กรุงเทพมาราธอน



กรุงเทพมาราธอน



ภาพในบล๊อก นำมาจาก //www.runnercorner.com เป็นภาพจากการแข่งขัน กรุงเทพมาราธอน ของปีที่แล้ว ขอขอบคุณ //www.runnercorner.com ไว้ ณ ที่นี้








# 1 งานวิ่งมาราธอนที่นักวิ่งทั่วประเทศเฝ้ารอ

กรุงเทพมาราธอน เป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่นับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของไทย จัดขึ้นปีละครั้งที่กรุงเทพ โดยเริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2531 นับถึงปีนี้ก็เป็นครั้งที่ 19 แล้ว นักวิ่งมาราธอนไม่ว่าจะเป็นรายบุคคลหรือหมู่คณะ ไม่ว่าจะหน้าใหม่หรือหน้าเก่า ไม่ว่าจะวิ่งอยู่ในกรุงเทพหรือวิ่งอยู่ในต่างจังหวัด ไม่เว้นแม้กระทั่งนักวิ่งจากต่างชาติ จะกาเครื่องหมายนัดตนเองให้ว่างเอาไว้ ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เพราะวันนี้เป็นวันกำหนดการแข่งขัน กรุงเทพมาราธอน


กรุงเทพมาราธอนในปีนี้ เรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 19” โดยมีสมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ภายใต้การสนับสนุนหลักของ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) และยังมีผู้สนับสนุนอื่นๆอีกหลายราย เช่น น้ำดื่มคริสตัล เครื่องดื่ม Gatorade รองเท้าแพน น้ำมันมวย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นต้น


การจัดการแข่งขัน จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 หรือในตอนดึกของคืนวันเสาร์ เวลาประมาณ 02.00 น.(เวลา 01.30 น.เข้าจุดสตาร์ท) ณ บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์







กรรมการจัดการแข่งขันเตรียมพร้อมในงาน




นักกีฬามายืนรอ






# 2 เส้นทางการวิ่ง

เส้นทางการวิ่ง เริ่มต้นวิ่งจาก ถนนสนามไชย ด้านหน้าพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว หรือหน้ากระทรวงกลาโหม วิ่งผ่านถนนราชดำเนินใน ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพระปิ่นเกล้า วิ่งต่อเนื่องไปสู่ถนนยกระดับคือถนนบรมราชชนนี วิ่งไปจนถึงระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ก็วนกลับถนนเดียวกันฝั่งขาเข้า จากนั้นจะวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้งที่สะพานพระราม 8 การวิ่งในช่วงระยะประมาณ 15 กิโลเมตรที่เหลือของการวิ่งมาราธอน จะวิ่งบนถนนที่ผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น อาคารรัฐสภา พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วัดเบญจมบพิตร พระบรมรูปทรงม้า วิ่งผ่านถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินกลาง ผ่านพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ผ่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผ่านท่าช้าง อ้อมด้านหลังพระบรมมหาราชวัง และเข้าถึงเส้นชัยบริเวณด้านหน้าพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว หรือหน้ากระทรวงกลาโหม ณ จุดเริ่มต้นเดิม



มาราธอน...เริ่มออกวิ่งตอนตีสอง






ทั้งนี้ตลอดเส้นทางของการวิ่ง จะมีการปิดการจราจรเป็นการชั่วคราว จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้นักวิ่ง จะมีจุดให้น้ำให้เครื่องดื่มเกลือแร่ พร้อมกลุ่มกองเชียร์เป็นระยะๆ และจะมีคนคอยเชียร์ตลอดรายทางของการวิ่ง


อนึ่ง เมื่อปีกลาย กรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 18 เรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สสส. กรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 18” (18 th Thai Health Bangkok Marathon) จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2548 ณ บริเวณเดียวกัน








# 3 วัตถุประสงค์ของงานปีนี้

วัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขัน “สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 19” จัดขึ้นเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานจะมอบให้กับมูลนิธิอานันทมหิดล นอกจากนั้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกายโดยการวิ่ง และเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับกรุงเทพมหานครและประเทศไทย ในฐานะเจ้าบ้านที่จะได้มีโอกาสต้อนรับนักวิ่งจากทั่วทุกมุมโลก







# 4 ประเภทของการวิ่ง

“สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 19” มีให้เลือกวิ่งได้ 3 ระยะทาง คือ

1. ประเภทมาราธอน (42.195 ก.ม.หรือ 26 ไมล์ 385 หลา) เหมาะสำหรับนักวิ่งผู้มีประสบการณ์มาก (ซึ่งในปีที่แล้วมีผู้สมัครเข้าร่วมวิ่งประมาณ 2,000 คนเศษ) และประเภทมาราธอน ยังจัดให้กับผู้สมัครที่เป็นคนพิการทางขาในกลุ่มเก้าอี้ล้อเลื่อน (Wheelchair) เข้าร่วมแข่งขันด้วย


ประเภทมาราธอน (42.195 ก.ม.) ยังแยกแข่งขันตามช่วงอายุ และเพศชาย หญิง ดังนี้

ชาย 18-29 ปี หญิง 18-29 ปี

ชาย 30-34 ปี หญิง 30-34 ปี

ชาย 35-39 ปี หญิง 35-39 ปี

ชาย 40-44 ปี หญิง 40-44 ปี

ชาย 45-49 ปี หญิง 45-49 ปี

ชาย 50-54 ปี หญิง 50-54 ปี

ชาย 55-59 ปี หญิง 55-59 ปี

ชาย 60-64 ปี หญิง 60-64 ปี

ชาย 65-69 ปี หญิง 65 ปี หรือมากกว่า

ชาย 70-79 ปี

ชาย 80 ปี หรือมากกว่า

ประเภทเก้าอี้ล้อเลื่อน (42.195 ก.ม.) จัดเป็นกลุ่มทั่วไป โดยไม่จำกัดอายุและเพศ


2. ประเภทควอเตอร์มาราธอน (10.550 ก.ม.) เหมาะสำหรับนักวิ่งผู้มีประสบการณ์ระดับกลาง ผู้ฝึกซ้อมวิ่งเป็นประจำ วันละ 30-60 นาที (ซึ่งในปีที่แล้วมีผู้เข้าร่วมวิ่งประมาณ 7,000 คน)


ประเภทควอเตอร์มาราธอน (10.550 ก.ม.) ยังแยกแข่งขันตามกลุ่มตามช่วงอายุและเพศชาย หญิง ดังนี้

ชายอายุ 19 ปีและต่ำกว่า หญิงอายุ 19 ปีและต่ำกว่า

ชาย 20-39 ปี หญิง 20-39 ปี

ชาย 40 ปีและเกิน หญิง 35 ปีและเกิน


3. ประเภท เดิน -วิ่ง เพื่อสุขภาพ (5 ก.ม.) เหมาะสำหรับผู้ริเริ่มวิ่งใหม่ ซึ่งเคยออกกำลังกายด้วยการเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ และอยากจะผลักดันตนเองไปเป็นคนติดวิ่ง ประเภทนี้จะมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมวิ่งในปีที่แล้ว มีจำนวนมากที่สุด คือประมาณ 10,000 คนเศษ


การเดิน -วิ่งประเภทนี้ ไม่ได้มุ่งเน้นเพื่อการแข่งขัน แต่เพื่อเป็นการวิ่งเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในมหาวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชสมบัติ 60 ปี และเพื่อร่วมขบวนออกกำลังกายเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตและพลานามัยที่ดีสืบไป ในงานนี้จะแจกเสื้อเหลือแก่ผู้สมัครวิ่งทุกคนเพื่อสวมเสื้อเหลืองถวายความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่านในวันนั้น







# 5 รางวัลของการวิ่ง

ประเภทมาราธอน .....ผู้ชนะอันดับที่ 1 – 5 ในแต่ละกลุ่มอายุ ทั้งชายและหญิง จะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ภูมิพลอดุลยเดช" พร้อมเงินรางวัลอีกจำนวนหนึ่ง ดังนี้


อันดับที่ ทั่วไปชาย ทั่วไปหญิง กลุ่มอายุ

1. 300,000 บาท 300,000 บาท 12,000 บาท

2. 150,000 บาท 150,000 บาท 8,000 บาท

3. 100,000 บาท 100,000 บาท 5,000 บาท

4. 70,000 บาท 70,000 บาท 3,000 บาท

5. 50,000 บาท 50,000 บาท 2,000 บาท

6. 30,000 บาท 30,000 บาท -

7. 20,000 บาท - -

8. 15,000 บาท - -

9. 12,000 บาท - -

10. 10,000 บาท - -


โบนัสสำหรับผู้ทำลายสถิติ....... เฉพาะผู้ชนะเลิศทั่วไป (คนแรก) ชาย และหญิง ที่สามารถทำลายสถิติกรุงเทพมาราธอนได้ จะได้รับโบนัสอีก เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท

• สถิติชาย 02.18.59 ชั่วโมง ผู้ทำไว้ คือ ไมเคิล มูโกม่า (เคนย่า) ทำไว้เมื่อปี พ.ศ. 2541

• สถิติหญิง 02.46.40 ชั่วโมง ผู้ทำไว้ คือ ไวโอลีททา ยูรีกา (โปแลนด์) ทำไว้เมื่อปี พ.ศ. 2542






ประเภทควอเตอร์มาราธอน ........

• ผู้ชนะ อันดับที่ 1-5 ในแต่ละกลุ่มอายุ ทั้งชายและหญิง จะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ

• เฉพาะกลุ่มเยาวชน (19 ปีและต่ำกว่า) ที่ชนะอันดับที่ 1-5 ทั้งชายและหญิง จะได้รับเงินรางวัล อีกจำนวนหนึ่ง คือ 10,000 / 6,000 / 5,000 / 4,000 และ 3,000 บาท ตามลำดับ


ประเภทเดิน - วิ่ง เฉลิมพระเกียรติ 5 ก.ม. …….

ผู้ชนะ อันดับที่ 1-5 ทั้งชายและหญิง จะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ


นอกจากนั้น ในการเข้าร่วมวิ่งครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมวิ่งที่วิ่งถึงเส้นชัยในทุกประเภท จะได้รับเหรียญที่ระลึก ณ จุดเส้นชัยของการแข่งขันทันทีทุกคน








# 6 ลักษณะเส้นทางของการวิ่ง

จุดเริ่มต้นการแข่งขัน อยู่บนถนนสนามไชย โดยกำหนดให้มีจุด Start 2 จุด จุด Start แรกสำหรับประเภทมาราธอนและล้อเลื่อน (Wheelchair) อยู่ทางด้านทิศใต้ หรือหน้าพระบรมมหาราชวัง


ส่วนจุด Start ที่สองสำหรับการวิ่งประเภท10.550 ก.ม. และการเดินวิ่ง 5 ก.ม. อยู่ทางด้านทิศเหนือ บนถนนสนามไชย ด้านหน้ากระทรวงกลาโหม เพราะมีจำนวนนักวิ่งปริมาณมากนั่นเอง


จุดสิ้นสุดการแข่งขัน (Finish) สำหรับประเภทมาราธอน, Wheelchair และ 10.550 ก.ม. สิ้นสุด ณ จุด Start เดิมทางด้านทิศใต้ ส่วนประเภทเดิน -วิ่ง 5 ก.ม. จุดสิ้นสุดอยู่ที่หน้ากระทรวงกลาโหม หรือที่จุด Start ที่สองเดิมนั่นเอง


เส้นทางของการเดิน -วิ่ง 5 ก.ม. คือ มุ่งเข้าถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง สู่ถนนราชดำเนินนอก เมื่อถึงหัวสะพานมัฆวานรังสรรค์ (หน้า ยู-เอ็น) ให้เดิน-วิ่งวนกลับมาเส้นทางเดิม แต่อยู่คนละเลน และเข้าสู่จุดสิ้นสุดที่หน้ากระทรวงกลาโหม หรือจุด Start ที่สองเดิม







# 7 การสมัครวิ่งสำหรับนักวิ่งในประเทศไทย

นักวิ่งชาวไทย และนักวิ่งชาวต่างประเทศที่พำนักอยู่ในประเทศไทยถาวร สามารถสมัครได้ทันที โดยมีวิธีการสมัครหลายวิธี แบบฟอร์มใบสมัครอยู่ที่กดที่นี่



1. โอนเงินค่าสมัคร เข้าบัญชี ธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ชี่อบัญชี "สมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย" ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ เลขที่ 0522102899 แล้วส่งรายละเอียดการสมัคร ตามแบบฟอร์ม พร้อมสำเนาใบโอนเงินไปที่ บริษัทอเมซิ่ง ฟิลด์ จำกัด โดยทางโทรสาร 0-2277-2567 หรือ email : info@amazingfield.org


2. ส่งใบสมัครพร้อมธนาณัติสั่งจ่าย "นายสงคราม ไกรสนธิ์" ปณ. สุทธิสาร ส่งไปที่บริษัทอเมซิ่ง ฟิลด์ จำกัด


เฉพาะการสมัครตามวิธีที่ 1 และ 2 ข้างต้น เมื่อการสมัครเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้สมัครจะได้รับบัตรยืนยันการตอบรับทางไปรษณีย์ ทั้งนี้เพื่อนำบัตรไปแสดงในวันลงทะเบียนรับเบอร์ประจำตัวแข่งขัน การสมัครโดยทางธนาณัติต้อง ปฏิบัติอย่างช้าภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2549 เท่านั้น


3. ทำการสมัครโดยตรงที่ บริษัท อเมซิ่ง ฟิลด์ จำกัด 20/1 ซอยอินทามระ 38 ถนนประชาสุข (สุทธิสาร - ห้วยขวาง) แขวง / เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 0-2277-6670-1, 276-3605 โทรสาร 0-2277-2567 หรือ email : info@amazingfield.org


4. ทำการสมัครโดยตรงที่ สมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย บ้านอัมพวัน 226 ถนนศรีอยุธยา ดุสิต กทม. 10300 โทร / โทรสาร 0-2280-7667-8


5. ทำการสมัครโดยตรงที่ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่รับสมัครเฉพาะ ประเภทควอเตอร์มาราธอน (10.550 ก.ม.) และ เดิน-วิ่ง (5 ก.ม.) เท่านั้น โทร. 1595








# 8 อัตราค่าสมัคร

อัตราค่าสมัครในประเทศ

ประเภทมาราธอน / เก้าอี้ล้อเลื่อน
คนทั่วไป วันนี้ - 15 พ.ย.600 บาท
วันที่16 - 25 พ.ย. 900 บาท

กลุ่มชาย 70 ปีขึ้นไป วันนี้ - 15 พ.ย. ยกเว้นค่าสมัคร วันที่16 - 25 พ.ย. ไม่รับสมัคร

กลุ่มหญิง 60 ปีขึ้นไป วันนี้ - 15 พ.ย. ยกเว้นค่าสมัคร วันที่16 - 25 พ.ย. ไม่รับสมัคร


ประเภทควอเตอร์มาราธอน ( 10.550 ก.ม.)
คนทั่วไป วันนี้ - 15 พ.ย. 300 บาท วันที่16 - 25 พ.ย. 500 บาท

เฉพาะกลุ่ม 19 ปี และต่ำกว่า วันนี้ - 15 พ.ย. 150 บาท วันที่16 - 25 พ.ย. 250 บาท


ประเภทเดิน - วิ่ง 5 ก.ม.
วันนี้ - 15 พ.ย. 200 บาท วันที่16 - 25 พ.ย. 300 บาท








# 9 การลงทะเบียน

ผู้สมัครจะต้องนำบัตรยืนยันการตอบรับสมัคร ไปแสดงที่งาน Marathon Expo ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้น ณ อาคารสถานลีลาศ สวนลุมพินี ถนนพระราม 4 ตรงข้ามอาคารอื้อจือเหลียง ในวันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา 10.00 น. - 19.00 น. ทุกวัน.....เพื่อลงทะเบียนรับเบอร์ประจำตัววิ่ง และ รับชิพ ..แชมป์เปี้ยนชิพ (เฉพาะประเภทมาราธอน) พร้อมกับจะได้รับเสื้อที่ระลึกสีเหลือง ของการแข่งขัน“สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 19” ทุกคนคนละ 1 ตัว และหากสมัครวิ่งในประเภทมาราธอน และควอเตอร์มาราธอน ยังจะได้รับสิ่งของที่ระลึกอื่นๆแจกเพิ่มเติม ….. การแจกเบอร์ประจำตัววิ่ง และแชมป์เปี้ยน ชิพ และเสื้อ พร้อมสิ่งของที่ระลึก จะไม่มีการแจกอีกแล้วในวันแข่งขัน


อนึ่ง การสมัครของนักวิ่งต่างประเทศ จะแตกต่างจากนักวิ่งไทยตรงที่ อัตราค่าสมัครสำหรับนักวิ่ง Oversea Marathon / wheelchair สมัครก่อน 1 พ.ย. อัตราค่าสมัคร USD 40 ...กรณีสมัครภายหลัง 1 พ.ย. อัตราค่าสมัคร USD 50 …. Oversea Quarter Marathon 10.550 km Run สมัครก่อน 1 พ.ย. อัตราค่าสมัคร USD 30 ......กรณีสมัครภายหลัง 1 พ.ย. อัตราค่าสมัคร USD 40 ….5 Km Oversea Walk & Fun Run สมัครก่อน 1 พ.ย. อัตราค่าสมัคร USD 10 .....กรณีสมัครภายหลัง 1 พ.ย. อัตราค่าสมัคร USD 20 .....สำหรับการลงทะเบียนจะดำเนินการ ณ อาคารสถานลีลาศ สวนลุมพินี ถนนพระราม 4 เช่นเดียวกัน และจะไม่มีการลงทะเบียน ณ วันทำการแข่งขัน







# 10 กิจกรรมที่ควรรู้


1) ที่จอดรถ…….นักวิ่งและญาติ สามารถจอดรถได้บริเวณถนนราชินีตามแนวคลองหลอด และสนามหลวง ห้ามจอดรถบนถนนกัลยาณไมตรี ด้านข้างกระทรวงกลาโหม ซอยสราญรมย์ และในบริเวณงาน



2) การฝากของสัมภาระ……..มีบริการฝากของของนักวิ่ง โดยจะจัดไว้ใกล้บริเวณสวนสราญรมย์ แต่จะไม่รับผิดชอบชดใช้ใดๆ ในกรณีเกิดของสูญหาย ฉะนั้นโปรดอย่าฝากของที่ไม่จำเป็นและของมีค่าเด็ดขาด และให้รับของคืนภายในเวลา 10.00 น. เป็นอย่างช้า







3) การรายงานตัว ....ผู้สมัครวิ่งประเภทมาราธอน (42.195 ก.ม.) และเก้าอี้ล้อเลื่อน (Wheelchair) จะต้องเข้ารายงานตัวต่อกรรมการ ด้านหน้าจุด start เวลา 01.30 น.เวลาปล่อยตัว 02.00 น. • ประเภทควอเตอร์มาราธอน (10.550 ก.ม.) จะต้องรวมตัวกันที่บริเวณถนนสนามไชย ด้านหน้ากระทรวงกลาโหม เวลา 06.00 น. เพื่อรอเวลาปล่อยตัว 06.30 น. • ประเภทเดิน - วิ่ง - 5 ก.ม.จะต้องรวมตัวกันที่บริเวณ ถนนกัลยาณไมตรี ด้านข้างกระทรวงกลาโหม เวลา 06.00 น. เพื่อรอเวลาปล่อยตัว 07.00 น.







4) การติดป้ายเบอร์ประจำตัววิ่ง…… นักวิ่งทุกคนจะต้องติดให้ถูกตำแหน่ง คือที่ด้านหน้าบริเวณท้อง และแสดงเบอร์ประจำตัววิ่งให้เห็นอย่างชัดเจนสมบูรณ์ กรณีที่พับป้าย ตัดป้าย ป้ายหมึกสี หรือดัดแปลงอื่นๆ อันเป็นสาเหตุให้กรรมการไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน การแข่งขันของท่านอาจเป็นโมฆะ นักวิ่งที่ไม่ได้ติดป้ายเบอร์ประจำตัววิ่ง จะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม คณะกรรมการจะถือว่าไม่ได้สมัครตามกฎระเบียบ และจะถูกเชิญออกนอกเส้นทางการแข่งขันทันทีที่พบเห็น



5) ไฟเตือนเก้าอี้ล้อเลื่อน........ผู้แข่งขันประเภทล้อเลื่อน ต้องติดไฟกระพริบด้านหลังล้อเลื่อน หรือติดแผ่นสะท้อนแสงที่เห็นได้แต่ไกล เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในขณะแข่งขันตอนเช้ามืด







6) การบันทึกสถิติเวลา.........จะใช้ระบบจับเวลา Champion Chip และบันทึกสถิติเวลา พร้อมอันดับการแข่งขัน ลงในใบประกาศนียบัตร และหนังสือประกาศผลการแข่งขัน เฉพาะผู้เข้าแข่งขันในประเภทมาราธอน (42.195 ก.ม.) โดยจะจัดส่งให้ภายหลังการแข่งขันทุกคน .....สำหรับชิ้นส่วนอุปกรณ์ (Chip) จับเวลา คณะกรรมการจะมอบให้กับผู้สมัคร พร้อมกับเบอร์ประจำตัวแข่งขันในวันลงทะเบียน (ที่สวนลุมพินี) เมื่อจบการแข่งขันแล้ว จะต้องนำ Chip มอบคืนแก่คณะกรรมการทันที ที่บริเวณหลังเส้นชัย กรณีที่คณะกรรมการไม่ได้รับคืน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องชดใช้ Chip เป็นเงิน 500 บาท







7) ระยะเวลา.......กำหนดเวลาให้ผู้แข่งขันได้วิ่งอยู่บนถนนอย่างปลอดภัยและเพียงพอ • สำหรับมาราธอน 7 ชั่วโมง • สำหรับควอเตอร์มาราธอน 10.550 ก.ม. 1 ชั่วโมง 40 นาที • สำหรับเดิน – วิ่ง เพื่อสุขภาพ 5 ก.ม. 1 ชั่วโมง







8) การให้บริการขณะวิ่ง…… มีจุดให้บริการน้ำดื่ม ทุกๆ ระยะ 2 กิโลเมตร เสริมด้วยเครื่องดื่ม Gatorade ฟองน้ำเย็น และผลไม้



9) รถพยาบาลให้บริการ........ตลอดเส้นทางของการแข่งขัน จะมีรถพยาบาลพร้อมนายแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำ เคลื่อนที่คอยดูแลนักวิ่ง นักวิ่งผู้เจ็บป่วยจนวิ่งต่อไปไม่ไหว หรือเพราะหมดแรงวิ่งไม่ออก(ชนกำแพง) โปรดใช้บริการ อย่าฝืนวิ่งหากไม่ไหวจริงๆ เมื่อท่านขึ้นรถพยาบาลแล้วจะถือว่าท่านยกเลิกการแข่งขันทันที คณะกรรมการจะรายงานวิทยุไปยังศูนย์อำนวยการเพื่อกากบาทป้ายเบอร์ประจำตัวของท่าน ......แต่กรณีที่ท่านเจ็บป่วยเล็กน้อยพอจะวิ่งไหว ก็อาจจะเรียกพยาบาลมาช่วยเหลือแก้ไข ณ จุดที่ท่านได้รับการบาดเจ็บ โดยที่ท่านไม่ได้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า แบบนี้ย่อมทำได้







10) ขอทางให้นักวิ่งแซงทำความเร็ว........นักวิ่งที่มีสปิริต จะยินดีสนับสนุนให้โอกาสแก่นักวิ่งที่วิ่งเร็วกว่า จะไม่กีดกันหรือกลั่นแกล้ง แต่จะสังเกตว่าหากมีนักวิ่งคนอื่นต้องการจะแซง จะเลี่ยงมาวิ่งชิดซ้ายหรือยึดเส้นทางติดขอบถนน เพื่อให้ทางแก่นักวิ่งที่วิ่งเร็วกว่า แซงได้โดยสะดวก







11) การปรับให้เป็นโมฆะ ........ นักวิ่งท่านใดที่ได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลอื่นในขณะวิ่ง ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ กรรมการจะระงับทันทีที่พบเห็น และจะตัดสินให้เป็นโมฆะ หรือนักวิ่งผู้ชนะการแข่งขันโดยมีผู้อื่นนำประกบคอยติดตามให้การช่วยเหลือทางเทคนิค นักวิ่งผู้นั้นจะถูกปรับให้เป็นโมฆะเช่นกัน



12) นักวิ่งผู้ไร้เกียรติ……. นักวิ่งที่ขาดวิญญาณของความเป็นนักกีฬา ที่พยายามใช้กลอุบายเพื่อมุ่งเอาชนะผู้อื่นหรือเอาเปรียบผู้อื่นแบบไม่ใสสะอาด เช่น แอบขึ้นรถ ลัดเส้นทาง ใช้ยาโด๊ป หรือวิธีอื่นใด ชื่อของเขาจะถูกบันทึกลงในบัญชีไว้ เพื่อยกเลิกสิทธิการเข้าร่วมแข่งขันในปีต่อๆ ไป



ผู้ชมระหว่างทาง






13) ห้ามให้เบอร์ประจำตัวและชิพแก่ผู้อื่นมาวิ่งแทนตน.........เป็นการผิดกฎการแข่งขันอย่างร้ายแรง และถือเป็นเจตนาการทุจริตในการแข่งขันอย่างแท้จริง หากสลับเบอร์ หรือมอบเบอร์ประจำตัวของตนให้ผู้อื่นวิ่งแทนตนเอง



14) การวิ่งเข้าสู่เส้นชัย.......โปรดศึกษาดูช่องทางเข้าสู่เส้นชัยให้ละเอียด การเข้าช่องทางผิดช่องจะมีปัญหาเรื่องการตัดสินหรือเรื่องการจับเวลาของคณะกรรมการ และเมื่อเสร็จภารกิจเกี่ยวกับการวิ่งแล้ว ขอให้ออกนอกบริเวณหลังเส้นชัยซึ่งเป็นเขตปฏิบัติงานของกรรมการโดยทันที



ผู้ชนะ






15) การรับเหรียญที่ระลึก……ผู้แข่งขันทุกประเภท รวมทั้ง เดิน -วิ่ง 5 ก.ม.เมื่อเข้าสู่เส้นชัยแล้ว ให้ไปรับเหรียญที่ระลึกด้วยตนเองที่ซุ้มแจกเหรียญ ตามประเภทที่ตนเองเข้าแข่งขัน โดยการแสดงป้ายเบอร์ติดหน้าอก และเข้าตามช่องที่มีป้ายแจ้งในแต่ละประเภท ทั้งนี้ควรเข้าแถวตามลำดับก่อนหลังเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและรวดเร็ว







16) การรายงานตัวของผู้ชนะแข่งขัน........นักวิ่งที่ได้รับการคล้องบัตรทันทีที่เข้าเส้นชัย ยังไม่ถือว่าเป็นผู้ชนะในอันดับนั้นๆ อย่างเป็นทางการ ให้ไปรายงานตัวต่อกรรมการตัดสิน ที่โต๊ะหลังเส้นชัยทันทีเพื่อการพิจารณาตัดสิน กรณีละเลย จะตัดสินเป็นโมฆะและเลื่อนบุคคลถัดไปเข้ามาแทนที่







17) สิ่งที่ต้องทราบของผู้ชนะ.........นักวิ่งที่ได้รับการพิจารณาตัดสินให้เป็นผู้ชนะในทุกลำดับทุกประเภทที่ระบุอายุในกลุ่มการแข่งขัน จะต้องมีหลักฐานพิสูจน์อายุฉบับจริง เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ตมาแสดงต่อคณะกรรมการตัดสิน ภายในเวลา 15 นาที หลังจากเข้าเส้นชัย นักวิ่งใดที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานได้ กรรมการจะตัดสิทธิ์ในการรับรางวัล และจะเลื่อนอันดับรองขึ้นมารับรางวัลแทน เพื่อความรวดเร็วในพิธีมอบรางวัล







18) การประท้วง........นักวิ่งที่ต้องการประท้วงการตัดสินใดๆของกรรมการให้ทำได้ภายใน เวลา 15 นาที หลังจากที่กรรมการได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว และก่อนทำการประท้วงต้องวางเงินสดจำนวน 1,000 บาท กรณีประท้วงไม่เป็นผล จะไม่ได้รับเงินจำนวนนี้คืน



นักวิ่งจากต่างชาติ






19) ประกาศนียบัตร........นักวิ่งผู้ชนะในประเภทมาราธอนและเก้าอี้ล้อเลื่อน จะได้รับประกาศนียบัตร พร้อมกับการบันทึกเวลาแข่งขันของท่านลงอย่างเป็นทางการ โดยคณะกรรมการจัดงานฯจะจัดส่งไปให้ท่านในภายหลัง







20) โค้ช/พี่เลี้ยง/ญาติของนักวิ่งและกลุ่มของนักวิ่งโปรดทราบ..........ห้ามบุคคลผู้เป็นโค้ช พี่เลี้ยง ญาติของนักวิ่ง รวมทั้งนักวิ่งอื่นๆในกลุ่ม เข้าไปสอบถามหรือรบกวนสมาธิ สร้างความยุ่งยากอันจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของกรรมการบริเวณเส้นชัย รวมทั้งห้ามล้ำเข้าไปในถนนและเส้นชัยในขณะที่ยังมีการแข่งขัน



21) พิธีมอบรางวัลผู้ชนะแข่งขัน..........หลังจากที่ทราบผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการแล้ว ขอให้ผู้ชนะทุกท่าน ไปนั่งรวมกันในเต็นท์ที่จัดที่นั่งไว้ให้ ณ หน้าเวทีใหญ่ เพื่อจะเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลในเวลา 08.00 น.อย่างเป็นระเบียบต่อไป







22) การถ่ายทอดออกอากาศ……..สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 จะแพร่ภาพ “สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 19” ภายในวันแข่งขัน เวลาที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบต่อไป



23) การสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม........

สมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย โทร. 0-2628-8361

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2724-8023

บริษัท สปินเลอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด โทร. 0-2241-0088








จขบ. ขอมอบข้อคิดส่งท้ายบล็อกว่า....

"ถ้าท่านเดินได้ ท่านก็วิ่งได้" ….. และหากท่านเริ่มต้นวิ่งเสียตั้งแต่วันนี้ วันพรุ่งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก


หากท่านวิ่งบ่อยๆ วิ่งด้วยใจรัก และมีความมุ่งมั่นจริงจัง ....ในสักวันหนึ่งข้างหน้า ท่านก็จะก้าวเข้าสู่สนามวิ่งระดับ 10 กิโล ระดับ 21 กิโล และระดับวิ่งมาราธอน…..


ฝันนั้นไกล แต่ถ้าท่านอยากจะไป ......จะไม่มีใครหยุดยั้งความฝันของท่านได้ เช่นเดียวกับนักวิ่งมาราธอนคนอื่นๆทำได้แล้ว......













โดย yyswim




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2549 0:50:03 น.
Counter : 9179 Pageviews.  

เชื่อหรือไม่



เชื่อหรือไม่








# 01 พ่อแม่ที่สวมเสื้อร่วมกับลูก




คุณพ่อที่มีลูกชายเป็นรุ่นหนุ่ม ที่ตัวใหญ่พอๆกัน และคุณแม่ที่มีลูกสาวเป็นรุ่นสาว แล้วหุ่นก็ใกล้เคียงกัน หากลูกชายและลูกสาว จะขอใช้สิ่งของ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับร่วมกับคุณพ่อ คุณแม่ เช่น รองเท้าแตะ เสื้อยืด กางเกงนอน ผ้าเช็ดตัว ชุดทำงาน ชุดกลางคืน สร้อยคอ ต่างหู นาฬิกา เป็นต้น รวมทั้ง จะโดยคุณพ่อขอยืมใช้ของลูกชาย หรือคุณแม่จะขอใช้ของลูกสาว หากทำโดยพร่ำเพรื่อแบบนี้บ่อยๆ ลูกชายและลูกสาวจะไม่เกรงใจ จะไม่ให้เกียรติ จะไม่เชื่อฟัง จะเถียงคำตักเตือนของคุณพ่อคุณแม่



พฤติกรรมนี้ ดูแล้วเป็นลักษณะคุณพ่อคุณแม่ทำตัวสนิทสนมกับลูก ฉันเพื่อน แต่บทบาทของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องมีในด้านการอบรมสั่งสอน แนะนำลูก หรือเป็นที่ปรึกษาให้ลูก จะสูญเสียไป







# 02 แม่ที่ทานอาหารเหลือของลูก




คุณแม่ที่ชอบทานอาหารเหลือในจานของลูกต่อหน้าลูก รวมทั้งขนมเหลือ และเครื่องดื่มเหลือ อาจจะเพราะรู้สึกเสียดายของ เสียดายเงิน คิดว่ายังดีอยู่ คิดว่าดีกว่าจะทิ้งขว้างเปล่าๆ พฤติกรรมเช่นนี้ จะสร้างนิสัยการทานอาหารแบบทิ้งๆขว้างๆให้กับลูก และข้อสำคัญเมื่อลูกเห็นพฤติกรรมนี้จากคุณแม่จนจำเจ เมื่อลูกโตขึ้น ลูกจะไม่กลัวคุณแม่ และจะไม่เกรงใจคุณแม่







# 03 ลูกวัยรุ่นที่นอนห้องเดียวกับพ่อแม่




ลูกชายลูกสาวที่นอนในห้องเดียวกับคุณพ่อคุณแม่มาตั้งแต่เล็กๆ แม้เมื่อโตเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว ก็ยังชอบที่จะนอนในห้องคุณพ่อคุณแม่ ยังรู้สึกอบอุ่น ชอบนอนคลอเคลียกับคุณพ่อคุณแม่ ชอบนอนกอดคุณพ่อคุณแม่ สนุกกับการยั่วคุณพ่อคุณแม่ ทั้งๆที่คุณพ่อคุณแม่ได้จัดห้องที่เป็นสัดส่วนส่วนตัว ให้กับลูกชายลูกสาววัยรุ่นแล้วก็ตาม



ลูกชายลูกสาวแบบนี้เมื่อเติบโตขึ้นและมีครอบครัวออกไป จะมีอัตราการหย่าร้างน้อยกว่า ลูกชายลูกสาวที่แยกนอนคนละห้องกับคุณพ่อคุณแม่ ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก







# 04 โรงพยาบาลมีเชื้อโรคมากกว่าบ้าน




ผู้ป่วยจะต้องไอจาม มือผู้ป่วยซึ่งอาจจะเปื้อนเลือดเปื้อนน้ำลายและเปื้อนเสมหะ แล้วผู้ป่วยก็จะใช้มือสัมผัสกับม้านั่ง เก้าอี้ ราวบันได ปุ่มลิฟท์ โทรศัพท์สาธารณะ เป็นต้น เชื้อโรคจากผู้ป่วยจึงกระจายอยู่ในอากาศและปนเปื้อนอยู่บนพื้นที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ในโรงพยาบาลมากกว่าในบ้าน



สังเกตได้เลยว่า เมื่อเราไปเยี่ยมผู้ป่วยที่มีโอกาสติดเชื้อง่าย จะมีกฎของโรงพยาบาลอยู่ว่า ให้เราถอดรองเท้า ใช้น้ำยาทำความสะอาดมือ ใช้แผ่นมาส์กปิดปาก ก่อนจะเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยได้ ทั้งนี้เพราะที่รองเท้า ฝ่ามือ นิ้วมือ และในการพูด การจาม และในน้ำลายของเรา จะมีเชื้อโรคอยู่บ้างนั่นเอง ซึ่งอาจจะติดแก่ผู้ป่วยที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย



ยิ่งกว่านั้น พื้นที่ส่วนใหญ่ของโรงพยาบาล ซึ่งเดี๋ยวนี้มีการติดตั้งระบบปรับอากาศรวม แต่ไม่ได้รับการออกแบบติดตั้งและบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ทำให้ระบบปรับอากาศรวมมีมาตรฐานต่ำกว่ามาตรฐานสากล และมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องที่ต้องมีการควบคุมเชื้อโรคอย่างเข้มงวด จากผู้ป่วยวัณโรค โรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส เป็นต้น



แต่โรงพยาบาลในเมืองไทย มีห้องแยกฯที่ได้มาตรฐาน ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง การรักษาผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศจึงต้องรักษากันอยู่ในห้องที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อโรคในโรงพยาบาลได้ง่ายในระบบปรับอากาศรวม



หากท่านหรือเด็กของท่านไม่แข็งแรง จึงยังไม่สมควรจะไปเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาล และทางที่ดีเมื่อกลับจากโรงพยาบาลแล้ว ควรจะล้างมือ ควรจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะอุ้มเด็กทารก หรือก่อนที่จะพยาบาลคนชรา หรือจับต้องอาหาร







# 05 ซื้อแล้วซักก่อนจะสวม




ผ้าม้วนที่ใช้ตัดเสื้อผ้าชายหญิง จะมีสารเคมีผสมอยู่ในผืนผ้า เช่น สีย้อมผ้า และสารเคมีป้องกันแมลงทำลายเนื้อผ้าเมื่อต้องเก็บผ้าม้วนรอขายนานๆ



สารเคมีตัวที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ก็คือฟอร์มัลดีไฮด์ หรือฟอร์มาลีน คนที่เคยเข้าไปในร้านขายผ้าม้วน และร้านขายเสื้อผ้าขายส่ง จะรู้สึกแสบจมูกและแสบตาได้ก็เพราะสารฟอร์มาลีนตัวนี้นี่เอง



คนทุกคนจะมีโอกาสแพ้สารเคมีด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ว่าใครจะแพ้น้อยหรือแพ้มาก ผู้ที่แพ้มาก ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด และเป็นโรคภูมิแพ้วัสดุต่างๆ ทีนี้สารเคมีจากผ้าม้วนที่นำมาตัดเป็นเสื้อตัวใหม่ ไม่ว่าจะซื้อแบบสำเร็จรูปหรือนำมาตัดกับช่างประจำ หากไม่ได้ทำการซักล้างให้สะอาดเสียก่อน สารเคมีก็จะซึมผ่านผิวหนัง ทำให้สะสมเป็นโทษต่อร่างกายได้ หากแพ้น้อยก็ไม่เป็นไร หากแพ้มากก็จะคัน เป็นผื่น หรืออักเสบ



อนึ่ง ผ้าที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าไหม จะมีผลรบกวนต่อผิวหนังน้อยกว่าผ้าใยสังเคราะห์ ฉะนั้น หากจะซื้อเสื้อผ้าให้เด็กทารกที่ผิวหนังบอบบาง ผู้ที่แพ้สารเคมีง่าย ควรจะเลือกซื้อผ้าที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติดีกว่า



อย่างไรก็ตาม การป้องกันที่รอบคอบย่อมดีกว่าการแก้ไข ฉะนั้นเสื้อผ้า กระโปรง กางเกง ชุดชั้นใน เครื่องนอน ตลอดจนผ้าเช็ดหน้า จึงควรจะซักก่อนสวมหรือก่อนใช้เสมอ ..บ้าเห่อแบบปลอดภัย







# 06 กางเกงยีนส์ฟิตทำให้อาหารไม่ย่อย




กางเกงหรือกระโปรงฟิตๆทั้งหลาย ที่มุ่งหวังจะรัดเอวรัดสะโพกรัดขาให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง หรือเพราะรูปร่างมีการขยายมากขึ้น แต่ก็ยังพยายามคิดว่า ยังสวมได้ ยังไม่อ้วน กางเกงหรือกระโปรงฟิตเหล่านี้ จะไปขัดขวางการบีบรัดตัวของลำไส้เมื่อต้องรับประทานอาหาร ทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปแล้วย่อยลำบาก แสบในกระเพาะอาหาร ส่วนที่ย่อยแล้วเคลื่อนตัวเข้าสู่ลำไส้ลำบาก ทำให้การดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสโลหิตไม่สะดวก เกิดอาการท้องอืด และท้องเฟ้อ



ยิ่งกว่านั้น ยังอาจเป็นตัวการทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่าย ขัดขวางต่อการถ่ายเทอากาศบริเวณขาหนีบและเชิงกราน ทำให้ผู้สวมใส่มีโอกาสติดเชื้อราได้ง่าย



สำหรับคุณผู้ชาย มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่ชอบนุ่งกางเกงรัดรูปเป็นประจำ เมื่อนำไปตรวจจำนวนอสุจิ จะมีจำนวนอสุจิลดน้อยลงกว่าปกติ เพราะกางเกงที่รัดรูปไปเพิ่มความกดดันต่ออัณฑะ จนไม่สามารถจะผลิตอสุจิได้อย่างเต็มที่



มีพ่อค้าที่คิดประดิษฐ์แผ่นยาง กว้างราวครึ่งฟุตสำหรับใช้รัดหน้าท้อง โดยอ้างว่าจะช่วยทำให้หน้าท้องที่นูน ดูแฟบงดงาม จะช่วยทำให้ผู้ที่รัดไว้ รับประทานอาหารได้น้อยและอิ่มง่าย อาหารที่รับประทานเข้าไปจะถูกผลักดันไปเร็วขึ้น เป็นการช่วยลดน้ำหนักไปในตัว



แต่ผลที่เกิดขึ้นจริงนั้น คือ ผู้รัดจะแน่นอึดอัด รับประทานอาหารใดๆไม่ลง บางรายถึงกับคลื่นไส้อาเจียน หากอยากจะสวย ควรจะออกกำลังกายให้ร่างกายเผาผลาญ ออกเหงื่อ ดีกว่าจะมารัดแน่นเพื่อให้ร่างกายอึดอัด หลอกผู้อื่นว่าตัวเองผอม







# 07 ลิงพันธุ์ตัวใหญ่ฉลาดกว่าพันธุ์ตัวเล็ก




สัตวแพทย์ และคนเลี้ยงลิงกล่าวว่า ลิงจะชอบกินผลไม้มากกว่ากินผัก และลิงพันธุ์ตัวใหญ่จะฉลาดกว่าลิงพันธุ์ตัวเล็ก เพราะลิงพันธุ์ตัวใหญ่จะมีสมองที่ใหญ่กว่า... ลิงพันธุ์ตัวใหญ่สามารถจะถูกส่งไปฝึกที่โรงเรียนฝึกลิง แล้วส่งกลับมาให้ทำงานในสวนได้ ให้จูงคนข้ามถนนได้ ให้เลี้ยงอาหารสัตว์อื่นได้ ส่วนลิงพันธุ์ตัวเล็ก แม้จะถูกฝึกให้เล่นละครลิงหรือละครสัตว์เล็กๆน้อยๆได้ก็จริง แต่จะเล่นได้ต่อเมื่อมีเจ้าของคอยกำหราบ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของ ลิงพันธุ์ตัวเล็กก็จะไม่ยอมทำตาม



# 08 ไม่จริงเสมอไปที่คนศีรษะใหญ่จะฉลาดกว่า




มีองค์ประกอบหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับความฉลาดของมนุษย์ ทั้งลอนสมอง (gyrus) มาก มีร่องสมอง (sulcus) ลึก ทั้งปริมาณของเซลล์ประสาทในสมอง ทั้งปริมาณเส้นใยประสาทที่เชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาทในสมอง ทั้งคุณภาพและจำนวนสารเคมีที่สะสมอยู่ที่ปลายเซลล์ประสาท ทั้งพันธุกรรม ทั้งประสบการณ์การเรียนรู้ การฝึกฝน ทักษะการคิด การฝึกซ้อมความจำบ่อยๆ และปัจจัยอื่นๆ จึงไม่จริงเสมอไป ว่า มีศีรษะใหญ่จะฉลาดกว่ามีศีรษะเล็ก.... แต่สำนวนที่ว่า “หัวแหลม” นั่นละ มีเชาวน์ไหวพริบสูงละ













# 09 เรื่องที่ไม่ควรทำแต่ก็ยังทำ








1. บีบสิว


2. เกาๆๆๆ เวลาคัน ....ก้อมันคัน นิ


3. กลั้นฉี่


4. ถึงบ้าน หลับทั้งชุดทำงาน รึ หลับทั้งชุดไปเที่ยว …น่าน


5. ตื่นขึ้นมา แล้วนั่งแช่ ..ไม่ยอมลุกไปทำอะไรเลย


6. ไปสาย


7. เถียงแม่ เถียงพ่อ


8. ขอยืมตังค์แม่ แต่ไม่มีกำหนดคืน


9. ใส่กางเกงยีนส์ซ้ำๆโดยไม่ต้องซัก ......มะมีใครรู้หร๊อก


10. วันหยุด ตื่นสาย


11. อาบน้ำแล้ว ...ขี้เกียจผึ่งผ้าเช็ดตัว


12. โทร.บอกเลิกนัดตอนถึงเวลานัด ..ก้อ มันไปไม่ได้นิ


13. ขี้เกียจปิดเครื่องโทร.ในโรงหนัง


14. โทร.พูดเล่นๆกะเพื่อนเมื่อตัวเราว่าง ...น่า เพื่อนเขาน่าจะว่าง


15. คุยโทรศัพท์ระหว่างนั่งถ่าย


16. หนังไก่ทอด คอหมูย่าง คากิ …ของชอบ


17. ไม่ชอบกินผัก


18. เอาลิ้นดุนเศษอาหารที่ติดฟัน


19. กินข้าวมื้อเย็นตอน 4 ทุ่ม


20. กินอาหารและนมที่หมดอายุ ก้อมันเสียดาย ไม่เป็นไรมั๊ง


21. ทิ้งแก้วกาแฟไว้ที่โต๊ะ แล้วใช้ต่อโดยไม่ได้ล้างในวันถัดไป


22. ขับรถฝ่าไฟแดง.... จอดรถในที่ห้ามจอด.....


23. อ้างนั่นอ้างนี่สารพัด สุดท้ายก้อต่อรองกะจราจร ตอนถูกเรียก


24. แสร้งทำเป็นหลับ... ตอนนั่งรถเมล์


25. บอกว่า "เปล่า" ทั้งๆที่ ...ในใจ “ใช่”


26. ซื้อของ SALE ทั้งๆที่ ....มีของชิ้นนี้อยู่แล้ว


27. "ลดอีกบาท น่าเฮีย.." ทั้งๆที่ ...เฮียคนยากคนจน


28. โทร.หาแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว


29. เมา..เพื่อให้ลืมคนหักอก ... เขาจะรู้มั๊ยเนี่ย?


30. เพ้อฝันคิดถึงคนที่มีเจ้าของแล้ว...เฮ้อ


31. แอบส่งสายตาให้คนหล่อคนสวย ทั้งๆที่ยังไม่รู้จักกัน เฮ้อ เฮ้อ


32. ขอเบอร์โทร.คนที่แอบปิ๊ง


33. และแคะขี้มูกในที่สาธารณะ



# 10 โทร.มือถือยุคหน้า









เรื่องที่เขียนเล่ามา เชื่อได้



yyswim





 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 15 เมษายน 2552 21:32:12 น.
Counter : 2816 Pageviews.  

การว่ายน้ำ



การว่ายน้ำ








น้ำ

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีพของมนุษย์ ทั้งดื่ม หุง ปรุงอาหาร ซักล้าง อาบ ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ หาอาหาร(สัตว์ชอบอยู่ใกล้แหล่งน้ำ) และการคมนาคม


ในสมัยโบราณมนุษย์ชอบตั้งบ้านสร้างเมืองอยู่ใกล้ลำธาร บึง หนอง ลำคลอง แม่น้ำ ริมทะเล หรือริมทะเลสาบ ไม่เว้นแม้กระทั่งชนเผ่ากลางทะเลทราย หรือชนชาวเขา





ในปัจจุบันน้ำก็ยังจำเป็นอยู่ เมืองใดไม่มีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆก็จะดิ้นรนทุกหนทางที่จะให้มีแหล่งน้ำในเมืองให้ได้


ตัวอย่างเช่นที่ลาสเวกัสมีการขุดคลองดึงน้ำจากทะเลสาบเป็นระยะทางหลายกิโลนำน้ำเข้ามาสู่ในเมือง หรืออย่างบางเมืองในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆจึงต้องมีการสูบน้ำจากแหล่งน้ำใหญ่ใต้ดินขึ้นมาผลิตเป็นน้ำกินน้ำใช้ของผู้คนทั้งเมือง



การว่ายน้ำ

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มนุษย์สามารถว่ายน้ำได้มานานแล้ว เป็นเวลาประมาณ 9,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช


มนุษย์เรียนรู้การว่ายน้ำด้วยตนเองโดยความพยายามเลียนแบบการดำน้ำ การว่ายน้ำ การเตะเท้า และการลอยตัวของสัตว์ต่างๆ เช่น ปลาโลมา แมวน้ำ กบ และสุนัข


เหตุที่มนุษย์จำเป็นจะต้องว่ายน้ำเป็นตั้งแต่โบราณ ก็เพราะเพื่อการดำรงชีพจับปลาจับสัตว์น้ำ และเพื่อการอยู่รอด เช่นในกรณีข้ามแม่น้ำ พลัดตกน้ำ หรือในกรณีหนีภัยสัตว์ร้ายและข้าศึก





ที่จริงในปัจจุบัน ชนชาวเลและชนชาวแม่น้ำที่ต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ หรืออาบน้ำ หรือเดินเรือริมทะเลหรือริมแม่น้ำ เขาก็เรียนรู้การว่ายน้ำด้วยตนเองโดยไม่มีใครสอนเช่นเดียวกัน อาจจะโดยการสังเกตผู้อื่นที่เขาว่ายเป็นและการลองผิดลองถูกด้วยตนเอง





การว่ายน้ำก็เหมือนกับการวิ่งและการพุ่งแหลน ที่สมัยก่อนใช้เพื่อการดำรงชีพหาอาหาร หรือสู้กับผู้อื่น หรือเพื่อหนีภัยข้าศึก


ต่อมาก็ได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นกีฬาเพื่อการแข่งขัน มีการพัฒนาท่าว่ายน้ำขึ้นให้เป็นแบบมาตรฐาน


และในสมัยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี ค.ศ. 1956 จึงได้มีการบรรจุการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ 4 ประเภท คือ ว่ายฟรีสไตล์ ว่ายกรรเชียง ว่ายกบ และว่ายผีเสื้อ ขึ้นเป็นกีฬาสากล ที่มีการแข่งขันของผู้คนจากหลายประเทศ






ท่าที่ว่ายได้เร็วที่สุด คือ ท่าฟรีสไตล์ หรือเรียกอีกอย่างว่าท่าครอว์ล (Frontcrawl Stroke)





เพราะเป็นท่าว่ายที่ลำตัวแนบขนานกับผิวน้ำแบบนอนคว่ำหน้า การเคลื่อนไหวแขนและขาสลับกัน โดยการดึงแขนจากด้านหน้าไปด้านหลังสลับทีละข้าง พร้อมทั้งเตะเท้าสลับขึ้นลง การเตะเท้ากระทำได้หนักโดยใช้ตั้งแต่ต้นขาจนถึงปลายเท้า การหายใจด้วยการบิดหน้าตะแคงไปด้านข้าง ในจังหวะที่ยกแขน และบิดหน้ากลับลงน้ำเมื่อแขนข้างนั้นลงน้ำ การลู่น้ำและเพรียวน้ำกระทำได้ดีและสม่ำเสมอ


และท่าว่ายฟรีสไตล์มักจะเป็นท่าที่มีการฝึกเรียนเป็นท่าแรก เพราะฝึกไม่ยาก ใช้แรงในการฝึกไม่มาก สามารถเร่งจังหวะความเร็วในการว่ายได้




แต่ท่าที่ว่ายสบายที่สุดและเหนื่อยช้า คือ ท่ากบ





เพราะสามารถยกใบหน้าและศีรษะไว้เหนือผิวน้ำ สามารถมองดูว่ากำลังเคลื่อนที่ไปยังที่ใด ป้องกันการว่ายแบบหลงทิศทาง สามารถลดอุบัติเหตุจากการว่ายชนกัน เป็นการว่ายที่ใช้แขนดึงน้ำออกด้านนอกเล็กน้อยจนถึงระดับคางแล้วรวบเป็นวงกลมพร้อมกัน 2 ข้าง พร้อมกับเหยียดแขนไปข้างหน้า ใช้ฝ่าเท้าทั้งสองถีบออกไปข้างหลังด้านข้าง แล้วรวบปลายเท้าเข้าหากันอย่างรวดเร็วขณะที่แขนดึงน้ำ ให้ยกศีรษะให้ปากพ้นน้ำอ้าปากหายใจเข้า และหายใจทางปากและจมูกขณะที่เหยียดแขนตรงใต้น้ำ ขาจะงอและถีบออกเมื่อเริ่มเหยียดแขน


ท่าว่ายกบนี้ เป็นท่าที่เหมาะสมที่สุดในการใช้ช่วยชีวิตคนจมน้ำ เพราะขณะช่วยเหลือจะต้องพยุงใบหน้าของผู้ที่ถูกช่วยเหลือให้โผล่พ้นน้ำ และสามารถมองเห็นว่าจะว่ายเข้าฝั่งหรือที่ที่ปลอดภัยทางทิศใด








การว่ายน้ำในบ้านเราในปัจจุบันมีการตื่นตัวพอสมควร มีสระว่ายน้ำเพิ่มขึ้นหลายแห่งทั้งในสถาบันการศึกษา โรงแรม หน่วยราชการ หน่วยทหาร รวมทั้งของเอกชน


มีหลักสูตรการสอนว่ายน้ำในระดับชั้นประถมชั้นมัธยม มีผู้ปกครองหลายคนนำลูกหลานของตนไปว่ายน้ำในวันหยุดและฝึกว่ายน้ำเพิ่มเติม โดยมีทั้งมุ่งหวังให้เป็นนักกีฬาและมุ่งหวังให้ออกกำลังกาย













การสอนว่ายน้ำสามารถสอนได้ในทุกวัยอายุ แต่หากสอนตั้งแต่อายุยังน้อย เช่นเป็นเด็กในวัยเรียนอายุประมาณ 7 ปี ซึ่งมีวุฒิภาวะความพร้อมในการเรียน ผู้เรียนจะมีการเรียนรู้ได้ดี มีความยืดหยุ่นของร่างกายได้ดี เริ่มมีการพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และพัฒนาการประสานงานของมือ แขน เท้า ตา และกล้ามเนื้อประสาททุกส่วน รวมทั้งสามารถจะทนอยู่ในน้ำได้นาน จึงนับว่าวัยเด็ก(โดยเฉพาะวัยประมาณ 7 ปี) เป็นวัยที่จะสามารถเรียนว่ายน้ำได้เร็วกว่าผู้ใหญ่






การว่ายน้ำบ่อยจะให้ประโยชน์


1. ช่วยตนเองได้เมื่อประสบภัยทางน้ำ ผู้ใกล้ชิดจะลดความห่วงใยเมื่อตนจะต้องเดินทางไปทางน้ำ


2. ช่วยผู้อื่นได้บ้างเมื่อเขาประสบภัยทางน้ำ


3. สามารถสอนชี้แนะผู้อื่นให้ว่ายน้ำเป็น


4. มีร่างกายแข็งแรง มีระบบหัวใจและปอดแข็งแรง ความดันเลือดปกติ ทำอะไรนานๆจะไม่เหนื่อยง่าย






5. มีภูมิคุ้มกันโรคดี ไม่เจ็บป่วยง่าย หากเคยเจ็บป่วยเรื้อรัง อาการจะทุเลาลงกว่าเดิม


6. ร่างกายมีความยืดหยุ่นตัวดี มีความคล่องแคล่วว่องไว


7. ร่างกายไม่อ้วน ไม่ต้องคอยควบคุมอาหาร









8. มีบุคลิกดี ร่างกายผึ่งผายสมส่วน ผิวพรรณดี ดูออกว่าเป็นผู้ออกกำลังกายบ่อย


9. เป็นกิจกรรมที่ให้ความผ่อนคลาย อยู่ในน้ำเย็นสบาย ไม่เครียด สมองแจ่มใส นอนหลับง่าย


10. เป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ ทำเป็นคู่ได้ ทำเป็นกลุ่มได้ ใครเหนื่อยก็ขึ้นมาพักได้ก่อน มีเวลาน้อยก็ทำได้ จะทำโดยใช้เวลานานๆก็ได้





11. เป็นกิจกรรมที่ตัวสะอาด ปลอดจากเชื้อแบคทีเรีย เหงื่อ และดินโคลน


12. เป็นกิจกรรมที่พกพาอุปกรณ์ไม่มากและไม่หนัก


13. เป็นกิจกรรมที่เสียค่าใช้จ่ายปานกลาง ...มีค่าชุดว่ายน้ำ ค่าแว่นตาว่ายน้ำ อาจมีหมวกหากผมยาว(จ่ายครั้งเดียวใช้เป็นปี) และค่าสมาชิกสระ






14. เป็นกิจกรรมที่ปลอดภัยจากถูกกระทบกระแทกจากผู้อื่น ไม่บาดเจ็บเพราะการกระทบกระทั่งกัน


15. เป็นกิจกรรมที่ปลอดภัยจากการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ข้อสะโพก หัวเข่า หรือไหล่ เพราะน้ำจะช่วยพยุงตัว ช่วยผ่อนแรงน้ำหนักตัว จึงเหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักมาก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงวัย และผู้ที่มีปัญหาปวดตามข้อ


16. เป็นกิจกรรมส่งเสริมการกายภาพบำบัด ทำให้ร่างกายเป็นปกติได้เร็วหลังการผ่าตัด








ข้อสังเกต


1. เมืองไทยเป็นเมืองร้อน การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่เย็นสบาย ไม่มีเหงื่อและไม่มีคราบสกปรก และมีบ้างบางคนที่ไปเพื่อผ่อนคลายหรือเพื่อสังสรรค์ ไม่ใช่เพื่อออกกำลังกายแต่เพียงอย่างเดียว






2. แต่ยังไม่ควรจะลงไปว่าย หากเป็นโรคตาแดง โรคหัวใจ โรคลมชัก(ลมบ้าหมู) หูน้ำหนวก ควรจะรักษาให้หายเสียก่อน


3. ไม่ควรรับประทานอาหารมื้อหนักภายใน 2 ชั่วโมงก่อนจะลงสระ เพราะกระเพาะอาหารจะทำการย่อยอาหาร 1-2 ชั่วโมง จึงจะย่อยหมด


4. ไม่ควรดื่มสุราหรือยาเสพติดแล้วไปลงสระ เพราะอาจเป็นอันตรายถึงกับจมน้ำ


5. ต้องแต่งตัวให้ถูกกฎระเบียบ ไม่มีเครื่องประดับติดตัวขณะลงสระ(เพราะอาจจะเกี่ยวเป็นอันตรายต่อผู้อื่น)








6. ต้องอบอุ่นร่างกายก่อนลงสระ ต้องอาบน้ำให้สะอาด และเชื่อฟังผู้ควบคุมสระอย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามวิ่งเล่นข้างสระ บางสระจะห้ามกระโดดลงสระ ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปบริเวณสระ(แม้แต่เปบซี่หรือชาเขียว)


7. ควรวางแผนอยู่ในสระให้ได้นานเกินกว่า 20 นาที ช่วงที่อยู่ในสระไม่ควรจะกังวลกับการรับโทรศัพท์ หรือการมีนัดกับผู้อื่น


8. การว่าย ควรว่ายในจังหวะถนัดให้ได้ไกลที่สุดหรือนานที่สุดเท่าที่จะทนว่ายได้ ไม่จำเป็นจะต้องว่ายแข่งขันกับใคร


9. การว่าย จะมีการเสียเหงื่อเช่นเดียวกับการอออกกำลังกายบนบก จึงควรจะดื่มน้ำสะอาดชดเชยหลังขึ้นจากสระ มีบ้างบางคนที่จะดื่มน้ำเตรียมพร้อมก่อนจะลงสระ 1-2 แก้วด้วยซ้ำ


10. น้ำในสระมีประโยชน์ในการพยุงน้ำหนักของร่างกาย แต่ขณะเดียวกันก็จะต้านการเคลื่อนไหวของแขน ขา และของร่างกายได้ ยิ่งต้องการจะเคลื่อนไหวแขน ขาให้มากและให้เร็วขึ้นเท่าใด แรงต้านของน้ำก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่หากเราเคลื่อนไหวร่างกายให้ลื่นไหลตามจังหวะของแขนและขา แรงต้านของน้ำก็จะลดลง





11. ผู้ที่มีอาการปวดหลัง ปวดต้นคอก็สามารถว่ายน้ำได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงท่าว่ายที่ต้องแอ่นหลังหรือแหงนคอนานๆ ควรเปลี่ยนมาเป็นท่าว่ายกรรเชียง นอนหงายจะดีกว่า หรือหากจะว่ายในท่าคว่ำหน้า ก็ควรจะมีหน้ากากท่อหายใจเพื่อไม่ให้ต้องบิดคอหันหน้าขึ้นมาหายใจบ่อยๆ







คำศัพท์ A - Z




AAAAA


A – Aerobics แอโรบิกส์ การออกกำลังกายโดยการทำให้มีการเผาผลาญออกซิเจนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นวิ่งจ๊อกกิ้ง กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ อันจะเป็นผลดีต่อระบบหัวใจและปอด



BBBBB


B – Blood เลือด มีหน้าที่นำอ๊อกซิเจนและสารอาหารไปสู่กล้ามเนื้อและเซลส์ต่างๆของร่างกาย แล้วนำคาร์บอนไดออกไซค์กลับคืนมาสู่ปอดแล้วจึงหายใจออกทิ้งไป การตรวจสอบสารอาหารหรือสารเคมีในเลือด นับเป็นวิธีการอย่างหนึ่งของแพทย์ที่จะดูระดับของสารว่ามีมากหรือน้อย หรือเพียงพอหรือไม่ นักว่ายน้ำในต่างประเทศจะตรวจ 2 – 3 ครั้งต่อปี ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้รู้ความเป็นปกติของเลือดที่จะมีผลต่อประสิทธิภาพของการว่ายน้ำ






CCCCC


C – Carbohydrates คาร์โบไฮเดรท เป็นหนึ่งในสารอาหารที่ให้พลังงาน โดย 1 กรัมจะให้พลังงาน 4 แคลอรี่ หากเราออกกำลังกายเป็นประจำหรือเป็นนักกีฬา สารอาหารตัวนี้จะถูกใช้หมดไปในแต่ละวัน แต่หากเราไม่ออกกำลังกายสารอาหารตัวนี้จะเก็บสะสมอยู่ ทำให้อ้วน


คาร์โบไฮเดรทในอาหารจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ คาร์โบไฮเดรทเชิงซ้อน ได้แก่ ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว มันฝรั่ง ข้าวโพด เผือก มัน แป้ง ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง และคาร์โบไฮเดรทเชิงเดี่ยว เช่น ผลไม้ น้ำตาล ขนมหวาน


ความสำคัญของคาร์โบไฮเดรท

1. ร่างกายสามารถย่อย ดูดซึม และสามารถเก็บสะสมในรูปของไกลโคเจน ไว้ในตับและกล้ามเนื้อ เพื่อใช้เป็นพลังงานสำรอง

2. คาร์โบไฮเดรทสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรง และอดทนในระหว่างการออกกำลังกาย

3. คาร์โบไฮเดรทเป็นสารอาหารชนิดเดียวที่สามารถใช้ในระหว่างการออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจน

4. คาร์โบไฮเดรทเชิงเดี่ยว เช่นพวกผลไม้ น้ำผึ้ง น้ำหวาน เป็นสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวภายหลังการออกกำลังกาย



DDDDD


D – Drugs สารกระตุ้น เป็นสิ่งที่ไม่ส่งเสริมให้ใช้ในการออกกำลังกาย และการแข่งขัน

ตัวอย่างเช่น โคเคน ซึ่งสกัดแยกมาจากใบของต้นโคคา มีฤทธิ์และผลต่อร่างกายคล้ายยาบ้ามาก แต่ก็มีข้อแตกต่างคือ ประการแรก โคเคนมีผลอยู่ได้สั้นเพียงประมาน 30 นาทีหลังจากใช้ยา ขณะที่ยาบ้า มีผลอยู่ได้นานถึง 4-6 ชั่วโมง ซึ่งคุณสมบัตินี้ทำให้ในต่างประเทศนิยมใช้โคเคนในหมู่นักกีฬาอาชีพ เนื่องจากสามารถเลือกใช้ได้ตามเวลาที่ต้องการ ประการที่สอง โคเคนเกิดการชินยาได้ช้า ทำให้ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาที่เสพมากขึ้นทุกครั้ง ขณะที่ยาบ้าเกิดการชินยาได้เร็ว ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณยามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ผลต่อกระตุ้นระบบประสาท ประการที่สาม โคเคนมีทางเลือกในการเสพมากกว่ายาบ้า สามารถเสพโดยการสูดหรือโดยการนัตถุ์ยาก็ได้



EEEEE


E – Ear Plugs วัสดุอุดหูป้องกันน้ำเข้าขณะว่ายน้ำ ทำจากยาง ซิลิโคน หรือจากขี้ผึ้ง อาจเรียกว่า Water Ear Plug หรือ Swimming Plug อาจใช้ในกิจกรรมดำน้ำ เล่นวินเสิร์ฟ หรือแม้แต่การอาบน้ำของเด็ก ของผู้สูงวัย และของผู้ป่วย






FFFFF


F – Fats ไขมัน เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานโดย 1 กรัม จะให้พลังงาน 9 แคลอรี่ มากกว่าคาร์โบไฮเดรทประมาณ 2 เท่า ไขมันเป็นแหล่งของพลังงานที่มีความจำเป็นในการออกกำลังกาย แต่ผู้ออกกกำลังกายบ่อยและนักกีฬาก็ควรจะควบคุมการกินอาหารที่มีไขมัน เพราะการบริโภคไขมันมากจะทำให้ความสามารถทางกีฬาลดลง เนื่องจากร่างกายจะต้องใช้เวลาในการย่อยนานกว่าปกติ และไขมันนั้นร่างกายสามารถจะเก็บสะสมเอาไว้ได้ จะทำให้อ้วน แบกน้ำหนัก ไม่คล่องตัว และไขมันในเลือดสูง ...


แหล่งอาหารของไขมัน ได้แก่ เนื้อสัตว์ส่วนที่เป็นน้ำมัน น้ำมันพืช อาหารทอดทุกชนิด เนย, มาการีน ช๊อกโกแลต คุกกี้ ไอศกรีม เป็นต้น



– Fruit ผลไม้ แหล่งสารอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรทเชิงเดี่ยวและมีไขมันต่ำ รสชาติดี ง่ายที่จะบริโภค และย่อยง่าย การรับประทานผลไม้หลังการออกกำลังกายเป็นวิธีที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ได้ดีและเร่งการฟื้นสภาพได้อย่างรวดเร็ว



GGGGG


G – Goal เป้าหมาย ทุกๆคนควรจะมีเป้าหมายในการออกกำลังกาย อาจจะเพื่อการแข่งขัน เพื่อความแข็งแรงปลอดโรค เพื่อลดน้ำหนัก เพื่อคลายเครียด เพื่อหาเพื่อนใหม่ หรือเพื่อให้นอนหลับ เป็นต้น

อาจจะตั้งมากกว่า 1 เป้าหมาย เป้าหมายควรจะเป็นรูปธรรมที่วัดได้ ไม่ตั้งสูงเกินไป ไม่ควรเร่งร้อนหวังผลเร็วเกินไป และพยายามทำให้บรรลุเป้าหมายนั้น หากไม่บรรลุก็ควรจะแก้ไขที่สาเหตุ





- Goggles แว่นตาว่ายน้ำ การว่ายน้ำควรจะใช้สายตามอง line ที่ว่ายเพื่อไม่ให้ชนผู้อื่น และไม่ให้ชนขอบสระ หากไม่สวมแว่นตาว่ายน้ำ ตาอาจจะระคายเคืองแสบตาได้ การสวมแว่นตาว่ายน้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็น

การเลือกแว่นตาว่ายน้ำขึ้นอยู่กับรูปทรงใบหน้า ช่วงกว้างช่วงลึกของดวงตาแต่ละคน และความถนัด

แว่นตาว่ายน้ำที่ดีควรเป็นแว่นประเภทกันฝ้า (Anti Fog) และมีสารเคลือบป้องกันรังสี UV เพื่อช่วยลดอาการแสบตาขณะว่ายกลางแดด หลังจากว่ายน้ำเสร็จ ควรล้างแว่นด้วยน้ำเปล่าและผึ่งลมให้แห้ง



HHHHH


H – Heart Rates ชีพจร คือ คลื่นที่เกิดจากการหดและขยายตัวของหลอดเลือดแดงเนื่องจากการไหลผ่านของเลือด ธรรมชาติของหลอดเลือดแดงมีความยืดหยุ่นได้ เมื่อหัวใจบีบ 1 ครั้ง เลือดจำนวนหนึ่งจะถูกสูบฉีดเข้าไปในหลอดเลือด ดันให้หลอดเลือดแดงขยายออก เมื่อแรงดันในหลอดเลือดลดลง หลอดเลือดก็จะหยุ่นตัวกลับ ประกอบกับการหดตัวของกล้ามเนื้อวงรอบหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลง เป็นการช่วยดันเลือดให้เคลื่อนไปสู่อวัยวะส่วนปลายต่อไป ในการทำงานของระบบการไหลเวียนเลือดนี้ หัวใจจะบีบและคลายตัวสลับกันเป็นจังหวะ ทำให้เกิดคลื่นที่เห็นได้และสัมผัสได้


ตำแหน่งที่เราจะพบชีพจรได้ง่ายๆ คือ บริเวณขมับ ด้านข้างของคอ ใต้ข้อมือ ข้อพับของข้อศอก ขาหนีบ ข้อพับของเข่า ข้อเท้า และหลังเท้า


การรู้จักชีพจร จะให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพร่างกายของตนเองได้ จะรู้ความผิดปกติของระบบการไหลเวียนของเลือด จะประเมินความสมบูรณ์ของร่างกาย และจัดปริมาณการออกกำลังกายที่เหมาะสม


คนปกติ อัตราชีพจรจะแตกต่างกันไปตามอายุ เพศ เวลาที่จับชีพจร กิจกรรมทางกาย และสภาวะทางจิตใจ ในเด็กอัตราชีพจรจะมากกว่าผู้ใหญ่ อัตราชีพจรหญิงจะมากกว่าชาย เวลาเช้าจะน้อยกว่าเวลาบ่าย ขณะใช้กำลังกายจะมีอัตราเต้นของชีพจรสูงกว่าขณะพัก ขณะตื่นเต้นจะสูงกว่าขณะปกติ


ถ้าตัดเรื่องการใช้กำลังกายและสภาวะทางจิตใจออกไปแล้ว ในผู้ใหญ่ชายจะอยู่ระหว่าง 60 - 80 ครั้งต่อนาที และหญิงอยู่ระหว่าง 70 ถึง 90 ครั้งต่อนาที สำหรับนักกีฬาที่แข็งแรง ในขณะพักหัวใจจะเต้นช้ากว่าคนปกติได้มาก ยิ่งเป็นนักกีฬาที่ใช้ความอดทนสูง เช่น วิ่งมาราธอน ขี่จักรยานระยะไกล อัตราชีพจรขณะพักอาจจะลดต่ำลงเหลือ 40 ครั้งต่อนาที (เคยตรวจพบในนักจักรยานของไทย)


การออกกำลังกาย อัตราชีพจรจะเปลี่ยนแปลง.....เมื่อเริ่มออกกำลัง ความต้องการเลือดของกล้ามเนื้อส่วนที่ออกกำลังจะเพิ่มขึ้น หัวใจจะสูบฉีดเลือดมากขึ้น ชีพจรจึงเร็วขึ้น แต่การปรับตัวจะต้องค่อยๆเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ไม่ใช่เปลี่ยนจาก 70 ครั้งต่อนาที เป็น 150 ครั้งต่อนาทีได้ทันที


ถ้าเป็นการออกกำลังกายแบบความหนักไม่มากนักและคงที่สม่ำเสมอ ในระยะ 1-3 นาทีแรก อัตราชีพจรจะค่อยๆเพิ่มขึ้น เรียกว่าเป็นระยะปรับตัว และจะคงที่อยู่ถ้าความหนักนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เรียกว่าระยะคงที่ ...เมื่อหยุดออกกำลัง ชีพจรจะค่อยๆลดลงจนสู่ระยะเดิมเรียกว่า ระยะฟื้นตัว แต่ถ้าเป็นการออกกำลังแบบเพิ่มความหนักขึ้นเรื่อยๆ จะไม่มีระยะคงที่เพราะชีพจรจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความหนัก ไปจนถึงระดับที่ชีพจรไม่สามารถจะเพิ่มขึ้นได้อีก แม้จะเพิ่มความหนักต่อไป อัตราชีพจรในตอนนี้เรียกว่า เป็นอัตราชีพจรสูงสุดของคนผู้นั้น ซึ่งเมื่อถึงขั้นนี้แล้ว การออกกำลังกายสูงเหนือระดับนั้นจะทำไม่ได้อีกต่อไป



IIIII


I – Injury การบาดเจ็บ การหลีกเลี่ยง คือ หลักการที่ดีที่สุด นักว่ายน้ำควรจะเข้ารับการตรวจร่างกาย 2 –3 ครั้งต่อปีเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่อาจจะเริ่มปรากฏ


ควรรู้วิธียืดกล้ามเนื้อก่อนจะลงสระ และรู้วิธีการเพิ่มจำนวนความหนักของการฝึกว่ายน้ำที่ถูกต้อง เช่น เพิ่มที่ระยะทางก่อนเพิ่มที่ระยะเวลา



JJJJJ


J – Jogging การวิ่งเหยาะๆต่อเนื่องไปเรื่อยๆ หรือการเปลี่ยนเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบอื่นก็ตาม จะช่วยทำให้ไม่เกิดความเบื่อหน่ายจำเจในการว่ายน้ำ ยิ่งกว่านั้นยังสอดคล้องกับวันที่มีสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และยังช่วยเพิ่มระดับความฟิตให้ดีขึ้น

ในการวิ่งจ๊อกกิ้งควรจะสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมและสวมรองเท้าที่เหมาะสมเสมอ



KKKKK


K – Kick การเตะเท้า นักว่ายน้ำระดับโลกจะมีพลังการเตะเท้าที่แข็งแรง หนักและเร็ว การเตะเท้าในน้ำนักว่ายน้ำจะใช้มากในทุกท่าว่าย รวมทั้งการออกสตาร์ท และการกลับตัว การฝึกฝนว่ายน้ำเพื่อเป็นนักกีฬาจะมีโปรแกรมการฝึกเรื่องการเตะเท้าอยู่ด้วยเสมอ






LLLLL


L – Lactic Acid กรดแลคติค เป็นผลผลิตของร่างกายจากการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือว่ายน้ำอย่างหนัก เราควรจะทำให้กรดแลคติคนี้สลายกลับไปตามเดิมด้วยการ Cool Down หรือว่ายน้ำช้าๆ หรือดำผุดดำว่ายเล่น สัก 5-10 นาที ก่อนจะขึ้นจากสระ



MMMMM


M – Muscles กล้ามเนื้อ คือส่วนของร่างกายที่แข็งแรงบริเวณส่วนต่างๆของร่างกาย สำหรับยก ผลัก ดึง ถีบ หรือว่าย เพื่อจะสร้างแรงผลักไปข้างหน้า นักว่ายน้ำที่ดีจะฟิตกล้ามเนื้อแขน ขา ไหล่ คอ สะโพก เอว ให้แข็งแรง โดยวิธีเล่นฟิตเนส และก่อนจะลงสระทุกครั้งจะ Warm Up ร่างกายให้กล้ามเนื้ออบอุ่นและยืดหยุ่น พร้อมที่จะใช้งานเต็มที่ด้วยการยืดและเหยียดนิ่ง อึดละ 5-10 วินาที






NNNNN


N – Nutrition โภชนาการ คือการรับประทานอาหารที่สมดุลทั้ง 5 หมู่ มีทั้งคาร์โบไฮเดรท ไขมัน โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และน้ำ อาหารประเภทผลไม้ ผัก ข้าว เนื้อสัตว์ นม น้ำเปล่า นับเป็นประเภทอาหารที่ดี


แต่ทั้งนี้ไม่ควรจะเลือกรับประทานอาหารใดเพียงอย่างเดียวหรือมากเป็นพิเศษ อาหารแต่ละประเภทจะให้คุณค่าทางอาหารแตกต่างกัน



OOOOO


O – Overtraining การฝึกหนักเกินไป อาจสังเกตได้จากร่างกายที่เหนื่อยล้ามาก บาดเจ็บ จิตใจที่เบื่อหน่าย เข็ดขยาด การออกกำลังกายที่ดีและการฝึกซ้อมที่ดีจึงควรมีการพักบ้าง หรือมีการเล่นสนุกหาเรื่องสนุกมาเป็นกิจกรรมผ่อนคลายให้หัวเราะสบายใจ



PPPPP


P – Paddle อุปกรณ์ช่วยในการพุ้ยน้ำหรือจ้วงมือ อาจเรียกว่า Hand Paddle เป็นแผ่นแข็งแบน มีสายรัดติดกับฝ่ามือแต่ละข้าง ใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย เพื่อใช้ฝึกแขนให้แข็งแรงและว่ายน้ำเร็ว





- Pain อาการบาดเจ็บ อาการที่มักจะพบเห็นจากการว่ายน้ำ เช่น เป็นตะคริว ลื่นหกล้ม ถูกของมีคมบาด หรือเลือดกำเดาไหล



QQQQQ


Q – Quit เลิก ความอยากเลิกของนักว่ายน้ำ จะเกิดขึ้นได้บ่อยๆเมื่อเหนื่อย เมื่อทำไม่ได้ตามเป้าหมาย เมื่อถูกตำหนิถูกดุ หรือแพ้จากการแข่งขัน ทั้งนี้ผู้ฝึกสอน ผู้ปกครอง และเพื่อนฝูงต้องไม่ทับถม ต้องพูดปลอบให้กำลังใจให้มีมานะฮึดสู้



RRRRR


R – Recovery การพัก การฟื้นตัวเพื่อให้พร้อมสำหรับการฝึกหรือการแข่งขันในครั้งต่อไป


การนอนหลับอย่างเพียงพอ การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การสนุกสนานกับกิจกรรมบันเทิง การนวด การยืดกล้ามเนื้อ นับเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นตัวที่รวดเร็ว



SSSSS


S – Stretching การยืดกล้ามเนื้อให้กล้ามเนื้ออบอุ่นพร้อม และเพิ่มความอ่อนตัวหรือยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ จะช่วยลดปัญหาการบาดเจ็บจากออกกำลังกายหนักและเร็วอย่างเต็มที่และอย่างกระทันหัน





ปกติการยืดกล้ามเนื้อจะมีการปฏิบัติก่อนการฝึกซ้อม และก่อนการออกกำลังกาย แต่เราสามารถจะยืดกล้ามเนื้อในเวลาอื่นด้วยก็ได้ เช่น เมื่อตื่นนอน ในห้องน้ำ ยามพักผ่อนอยู่กับบ้าน การยืดกล้ามเนื้อแบบหลัง อาจจะไม่ต้องทำครบเซ็ท อาจจะเลือกทำเพียงบางส่วนของร่างกายก็ได้



TTTTT


T – Technique เทคนิคการว่ายน้ำ ซึ่งโค๊ชช่วยสอนและชี้แนะ หรืออาจจะอ่านจากเอกสารก็ตาม จะช่วยพัฒนาการว่ายน้ำให้ดีขึ้นได้



UUUUU


U – Underwater ใต้น้ำเป็นที่ที่ต้องเคลื่อนที่ให้เร็วที่สุด นักว่ายน้ำระดับโลกจะพัฒนาเทคนิคการเคลื่อนที่ใต้น้ำให้เร็วที่สุด ด้วยการเตะเท้า การออกตัว และการกลับตัวที่มีความเร็วสูงสุด และให้มีแรงต้านน้อยที่สุด



V V V V V


V – Victory ชัยชนะที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นสิ่งที่ทำได้หากมีความพยายาม และชัยชนะนี้ควรจะรักษาให้คงอยู่กับตนตลอดไป แม้จะยากก็ตาม



WWWWW


W – Water น้ำ ...ของรักของชอบของนักว่ายน้ำ อย่ารังเกียจมัน เจอที่ไหนหมั่นลงไปอยู่กับมัน แม้จะได้ออกกำลังกายเพียงเล็กน้อย ก็ยังดีกว่าไม่ได้ออกกำลังกาย


- Weight น้ำหนักตัว พยายามสนใจน้ำหนักตัวเอง ระวังอย่าให้อ้วน เพราะจะอึดอัด ว่ายไม่ลู่น้ำ ต้องแบกน้ำหนักตัวโดยไม่จำเป็น ...โดยเฉพาะผู้ว่ายระยะทางไกล



XXXXX


X – XXX เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องต้องห้ามของนักว่ายน้ำ หากรู้เวลารู้สถานที่





ข้อห้ามของนักว่ายน้ำ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนอนน้อย การอ่อนเพลีย การเมาสุรา การไม่มีสมาธิ มากกว่า



YYYYY


Y - Yoghurt นมเปรี้ยว ทานเถอะ ถ้าทานได้



ZZZZZ


Zzzzz……Sleep นอนหลับให้เพียงพอ ควรจะวันละ 8 ชั่วโมง ช่วงที่นอนหลับ ร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ร่างกายตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น

พร้อมแล้วสำหรับกิจกรรมที่จะทำใหม่ในวันรุ่งขึ้น.....








โดย yyswim




 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2549 11:44:59 น.
Counter : 52461 Pageviews.  

การออกกำลังกาย


การออกกำลังกาย






การออกกำลังกาย ไม่ได้หมายถึงการที่ต้องไปแข่งขันกีฬากับผู้อื่น แต่การออกกำลังกายเป็นการเร่งปฏิกิริยาการทำงานของร่างกายให้เร็วขึ้นกว่าปกติ เช่น เดินเร็วๆ วิ่ง กระโดดต่อเนื่องหรือกระโดดเชือก เต้นแอโรบิค ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ


ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีการสูบฉีดโลหิตเร็วขึ้น หายใจเร็วขึ้น ต้องการออกซิเจนมากขึ้น มีความร้อนในร่างกายมากขึ้น ร่างกายมีการขับเหงื่อออกมา และจะมีอาการเหนื่อยที่พอมองเห็นได้


แต่หากร่างกายทำงานตามจังหวะปกติธรรมดา ร่างกายจะไม่มีการสูบฉีดโลหิตเร็วขึ้น หายใจไม่ได้เร็วขึ้น เหงื่อไม่ค่อยออก แบบนี้ร่างกายจะไม่ค่อยเหนื่อย เช่นการเดิน การขับรถ การทำงานบ้าน


ในการออกกำลังกาย หากทำต่อเนื่องไปถึงระยะหนึ่ง และทำเป็นประจำ ร่างกายของคนเราจะปรับตัวให้ระบบการทำงานของหัวใจ ความดันโลหิต ปอด การขับถ่ายเหงื่อ กล้ามเนื้อ รวมทั้งระบบอื่นๆจะทำงานแบบแข็งแรง





หากต้องการจะนับการออกกำลังกายเป็นการแข่งขัน ควรจะนับว่าเป็นการแข่งขันกับตนเองเสียมากกว่า คือจะสามารถเร่งปฏิกิริยาให้เร็วกว่ากิจกรรมตามปกติได้เร็วขึ้นเท่าไหร่ และนานขึ้นเท่าไหร่



บางคนจะไม่ชอบออกกำลังกาย อาจจะเพราะกลัวเหนื่อย กลัวร้อน กลัวสกปรก กลัวจะเล่นไม่ดี กลัวจะไกล กลัวจะแพง กลัวจะบาดเจ็บ กลัวจะไม่ปลอดภัย โดยมีข้ออ้างต่างๆนานาที่จะบอกกับผู้อื่น และบอกกับตัวเอง


ข้ออ้างเหล่านี้ หากพิจารณาด้วยเหตุผลล้วนแต่มีทางออกให้แก้ไขได้ทั้งสิ้น


เช่น การออกกำลังกายบางอย่าง ทำในห้องนอนก็ได้ เช่น ทำซิทอัพ วิดพื้น โยคะ แอโรบิค กระโดดเชือก ยกเวท เดินสายพาน วิ่งสายพาน กรรเชียงบก หรือขี่จักรยานกับที่







ควรออกกำลังกายเพียงเบาๆก่อน ไม่ต้องเร่งรีบแข่งขันกับใคร


ควรเลือกการออกกำลังกายที่ตนเองถนัดและตนเองชอบ


ควรเลือกการออกกำลังกายที่ไม่กระทบกระแทกกับผู้อื่น เช่น วิ่งจ๊อกกิ้ง กระโดดเชือก เต้นแอโรบิค เดินบนสายพาน หรือว่ายน้ำ เป็นต้น


ควรเลือกการออกกำลังกายที่ใกล้บ้านหรือไปสะดวก เล่นแล้วสนุก


ควรเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะกับกระเป๋าเงิน บางชนิดอย่าง วิ่งจ๊อกกิ้ง กระโดดเชือก โหนบาร์ วิดพื้น ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน


แต่แม้ว่าจะต้องมีการจ่ายบ้าง มีการเดินทางบ้าง ต้องไม่ลืมว่าการออกกำลังกายจะให้คุณประโยชน์ต่อตนเองมากเป็นทวีคูณ



การออกกำลังกายที่ใช้เวลาทำต่อเนื่องเพียงวันละ 20-30 นาทีและหากทำสัก 3-5 วันต่อสัปดาห์ เราจะได้ประโยชน์ดังนี้


ร่างกายแข็งแรง ระบบการทำงานของหัวใจและปอดแข็งแรง ทำอะไรหนักๆนานๆจะไม่เหนื่อยง่าย ความดันโลหิตเป็นปกติ ไขมันในเลือดลดลง การขับถ่ายเป็นปกติ การนอนหลับเป็นปกติ


กล้ามเนื้อแข็งแรง ทั้งฟิตและเฟิร์ม สมส่วน ไม่อ้วน สามารถยกของหนักๆได้ มีบุคลิกดี มีผิวพรรณดี คนทั่วไปสามารถมองออกว่า เราเป็นคนออกกำลังกายประจำ


ร่างกายมีความยืดหยุ่นตัวสูง ไม่ปวดเมื่อยง่าย มีความว่องไว คล่องแคล่วกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย


ภูมิคุ้มกันของร่างกายสูง ไม่เจ็บป่วยง่าย


ไม่เครียด สุขใจ นอนหลับง่าย


มีมิตร มีเพื่อนฝูงใหม่ๆ บางคนมีคนรู้ใจจากการไปออกกำลังกาย บางคนสามารถขายของหรือขอความช่วยเหลือได้จากคนรู้จักในทีมออกกำลังกาย




จขบ.รู้จักอาจารย์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่ง ท่านปวดหลังมานาน ไปรักษากับหมอและได้ยาแก้ปวดมาทานเป็นประจำ อาการมีลักษณะทรงตัวแต่ไม่หายขาด หมอแนะนำให้ลองไปออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำอาการอาจจะดีขึ้น วันที่จขบ.เจออาจารย์ อาจารย์บอกว่ารู้สึกดี ไม่ปวด พอขึ้นจากสระแล้วสดชื่น ดีกว่าไปตีกอล์ฟซึ่งทรมานมาก หลังจากอาจารย์ว่ายมานานกว่า 2 เดือน อาจารย์บอกว่าเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องไปหาหมอแล้ว ร่างกายแข็งแรงขึ้นไม่ค่อยปวดหลังแล้ว



อีกท่านหนึ่ง เป็นคุณป้ารูปร่างอ้วนมาก คุณป้าแกบอกว่าแม้นั่งเฉยๆก็ปวดเมื่อยหัวเข่า ยิ่งถ้าเดินนานๆหรือขึ้นบันไดด้วยแล้ว จะปวดหัวเข่ามาก เป็นแบบนี้มานานอยากจะหายหรือทุเลาลงหน่อยก็ยังดี แต่มันลดความอ้วนไม่ลง คราวนี้เพื่อนบ้านเขาชวนมาว่ายน้ำ ที่จริงก็ว่ายไม่ค่อยเก่ง แต่อาศัยว่าออกกำลังกายแบบนี้ไม่เจ็บเข่า เมื่อว่ายไปนานๆหลายครั้งเข้า ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ แต่ที่รู้สึกดีมากๆเลยคือน้ำหนักเริ่มลดลงบ้างแล้ว และอาการปวดหัวเข่าเริ่มทุเลาลง








โรคที่มากับคนที่ไม่ออกกำลังกาย



1. โรคความดันโลหิตสูง อ่านข้อมูลเพิ่มเติมกดที่นี่


2. โรคเส้นเลือดหัวใจตีบหรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อ่านข้อมูลเพิ่มเติมกดที่นี่


3. ไขมันในเลือดสูง อ่านข้อมูลเพิ่มเติมกดที่นี่


4. โรคเบาหวาน อ่านข้อมูลเพิ่มเติมกดที่นี่


5. โรคอ้วน อ่านข้อมูลเพิ่มเติมกดที่นี่


6. โรคปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ


7. โรคเครียด อ่านข้อมูลเพิ่มเติมกดที่นี่


8. โรคภูมิแพ้ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมกดที่นี่


9. โรคมะเร็ง อ่านข้อมูลเพิ่มเติมกดที่นี่




มีเว๊ปรวบรวมศูนย์ฟิตเนสในไทยกดที่นี่






การออกกำลังกายในน้ำ


การออกกำลังกายในน้ำมีหลายประเภท

1. การว่ายน้ำ การดำน้ำ synchronise swimming การกระโดดน้ำ และโปโลน้ำ


synchronise swimming





การดำน้ำ





2. การเดินในน้ำ ความลึกของน้ำอาจจะลึกระดับเอวหรือระดับหน้าอก เท้าจะเหยียบที่พื้นสระ ประโยชน์ของการเดินในน้ำเหมือนกับการวิ่งบนบก แต่จะไม่ทำให้เกิดอาการปวดข้อ แถมแรงต้านของน้ำจะช่วยให้ร่างกายได้ใช้พลังงานมากขึ้น การเดินในน้ำยังใช้เพื่อการกายภาพบำบัดสำหรับผู้พักฟื้นหลังการผ่าตัดด้วย



เดินในน้ำ





การกายภาพบำบัด





3. การเต้น aerobic ในน้ำ (Water aerobics) เป็นการเคลื่อนไวร่างกายตามจังหวะอย่างต่อเนื่องในสระว่ายน้ำที่ไม่ลึกนัก อาจจะมีหรือไม่มีอุปกรณ์ อาจจะมีหรือไม่มีดนตรีเสียงเพลง การเต้นมักกระทำกันเป็นหมู่ และจะมีผู้นำจังหวะ



Water aerobics





Water aerobics






4. การทำโยคะในน้ำ (Water yoga) เป็นการฝึกโยคะบนผิวน้ำ เหมาะกับผู้ที่ลอยตัวในน้ำได้ดีและเล่นโยคะเป็น น้ำจะช่วยให้การยืดหยุ่นของร่างกายทำได้ดี แถมผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ดีด้วย



Water yoga





5. การออกกำลังในน้ำลึก(Deep-water exercise) เป็นการเดินหรือเอ็กเซอร์ไซต์ภายในสระน้ำลึกโดยที่เท้าไม่ได้สัมผัสพื้น แต่จะมีอุปกรณ์ช่วยในการลอยตัว การออกกำลังกายแบบนี้ยังไม่ปรากฏมีในประเทศไทย



aqua jogger





aqua jogger






posture correct

posture incorrect







curls arms

punch down arms







breast stroke arms

sweep in arms







punch out arms

xc arms







diamonds abs

jack knife abs







sit kick line

toe touch line







run line

rock climb line







ภาพเคลื่อนไหว water walkersกดที่นี่ โหลดภาพราว 5 นาที(ภาพนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก พลทหารไรอัน ขอขอบพระคุณในความช่วยเหลือเป็นอย่างสูง)






6. การเล่นกีฬาโต้คลื่น วินเสิร์ฟ เจ๊ทสกี และกีฬาทางน้ำอื่นๆ




การเติมน้ำอุ่นในอ่างน้ำ


ในกรณีที่บางท่านต้องการจะเติมน้ำอุ่นในอ่างน้ำ เพื่อแช่ให้เหงื่อออก เพื่อหวังใช้ชดเชยการไปออกกำลังกาย เพราะไม่มีเวลา คล้ายๆกับทำสปาหรือแช่ตัวใน จากูซี่ในบ้าน มีข้อแนะนำดังนี้


1. น้ำที่ใช้ควรจะมีอุณหภูมิระหว่าง 98 ถึง104 F และควรจะแช่เป็นเวลา 10 -15 นาที ทั้งนี้ควรจะเริ่มเติมน้ำที่มีอุณหภูมิน้อยๆก่อน เมื่อร่างกายรับได้แล้วจึงค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิของน้ำมากขึ้น สำหรับเด็ก คนแก่ และผู้ที่ไม่แข็งแรง อาจจะใช้อุณหภูมิน้อยกว่านี้


2. ผู้สูงอายุ ผู้ที่อ้วน และผู้มีข้ออักเสบ ควรจะมีคนช่วยเหลือขณะขึ้นหรือลงจากอ่างน้ำ


3. ผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน ควรจะปรึกษาแพทย์เสียก่อน สตรีมีครรภ์ และผู้เมาสุรา ไม่ควรจะแช่น้ำร้อน





ต่อไปนี้ จะขอพูดถึงเฉพาะการว่ายน้ำ






การว่ายน้ำ จะให้ประโยชน์เช่นเดียวกับการออกกำลังกายบนบก เพราะจะมีการสูบฉีดและการเต้นของหัวใจที่ทำงานเร็วขึ้น ระบบหัวใจและปอดแข็งแรง เหงื่อจะถูกขับออกจากร่างกายตามปกติ เพียงแต่ตาเรามองไม่เห็น มีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ อันนี้อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่เหมือนกับการเล่นฟิตเนสที่มีกล้ามเนื้อแข็งมาก มีความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้ออยู่ในเกณฑ์ท๊อป การว่ายน้ำเป็นประจำจะทำให้ร่างกายโค้งงอตัวได้ง่ายและได้มาก สามารถลดความตึงเครียดของร่างกายและจิตใจ ช่วยสร้างมิตรและมีเพื่อนที่ชอบการออกกำลังกายคล้ายกัน



แต่จะดีกว่าการออกกำลังกายบนบก ก็คือ


1. ร่างกายจะได้เคลื่อนไหวทุกส่วน ถ้าออกกำลังกายตามปกติ(ไม่ใช่แบบนักกีฬา) ร่างกายจะมีความสมส่วน กล้ามแน่น รูปร่างสวยงาม


2. จะไม่มีการกระทบกระแทกกับใคร ทำให้ปลอดภัย ไม่บาดเจ็บ


3. จะไม่มีปัญหาต่อการบาดเจ็บหรืออักเสบของข้อ ทั้งที่หัวเข่า ข้อเท้า หรือไหล่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการลงน้ำหนักผิดจังหวะ หรือแบกน้ำหนักเกินปกติ จึงเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีน้ำหนักมาก ผู้สูงวัย สตรีมีครรภ์ หรือผู้มีปัญหาปวดตามข้อ


4. เหมาะสมกับการใช้ฟื้นฟูร่างกายหลังจากได้รับอุบัติเหตุ และหมออนุญาตให้ออกกำลังกายเบาๆ




อุปสรรคของการว่ายน้ำอาจอยู่ที่


1. ยังขาดสระว่ายน้ำมาตรฐาน(ตามโรงแรมจะมีสระเพื่อความสวยงาม) บางสระจะสงวนเอาไว้เฉพาะสมาชิก(เช่น สระในบางสถาบันศึกษา ราชตฤณมัย ฯลฯ) บางสระค่าสมัครสมาชิกแพง สระอยู่ไกล การเดินทางไม่สะดวก บางสระไม่สะอาดตามเกณฑ์มาตรฐาน


2. ยังขาดครูผู้ฝึกสอน ชี้แนะ


3. การว่ายน้ำยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ยังไม่มีข้อมูลเผยแพร่มากพอ ยังไม่มีการโปรโมตหรือการจัดการแข่งขันรายการใหญ่ๆ


4. อายผู้อื่น กลัวจมน้ำ กลัวเหนื่อย กลัวทรงผมจะเสีย ขี้เกียจเดินทาง รู้สึกไม่สบายครั่นเนื้อครั่นตัวทันทีเมื่อถึงเวลาว่าย


ที่จริงการว่ายน้ำสามารถกระทำได้ แม้คนที่มีภูมิแพ้ และคนที่มีไข้หวัดเล็กน้อย ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับการออกกำลังกายอื่นๆบนบก เพราะร่างกายของคนเราจะรีบปรับตัวให้มีความแข็งแรง เมื่อหัวใจเต้นเร็วและสูบฉีดแรง (แต่ไม่ควรจะไปยืนแช่น้ำนานๆ โดยไม่ได้ว่าย)



หมายเหตุ : “การว่ายน้ำ” ยังจะมีให้อ่านต่ออีก ในบล๊อกหน้า







โดย yyswim




 

Create Date : 28 ตุลาคม 2549    
Last Update : 29 ตุลาคม 2549 11:46:08 น.
Counter : 29205 Pageviews.  

คิดในแง่ดี


คิดในแง่ดี



บล็อกเรื่องนี้ มีภาพที่ล่อแหลมศีลธรรม …ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่บรรลุนิติภาวะ และผู้ที่ไม่อาจมองภาพเปลือยได้ …

ขอร้องว่ากรุณาคลิกผ่าน ไม่ควรจะเข้าไปอ่านครับ






ความคิดของเราเป็นอิสระที่สุดในบรรดากิจกรรมทั้งมวลที่เราทำอยู่


เราจะคิดอย่างไร คิดมาก คิดใหญ่ คิดลึก คิดเล็ก หรือไม่คิดเลย ก็ไม่มีหัวหน้าหรือผู้ปกครองที่ไหนจะมาห้ามได้


เราจะคิดแผลงๆ จินตนาการร้าย หรือคิดทะลึ่ง ถ้าไม่เผลอแสดงออกไป ก็เป็นอิสรเสรีของเรา


แต่ที่เราคิด หากคิดหมกหมุ่น คิดบ่อยๆ ความคิดนั้นๆสามารถจะมีผลออกมาเป็นความเชื่อมั่นในใจ และแฝงตัวแสดงออกมาในรูปคำพูด น้ำเสียง สายตา และการกระทำของเราได้


เมื่อความคิดเป็นอิสระเสรี คิดดีก็ได้ คิดไม่ดีก็ได้ มีสองทางเลือกที่ให้เราเลือก ...เราน่าจะพยายามคิดแต่เรื่องดีๆ


เพื่อกล้ามเนื้อของเราจะได้ผ่อนคลาย ใบหน้าจะได้ดูสดชื่น การไหลเวียนของโลหิตเป็นปกติ ความดันเลือดก็เป็นปกติ


เพื่อเราจะได้ไม่เป็นที่รังเกียจ ได้เป็นที่รักของผู้อื่น เพื่อเราจะได้ไม่ไปเข้าใจผิดผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว


เพื่อผู้อื่นจะได้ยอมรับและชอบบุคลิกเรา อยากอยู่ใกล้เรา อยากทำงานร่วมกับเรา แถมเรายังจะเป็นผู้สร้างบรรยากาศรอบข้างให้เป็นสุข สนุกสนานเฮฮา



มีฟอร์เวิดเมล์เรื่องหนึ่งที่ผู้แต่ง(ไม่ทราบเป็นใคร)แต่งได้คมคายดี....


เจอร์รี่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาเป็นคนมีอารมณ์ดีและมักจะมีมุมมองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ในแง่ดีเสมอ พนักงานเสริฟในร้านอาหารชอบตัวเขามาก ต่างรู้สึกสบายใจที่ได้ทำงานร่วมกันกับเขา มีอยู่ครั้งหนึ่งเขามีความจำเป็นจะต้องลาออกจากร้านหนึ่งไปอยู่อีกร้านหนึ่ง เชื่อหรือไม่ว่า พนักงานเสิร์ฟก็อาสาลาออกตามเขาไปด้วย ทุกคนบอกว่าอยู่ใกล้เจอร์รี่แล้ว ได้มุมมองดีและรู้สึกสบายใจดีกว่า


วันหนึ่งมีผู้ถามเจอร์รี่ว่า "ผมไม่เข้าใจ คนเราจะมองโลกในแง่ดีตลอดเวลาได้ยังไง คุณทำได้ยังไงนะ"


เจอร์รี่ตอบว่า "ทุกๆเช้าผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับบอกตัวเองว่า ผมมีทางเลือกอยู่สองทางเลือก คือทางเลือกที่จะมีอารมณ์ดีตลอดทั้งวัน หรือทางเลือกที่จะมีอารมณ์เสียตลอดทั้งวัน ซึ่งผมก็จะเลือกมีอารมณ์ดีตลอดทั้งวันดีกว่า”


“ฉะนั้นเมื่อมีปัญหาแย่ๆและเหตุการณ์แย่ๆเกิดขึ้น ผมก็สามารถเลือกได้ว่า ผมควรจะเป็นเหยื่อของเหตุการณ์นั้น หรือว่าเลือกที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ดีๆจากมัน หรือทุกครั้งที่มีคนมาติมาบ่นอะไร ก็มีทางเลือกมาให้เราเลือกได้ว่า จะไม่ยอมรับฟังเสียงบ่น หรือว่าจะมองหาด้านดีของชีวิตจากการฟังเสียงบ่น ซึ่งผมจะเลือกอย่างหลังเสมอ"


"แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ" ผู้ถามแย้ง


"ใช่ ไม่ง่ายเลย" เจอร์รี่ตอบ "แต่ชีวิตมันมีทางเลือก คุณเลือกได้ว่าจะตอบสนองกับเหตุการณ์นั้นอย่างไร จะให้ผู้คนรอบข้างมีผลจากความรู้สึกของคุณอย่างไร คุณเลือกที่จะมีอารมณ์ดีหรือมีอารมณ์ร้ายก็ได้ มันเป็นทางเลือกของคุณทั้งนั้น"


เมื่อไม่กี่เดือนต่อมา เจอร์รี่ลืมล็อคประตูด้านหลังร้านอาหาร และถูกโจรสามคนที่มีปืนเป็นอาวุธเข้าปล้น


ขณะที่เจอร์รี่กำลังเปิดเซฟเงินให้โจรอยู่นั้น โจรคงจะเป็นมือใหม่หัดปล้น มือของโจรสั่นด้วยความตื่นเต้นทำให้เกิดพลาดพลั้งเหนี่ยวไกปืนโดยไม่รู้ตัว กระสุนปืนยิงเข้าท้องเขาถึงกับทรุด โชคดีที่มีคนได้ยินเสียงปืน และรีบช่วยเหลือนำเขาส่งโรงพยาบาล


หลังการผ่าตัดยาวนาน 6 ชั่วโมงและมีการดูแลรักษาในมือหมออย่างใกล้ชิด เจอร์รี่ก็สามารถพูดคุยได้ มีลูกน้อง มีคนรู้จักและลูกค้าไปเยี่ยมเขามากมาย


เมื่อมีคนถามเขาว่า “คิดอะไรบ้าง จากเหตุการณ์ครั้งนี้?”


เจอร์รี่ตอบว่า "ถ้าผมเป็นอะไรที่ดีกว่านี้ได้ ผมอยากจะมีฝาแฝด อยากจะให้มีอีกคนหนึ่งที่เป็นปกติ มาคอยดูแลผม นั่นเป็นความคิดของผมแว๊บแรกเชียวละ แต่ถ้าให้ผมคิดทบทวนจริงๆ อย่างแรกที่ผมคิด คือผมไม่ได้ล็อคประตูหลังร้านของผมเอง อันนี้โทษใครไม่ได้ และหลังจากที่ผมโดนยิงล้มลงแล้ว ผมจำได้ว่า ผมคิดว่าผมมีสองทางเลือกนี่นา คือ มีชีวิตอยู่ต่อไป หรือว่าตายเสียเลยในตอนนั้น ผมเลือกที่จะอยู่ต่อไป"


"คุณไม่กลัวเหรอ" มีคนถาม


เจอร์รี่ตอบว่า "บุรุษพยาบาลเขาทำหน้าที่อย่างดีมาก เขาคอยบอกผมว่า ผมจะปลอดภัย แต่เมื่อผมถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ผมก็ได้เห็นความเครียดบนใบหน้าหมอและพยาบาล ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ ในสายตาของพวกเขา มันบอกออกมาเป็นคำพูดว่า 'ผมน่ะตายแน่นอน ตายชัวร์'


“ผมรู้ทันทีเลยว่าผมต้องทำอะไร ผมต้องแสดงปฏิกิริยาอะไรซักอย่างให้พวกเขารู้ว่า ผมยังอยู่"


"คุณทำอย่างไร?" มีคนถาม


อืม...มีนางพยาบาลคนหนึ่งตะโกนถามผมว่า ..ผมแพ้อะไรหรือเปล่า?


ผมตอบว่า “มี”


นางพยาบาลและหมอต่างหยุดฟังผมทันที


ผมหายใจลึกๆและตอบเธอว่า “กระสุน”


หลังจากที่พวกเขาหัวเราะกันพักใหญ่ ผมก็บอกพวกเขาว่า


“ผมเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ โปรดช่วยรักษาผมอย่างคนมีชีวิต ไม่ใช่อย่างคนตาย ได้โปรดเถอะ"


เจอร์รี่มีชีวิตต่อมาอย่างอบอุ่น และอย่างมีคนรักทั่วเมือง เขาบอกว่าทุกอย่างรอดผ่านมาได้ ก็ด้วยความสามารถของหมอและพยาบาลทุกคน แต่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า


“เพราะทัศนคติต่อชีวิตอันแสนจะน่าทึ่งของเขามากกว่า”


หลายคนเรียนรู้จากเจอร์รี่ว่า


“ทุกๆเช้าเรามีทางเลือกของชีวิต 2 ทางเลือก ทางเลือกที่จะมีอารมณ์ดีตลอดทั้งวัน หรือทางเลือกที่จะมีอารมณ์เสียตลอดทั้งวัน”


และ “ทุกๆครั้งที่เราเห็นใครทำอะไร หรือเห็นผลงานของใคร เรามีทางเลือกอยู่ 2 ทางเลือก ทางเลือกที่จะทำให้คนๆนั้นเขาสบายใจ หรือทางเลือกที่จะทำให้คนๆนั้นเขาไม่สบายใจ”





ภาพนี้มองได้สองมุม มุมบนและมุมล่าง แล้วแต่จะมอง






เทศกาล “ถือศีลกินเจ” ปีนี้ มีจัดงานในหลายจังหวัด หลายๆตลาดจะมีอาหารเจขาย มีขายแม้กระทั่งตลาดคนรวยอย่างบองมาเช่ และสยามพารากอน หลายๆบล็อกในช่วงนี้ก็จะมีการเขียนถึงอาหารเจ รวมทั้งหลายๆคนก็จะรับประทานอาหารเจกัน


“ถือศีลกินเจ” เทศกาลนี้มีเจตนาเพื่อส่งเสริมให้คนมีใจบริสุทธิ์ มีเจตนาบริสุทธิ์ คิดดี พูดดี กระทำดี รับประทานอาหารที่ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น คิดดีกระทำดีต่อผู้อื่น ขนาดอาหารกลิ่นแรงยังเป็นของต้องห้ามเลยในช่วงเทศกาลนี้




ผมมีเรื่องแปลจากฟอร์เวิดเมล์อีกเรื่องหนึ่ง ที่อยากนำมาให้เพื่อนๆอ่านทบทวน


Once there was loving couple traveling in a bus in a mountainous area.
สามีภรรยาคู่หนึ่ง เดินทางไปเที่ยวในพื้นที่ที่เป็นภูเขาด้วยรถประจำทาง


They decided to get down at some place.
พวกเขาตัดสินใจที่จะลงตรงไหนสักแห่งหนึ่ง


After the couple got down at some place the bus moved on.
หลังจากพวกเขาลงจากรถบัสแล้ว รถบัสก็เคลื่อนออกไป


As the bus moved on, a huge rock fell on the bus from the mountain and crushed the bus to crumbs.
ขณะที่รถบัสเคลื่อนตัวออกไปนั้น มีก้อนหินขนาดใหญ่หล่นลงมาจากภูเขาข้างบน ทับรถบัสจนเละ


Everybody on board was killed.
ทุกคนในรถบัสตายหมด


The couple upon seeing that, said, "We wish we were on that bus"
ทันทีที่สามีภรรยาคู่นั้นเห็นเข้า เขาก็พูดว่า "เราน่าจะอยู่ในรถบัสคันนี้ด้วยนะ"


Why do u think they said that?
ทำไมพวกเขาถึงคิดและพูดเช่นนั้น?


Scroll down for answer
ลองพยายามคิดดู ก่อนที่จะเลื่อนลงไปเพื่อดูคำตอบนะครับ
o
o
o
o
o
o
o
o
Come on think again .......
ลองคิดอีกที
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o





Come on try hard.....
พยายามมากกว่านี้อีกหน่อย
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
o
Think positively.......
พยายามคิดในแง่ดีไว้.......คำตอบคือ

o
o
o
o
o

If they had remained on the bus instead of deciding to get down, the resulting time delay could have been avoided and the rock would have fallen after the bus had passed...!!!
ถ้าพวกเขายังอยู่บนรถบัส แทนที่จะตัดสินใจลง, รถบัสก็ไม่เสียเวลาจอดให้พวกเขาลง ผลลัพธ์ก็คือ รถบัสจะวิ่งผ่านไป ก่อนที่ก้อนหินจะตกลงมา


Think positive in life always and look for opportunities when u can help others.
คิดทุกอย่างในแง่ดีเสมอ และคิดถึงสิ่งที่คุณสามารถจะช่วยเหลือผู้อื่นได้.....





ภาพนี้มองได้ 2 มุมมองอีกภาพหนึ่ง.....ลองมองในมุมมองที่ดี ดิ


* * * * *






และภาพข้างล่าง ไม่ใช่ภาพเซ็กซี่อะไร อยากจะขอร้องให้มองภาพ...แบบที่คุณหมอมองคนไข้นะครับ




ตอนแรกที่ผมเห็นภาพนี้ ...”อ่อ ผู้ชายเธออยากจะเป็นผู้หญิง”





“...นั่นไง เห็นชัดเลย ..เสริมมา”





“....กล้ามงี้ แน่นปึ๊ก แต่ไง อยากจะเป็นผู้หญิงนิ ...ตรูล่ะงงงง”





“เฮ้ !!!!! อะไรน่ะ”





“เป็น งงงง ไม ผู้ชายเล็กซะขนาดน้าน”





“เอ่อ รึว่า...เธอเป็นผู้หญิง แต่อยากจะแข็งแรง.... อยากจะเป็นผู้ชาย”





“.....อ้าว ซูมกันเข้าไป เอ...มันเป็นยังไงหว่า????”





“....จะเป็นชายหรือหญิง นั่น เป็นสิทธิของเธอ ...ดีแล้วครับ ที่เธอมีความฝันและมีความสุข”






ขออวยพรให้คุณ...มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีความเจริญก้าวหน้า มีคนที่เข้าใจ และมีคนรักนะครับ.








โดย yyswim




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2549    
Last Update : 30 ตุลาคม 2549 20:20:16 น.
Counter : 3510 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.