคตระหว่างแฟนหนุ่ม เปรม บุษราคัมวงศ์ ว่า


“อ๋อ! ไม่ได้มีอะไรหรอกค่ะ วันนั้นไปออกรายการ เขาก็เอามาดูมาทำนาย ดวงทาทา แล้วพิธีกรก็ถามว่า ทาทาอยากมีลูกรึเปล่า ทาทาก็บอกว่า อยากมีสิ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ถ้าถามเรื่องท้องก่อนแต่ง เอาจริง ๆ เลยนะคะ ทาทาไม่แคร์หรอก ถ้าเกิดท้องก่อนแต่งจริงๆ ก็คงไม่มีปิดบังอะไรแน่นอน แล้วคงไม่ทำอะไรที่ไม่ดีแน่นอน มันเป็นความสุขของเรา ท้ายที่สุดแล้วสังคมก็ไม่ได้อยู่กับทาทาหรอก ฉะนั้นเราคงต้องยอมรับความจริง วัยขนาดนี้แล้ว ทาทาคงไม่ใช่ไม่รู้อะไรเลย มันคงต้องป้องกันและดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
“อีกอย่างโครงการแต่งงานนั้น ทาทายังไม่อยากแต่งงานในตอนนี้ ทาทาคิดว่า ทาทากับเปรมมีความสุขอย่างนี้ดีแล้ว สมมุติถ้าแต่งงานกัน เราอาจมองข้ามกันไปก็ได้ อยู่อย่างนี้มีอะไรให้กุ๊กกิ๊กดีออก แต่ก็ไม่ใช่เราไม่ได้คุยอนาคตกันนะคะ ก็มีบ้าง คุยแบบขำๆ ที่สำคัญผู้ใหญ่ของเราสองฝ่าย ปล่อยให้เราคิดเอง แค่ลูกมีความสุขเขาก็ยินดีด้วยแล้วค่ะ”


“อีกอย่างถึงช่วงนี้ ทาทาจะมีคิวงานเยอะ ไปต่างประเทศเพื่อโปรโมตอัลบั้มอินเตอร์ ชุด 2 ก็ตาม เวลามีตารางงานมาที ทาทากับเปรมก็จะเอาแพลนมาเทียบกัน แล้ววางเลยว่า เราจะเจอกันตอนนี้ ฉะนั้นไม่มีเวลาที่เราจะห่างกันมากเลยค่ะ” ทาทากล่าวยืนยัน.”



‘เจ’ลุยงานแบ่งเวลาลูก 2 ฟาก ฮัลโหลเติมเต็ม ‘เจด้า’ ไม่ขาด





ถึงจะมีคิวงานแสดงคอนเสิร์ตยาวไปถึงต้นปีหน้า แต่นักร้องหนุ่ม เจ-เจตริน วรรธนะสิน ก็ยังอุตส่าห์เจียดเวลาทำงานมาให้กับครอบครัวอยู่เสมอ วันหยุดก็มักจะพาลูกชายทั้ง 3 คน (ที่เกิดกับ ปิ่น-เก็จมณี) ได้แก่ เจ้านาย, เจ้าขุน และ เจ้าสมุทร ไปเที่ยวเล่นออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่ง น้องเจด้า ลูกสาวคนโตที่อยู่เมืองนอกกับอดีตภรรยา จีน่า-จิดาภา ณ ลำเลียง เจ้าตัวก็ยังโทรฯไป เซย์ฮัลโหลบ่อยๆ เพียงแต่ยังไม่เคยพา น้องเจด้ามาเจอหน้าน้องๆ ทั้ง 3 คนแบบครบทีม เพราะเกรงว่ายังเด็กเกินไป เกินกว่าจะเข้าใจถึงสิ่งที่เป็นอยู่


“ช่วงนี้ถึงจะยุ่งมากแค่ไหน แต่เรื่องครอบครัวผมไม่เคยขาดตกบกพร่อง จะพาลูกไปเที่ยวบ่อย ๆ อย่างน้องเจด้า ผมก็โทรฯหาเขาเป็นประจำ และจะบินไปเยี่ยมทุกวันเกิด เพียงแต่ปีนี้ไม่ได้ไปเพราะงานยุ่งมาก เมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งโทรฯคุยกันเองบอกว่า ไม่มีเวลาไปหานะ บินมาเที่ยวที่นี่ซิ แต่ไม่รู้เขาจะมาหรือเปล่า เพราะปีที่แล้วเขาบินมาเที่ยวเมืองไทย และไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านด้วย แล้วพอกลับไปก็ไม่สบาย เพราะเขาไม่ชินอาหารที่นั่น คงเข็ดๆ กลัวๆ ไม่กล้ามาเที่ยว แต่เขาชอบมาเมืองไทย เพราะมาที่นี่อบอุ่นญาติเยอะ”


“เพราะได้เจอทั้ง ปู่ ย่า พี่โจ-จิรายุส เขาสนิทกับพี่ชายของผมมากกว่าผมเสียอีก ส่วนเรื่องที่ว่าน้องเจด้าเคยเจอลูกชายทั้ง 3 คนบ้างมั้ย ยังไม่เคยเจอครับ เพราะพวกเขายังเด็กอยู่ แต่ลูกชายผมทุกคน จะเห็นหน้าเจด้า เนื่องจากจะติดรูปเขาไว้ในห้องนอน เรียงไว้ทุกคนเลย ตั้งแต่ เจด้า, เจ้านาย, เจ้าขุน และเจ้าสมุทร ถ้าเจอกันก็น่าจะจำได้”


“ที่ยังไม่ให้เจอกันตอนนี้เพราะผมคิดว่ายังไม่ถึงเวลา แต่เจด้าก็รู้ว่าเขามีน้อง ลูกชายทั้ง 3 คนก็รู้ว่าเขามีพี่ อยากจะรอให้เขาโตก่อน แต่เจด้าก็ไม่เป็นเด็กมีปัญหานะ เขายังบอกเพื่อนๆ ในห้องเรียนของเขาเลยว่า พ่อของเขาเป็นนักร้องฮิปฮอปชื่อดังของเมืองไทยนะ.”.





‘เคพีเอ็น’ดึง‘บอย’ นั่งแท่นบริหาร





เคพีเอ็น สถาบันดนตรีมืออาชีพ นำโดยคณะกรรมการที่ปรึกษาทางด้านดนตรีระดับมือชั้นนำของวงการฯ ได้แก่ อ.วิรัช อยู่ถาวร, อ.ดุษฎี พนมยงค์, อ.ธนภัทร มัธยมจันทร์, อ.นรอรรถ จันทร์กล่ำ ภายใต้การบริหารของ ณพ ณรงค์เดช ล่าสุดออกปากชวน เจ้าพ่อเพลงรัก อย่าง บอยด์ โกสิยพงษ์มานั่งแท่นบริหารอีกคนเรียบร้อยแล้วในฐานะ “บอร์ดวิชาการ” เพื่อถ่ายทอดความรู้ทางด้านการเขียนเพลง แต่งเพลง ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้สนใจอยากเป็นนักแต่งเพลง ที่ต้องการจะหาความรู้ทางด้านดนตรีอย่างครบวงจร


บอยด์ โกสิยพงษ์ กล่าวถึงเหตุที่ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมเคพีเอ็นว่า


“โดยส่วนตัวแล้ว ผมยอมรับในชื่อเสียง มาตรฐานการสอนดนตรีของสถาบันดนตรี เคพีเอ็นมานานแล้ว และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้ร่วมเป็นหนึ่งในบอร์ดวิชาการ ซึ่ง คุณณพ ได้เปิดโอกาสให้ผมเข้ามาเสริมกำลังในส่วนของการแต่งเพลง หวังว่าจะส่งผลไปยังน้องๆที่มีใจรักด้านดนตรี จะได้รับความรู้อย่างถูกต้อง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานดนตรีจนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ครับ.”





เข้าชมรม“คนกินเด็ก” “แอม-เสาวลักษณ์” ควงโชว์ ยอมอุทิศร่างให้ “ขาเม้าท์”





เผยโฉมแฟนหนุ่มวัยละอ่อน นักดนตรี “จิ๊บ” ที่อายุห่างกันหลายปีเป็นครั้งแรก สำหรับศิลปินสาวคุณภาพวัยสี่สิบเศษ แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร ที่เขาอาสามาเป็นบอดี้การ์ดสุดเลิฟ นั่งเฝ้าวันที่ แอม มาถ่ายโปสเตอร์ที่ตึกแกรมมี่ เพื่อโปรโมตงานคอนเสิร์ต “SEEFA # 2 DEEP BLUE CONCERT” ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคมนี้


งานนี้ แอม เผยถึงแฟนหนุ่มกับความรักครั้งนี้อย่างสุดซึ้งว่า คบกับคนนี้แล้วสบายใจ ไม่หวั่นเสียงเม้าท์หรอก ว่าใครจะมองว่าเข้าชมรม “กินเด็ก” เหมือนอย่างคู่ มาช่า-กฤษณ์, อ้อม-ซันนี่, อั้ม-ต๊อด และอีกหลายๆ คู่ คือถ้าพูดภาษาเดียวกัน มีความรู้สึกที่ดีให้กัน เรื่องอายุที่ห่างกันก็ไม่เป็นผล ขอบ่นหน่อยว่า ไม่อยากให้โฟกัสเรื่องความรักมากกว่าเรื่องงาน


เปิดตัวแฟนเด็ก


“ความรักของแอมตอนนี้ จะแตกต่างจากเมื่อก่อนแล้ว แอมไม่ได้ถือเพศพรหมจรรย์ ไม่ได้นุ่งขาวห่มขาว สามารถมีแฟนได้ การมีแฟนก็ดี เพราะเรายังเคยอำกันเลยว่า คุณเหมือนลาบาดอร์สำหรับคนตาบอด คอยจูงไปไหนๆ การที่มีใครสักคนอยู่ช่วยดูแลกัน มันก็ดี เพราะช่วงที่แอมป่วยมากๆ เคยตกบันไดกระดูกแตก หันไปรอบข้างก็ไม่มีใคร ก็ต้องขับรถไปโรงพยาบาลเอง ดังนั้น การที่มีใครอยู่ด้วยก็ดี ถ้าเราเป็นอะไรไป ก็จะมีคนพาเราไปโรงพยาบาล”


“จริงๆ ที่ผ่านมา ก็พยายามหาแฟนรุ่นๆ เดียวกัน วัยใกล้ๆ กันมาตลอด ไม่ใช่ไม่หา แต่แอมสันนิษฐานว่า ผู้ชายที่เรากำลังหา คงตายไปหมดแล้ว (หัวเราะ) ถ้าไม่ตาย ก็มีเมียแล้วหรือไม่ก็คงเป็นเกย์”


“ยิ่งถ้าอายุวัยเดียวกัน ก็ไปมีแฟนเด็ก เขาก็ไม่เอาเรา ดูอย่าง นีโน่ สิ เขาก็ไม่เอาเรา ก็ไปมีแฟนเด็ก พอมาถึงตอนนี้ก็ไม่สำคัญแล้ว จะอายุมากกว่า วัยเดียวกัน หรือน้อยกว่า แต่ขอให้ดีกับเราก็พอแล้ว”



เห็นใจแฟนเพราะหวานไม่เป็น


“คนที่ แอม คบก็อายุน้อยกว่า แอม เยอะ เขาทำงานในแวดวงดนตรี พอเราคบกันมา เขาทำให้มุมมองความรักของเราเปลี่ยนไปนะ เวลาเรามีแฟน ก็เหมือนมีเพื่อนที่ดี เรารู้จักกันได้ปีหนึ่งแล้ว ก็ดีต่อกัน ดูแลกัน เวลาไปไหนก็ไปเป็นเพื่อนกัน แอมเห็นใจเขานะ เพราะต่อมความหวานที่เหมือนคู่รักในหนังเกาหลีของ แอม มันหยุดผลิตแล้ว”



ปัญหาเกิดจากความคิดไม่ใช่ตัวเลข


“ถามว่าอายุห่างกันเยอะมั้ย ไม่บอกหรอก เพราะบางคนถือ แต่สำหรับตัว แอม ไม่ถือ ถ้าถือเดี๋ยวก็จะมีคนมาเม้าท์แอม กลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหว ออกไปตบกัน เป็นเรื่องเปล่าๆ ส่วนอายุที่ห่างกันมีปัญหาต่อการคบกันมั้ย? ก็ถ้าเราถือ ก็คงมีผล ถ้าเขาคิด ก็คงมีผล และถ้าเราคิด ก็คงมีผล แต่ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายไม่คิด ก็คงไม่มีผลอะไร”


“ แอม คิดว่า ปัญหามันอยู่ที่ความคิดมากกว่า ไม่ใช่อยู่ที่ตัวเลขอายุหรอก บางที แอม คุยกับเด็กเล็กๆ บางคน เรายังอึ้งเลยว่า เฮ้ย...ไอ้เด็กคนนี้มันคิด มันพูดแบบนี้ๆ ได้ยังไง บางทีเราไปพูดกับคนที่แก่กว่าเรา และน่าจะเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา แต่พูดตรงๆ แม่งคุยกันไม่รู้เรื่องเลย ทำไมแก่ป่านนี้แล้ว ยังพูดจาแบบนี้ (หัวเราะ)ก็มีให้เห็นเยอะไป”



ไม่หวั่นเสียงเม้าท์ว่า “กินเด็ก”


“สำหรับตัวเอง ไม่ว่าใครอยากแซว ก็แซวไป ใครอยากเม้าท์ ก็เม้าไป แอม ขออุทิศร่างให้แซวให้เม้าท์กันไปเลย มันอยู่ที่ตัวแอมมากกว่า ถ้าตัวเองไม่ยอมใส่ใจคนที่เม้าท์ซะอย่าง ก็อยากพูดก็พูดไป ถ้าไม่เหนื่อยก็พูดไปสิ”


“ขอย้อนถามสักคำคนที่พูด ลองกลับไปมองวิเคราะห์ดูตัวเองว่า ตัวเองดีพอแล้วเหรอ? ถึงกล้ามาวิจารณ์คนอื่น เข้าใจนะเวลาที่เม้าท์คนอื่นน่ะ มันสนุก ถ้าให้เลือกได้ ทุกคนก็อยากจะเลือกสิ่งที่เหมาะสมทั้งนั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ในชีวิตจริงๆ คงไม่มีใครได้อย่างนั้นเสมอไปหรอก”


“บางทีเราไปเจอใครคนหนึ่งที่เขาดีกับเรา พูดกันรู้เรื่อง แล้วจะให้เราทำยังไง เพราะเขาเกิดมาทีหลังเรา จะให้เราไปเลือกคนที่เขาเกิดมาพร้อมกันกับเรา แต่คุยกันไม่รู้เรื่องหรือเปล่า? ไม่อยากสร้างภาพ ฝืนคบกับใคร เพราะเวลาเดินด้วยกัน รุ่นเดียวกันแล้วดูดี แต่พอพ้นจากสายตาคนอื่นก็เถียงกันแหลกลาน ก็คงไม่มีความสุขหรอก”


“ดังนั้น แอมก็ไม่สนใจ ใครอยากแซว ก็แซวไปเลย ดูอย่างคู่ มาช่ากับกฤษณ์ ก็ยังถูกแซว ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย อย่าว่าแต่รุ่นพี่เลย รุ่นน้องอย่างอ้อม (พิยดา) ก็ยังโดนแซว น้องอ้อมเด็กกว่าแอมตั้งเยอะ เอาเป็นว่าโดนกันทั้งนั้น คนมันจะจับประเด็นซะอย่าง ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่ถือสา แซวแบบไม่มีเจตนามุ่งร้ายต่อกัน ก็คงไม่เป็นไร”



มองถึงการแต่งงานกันบ้างมั้ย


“เลิกคิดแล้วล่ะ ต่อมแอม เจ๊งไปแล้ว ตั้งแต่ที่ แอม เลิกคิดเรื่องแต่งงาน เลิกคิดการมีครอบครัว มีพ่อ แม่ ลูก ปุ๊บ ความรักของแอมสบายใจขึ้นมาก มีความสุขขึ้น ยอมรับว่าที่ผ่านมา แอมอกหักเพราะอะไร เพราะสาเหตุมาจากความคาดหวังในการสร้างครอบครัว พอแอมเลิกคาดหวัง แอมก็มีความรักอย่างสบาย มีความรักชนิดใหม่ที่เพิ่งค้นพบ ความรักที่ไม่ต้องมีภาค 2 ไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะต้องหมั้นเมื่อไหร่ แต่งเมื่อไหร่ หรือจะมีลูกเมื่อไหร่ ก็จะปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ถ้าจะมีก็มี ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร”




เขาเคยเอ่ยปากขอแต่งงานหรือเปล่า

“เคย แรกๆ เขาก็งงเหมือนกัน ชวนเราแต่งงานแล้วทำไมไม่แต่ง ดูผิดเพศ ผิดหญิงทั่วไป แต่ตอนนี้เข้าใจกัน เคลียกันได้แล้วว่าความคิด ความรู้สึกปัจจุบัน มันเป็นยังไง และเรารักกันได้ในแบบไหน ถ้าเข้าใจตรงกัน ก็โอเค เพราะฉะนั้นตอนนี้ใครจะมาคาดหวัง จะมาเป็นเจ้าเข้าเจ้าของแอม หรือคาดหวังจะมาแต่งงานกับแอม ก็คงมาเป็นแฟนกันไม่ได้ ขออยู่อย่างนี้ดีกว่า ถามว่าคาดหวังกับความรักครั้งนี้ยังไง แอมปล่อยวาง ไว้หมดแล้ว จะยังไงก็ได้ อยู่คนเดียวก็ได้ อยู่ 2 คนก็ได้ คือตอนนี้ก็คง ก็ได้ๆ ใครถามอะไรก็คงตอบ ก็ได้ๆ อย่างเวลาใครแซวว่า คบแฟนเด็กรู้สึกยังไง แอมก็ตอบได้เพียงว่า ก็ได้ๆ”




คบกันแบบไม่ได้ปิดบัง


“เราคบกัน ก็ไม่ได้ปิดบังใคร ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ถามว่ากลัวปาปารัซซีมั้ย เอาเป็นว่าใครอยากถ่าย ก็ถ่ายไป บอกตามตรงจริงๆ ตัวเองไม่ค่อยอยากหยิบเรื่องราวความรักของตัวเองมาพูดถึงมากเท่าไหร่ เพราะชั่วโมงนี้ ของตัวเองไม่เห็นว่ามันจะสำคัญเลย เพราะเวลาหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูด ก็ไม่มีใครเขียนถึงงาน แอม เลย คนอ่านก็อ่านเรื่องความรัก ก็ไม่สนใจเรื่องอัลบั้มเพลง”







กำลังจะมีอัลบั้มพิเศษ DEEP BLUE ของสีฟ้า โปรเจกต์


“จะเป็นอัลบั้มพิเศษของพี่นิ่ม สีฟ้า ก็จะรวมศิลปิน เจนนิเฟอร์ คิ้ม, มาช่า, พลพล, น้องอ๊อฟ-ปองศักดิ์ ฯลฯ โดยพวกเราจะเป็นคนถ่ายทอด พี่นิ่มก็จะเลือกน้องๆ ที่คุ้นๆ มาทำงาน โดยจะแต่งเพลงขึ้นมาใหม่ ให้ร้องคนละเพลง และรวมเป็นผลงานของพี่นิ่ม DEEP BLUE ตอนนี้ก็ได้ไปอัดเสียงแล้ว”



คอนเสิร์ต “SEEFA #2 DEEP BLUE CONCERT”


“มันก็ต่อเนื่องมาจากคอนเสิร์ต “SEEFA DEEP BLUE CONCERT” ก็เลยทำงานทีเดียวไล่ๆ กัน การเตรียมตัวในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก เตรียมตัวเหมือนทุกๆ คอนเสิร์ตที่ผ่านมา นักร้องทุกคนคงต้องดูแลเรื่องสุขภาพเป็นอย่างดี ต้องฟิตร่างกายให้พร้อม เพราะเวลาเล่นคอนเสิร์ตที จะต้องใช้พลังแรงเยอะ”




เริ่มศึกษาธรรมะ ไม่หวั่นถูกมองหลุดโลก


“ตอนนี้ แอม เริ่มหันมาอ่านหนังสือธรรมะเป็นพิเศษ จะอ่านของท่านพุทธทาส ก็จะศึกษาเรียนรู้เองที่บ้าน จะศึกษาธรรมะแบบตรงๆ พระพุทธเจ้าสอนอะไร ก็จะเอาตามนั้นตรงๆ ไม่เอาเรื่องรกๆ เนื้องอก ที่สนใจด้านธรรมะคนรอบข้างก็จะบอกว่าตามวัย แต่สำหรับ แอม มองว่า ชีวิตคนเราผ่านอะไรมาเยอะๆ พอย้อนมองดู ก็จะเกิดคำถามว่า ทำไมอันนั้นต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมอันนี้ต้องเป็นอย่างนี้ ซึ่งเราก็ไม่สามารถหาคำตอบให้ชีวิตเราไม่ได้ซะที ก็มาสรุปว่า คำตอบมีมานานแล้ว แต่เราโง่เอง ไม่ซาบซึ้ง ไม่เข้าใจเอง”


“ถ้าเราอยากได้คำตอบก็ต้องศึกษาศาสนานี่แหละ แต่แอมไม่ได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดหรือที่ไหน เพราะคิดว่าคงไม่มีใครในโลกจะมาวิเคราะห์ตัวเราได้ดีเท่ากับตัวเรา แต่ละคนมีทางที่ถนัดและได้ผลแตกต่างกัน การไปวัดเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ใช่ทางของแอม แต่จะถนัดอ่านหนังสือ ค้นคว้าด้วยตัวเอง และสนทนาธรรมกับคนที่คุยด้วยได้ เลยทำให้ทุกวันนี้เรารู้ทันตัวเอง วิเคราะห์ชีวิตประจำวันส่วนตัวของเรา ก่อนที่ตัวเองจะวิจารณ์ใคร ก็ได้มองย้อนดูตัวเราเองก่อน ว่าดีแล้วเหรอ”


“ถามว่าการที่เรามาศึกษาตรงนี้แล้ว คนจะมองว่าเราหลุดโลกมั้ย บอกตามตรงตัวเองอยากหลุด เพราะจะคอยบอกคุณพ่อเสมอว่า ถ้าแอมตายไปแล้ว จะไม่กลับมาแล้ว จะกลับมาในรูปไหนก็ไม่ขอมาแล้ว ใครบอกถ้าทำแบบนี้ตกนรก ทำแบบนี้ขึ้นสวรรค์ สำหรับตัวเอง ขอไม่เอาสักทางได้มั้ย แต่สิ่งที่อยากได้คือ อยากให้ตัวเองละลาย กลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานกลับคืนสู่ธรรมชาติไป ยังเคยถูกพ่อล้อเลยว่า ดูท่ามันจะนิพพาน ซึ่งใครจะมองว่าเราหลุดก็มองไป”



ผลงานอัลบั้มเต็ม


“ก็เริ่มเข้าประชุมทำอัลบั้มชุดใหม่แล้ว ก็ได้เพลงมา เอาเพลงกลับบ้านมาฟังได้สักพัก ก็เริ่มจะโดนด่าแล้วว่า เมื่อไหร่จะส่งเพลงสักที ยังคิดไม่ออก (หัวเราะ) อัลบั้มนี้ก็คงทำแบบที่แอมเป็น คงไม่ได้ไปตามเทรนด์นักร้องรุ่นใหม่ว่า ตอนนี้เขาฮิตอะไร ฉันจะต้องลุกขึ้นมาทำบ้าง ก็คงจะไปโฟกัสเรื่องเครื่องดนตรีใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ว่ามีอะไรที่ให้เราเล่นได้บ้าง”


“ส่วนแนวเนื้อหา สิ่งไหนที่เป็นอารมณ์ที่ต้องสื่อสารกับคนฟัง ก็พยายามเขียนออกมาให้ได้ ส่วนปัญหาเรื่องการรื้ออัลบั้มแอม ก็ไม่ซีเรียส อยากรื้อก็รื้อไป อัลบั้มที่แพลนไว้ตอนแรก ต้องเสร็จปลายปีนี้ ตัวเองคิดว่าคงไม่มีทาง ไม่น่าเสร็จ ก็น่าจะเป็นปีหน้าก็คงได้ฟังกันค่ะ”





ฟังคำตอบเรื่องราวความรักและเรื่องราวชีวิตบางส่วนของสาวแกร่ง แอม-เสาวลักษณ์ กันไปแล้ว แต่ยังไงๆ แฟนเพลงของแอม ก็ห้ามพลาด กับคอนเสิร์ตของเอ-ไทม์ “SEEFA #2 DEEP BLUE CONCERT” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ณ สนามกีฬา อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก


งานนี้บนเวทีจะอัดแน่นไปด้วยศิลปินคุณภาพอีกหลายคน อาทิ มาช่า วัฒนพานิช, ใหม่ เจริญปุระ, เจนนิเฟอร์ คิ้ม, โบ-สุนิตา, พลพล พลกองเส็ง, โก้ Mr.Saxman และอ๊อฟ-ปองศักดิ์ บัตรราคา 1,200/1,000 และ 800 บาท หาซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ทุกสาขา.






สัมภาษณ์บิลลี่ โอแกน “เสี่ยว”(สัมภาษณ์นานแล้ว)







Thaialbums : ไม่คิดถึงแฟนเพลง บิลลี่โอ พิ๊งค์เหรอ ?

Billy : ร็อค ทำเมื่อไหร่ก็ได้ การทำงานเพลงแต่ละชุด จะให้ผมเป็นบิลลี่เข้มไปตลอดคงไม่ได้ ครั้งนี้เราก็ได้เรียนรู้การทำเพลงแบบลูกทุ่ง มีเพลงหมอลำด้วย 2 เพลง เพลงเฮ็ดบ่ กับ บิลลี่รำเพลิน

Thaialbums :วิธีการร้องเปลี่ยนไปไหมครับ ?

Billy : ต้องเปลี่ยนนะ โครงสร้างไม่เหมือนกัน มีตัวเอื้อน มีลูกคอ แล้วก็วิธีการร้อง ก็จะใช้เทคนิคใหม่ๆ

Thaialbums : มีการฝึกร้องเอง ?

Billy : ก็มีอาจารย์มาสอนเรื่องภาษาท้องถิ่น

Thaialbums : ชื่ออัลบั้มล่ะครับ มีที่มาอย่างไร ?

Billy : เสี่ยว ผมตั้งเอง สื่อความหมายว่าเป็นลูกทุ่งแน่ๆ โดยรวมดูเป็นศิริมงคลด้วย เสี่ยว หมายถึง เพื่อน ก็เหมือนเราเป็นเพื่อนกันจริงๆ

Thaialbums : พี่บิลลี่คิดว่าผลงานอัลบั้มนี้ มีความแตกต่างจากเพลงลูกทุ่งทั่วไปยังไงบ้างครับ?

Billy : หนึ่งเลย คนร้องเป็นคนกรุงเทพฯ และก็พยายามจะนำเสนอ เราเขียนเพลงเองทั้งหมด แล้วก็ตั้งใจในการอัดเสียงให้สด ให้ได้อารมณ์ของคนเล่นให้มากที่สุดครับ

Thaialbums : เห็นว่า พี่เป้ สีน้ำ ได้เข้ามาช่วยด้วย ?

Billy : ครับ เพลงนามสกุลหลายใจ

Thaialbums : เพลงทั้งหมดนี่แต่งเองหมดเลย สำเนียงจะออกเป็นแบบไหนครับ ?

Billy : ต้องลองฟังเองนะ อธิบายไม่หมด ผมก็ทำด้วยความเคารพนะ ทุกอย่างถูกต้องตามแบบลูกทุ่ง ถ้าออกนอกลู่นอกทางมันจะไม่ดีเลย ก็มีอาจารย์ประพันธ์ศิลป์ คณะประพันธ์ศิลป์ ดูแลผมเรื่องภาษาอีสาน



Thaialbums : ข้อมูลในการแต่งเพลงละครับ ได้มาจากไหน ?

Billy : ได้มาจากชีวิตของคนทั่วไป อย่างเพลง ชายสี่หมี่เกี้ยว เราก็ไปซื้อบะหมี่แล้วก็คุยกะคนขายเค้าไปเรื่อย พอเริ่มสนิทกัน เค้าก็จะเล่าเรื่องราวของเค้าให้เราฟัง ก็ออกมาเป็นเพลง

Thaialbums : พี่บิลลี่เลือกทำเพลงลูกทุ่งเพราะเพลงสตริงค์มันตันหรือยังไงครับ?

Billy : เพลงสตริงค์ ช่วงตันมันก็มีนะ แต่ไม่ตันตลอดหรอก ผมใช้ชีวิตอยู่กับลูกทุ่งเยอะมั้ง เดี๋ยวนี้ฟังแต่ลูกทุ่ง ส่วนแม่แบบไม่มีนะ แต่ผมชอบพี่เป้า สายัณ สัญญา

Thaialbums : เรียกว่าเป็นลูกทุ่งกรุงเทพฯ ?

Billy : ลูกทุ่งที่ร้องโดยคนกรุงเทพฯละกัน (หัวเราะ)

Thaialbums : เสียงตอบรับตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ ?

Billy : ก็ยังไม่รู้นะ แฟนลูกทุ่งถ้าเพลงออกมาไม่น่าเกลียดนักนะ เค้าก็คงไม่ปฏิเสธ อย่างโจนัส คริสตี้ เค้ายังร้องได้เลย พี่เบิร์ดก็ร้อง มันก็เป็นส่วนหนึ่งของคนไทยอยู่หน่ะ ถ้ามองในแง่ดนตรีแม้แต่นักร้องสตริงค์ ก็สามารถทำเพลงลูกทุ่งได้ แต่การนำเสนอจะแตกต่างกันออกไปนะ ผมก็จะเป็นของผมแบบนี้




Thaialbums : อย่างนี้ชุดหน้าจะเป็นลูกทุ่งอีกหรือเปล่า ?

Billy : ผม ก็ไม่แน่ ชุดหน้าผมอาจจะฮาร์ทคอร์ไปเลย หรืออาจจะหนักกว่าเดิม เป็นบิลลี่ลำซิ่ง (หัวเราะ) หรือมีเป็นแนวเรกเก้ แต่เรกเก้นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของลูกทุ่งนะ อย่างเพลงไข่เค็ม จะมีลูกสาวมาร้องคอรัส เขียนไว้เสร็จก็ให้เค้ามาร้องนะ ไม่ใช่ลูกผมคนเดียว มีลูกของโปรดิวเซอร์ โค-โปรดิวฯด้วย ก็มาช่วยๆกัน แต่ นนนี่ เค้าก็มีร้องด้วยทุกชุด

Thaialbums : น้องนนนี่ เค้ามีแววด้านนี้ ?

Billy : ก็ ถ้าเค้าทำได้ก็ดีนะ จะได้เขียนเพลงให้ร้อง เอ้อ ชุด Family ที่ออกใหม่นี่ดีนะ (หัวเราะ) นอกเรื่องไปนิด เอ้อ ถ้า นนนี่ เค้าอยากร้อง ก็ดี ผมก็จะเขียนเพลงให้เค้าร้อง ก็เป็นเพลงแนวเด็กๆ ก็เหมือนในอัลบั้ม Family แหล่ะที่ให้เด็กร้องแบบน่ารักๆ

Thaialbums : น้องนนนี่ เค้าชอบไหม ?

Billy : ก็ชอบนะ แต่ร้องเพี้ยน (หัวเราะ) แบบถ้าไปเจอเสียงคี G เด็กร้องจะไม่ต่ำไม่สูงไป ชุดนี้เป็นอารมณ์เด็กชอบกินไข่เค็ม

Thaialbums : อย่างนี้เพลงในอัลบั้มนี้ก็ฟังกันได้ตั้งแต่เด็กๆจนถึงแก่ได้เลยนะ?

Billy : ใช่ นามสกุลหลายใจ ก็ไป ชาชาช่า ลีลาศได้เลย ก็พยายามจะทำให้ทุกๆคนฟังกันได้หมด


Thaialbums : แล้วได้เจอกันน้องนนนี่ บ้างไหมครับ ?

Billy : ก็เจอเสาร์-อาทิตย์นะ แต่บางทีคุณแอนเค้าก็โทรมา แบบอาทิตย์นี้ไม่ได้นะ ลูกมีเดินแฟชั่น อะไรงี้ ผมก็โอเคนะ ได้ตังค์ก็ไปเถอะลูก (หัวเราะ) เราเจอกันเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าแบบเป็นเล่นหนังเล่นละครอะไรพวกนี้ผมยังไม่เห็นด้วย แบบเด็กหน่ะ เล่นละครอะไรก็แบบเดี๋ยวเล่นไปๆเกิดไม่อยากเล่นแล้ว ไม่ยอมไปแล้ว ยุ่งเลยนะ



Thaialbums : วกกลับมาที่อัลบั้มนี้นะครับ ใช้เวลาทำนานแค่ไหนครับ ?

Billy : ปีเดียวครับ

Thaialbums : ชอบเพลงไหนมากที่สุดมั้ย ?

Billy : ชอบหมด ถามผมไม่ได้หรอก ผมทำเอง ผมก็ชอบหมดแหล่ะ (หัวเราะ)

Thaialbums : เรื่องการฝึกร้องล่ะครับ ใช้เวลานานไหม ?

Billy : นาน เป็นเดือน ก็จนกว่าครูเค้า จะโอเค

Thaialbums : เพลงที่ใช้เวลานานที่สุด ?

Billy : ใช้เวลานาน ก็เพลง ชายสี่หมี่เกี้ยว โดนแก้น้ำเสียงอยู่เยอะ พี่ป้อมอัสนีแก้

Thaialbums : พี่ป้อมเข้ามาช่วยดูด้วย ?

Billy : ครับ ช่วยดู ช่วยฟังกัน

Thaialbums : แล้วจะมีคอนเสิร์ตไหมครับ ?

Billy : มีแน่ ผมเน้นต่างจังหวัด อยากไปเที่ยวไกลๆ ในกรุงเทพฯก็แล้วแต่บริษัท

Thaialbums : เน้นแฟนเพลงต่างจังหวัดมากกว่า ?

Billy : ก็เน้นด้วย แต่คนกรุงเทพฯจะฟังก็ดี (หัวเราะ) แล้วแต่ชอบ

Thaialbums : สำหรับงานอัลบั้มชุดนี้ได้กลับเข้ามามีสังกัดอีกแล้ว ?

Billy : ครับ ก็มอร์มิวสิค ของพี่ป้อม-อัสนี

Thaialbums : ได้มีสัญญาอะไรกันไหม?

Billy : สัญญายาวเลย (หัวเราะ) สัญญาใจยาว ไม่มีเอกสารอะไร (ยิ้ม)

Thaialbums : แล้วไม่คิดจะเข้าไปช่วยดูแลงานอะไรในบริษัทบ้างหรือ?

Billy : โอ้ย ยังไม่เก่งขนาดนั้น ก็แล้วแต่พี่ป้อม แล้วแต่นาย(หัวเราะ)

Thaialbums : แล้วตอนนี้นายสั่งอะไรบ้างหรือยัง ?

Billy : (หัวเราะ) นายบอกให้ทำตัวดีๆ




Thaialbums : แล้วมีทำเพลงให้คนอื่นบ้างไหมครับ ?

Billy : ก็มีบ้าง เป็นน้องๆก็ช่วยดูแลเฉยๆ ไม่ได้เข้าไปเต็มตัวอะไร

Thaialbums : แล้วทำไมถึงคิดจะกลับมามีสังกัด ?

Billy : อืม จริงๆทำใต้ดินก็ดีนะ อย่างอัลบั้มที่แล้วขายไป 3000 ชุด แต่ผมได้อะไรมากกว่านั้นนะ ได้รู้กระบวนการเป็นใต้ดินว่าเค้าทำกันยังไง ขายยังไง ก็ได้อะไรเยอะแยะ ตอนแรกเขียนงานนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำเป็นแบบไหน พอดีพี่ป้อมมาชวน ก็เลยเห็นดีด้วย งานในระบบบริษัทก็ง่ายขึ้น ก็มีเวลาทำอะไรส่วนตัวมากขึ้น เช่น ดูแลบ้าน มีงานก็ทำตามตาราง ทำเสร็จก็ได้พักผ่อน ก็สบายกว่ากันเยอะเลย แล้วแต่จะเลือกอ๊อบชั่นนะ ชุดที่แล้วผมก็แฮปปี้ เพลงก็ชอบ ได้รางวัลสีสันฯด้วย ก็แฮปปี้ งานในระบบค่าย มันก็จะมีระบบแผ่นแจกไง ก็จะดีกว่า ตอนนั้นไม่มีแผ่นแจกหรอก

Thaialbums : มีความคิดจะทำค่ายของตัวเองเลยไหม ?

Billy : ไม่ อืม ผมไม่เหมาะจะเข้าไปเป็นผู้บริหารหรอก เป็นนักดนตรีดีกว่า

Thaialbums : แต่ในเรื่องของสตางค์ที่จะได้มันจะได้มากขึ้นนะ ?

Billy : อืม ก็พอมีพอกินแล้วล่ะ ไม่ได้ทะเยอทะยานอะไรมาก พอแล้ว



Thaialbums : แล้วที่ทำลูกทุ่งนี่เพราะวัยด้วยหรือเปล่า ?

Billy : (หัวเราะ) ไม่ใช่หรอก แต่ไปไหนมาไหน ใครๆเค้าก็ไหว้ หนวดก็มี หงอกแล้วด้วย(หัวเราะ) ธรรมชาติมันบอกอยู่แล้ว เอ๊ะ ตกลงไม่เกี่ยวกับวัยนะ (หัวเราะ)ผมสนุกที่ได้ทำชุดนี้ ได้รับความช่วยเหลือจากหลายๆคน มีพี่ๆเพียบ เพื่อนนักดนตรีที่ช่วย ก็มี กบ-ไมโคร ,แก๊ป-ทีโบน ก็มีหลายๆคน ครูหนูจีน พี่เป้สีน้ำ พวกเค้าอยู่เบื้องหลัง จะสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีคนเหล่านี้นะ

Thaialbums : ละคร ไม่เล่นแล้วหรอครับ ?

Billy : ละครเลิกเล่นแล้ว เพราะผมไม่อยากเล่นเป็นพ่อ ลำพังแค่นี้ก็ช้ำใจ (หัวเราะ)

Thaialbums : หนังล่ะ ?

Billy : หนังนานๆที มี โจ๋ยฯ ของ อาร์.เอส.ฯ อันนั้นเค้าคุยเรื่องกล้องที่ใช้ถ่ายให้ฟัง แล้วเลยเอา เล่นด้วย (หัวเราะ)

Thaialbums : แหม แต่ดูอย่าง พี่แซม เค้ายังเล่นละครอยู่เลย เป็นพระเอก พี่ก็ยังไม่ถึงขนาดเล่นเป็นพระเอกไม่ได้นะ (พูดจริงๆ)

Billy : โอ้ย ไม่เอาแล้ว พี่แซมเค้ายัง ปิ๊ง อยู่ เราหมดยุคแล้ว 38 แล้วนะอายุหน่ะ ...ตอนสุสานคนเป็น เล่นเป็นตัวร้ายเลย อันนั้นชอบมาก ตอนนี้ไม่มีอะไรให้เล่นแล้ว คนเล่นละครทีวีเค้าต้องใส ผมเริ่มเหี่ยวแล้ว

Thaialbums : งั้นคิดไปเป็นผู้กำกับบ้างไหม ?

Billy : โอ้วว คงไม่ (หัวเราะ) แต่ถ้าเป็นพวกหนังแผ่น หรือใต้ดินอะไรอย่างนี้ ก็ไม่แน่ ว่ากันในอนาคตนะ

Thaialbums : แต่จริงๆ พี่ก็ยังดูหนุ่มนะ ดูหนุ่มกว่าอายุจริงๆ(ยังข้องใจ)

Billy : อู๊ยยย...ขอบคุณครับ (หัวเราะ) ขอบคุณที่เป็นกำลังใจ (ฮา)



Thaialbums : นอกจากงานที่ทำ มีอะไรที่ยังอยากจะทำอีกไหม ?

Billy : อยากไปทำร้านอาหาร กะว่าจะทำอาหารอีสาน อาหารป่า เข้าคอนเซ็ปต์ไง อาจจะมี ลาบบิลลี่ (หัวเราะ) แต่ยังหาที่ไม่ได้ แพงเป็นแสน ผมว่าจะไปหาเพิงเปิดแล้วจริงๆ.






ตัวตนของอ้อม พิยดา อัครเศรณี







วันเกิด 17 มิถุนายน 2518

พี่น้อง 4 คน (เป็นคนที่ 2)

ส่วนสูง/น้ำหนัก 160 ซม. /42 กก.

การศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มศว. ประสานมิตร เอกภาษาไทย

ผลงานชิ้นแรก โฆษณามิสทีน

ผลงานสร้างชื่อ ทอฝันกับมาวิน

งานอดิเรก วาดรูป ดำน้ำ

นักร้องคนโปรด พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์

ดาราสุดโปรด แอนโทนี ฮอฟกินส์, พงษ์พัฒน์ วัชรบรรจง, สินจัย เปล่งพานิช

พิธีกรสุดทึ่ง ไตรภพ ลิมปพัทธ์




เพลงโปรด What a Wonderful World, ฤดูที่แตกต่าง

หนังโปรด Notting Hill

กีฬาโปรด ฟิตเนต ดำน้ำ

เครื่องประดับที่ขาดไม่ได้ ตุ้มหู นาฬิกา

ที่เที่ยวในดวงใจ ทะเลสวยๆ ทุกแห่ง

อาหารโปรด ขนมและของหวาน

สีที่ชอบ สีชมพู สีเขียว




บุคลิก ดูเหมือนคิ้วผูกโบว์อยู่ตลอดเวลา (แต่จริงๆ แล้วใจดีนะจะบอกให้)

ลักษณะนิสัย ง่ายๆ สบายๆ เต็มที่กับสิ่งที่ทำเสมอ

ประสบการณ์ตื่นเต้นสุดๆ “ตอนไปเที่ยวเมืองนอก เคยโดนคนคว้ากระเป๋าไปดื้อๆ ต่อหน้าต่อตา ตอนนั้นไม่ทันได้คิดอะไร อารามตกใจ อ้อมรีบวิ่งตามไปฉุดกระชากกระเป๋ากลับมา ฝรั่งคนนั้นคงตกใจเหมือนกัน เห็นเป็นผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียวเข้ามาแย่งของคืน แล้วอ้อมก็แย่งมาจนได้ ตอนนั้นไม่รู้ทำลงไปได้ยังไง หลังจากนั้นถึงเพิ่งรู้สึกว่าตกใจและร้องไห้ออกมา“


สไตล์การแต่งตัว ขึ้นอยู่กับกาลเทศะ แต่ชื่นชอบยีนส์เป็นพิเศษ


ชายในอุดมคติ ควรเป็นคนที่เข้ากันได้ คุยกันรู้เรื่อง


ฉายาในหมู่เพื่อนๆ หงส์หยก (ก็เพราะอ้อมชอบส่องกระจกเป็นชีวิตจิตใจ)


อวัยวะที่ชอบมากที่สุด ปาก “ตอนเด็กๆ ไม่ชอบเลย รู้สึกว่าตัวเองปากใหญ่ แต่พอโตขึ้น ก็มักจะได้รับคำชมว่าปากสวย”


บทบาทการแสดงที่ชื่นชอบที่สุด “ชอบทุกบท แต่ประทับใจเรื่องทอฝันกับมาวิน เป็นพิเศษ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตในวงการบันเทิง”


สิ่งที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ “ไปชมสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ของโลกทั้งหมดให้ครบเลย”


ความภาคภูมิใจในชีวิต “ภูมิใจที่ได้มายืน ณ จุดจุดนี้ และภูมิใจที่สามารถทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ”



ปรัชญาในการดำเนินชีวิต ทำวันนี้ให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง.







โดย yyswim




 

Create Date : 15 กันยายน 2549    
Last Update : 15 กันยายน 2549 16:25:22 น.
Counter : 6107 Pageviews.  

เสื้อสัญลักษณ์80พรรษา




เสื้อสัญลักษณ์80พรรษา



เสื้อตราสัญลักษณ์ ในหลวงมีพระชนมายุ 80 พรรษา….ยังไม่มีของแท้

เสื้อตราสัญลักษณ์ ในหลวงมีพระชนมายุ 80 พรรษา….ยังไม่มีของแท้

เสื้อตราสัญลักษณ์ ในหลวงมีพระชนมายุ 80 พรรษา….ยังไม่มีของแท้







เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2549 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี หัวหน้านายตำรวจราชการสำนักประจำ, พล.ต.ท.อุกฤษฎ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ผช.ผบ.ตร. นายฐากร คำประทีป ผอ.กองนิติกร สำนักราชเลขาธิการ และ พ.ต.ท.รัชทพงศ์ เตี้ยสุด เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ได้ร่วมกันแถลงข่าวว่า


เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมตรวจค้นบริษัท วีทีเค อิมปอร์ตเอ็กปอร์ต เลขที่ 986/7-9 ซอยประดู 52 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม หลังจากสืบทราบว่ามีการลักลอบผลิตเสื้อที่นำตราสัญลักษณ์ของสำนักราชเลขาธิการมาประกอบในตัวเสื้อ เป็นการละเมิดนำตราสัญลักษณ์มาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต


จากการเข้าตรวจค้น พบเสื้อสีฟ้า สีเหลือง และสีชมพูรวมจำนวน 1,096 ตัว โดยแต่ละตัวที่กระเป๋าเสื้อจะมีตรามงกุฎ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์สำนักราชเลขาธิการ ปักอยู่เหนือเลข 80


นอกจากนั้นยังมีผ้าที่สกรีนตราสัญลักษณ์มงกุฎอีกจำนวน 358 แผ่น ที่รอการนำเข้าเย็บกับตัวเสื้อ จึงแจ้งข้อกล่าวหา นายวัฒนา เอี่ยมเจริญสุข อายุ 68 ปี เจ้าของร้าน ในข้อหาปลอมรอยตราของสำนักราชเลขาธิการ ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ


การพยายามนำตราสัญลักษณ์ของสำนักราชเลขาธิการ ไปทำการผลิตเสื้อออกไปจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค รวมทั้งเป็นการแอบอ้างให้หลงเชื่อว่า ได้รับอนุญาตจากสำนักราชเลขาธิการเรียบร้อยแล้ว


ทั้งๆที่ในความเป็นจริง สำนักราชเลขาธิการ ยังไม่เคยมีการออกแบบตราสัญลักษณ์ หรืออนุญาตให้เอกชนรายใด นำตราสัญลักษณ์ไปใช้ผลิตเสื้อออกจำหน่าย จึงเกรงว่าประชาชนจะถูกหลอกและหลงเชื่อซื้อเสื้อตราสัญลักษณ์ดังกล่าว จึงประสานงานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสืบสวนจับกุมผู้ลักลอบ จนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว






และในวันที่ 11 กันยายน 2549 วันเดียวกัน พล.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ โรหิโตปการ กรมวังผู้ใหญ่, นายฐากร คำประทีป ผอ.กองนิติกร สำนักราชเลขาธิการ, พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิต รองผบช.น., และ พ.ต.ต.รัชทพงศ์ เตี้ยสุด นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุม ร้านจำหน่วยเสื้อผ้าในสหกรณ์สนามเสือป่า หลังจากที่ได้รับแจ้งว่า มีการนำเสื้อตราสัญลักษณ์ที่ใช้ในการจัดงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มาจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต


จากการตรวจค้น สามารถจับกุมตัว นางชยาภรณ์ หรือ แหม่ม ภูมาลา เจ้าของร้านซึ่งเช่าพื้นที่สหกรณ์บริเวณสนามเสือป่า ได้ของกลางเป็นเสื้อยืดตราสัญลักษณ์ จำนวน 1,300 ตัว จึงนำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่สน.ดุสิต พร้อมแจ้งข้อหาปลอมรอยตราสัญลักษณ์ของสำนักราชเลขาธิการ


นายฐากร ผอ.กองนิติกร สำนักราชเลขาธิการ เปิดเผยว่า ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มี


"พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550"


แต่ยังมิได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ตราสัญลักษณ์ที่จะใช้ในการจัดงานพระราชพิธีดังกล่าว




ปรากฏว่า ในขณะนี้มีการนำรูปตราสัญลักษณ์ ซึ่งอ้างหรือทำให้เชื่อว่า เป็นตราสัญลักษณ์ในพระราชพิธีดังกล่าว ไปประดับลงบนเสื้อหรือสินค้าต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก สำนักราชเลขาธิการ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง


นายฐากร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสำนักราชเลขาธิการ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำดังกล่าว

โดยในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร รองผบช.น. ได้รับมอบหมายให้ชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา บช.น.ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดในท้องที่สน.ดุสิต และสน.วัดพระยาไกร เพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไปแล้ว ขอให้ประชาชนทั่วไปอย่าได้หลงเชื่อซื้อ หรือสั่งสินค้าที่มีตราสัญลักษณ์ดังกล่าวไปใช้ หรือจำหน่ายโดยเด็ดขาด.









สำนักราชเลขาธิการแจ้งความร้องทุกข์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ตามที่มีการผลิตและจำหน่ายเสื้อยึดที่มีตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยมีการนำชื่อสำนักราชเลขาธิการไปพิมพ์ปักลงเป็นส่วนหนึ่งของเสื้อ (ป้ายที่บริเวณปกคอเสื้อ) อันเป็นการแอบอ้างชื่อสำนักราชเลขาธิการเพื่อหาประโยชน์


และมีการนำภาพอันมีลักษณะทำให้เชื่อได้ว่า เป็นตราสัญลักษณ์ของงานฉลอง เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา ซึ่งภาพดังกล่าวมีพระมหาพิชัยมงกุฎ และพระนามประกอบเป็นส่วนหนึ่ง นำไปพิมพ์หรือปักลงบนเสื้อ โดยไม่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปหลงเชื่อว่าเป็นตราสัญลักษณ์เนื่องในโอกาสดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นความจริง และไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักราชเลขาธิการ นั้น


สำนักราชเลขาธิการได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการในกรณีดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 - 9 และสำนักงานสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (ส.ส.ก.) รับไปดำเนินการทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด


โดยในเบื้องต้นนี้ได้กำชับให้ดำเนินการจับกุมในบริเวณรอบสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต และสนามหลวง เป็นกรณีเร่งด่วน อนึ่ง ได้ประสานงานกับกรมการค้าภายใน ให้ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ ซึ่งกรมการค้าภายในรับว่า จะแจ้งให้ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อยืด มิให้กระทำการดังกล่าว.





ประวัติสำนักราชเลขาธิการ



สำนักราชเลขาธิการเป็นหน่วยงานราชการ ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลขานุการในพระองค์พระมหากษัตริย์ ตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีชื่อเรียกในสมัยแรกว่า ออฟฟิศไปรเวตสิเกรตารีหลวง หรือ กรมราชเลขานุการ


ปัจจุบัน สำนักราชเลขาธิการมีภารกิจหลักเกี่ยวกับ


งานหนังสือที่หน่วยราชการ หน่วยงานเอกชน และบุคคลทั่วไป ส่งเข้ามาเพื่อขอให้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต พระบรมราชวินิจฉัย และพระมหากรุณา แล้วแต่กรณี


รวมทั้งทำหน้าที่ รับพระราชทานพระราชดำริ และพระราชดำรัส เพื่อเชิญไปยังหน่วยงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง


จะเห็นได้ว่า สำนักราชเลขาธิการมีบทบาทเป็นผู้ประสานงาน ระหว่างพระมหากษัตริย์กับรัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนบุคคลทั่วไป ทั้งที่เป็นราชการแผ่นดินและเป็นการส่วนพระองค์



ที่ตั้ง สำนักราชเลขาธิการ







สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน กรุงเทพฯ 10200
โทร. 02 2255833-43, 02 2253457-67
โทรสาร 02 2243259


อันที่จริง สำนักราชเลขาธิการมีที่ทำการ อยู่หลายสถานที่ เช่น

1. อาคารสำนักราชเลขาธิการ (เดิม) ใช้เป็นที่ทำการของฝ่ายห้องสมุด เฉพาะสำนักราชเลขาธิการ

2. อาคารสำนักราชเลขาธิการ (อาคารกลาง) ใช้เป็นที่ทำการของ

กลุ่มราชบรรณาคม

กลุ่มบริหารส่วนกลาง

กองงานในพระองค์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

สำนักงานที่ปรึกษาโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ


3. อาคารศาลาลูกขุนใน ใช้เป็นที่ทำการของ

กองกลาง

กองนิติการ

กองการต่างประเทศ

กองการในพระองค์

กองข่าว

กองโครงการสัมพันธ์


4. ในสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต จะมีอาคารของ

กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ

กองศิลปาชีพ

กองงานในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี


5. อาคารสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ จะเป็นที่ทำการของ กองงานในพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี


6. อาคารทำเนียบองคมนตรี จะเป็นที่ทำการของ สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรี





ทำเนียบผู้บริหาร


ราชเลขาธิการ นายอาสา สารสิน


นายอาสา สารสิน




รองราชเลขาธิการ คุณหญิงภัทราภา อิศรเสนา ณ อยุธยา
นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์
นายวุฒิ สุมิตร
ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ
นายสนอง บูรณะ


ผู้ช่วยราชเลขาธิการ นางแวววิภา ภักดีอาษา
นางสุกัญญา บูรณะ
นายประสิทธิ์ หนูนารี
นายประยูร ผ่องแผ้ว
นายประสพโชค อ่อนกอ


ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ท่านผู้หญิงมนัสนิตย์ วณิกกุล


รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ
ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์
ท่านผู้หญิงสุภรเพ็ญ หลวงเทพ


ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ท่านผู้หญิงรวิจิตร์ สุวรรณบุบผา
ท่านผู้หญิงจีริกัญญา โชติกเสถียร
ท่านผู้หญิงอินทิรา พลธร


ผู้อำนวยการกองกลาง นายวิรัช โพธิ์พุก


ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ นางสาวอติพร มูลศาสตร์


ผู้อำนวยการกองการในพระองค์ นายอดุลย์ สิทธิกูล


ผู้อำนวยการกองข่าว นายธเนศ เนติโพธิ์


ผู้อำนวยการกองโครงการสัมพันธ์ นางสาวอรสุดา เจริญรัถ


ผู้อำนวยการกองงานในพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นางสาวพร้อมทรัพย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา


ผู้อำนวยการกองงานในพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี นางรสกร พัฒนศักดิ์ภิญโญ (รักษาการ)


ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คุณหญิงอารยา พิบูลนครินทร์


รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายสำเริง เอี่ยมสะอาด


ผู้อำนวยการกองนิติการ นายฐากร ธรรมประทีป


ผู้อำนวยการกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ คุณนันทิยา นาคะชาติ


ผู้อำนวยการกองศิลปาชีพ ท่านผู้หญิงกอบกุล อุบลเดชประชารักษ์


เลขาธิการคณะองคมนตรี นายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์.






โดย yyswim




 

Create Date : 13 กันยายน 2549    
Last Update : 13 กันยายน 2549 14:21:00 น.
Counter : 6103 Pageviews.  

เซี่ยงไฮ้



เซี่ยงไฮ้



Hazy Pudong and the Pearl Tower




เซี่ยงไฮ้จัดเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มั่งคั่งที่สุดของจีน ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อคนต่อปีเท่ากับ 15,802 หยวน หรือประมาณ 2,312 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 85,544 บาท และอัตราการเติบโตของรายได้ต่อหัวต่อคนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง


อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการบริโภคก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย การกู้ยืมเงินในเซี่ยงไฮ้กลายเป็นเรื่องปกติสามัญ การเพิ่มขึ้นของเงินกู้มาจากการที่รัฐอนุญาตให้ประชาชนเป็นเจ้าของบ้าน และธุรกิจรับจำนองก็เติบโตขึ้น



Shanghai Architecture by day




เซี่ยงไฮ้ถือว่าเป็นอีกเมืองหนึ่งของจีนที่มีประชากรชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ เพราะมีจำนวนชาวต่างชาติประมาณ 3-5 แสนคน ทำให้ลักษณะของสินค้าและธุรกิจมีแนวโน้มเอื้อต่อการจับจ่ายใช้สอยของชาวต่างชาติ มีสินค้าต่างประเทศจำนวนมากขายในเซี่ยงไฮ้ และชาวจีนในเซี่ยงไฮ้เองก็มีลักษณะการบริโภคที่ค่อนข้างติดยึดในตัวแบรนด์สินค้า สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสถานะและการรับประกันเรื่องคุณภาพ ผู้บริโภคยินดีจ่ายในราคาสูง เพราะต้องการสินค้าที่มีคุณภาพดี







เราจึงพบเห็นถนนที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมอย่าง Nanjing, Huaihai คับคั่งไปด้วยผู้คน ในขณะที่สินค้าราคาถูก ของปลอมอยู่ห่างออกไปอีก 1 ถึง 2 ช่วงตึก


ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมที่สำคัญคือ คนรุ่นใหม่ที่เริ่มเข้าสู่สังคมของการทำงาน วัยรุ่นจำนวนมาก และลูกเพียงคนเดียวในครอบครัว กำลังเข้าสู่วัฒนธรรมที่เรียกว่า “Mall culture” ธุรกิจค้าปลีกในห้างสรรพสินค้า แหล่งบันเทิง เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว





คนกลุ่มนี้พร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อช้อปปิ้งถึงแม้จะเป็นการก่อสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นก็ตาม และนิยมวัฒนธรรมในการให้ของขวัญ การเลี้ยงต้อนรับแขกอย่างเลิศหรู








ในส่วนของตลาดการค้าอาหาร ผู้บริโภคกลุ่มนี้เป็นแรงผลักดันอย่างมากให้เกิดอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานและอาหารที่อุ่นแล้วรับประทานได้ทันที ขายดียิ่งขึ้นในร้านขายปลีก แนวโน้มที่เกิดขึ้นคือวัยรุ่นและวัยทำงานเริ่มต้นค้นพบว่า เวลาของตนมีน้อยลงจึงต้องเลือกรับประทานอาหารที่สะดวกรวดเร็ว


และถึงแม้รายได้ต่อหัวของประชากรในเซี่ยงไฮ้จะสูง แต่จากรายงานก็มีเรื่องที่น่าประหลาดใจ เนื่องจากพบว่าสัดส่วนที่จับจ่ายเพื่อการบริโภคอาหารของชาวเซี่ยงไฮ้ จัดว่ามีสัดส่วนสูงที่สุดในประเทศ ทั้งที่โดยปกติแล้วในเมืองทั่วไปประชากรที่มีรายได้สูงมักจะมีสัดส่วนของค่าใช้จ่ายด้านบริโภคอาหารที่ลดลง


ชาวเซี่ยงไฮ้ใช้จ่ายในการกินอาหารเย็นนอกบ้านมีสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการบริโภคสัตว์น้ำที่มีสัดส่วนสูงกว่าเมืองอื่น ๆ สูงกว่าถึงเกือบ 3 เท่า ยกเว้นเมืองซีเจียง สัตว์น้ำที่นิยมมากคือ ปูและหอย นอกจากนี้ชาวเซี่ยงไฮ้ยังนิยมบริโภคผลิตภัณฑ์นม สูงกว่าเมืองอื่นๆเกือบ 2 เท่า







ดังนั้นเซี่ยงไฮ้จึงเป็นเมืองที่น่าสนใจสำหรับการจำหน่ายอาหารนำเข้า(จากต่างชาติและไทย) ธุรกิจค้าปลีกอาหารเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ ในปี 2547 มูลค่าการค้าส่งและค้าปลีกสินค้าในหมวดอาหาร เครื่องดื่ม สุรา และยาสูบสูงถึง 130 ล้านหยวน (16.24 พันล้านดอลล์ลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 600.88 พันล้านบาทไทย)


ธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติมีการเติบโตอย่างรวจเร็ว ไม่ว่าจะเป็น Carrefour, Metro, Lotus, Trust-Mart, Auchon, RT Mart และซุเปอร์มาร์เก็ตเชนของจีนเอง เช่น Lianhua, Hualian and Nonggongshang.


จำนวนทั้งหมดนี้ที่รวมกันในเซี่ยงไฮ้เกือบจะเท่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศจีน


ส่วนธุรกิจบริการอาหาร โรงแรม ภัตตาคารก็เจริญเติบโตอย่างสูงไม่แพ้กัน เพราะวัฒนธรรมการนิยมบริโภคอาหารเย็นนอกบ้าน ร้านอาหารแบบตะวันตกและแบบผสมผสานสองวัฒนธรรม มีพบเห็นได้ทั่วไปในเซี่ยงไฮ้



มีตัวเลขจดทะเบียนทั้งหมดเกือบ 30,000 ราย ในจำนวนมีมากกว่า 1,000 รายเป็นร้านอาหารแบบตะวันตกล้วนๆ


ธุรกิจภัตตาคารแบบมีระดับสำหรับผู้บริโภคที่มีรายได้สูงก็กำลังมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก และร้านอาหารเหล่านี้ก็มีความต้องการใช้อาหารนำเข้าเป็นส่วนใหญ่เช่นเดียวกับธุรกิจโรงแรม


Holiday Iinn




นอกจากเซี่ยงไฮ้จะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญแล้ว เซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองท่าและเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปสู่ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันตกของจีนที่สำคัญด้วย





เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีโครงสร้างสาธารณูปโภคด้านลอจิสติกส์ที่ดี ทั้งด้านการเคลียร์เอกสารศุลกากร การตรวจสอบ การแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งล้วนแต่มีประสิทธิภาพและมีความสะดวก


Olympic monument with old hotel




และยิ่งไปกว่านั้น เซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองหลักในการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาประเทศ ซึ่งจะมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกๆครั้งจำนวนมาก ดังนั้นเซี่ยงไฮ้จึงเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงและเป็นตลาดที่มีโอกาสสำหรับอาหารแปรรูปนำเข้าจากไทย.


Metropolitan Museum, an architecture museum







โดย yyswim




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2549    
Last Update : 30 สิงหาคม 2549 8:47:59 น.
Counter : 4808 Pageviews.  

ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก



ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก






จากกรณีที่เด็กนักเรียนเล็กๆชายหญิงในสังกัดกรุงเทพมหานครถูกล่วงละเมิดทางเพศ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า


"ทางกทม.เห็นความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงมอบหมายให้ นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกทม. เป็นประธานอนุกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร ประสานงานโดยตรงกับ ศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี วชิรพยาบาล เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำและเยียวยาด้านร่างกายและจิตใจแก่เด็ก พร้อมทั้งจัดหาสถานที่เรียนแห่งใหม่ที่เหมาะสม เพื่อเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ ไม่ให้มีผลกระทบต่อจิตใจของเด็ก"


"ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับครูที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการล่วงละเมิดนั้น กทม.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงระดับเขต ให้สอบสวนแล้วเสร็จภายใน 3 วัน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากส่วนกลางเข้าไปสอบสวนอีกทางหนึ่ง โดยมี นายสมชาย จันทนะศิริ ผู้ช่วยปลัดกทม.เป็นประธาน"




ด้าน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ขณะนี้กทม.มี
6 มาตรการเข้ม ในการดูแลความปลอดภัยในโรงเรียนในสังกัดกทม.






1. ห้ามมิให้ครูทั้งหญิงและชายอยู่ตามลำพังกับเด็กสองต่อสองในที่รโหฐาน หากพบเห็นให้โรงเรียนลงโทษเข้มงวด


2. ให้โรงเรียนจัดครูเวรดูแลเด็กทั้งภาคเช้า กลางวัน เย็น

และในเวลากลับบ้าน หากผู้ปกครองมารับเด็กล่าช้า ให้ครูเวรรีบติดต่อผู้ปกครอง และเมื่อผู้ปกครองมารับแล้วให้ลงบันทึกหลักฐาน เวลา และสาเหตุ โดยให้ผู้ปกครองลงลายมือชื่อไว้ด้วย


3. กรณีเด็กเล็กที่ยังดูแลตนเองไม่ได้ ให้โรงเรียนกำหนดมาตรการเข้มเป็นพิเศษ ในการรับ-ส่งเด็ก โดยกำหนดให้ผู้ที่จะมารับ-ส่งเด็กได้ ต้องเป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับโรง เรียน และต้องแสดงบัตรที่โรงเรียนออกให้ทุกครั้งเมื่อมารับเด็ก


4. โรงเรียนที่มีทางเข้า-ออกที่เป็นทางที่ลึก หรือเป็นที่โล่ง เปลี่ยว ให้จัดครูประ จำอยู่ตามจุดที่เห็นสมควร และจัดให้เด็กเดินกลับบ้านเป็นกลุ่ม นอกจากนี้ให้ประสานกับสำนักงานเขตในการจัดเทศกิจสายตรวจเพื่อนชุมชนดูแล


5. ให้ครูเพิ่มความสังเกต กรณีเด็กทะเลาะวิวาท พร้อมทั้งหาสาเหตุ เนื่องจากพบว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรืออาจจะถูกรังแกเพื่อบังคับล่วงละเมิดทางเพศ


6. ให้ทุกโรงเรียนจัดให้มีครูจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อพูดคุยเป็นเพื่อนเด็ก สอดส่องปัญหา ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กอย่างทันท่วงที.





โดย yyswim





 

Create Date : 24 สิงหาคม 2549    
Last Update : 24 สิงหาคม 2549 11:05:04 น.
Counter : 6867 Pageviews.  

กีฬายุวชนโลก




กีฬายุวชนโลก






กีฬายุวชนโลก (International Children’s Games) เป็นรายการแข่งขันกีฬาของเด็กนักเรียนชายหญิงจากทั่วโลกที่มีวัยอายุระหว่าง 12-15 ปี จัดขึ้นทุกปี ปีละครั้ง จัด ณ เมืองต่างๆในประเทศต่างๆ ทั่วโลก


ปีที่แล้ว (ปี2005) International Children’s Games จัดขึ้นที่เมืองโคเวนทรี ประเทศอังกฤษ มีเด็กนักเรียนชายหญิงทั่วโลก เข้าร่วมแข่งขันจาก 54 เมือง ของ 36 ประเทศ


ในปีนี้ (ปี2006) กรุงเทพมหานครได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 (Bangkok International Children’s Games 2006) จะมีเด็กนักเรียนชายหญิงจากทั่วโลกมาเข้าร่วมแข่งขันจำนวนประมาณ 2,300 คน จาก 82 เมือง ของ 37 ประเทศ 4 ทวีป คือ อเมริกา, เอเชีย, ยุโรป และแอฟริกา






มหกรรมกีฬาในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 -29 สิงหาคม 2549 ณ 5 สนามกีฬาในกรุงเทพ มีการแข่งขัน 10 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา 16 ทอง, ว่ายน้ำ 24 ทอง, เทนนิส 2 ทอง, เทเบิลเทนนิส 2 ทอง, บาสเกตบอล 2 ทอง, วอลเลย์บอล 2 ทอง, ยิมนาสติก 12 ทอง, ลีลาศ 12 ทอง, ฟุตซอล 2 ทอง, เทควันโด 8 ทอง รวม 82 เหรียญทอง และมีเซปักตะกร้อเป็นกีฬาสาธิต



ประวัติกีฬายุวชนโลก








การแข่งขัน International Children's Games หรือตัวย่อว่า ICG ถือกำเนิดขึ้นมาจากการที่ ชาวยุโรป ได้ร่วมมือกันจัดตั้งเทศกาลการแข่งกีฬาและวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการมีมิตรภาพระหว่างประเทศ ซึ่งหวังว่าการมีมิตรภาพระหว่างประเทศ จะทำให้เกิดสันติภาพไม่มีสงครามหรือความรุนแรงเกิดขึ้น


จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่เมืองเซลจิ ประเทศสโลวีเนีย เมื่อปี 1968 (พ.ศ.2511) เป็นการชิงชัยของเด็กนักเรียนชายหญิงวัยอายุ 12 - 15 ปี โดยทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจะให้ส่งในนามของเมือง ไม่ใช่ส่งในนามของประเทศ ฉะนั้นประเทศหนึ่งอาจจะส่งหลายเมืองก็ได้ ในครั้งแรกนั้นมีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจาก 9 ประเทศ


From 1968, a scene from the first International Children’s Games in Celje Slovenia




การแข่งขันมีจุดมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาการทางด้านร่างกาย สติปัญญา และจิตใจของเด็ก และที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อให้เด็กมีประสบการณ์การได้รู้จักกัน จะได้สร้างมิตรภาพโดยการติดต่อต่อเนื่องกันต่อไปเมื่อทุกคนกลับไปถึงบ้าน ซึ่งจะขยายผลไปถึงเพื่อนคนอื่นๆที่จะได้ร่วมกันติดต่อด้วย


เด็กในวัยนี้เป็นช่วงวัยที่ชอบติดต่อกับเพื่อนเพศเดียวกัน จะได้แลกแปลี่ยนข้อมูล แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ฝึกฝนภาษา และช่วยเหลือต่อกันเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่





สำหรับการแข่งขันกีฬา เด็กในวัยนี้ยังไม่ควรจะต้องมีการแข่งขันแบบโหมหนักเอาเป็นเอาตาย เช่น แข่งกันครั้งละหลายๆเกมหรือหลายๆเซ็ทหรือหลายๆวัน แต่เด็กต้องการจะได้ท่องเที่ยว ต้องการได้รับความสนุกสนาน ได้รู้จักกันและสร้างมิตรภาพต่อกันมากกว่า




กรุงเทพกับกีฬายุวชนโลก



กรุงเทพมหานครเข้าร่วมการแข่งขันกีฬายุวชนโลกเป็นครั้งแรก ในกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 36 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เมื่อปีพ.ศ.2545 ได้ 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง


ครั้งที่ 2 เข้าร่วมเมื่อปีพ.ศ.2546 ณ กรุงพราสตร้า ประเทศกรีก ได้ 3 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง


ครั้งที่ 3 เข้าร่วมเมื่อปีพ.ศ.2547 ณ เมืองคลิฟแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง





ครั้งที่ 4 ครั้งที่แล้ว เมื่อปีพ.ศ.2548 เข้าร่วม ณ เมืองโคเวนทรี ประเทศอังกฤษ ได้ 1 เหรียญทอง จากกีฬาเทเบิลเทนนิสชายเดี่ยว 1 เหรียญเงิน จากกีฬาเทเบิลเทนนิสหญิงเดี่ยว และ 1 เหรียญเงิน จากว่ายน้ำผีเสื้อชาย 50 เมตร








คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน เล่าถึงความเป็นมาของกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 (Bangkok International Children’s Games 2006) ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพ ว่า



“เรามักพูดกันว่า "เด็กคืออนาคตของชาติ" แต่เรื่องการแข่งขันกีฬาใดๆที่เป็นการแข่งขันสำหรับเด็กๆ หรือเยาวชนกลับถูกมองข้ามหรือไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับการแข่งขันในระดับใหญ่ๆ ที่มีนักกีฬาชื่อดังระดับชาติลงแข่งขัน”


“กรุงเทพมหานคร เล็งเห็นว่าหากประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนในระดับนานาชาติ น่าจะเป็นนิมิตหมายอันดีในการส่งเสริมด้านการกีฬาให้กับเยาวชน ส่งเสริมมิตรภาพความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนด้วยกัน และส่งเสริมด้านภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศสู่สายตาชาติอื่นๆด้วย”





“ด้วยเหตุนี้ ทางกรุงเทพมหานครจึงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 หรือ
แบงค็อก อินเตอร์เนชั่นแนล ชิลเดร้น"ส เกมส์ 2006 (ไอซีจี) เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ปี 2547 เพื่อหวังจัดการแข่งขันในปี 2549 ต่อจากเมืองโคเวนทรี ประเทศอังกฤษ เจ้าภาพเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งผลการพิจารณาออกมาเป็นมติเอกฉันท์ ให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น”


"เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว กทม.ได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ซึ่งเรามองว่าเป็นโอกาสดีของเด็กไทย และรายการนี้ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (ไอโอซี) ด้วย ถือว่าเป็นโอลิมปิคสำหรับเด็กๆ”


“พอไปแข่งได้สัก 2 ครั้ง เราก็คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ เพราะกรุงเทพมหานครเคยจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ และระดับโลกมาแล้ว จึงรวมความคิดกับสภากรุงเทพมหานคร จากนั้นก็ดำเนินการเสนอกรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพกีฬายุวชนโลก"


“แม้ว่าทางกทม.จะเพิ่งเข้าร่วมการแข่งขันกีฬายุวชนโลกได้ไม่นานก็ตาม แต่ทางคณะกรรมการฯ คงเล็งเห็นถึงศักยภาพของทางกทม. จึงมีมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ให้ทางกทม.เป็นเจ้าภาพการแข่งขันในครั้งที่ 40 ในปีนี้ กีฬายุวชนโลกที่กรุงไทเปนั้น เป็นครั้งแรกที่ทวีปเอเชียได้เป็นเจ้าภาพ จากนั้นก็ที่กรุงเทพเรานี่แหละ ที่ประเทศในทวีปเอเชียได้เป็นเจ้าภาพเป็นครั้งที่ 2”


พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร รองประธานกรรมการจัดการแข่งขันยืนยันถึงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพอย่างเต็มเปี่ยม หลังจากกรุงเทพมหานครเอาชนะเมืองชั้นนำคู่แข่งในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจากหลายประเทศลงได้







"เราได้นำเสนอเมืองหลวงของไทยให้ทั้งโลกได้เห็นว่า เรามีศักยภาพในการจัดงานใหญ่ๆ ได้สมบูรณ์แบบ มีความพร้อมในการต้อนรับประเทศต่างๆ เกือบ 40 ประเทศ และนอกจากการแข่งขันกีฬาที่มีผลแพ้-ชนะ หรือมีการทำสถิติในด้านกีฬาแล้ว กรุงเทพมหานครยังคำนึงถึงภาพลักษณ์ในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย ความสวยงามของเมืองหลวงให้ประเทศอื่นๆ ได้ประทับใจ ซึ่งจะช่วยประชาสัมพันธ์ในด้านของการท่องเที่ยวด้วย"



การเตรียมงาน



สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี
วันที่ 8 สิงหาคม 2549
เรื่อง การจัดการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 ประจำปี 2549


คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยได้รับการประสานงานจากกรุงเทพมหานคร มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลและความคืบหน้าการจัดการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 ประจำปี 2549 ดังนี้


1. เปลี่ยนชื่อเกมส์การแข่งขันใหม่ จากเดิม การแข่งขันกีฬา "เยาวชนนานาชาติ" เป็นการแข่งขันกีฬา ยุวชนโลก" (International Children's Games) ครั้งที่ 40 ประจำปี 2549


2. กำหนดการจัดงาน ระหว่างวันที่ 23 - 29 สิงหาคม 2549
ประชุมผู้จัดการทีมวันที่ 24 สิงหาคม 2549
พิธีเปิดวันที่ 25 สิงหาคม 2549 ประมาณเวลา 16.00 - 19.00 น.
กำหนดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 25 - 28 สิงหาคม 2549
พิธีปิดวันที่ 28 สิงหาคม 2549 ประมาณเวลา 17.00 น.


3. สถานที่จัดงาน

• ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) กรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่หลักในการจัดงาน
พิธีเปิด-ปิด สถานที่แข่งขันกีฬากรีฑา ว่ายน้ำ บาสเกตบอล และสาธิตเซปักตะกร้อ และยังเป็นศูนย์อาหารและนันทนาการ สำหรับคณะนักกีฬา

• ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) กรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาฟุตซอล และเทนนิส

• สนามกีฬาแห่งชาติ อาคารนิมิบุตร สถานที่แข่งขันกีฬาเทควันโด และเทเบิลเทนนิส (ต่อมามีการเปลี่ยนแปลง)

• สนามกีฬาแห่งชาติ อาคารจันทนยิ่งยง สถานที่แข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล

• สนามกีฬาหัวหมาก อาคารอินดอร์สเตเดี้ยม แข่งขันกีฬาลีลาศ และยิมนาสติก

4. โรงแรมที่พักของคณะนักกีฬา 8 แห่ง ได้แก่ Biyok Sky, Maxx Hotel, The Emerald Hotel, Bangkok Palace Hotel, The Eastin Bangkok Hotel, Chaophraya Park, Ibis Siam Bangkok, The Grand Radison Hotel

5. คณะนักกีฬาที่สมัครเข้าร่วมแข่งขันจาก 38 ประเทศ 87 เมือง (77 เมืองจากต่างประเทศ และ 10 จังหวัดในประเทศไทย) โดยมีจำนวนคณะนักกีฬา 2,418 คน ประกอบด้วย นักกีฬา 1,802 คน ผู้ฝึกสอน 368 คน ผู้จัดการทีม 84 คน สื่อมวลชน 70 คน และล่าม 8 คน ดังนี้


จากทวีปแอฟริกา จำนวน 1 ประเทศ 1 เมือง จำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด 33 คน

จากทวีปอเมริกา จำนวน 3 ประเทศ 13 เมือง จำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด 351 คน

จากทวีปยุโรป จำนวน 20 ประเทศ 40 เมือง จำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด 948 คน

จากทวีปเอเชีย จำนวน 13 ประเทศ 33 เมือง จำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด 1,086 คน

(ตัวเลขข้อมูลข้างบน ต่อมามีการเปลี่ยนแปลง)


การรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 ประจำปี 2549 จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่กรุงเทพมหานครและประเทศไทย ในการพัฒนาและยกระดับกีฬาให้ได้มาตรฐานสู่สากล จะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นการเผยแพร่ประเทศไทยไปทั่วโลก เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว เกิดการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การจัดงานครั้งนี้จะสำเร็จเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จะต้องได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากรัฐบาลและหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน.




ตราสัญลักษณ์และตัวนำโชค



ในการจัดการแข่งขันกีฬายุวชนโลกแต่ละครั้ง จะมีตราสัญลักษณ์ (ICG EMBLEM) และตัวนำโชค (ICG MASCOT) ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน กรุงเทพมหานครใช้ตราสัญลักษณ์ของการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 มีลักษณะเป็นลายไทยรูปประจำยาม






รูปทรงของตราสัญลักษณ์ ต้องการสื่อความหมายของการจัดการแข่งขันในประเทศไทย จึงใช้ ลายประจำยาม ซึ่งเป็นแม่ลายหรือลายหลักในศิลปะไทย ส่วนภาพในลายประจำยามแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนบนเป็นรูปสัญลักษณ์มาตรฐานของการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ที่รวมเด็กจาก 5 ทวีปทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขัน ส่วนล่างเป็นข้อความ BANGKOK 2006 และ 40th สีขาวบนพื้นหลังสีเขียว ซึ่งเป็นสีประจำกรุงเทพมหานคร อันเป็นเมืองเจ้าภาพ


ตัวนำโชค ของการแข่งขันกีฬายุวชนโลกครั้งที่ 40 เป็นช้างไทย 2 เชือก ชื่อบานเช้าและบานเย็น อันเปรียบเสมือนตัวแทนของเด็กไทยที่ร่วมกันนำเสนอภาพของการแข่งขันกีฬาที่เต็มไปด้วยความเบิกบานสามัคคี รวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของเด็กๆจากทั่วโลก สอดคล้องเป็นท่วงทำนองเดียวกับแนวคิดหลักของกีฬายุวชนโลก






"บานเช้า" ช้างเด็กชายไทย มีนิสัยรักสนุก กล้าแสดงออก ชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกาย ชื่อของบานเช้า แสดงถึงการเริ่มต้นอย่างสดชื่น รื่นเริง สร้างความเบิกบานให้แก่ผู้คน


"บานเย็น" ช้างเด็กหญิงไทย มีนิสัยอ่อนโยน มีน้ำใจไมตรี ชอบการเต้นรำและเต้นแอโรบิก ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ชื่อของบานเย็นแสดงถึงมิตรภาพ สร้างความสุขสงบ ร่มเย็น





รายงานความคืบหน้าต่อสื่อมวลชน







นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รายงานเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2549 ถึงความคืบหน้าของกรุงเทพมหานคร ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 ว่า

(ข้อมูลในรายงานนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงต่อมาในอีกหลายรายการ)


การแข่งขันครั้งนี้กำหนดให้นักกีฬาที่เข้าร่วม ต้องมีอายุระหว่าง 12 - 15 ปี โดยล่าสุด(วันที่ 18 สิงหาคม)มีนักกีฬารวม 2,203 คนเข้าร่วมแข่งขัน แยกเป็นชาย 1,286 คน, หญิง 917 คน มาจาก 4 ทวีป คือ ยุโรป 20 ประเทศ, 37 เมือง, อเมริกา 3 ประเทศ 13 เมือง, แอฟริกา 2 ประเทศ 2 เมือง, เอเชีย 13 ประเทศ 32 เมืองรวม ทั้งหมด 84 เมือง จาก 38 ประเทศ


สำหรับประเภทกีฬาที่มีการจัดการแข่งขันมี 10 ชนิด ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, ยิมนาสติก, บาสเกตบอล จัดแข่งที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง, ฟุตซอล, เทนนิสจัดแข่งที่ศูนย์กีฬาเบญจทัศ (สวนรถไฟ), วอลเลย์บอล จัดแข่งที่อาคารจันทนยิ่งยง, เทควันโด จัดแข่งที่อาคารนิมิบุตร, ลีลาศ, เทเบิลเทนนิสจัดแข่งที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก และมีเซปักตะกร้อ เป็นกีฬาสาธิตจัดแข่งที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าในส่วนของนักกีฬายุวชนไทยนั้น ได้ทำการคัดเลือกจากโรงเรียนกีฬาในกรุงเทพมหานคร 2 แห่ง และยังมีตัวแทนนักกีฬายุวชนไทยจากโรงเรียนกีฬาส่วนภูมิภาคอีก 9 แห่ง 9 จังหวัด ทางกทม.ซึ่งเป็นเจ้าภาพจะส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้ง 10 ประเภทรวมจำนวน 114 คน ตั้งเป้าหมายเอาไว้ 4 เหรียญทองจาก ว่ายน้ำ, ลีลาศ, เทควันโด, และเทนนิส


การแข่งขันครั้งนี้ ใช้มาสคอตเป็นช้างน้อย 2 ตัว ตัวผู้ชื่อ บานเช้าและตัวเมียชื่อ บานเย็น คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้จัดวิ่งคบเพลิงเคานท์ดาวน์ นับถอยหลัง 50 วัน 50 เขต ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.-20 ส.ค.นี้ เพื่อปลุกกระแสให้คนไทยได้รับรู้และมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพกีฬายุวชนโลก โดยขณะนี้ใกล้ถึงจุดหมายแล้วโดยวันนี้ วันที่ 18 ส.ค. จะวิ่งจากหลักสี่ถึงบางซื่อ, วันที่ 19 ส.ค. วิ่งจากบางซื่อไปจตุจักร, ห้วยขวาง, พญาไท, และวันที่ 20 ส.ค.จะเป็นการวิ่งวันสุดท้ายจากพญาไทมาที่ดินแดง ผ่านถนนมิตรไมตรีเข้าสู่ศูนย์เยาวชน (ไทย-ญี่ปุ่น) กรุงเทพมหานคร






“ผมอยากย้ำว่า สิ่งที่เราให้ความสำคัญไม่ใช่เรื่องผลแพ้ชนะในการแข่งขัน แต่เน้นที่การส่งเสริมมิตรภาพระหว่างเยาวชน สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการแข่งขัน ที่สนามกีฬาศูนย์เยาวชน กรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง วันที่ 25 ส.ค. เวลา 18.00 น. โดยททบ. 5 ถ่ายทอดสดเวลา 17.00-19.30 น.”



นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า

“กรุงเทพมหานครเดินหน้าคว้าชัย ICG 2006 แต่ไม่ใช่เพื่อเป้าหมายเหรียญทองเพียงอย่างเดียว เนื่องจากการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมมิตรภาพความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชน โดยมุ่งหวังว่าเยาวชนทุกชาติที่มาร่วมการแข่งขัน จะมีความเป็นมิตรไมตรีต่อกัน เพื่อความร่วมมือในอนาคต”


รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครจะมุ่งเน้นการปลูกฝังให้เยาวชนตื่นตัวในเรื่องกีฬา สามารถแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมประจำชาติกับชาติอื่นได้ ดังนั้นเหรียญรางวัลไม่ได้เป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของการแข่งขันครั้งนี้ ทั้งนี้หลังการแข่งขันกรุงเทพมหานคร ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จะพาทีมนักกีฬาไปชมเมืองกรุงเทพมหานครจนถึงจังหวัดใกล้เคียง ไปดูในเรื่องศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ส่วนวันเปิดการแข่งขันซึ่งเป็นวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม ในตอนเย็นได้ประสานงานกับตำรวจจราจรเพื่อความคล่องตัวไว้แล้ว”


“คณะนักกีฬาจากประเทศต่างๆ จะเริ่มทยอยเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม โดยจัดให้มีการต้อนรับด้วยวัฒนธรรมแบบไทยๆที่สนามบิน ซึ่งในช่วงก่อนเริ่มการแข่งขัน ทางกรุงเทพมหานครยังได้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวให้กับนักกีฬาและผู้ปกครองที่สนใจ โดยเป็นรายการท่องเที่ยวระยะสั้นๆ ที่กองการท่องเที่ยว กทม.จัดอยู่แล้ว ได้แก่ การชมพระบรมมหาราชวัง พระที่นั่งวิมานเมฆ ย่านเยาวราช และนำชมซุ้มเฉลิมพระเกียรติบริเวณถนนราชดำเนิน ซึ่งเคยเป็นภาพที่ปรากฏไปทั่วโลกเมื่อครั้งงานพระราชพิธีฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”







เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2549 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เป็นประธานแถลงข่าวลงนามร่วมกับ นายพรวุฒิ สารสิน ประธานคณะกรรมการฝ่ายสิทธิประโยชน์ และ 11 บริษัทผู้ให้การสนับสนุนหลัก การแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 อย่างเป็นทางการ ด้วยวงเงินกว่า 15 ล้านบาท ที่ห้องบอลรูมจตุรทิศ โรงแรมเรดิสันกรุงเทพฯ



การประชาสัมพันธ์งาน



การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ กระทำทั้งการออกข่าวผ่านทางสื่อมวลชน โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เว๊ปไซต์ bangkokicg2006.com มีป้ายผ้า มีการประดับธง และจัดทำถนน ICG


การทำถนน ICG รับกีฬายุวชนโลก นายสนบ ตั้งจิตสมบูรณ์ ผู้อำนวยการเขตยานนาวา เปิดเผยว่า ทางเขตยานนาวาร่วมกับภาคเอกชน ดำเนินการจัดทำ ถนน ICG โดยใช้ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่แยกถนนพระราม 3 ถึงแยกถนนจันทร์ ทั้งสองฝั่งประดับตกแต่งธงสัญลักษณ์กีฬายุวชนโลก และ Mascot ช้างน้อย บานเช้า-บานเย็น ติดป้ายประชาสัมพันธ์บนสะพานลอย ป้ายคัตเอาท์บริเวณแยกถนนนราธิวาสฯ พระราม 3 เพื่อเป็นการสร้างสีสันและบรรยากาศของงานกีฬาครั้งนี้ และรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวและมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพร่วมกัน


นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม ROAD SHOW ประชาสัมพันธ์กีฬายุวชนโลก ประกอบด้วยขบวนเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การแต่งกายของเยาวชนด้วยชุดกีฬาและชุดแต่งกายพื้นเมืองของชาติต่างๆ การแสดงทีมปอมปอมเชียร์ นิทรรศการ การร่วมสนุกกับเกมที่เกี่ยวข้องกับกีฬา พร้อมกับมอบรางวัลให้กับผู้ร่วมงานจากการเล่นเกม และมีการเปิดรับสมัครผู้นำเชียร์ เพื่อร่วมเชียร์ทีมที่เข้าแข่งขันกีฬาของแต่ละเมืองด้วย ซึ่งในขณะนี้มีนักเรียนและเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมนี้แล้วกว่า 5,000 คน






กำหนดการ วันที่ 12 ส.ค. 49

เวลา 06.00–09.00 น. – สนามกีฬาแห่งชาติ สถานีรถไฟฟ้า BTS : หมอชิต อนุสาวรีย์ชัยฯ สยาม สีลม ตากสิน

เวลา 11.00-18.00 น.- บริเวณสี่แยกปทุม สะพานควาย สี่แยกราชประสงค์ รอบอนุสาวรีย์ชัยฯ


วันที่ 13 ส.ค. 49

เวลา 09.00–14.00 น. - พิพิธภัณฑ์เด็ก / ตลาดนัดสวนจตุจักร

เวลา 15.00–17.00 น. - สวนสัตว์ดุสิต


วันที่ 15 ส.ค. 49

เวลา 07.00–08.00 น. - โรงเรียนจินดานุกูล

เวลา 11.00–13.00 น .- โรงเรียนวัดเทพลีลา

เวลา 15.00 – 16.00 น .- โรงเรียนสตรีวิทยา 2


วันที่ 16 ส.ค. 49

เวลา 08.30–09.30 น. - โรงเรียนเพ็ญสมิตร

เวลา 11.00–13.00 น .- โรงเรียนนวมินทราชูทิศ บดินทร์เดชา

เวลา 15.00 – 16.00 น .- โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี


วันที่ 17 ส.ค. 49

เวลา 09.00–16.00 น. เข้าเยี่ยมสื่อมวลชน อาทิ ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด





ไฟพระฤกษ์ กีฬายุวชนโลก



เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม .2549 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกแทนพระองค์ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 40 เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานไฟพระฤกษ์ ณ วังศุโขทัย ซึ่ง กทม.ได้อัญเชิญมาร่วมขบวนวิ่งนับถอยหลัง โดยเริ่มต้นเขตแรกที่เขตพระนคร เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2549 ก่อนจะส่งต่อๆ ไปจนครบ 50 เขต


การวิ่งไฟพระฤกษ์ วันที่ 9 สิงหาคม 2549 เขตสาทรรับมอบไฟพระฤกษ์กีฬายุวชนโลก โดยจุดรับไฟพระฤกษ์และรับธงตราสัญลักษณ์การแข่งขันกีฬายุวชนโลก ที่ถนนจันทน์ตัดกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์ วิ่งไปตามถนนจันทน์ มุ่งออกถนนเจริญกรุง สิ้นสุดที่ท่าเรือสาทร และส่งมอบให้เขตบางรัก


เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2549 นักฟุตบอลโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวัฒนา วิ่งไฟพระฤกษ์กีฬายุวชนโลกพร้อมธงตราสัญลักษณ์การแข่งขันกีฬายุวชนโลก บนถนนสุขุมวิท ช่วงระหว่างสำนักงานเขตวัฒนาไปยังสำนักงานเขตพระโขนง


วันที่ 11 สิงหาคม 2549 เขตบางนาเป็นเขตที่ 29 ที่รับมอบไฟพระฤกษ์ จากเขตพระโขนง บริเวณหน้าปิยรมย์ สปอร์ตคลับ แล้ววิ่งผ่านหน้าตลาดอุบลศรี เข้าถนนอุดมสุข และส่งมอบไฟพระฤกษ์ให้กับเขตประเวศ ที่บริเวณสะพานข้ามคลองเคล็ด ถ.อุดมสุข


วันที่ 20 สิงหาคม 2549 การวิ่งไฟพระฤกษ์สิ้นสุดที่เขตดินแดง ขบวนวิ่งฯ ซึ่งประกอบด้วยธงชาติ ธงฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ธงกีฬา ICG ฯลฯ รวมจำนวน 200 คน นำโดยผู้อำนวยการเขตพญาไท เริ่มเคลื่อนออกจากสำนักงานเขตพญาไท เวลา 09.00 น.วิ่งไปตามถนนพญาไท แล้วส่งมอบต่อให้ผู้อำนวยการเขตดินแดง วิ่งตามเส้นทางถนนมิตรไมตรี ก่อนเข้าสู่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) เวลาประมาณ 10.00 น. โดยมีนายทวีศักดิ์ เดชเดโช ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว เป็นผู้รับมอบคทาไฟพระฤกษ์ และอัญเชิญคทาขึ้นบนแท่นไฟพระฤกษ์ เพื่อรออัญเชิญไปจุดคบเพลิงในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬายุวชนโลก


พิธีเปิดการแข่งขันกำหนดขึ้น ในวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2549 โดยกรุงเทพมหานครได้กราบทูลเชิญพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด เวลา 17.00 -19.30 น. ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง





รายชื่อเมืองที่ส่งทีมเข้าแข่งขัน


1 Aberfan, Merthyr Tydfil

2 Alkmaar

3 Athens

4 Ayudhaya พระนครศรีอยุธยา

5 Baja California

6 Bangkok กรุงเทพมหานคร

7 Beijing

8 Birganj Sub Metropolitan City

9 Brantford, Ontario

10 Bratislava

11 Brescia

12 Cebu City

13 Celje

14 Cesky Krummlov

15 Chaozhou

16 Chesterfield, Virginia

17 Chiang Mai เชียงใหม่

18 Chonburi ชลบุรี

19 Cleveland

20 Coloane

21 Coventry

22 Daegu

23 Darmstadt

24 Florence, South Carolina

25 Gelting

26 Graz

27 Halifax, Nova Scotia

28 Halmstad

29 Hamilton, Ontario

30 Hong Kong

31 Inagi, Tokyo

32 Innsbruck

33 Jakarta

34 Jalisco

35 Jerusalem

36 Joure

37 Kaunas

38 Kecskemet

39 Kempten

40 Khonkaen ขอนแก่น

41 Kinmen

42 Kumasi

43 Lahore

44 Lausanne

45 Luxembourg

46 Macau

47 Manama

48 Maribor

49 Marion, Indiana

50 Medias

51 Montreux

52 Nairobi City

53 Nakhonratchasrima นครราชสีมา

54 Nakhonsawan นครสวรรค์

55 Nottingham

56 Nuevo Leon

57 Pasnica

58 Patras

59 Phuket ภูเก็ต

60 Plock

61 Raanana

62 Ravne na Koroskern

63 Reykjavik

64 San Francisco, California

65 Sentilj

66 Seoul

67 Singapore

68 Slovenj Gradec

69 Sonora

70 Sopron

71 Sparta

72 Sukhothai สุโขทัย

73 Taipa

74 Taipei

75 Tralee

76 Ulaanbaatar

77 Ushgorod

78 Velenje

79 Vevey

80 West Palm Beach

81 Yala

82 Zhenjiang



* มีนักกีฬา 1,632 คน จาก 37 ประเทศ 82 เมือง เข้าร่วมการแข่งขัน แบ่งเป็น 72 เมืองจากต่างประเทศ และ 10 จังหวัดจากประเทศไทย โดยไทยส่งนักกีฬาแข่งขัน 114 คน 10 ชนิดกีฬา




ประเภทกีฬาและสถานที่แข่งขัน



กรีฑา Track and Field
แข่งขันที่ ศูนย์เยาวชนกทม.(ไทย-ญี่ปุ่น)






ชาย (9 เหรียญทอง) หญิง (7เหรียญทอง)

60 m 50 m
100 m 100 m
200 m 200 m
800 m
1500 m
4 x 100 m 4 x 100 m
High Jump (Starting 1.40 m) High Jump (Starting 1.30 m)
Shot putt Weight 4.00 kg. Shot putt Weight 3.25 kg
Long Jump Long Jump


ว่ายน้ำ Swimming






แข่งขันที่ ศูนย์เยาวชนกทม.(ไทย-ญี่ปุ่น)
ชาย (12 เหรียญทอง) หญิง (12 เหรียญทอง)

50 m 50 m
Freestyle Freestyle
Backstroke Backstroke
Breaststroke Breaststroke
Butterfly Butterfly
100 m 100 m
Freestyle Freestyle
Backstroke Backstroke
Breaststroke Breaststroke
Butterfly Butterfly
200 m 200 m
เดี่ยวผสมIndividual medley เดี่ยวผสม Individual medley
400 m 400 m
ผลัดผสม Medley relay ผลัดผสม Medley relay
Freestyle relay Freestyle relay


เทนนิส Tennis
แข่งขันที่ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)
ทีมชาย (1 เหรียญทอง) ทีมหญิง (1 เหรียญทอง)


เทเบิลเทนนิส Table Tennis
แข่งขันที่ อาคารนิมิบุตร (สนามกีฬาแห่งชาติ)
ทีมชาย (1 เหรียญทอง) ทีมหญิง (1 เหรียญทอง)


บาสเกตบอล Basketball
แข่งขันที่ ศูนย์เยาวชนกทม.(ไทย-ญี่ปุ่น)
ทีมชาย (1 เหรียญทอง) ทีมหญิง (1 เหรียญทอง)


วอลเลย์บอล Volleyball






แข่งขันที่ อาคารนิมิบุตรและอาคารจันทนยิ่งยง (สนามกีฬาแห่งชาติ)
ทีมชาย (1 เหรียญทอง) ทีมหญิง (1 เหรียญทอง)


ยิมนาสติก Gymnastics (หญิง 11 เหรียญทอง)
แข่งขันที่ อินดอร์สเตเดี่ยม(หัวหมาก)

Artistics Gymanstics Singles Team
Balance Beam
Uneven Bars
Vault

Rhythmic Gymnastics Singles Team
Rope
Hoop
Clubs
Ribbon


ลีลาศ Dance Sport (12 เหรียญทอง) Open 2 เหรียญทอง
แข่งขันที่ อินดอร์สเตเดี่ยม(หัวหมาก)

Standard (6 เหรียญทอง) Open 1 Latin -American (6 เหรียญทอง) Open 1

Waltz Cha Cha Cha
Tango Rumba
Quickstep Jive
Viennese Waltz Samba
Slow Foxtrot Paso Doble


ฟุตซอล Futsal
แข่งขันที่ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)
ทีมชาย (1 เหรียญทอง) ทีมหญิง (1 เหรียญทอง)


เทควันโด Taekwondo
แข่งขันที่ ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์
ชาย (4 เหรียญทอง) หญิง (4 เหรียญทอง)

Over 45 & not Exceeding 48 kg Over 40 & not Exceeding 43 kg
Over 48 & not Exceeding 51 kg Over 43 & not Exceeding 46 kg
Over 51 & not Exceeding 54 kg Over 46 & not Exceeding 49 kg
Over 54 & not Exceeding 57 kg Over 49 & not Exceeding 52 kg


* ประเภทกีฬาที่มีนักกีฬาสมัครเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุด 3 ลำดับ ได้แก่ กรีฑา จำนวน 47 เมือง ว่ายน้ำ จำนวน 41 เมือง และเทนนิส จำนวน 40 เมือง




วันแข่งขัน



วันที่ 25 สิงหาคม 2549 การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม / พิธีเปิด

วันที่ 26 สิงหาคม 2549 การแข่งขันกีฬา

วันที่ 27 สิงหาคม 2549 การแข่งขันกีฬา

วันที่ 28 สิงหาคม 2549 การแข่งขันกีฬารอบชิงชนะเลิศ / พิธีปิด





Liaison







กีฬายุวชนโลกครั้งนี้ มี Liaison และมีผู้ช่วย Liaison โดยรับสมัครจากเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 16-20 ปี ที่มีความสามารถด้านภาษาทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานหรือ Liaison จำนวน 200 คน และผู้ช่วย Liaison จำนวน 200 คน รวม 400 คน


เนื่องจากกรุงเทพมีเขตอยู่ 50 เขต จึงมอบหมายให้สำนักงานเขตทุกเขตรับสมัครและคัดเลือกเขตละ 4 คน เพื่อเป็นการให้ความสำคัญกับเด็ก เยาวชน และประชาชนชาวกรุงเทพมหานครในทุกเขตเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้


เมื่อได้คัดเลือกมาแล้วก็จัดให้มีการฝืกอบรมให้ความรู้เสียก่อน เกี่ยวกับหน้าที่และขั้นตอนการดำเนินงาน Liaison ความรู้เกี่ยวกับประวัติ ICG รายละเอียดของการแข่งขัน ประวัติความเป็นมาและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศรวมทั้ง 82 เมืองที่เข้าร่วมการแข่งขัน ความรู้ด้านเทคนิคกีฬา รถรับ-ส่ง กฎระเบียบต่างๆ ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีอาจารย์เนตรปรียา(ครูเคท)ชุมไชโย ช่วยฝึกอบรมให้ มีการฝึกอบรมเคล็ดลับในการต้อนรับและให้บริการที่จะสร้างประทับใจให้แก่เยาวชนจากต่างเมือง พร้อมทั้งมีการนำคณะ Liaison ไปดูโรงแรมที่พัก


ซึ่งได้แก่ โรงแรม Bangkok Palace โรงแรม Eastin Bangkok โรงแรม Baiyoke Sky โรงแรม Ibis โรงแรม Imperial Queen's Park โรงแรม The Grand โรงแรม Chaophya Park และโรงแรม Radisson


Liaison ที่คัดเลือกมาสามารถพูดภาษาต่างๆได้ อาทิ ภาษาอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น โปรตุเกส และไทย




ความหวังเหรียญทอง



น.ส.ปราณี สัตยประกอบ ผู้อำนวยการกองการกีฬากทม.เปิดเผยในเรื่องความหวังเหรียญทองของกทม. ในการแข่งขันครั้งนี้ว่า


“เราหวังไว้ 4 เหรียญทอง จากเทนนิสหญิงเดี่ยว เพราะนักกีฬาไทยมีอันดับโลกดีที่สุดในกลุ่มยุวชนหญิง คือณิชาต์ เลิศพิทักษ์สินชัย เป็นมือเยาวชนอันดับ 298 โลก จึงเป็นมือวาง 1 ของการแข่งขัน กับ สัจพร มหาเจริญกุล เป็นมือเยาวชนอันดับ 312 โลกจึงเป็นมือวาง 2 ทำให้มีโอกาสสูงที่จะได้ชิงชนะเลิศกันเอง ส่วนเทนนิสชายเดี่ยวก็มี ภัทรายุ ชุมเพ็ชร์ มือเยาวชนอันดับ 580 โลก เป็นมือวาง 2 เป็นความหวังคว้าเหรียญทองเช่นเดียวกัน เพราะมือวาง 1 ยัง ซงฮัว จากไทเป ซึ่งถึงแม้จะเป็นมือวาง 1 และเป็นมือเยาวชนอันดับ 190 โลก แต่เจอกันสองครั้ง ภัทรายุเอาชนะได้ตลอด”






“ส่วนว่ายน้ำทางเราหวังที่ ณัฎฐา ธรรมกร่าง ที่ฝึกซ้อมได้เยี่ยมมาก เธอทำลายสถิติฟรีสไตล์ 400 เมตรของแชมป์เก่าปีก่อนได้ด้วย ด้านยิมนาสติกก็หวังที่ ยิมนาสติกลีลาบุคคลจาก วราภรณ์ พรสิริจรรยา, ชริยา ศรีสามารถ และเทควันโด เราหวังที่ ปรัชญา จันทร์สนิท และ ณัฐพงษ์ กิจรุ่งรัตนชัย”


“รายการกีฬายุวชนโลกในครั้งนี้ รายการที่น่าจับตามองคือวอลเลย์บอลหญิงที่มี สโลวีเนียส่งทีมแชมป์ยุโรปมาแข่งขันเพียงกีฬาเดียว และเขาหวังจะคว้าแชมป์ให้ได้ เช่นเดียวกับบาสเกตบอลชาย ที่ทีมเมืองเบรนท์ฟอร์ดออนตาริโอ ของแคนาดา ส่งทีมแชมป์บาสเกตบอลอเมริกาเหนือมาแข่งขัน คงลุ้นกับทีมไทเป แชมป์เก่าสนุกแน่”


“สำหรับเรื่องสนามแข่งขันนั้นเทควันโด จำเป็นจะต้องย้ายจากอาคารนิมิบุตรไปแข่งที่ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์เพื่อให้วอลเลย์บอล ที่มีการเปลี่ยนกติกาจากเดิมแข่งเพียงเซตเดียว มาเป็นต้องชนะ 2 ใน 3 เซต แบบนี้ทำให้ต้องเพิ่มสนามเป็น 2 สนาม เพื่อให้เพียงพอรองรับทีมวอลเลย์บอล 25 ทีมจาก 25 เมืองที่เข้าร่วมแข่งขัน โดยวอลเลย์บอลจะแข่งกันที่อาคารนิมิบุตรกับอาคารจันทนยิ่งยง ในสนามกีฬาแห่งชาติ" น.ส.ปราณีกล่าว.








"กีฬายุวชนโลก ICG 2006" มหกรรมกีฬาของเด็กนักเรียนชายหญิงจากทั่วโลก ความงดงามสดใสของเด็กๆ ที่เปรียบเสมือนดอกไม้ที่กำลังเริ่มเบ่งบาน เป็นความงามและเป็นพลังของการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้แก่โลกปัจจุบันและอนาคต”


การแข่งขันกีฬายุวชนโลกครั้งที่ 40 ณ กรุงเทพมหานคร (The 40th International Children's Games in Bangkok) สถานที่ที่เปรียบเสมือนเมืองสวรรค์ ส่วนเด็กๆทุกคนที่เข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ เปรียบเสมือนเทวดาตัวน้อย อันเป็นแนวคิดของการแข่งขันครั้งนี้ ที่ว่า “BLOOMING LITTLE ANGLES”.








โดย yyswim




 

Create Date : 20 สิงหาคม 2549    
Last Update : 20 สิงหาคม 2549 0:54:33 น.
Counter : 9401 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.