วิธีฟังที่ดี
ลาภต่างๆได้จากการฟัง
การฟังสัมมนา การฟังผู้ชำนาญการ ท่านจะได้รับความรู้ใหม่ๆ
การฟังวิทยุและโทรทัศน์ การฟังการพูดคุยในวงสนทนา ท่านจะได้รับ
ข่าวสารใหม่ๆ
การฟังการประชุม การฟังผู้บริหาร การฟังผู้ร่วมงาน การฟังลูกน้อง
การฟังเพื่อนสนิท และการฟังลูกค้า ท่านจะได้รับข้อมูลใหม่ๆ
และความคิดเห็นใหม่ๆ
การฟังจึงได้รับประโยชน์ และหากท่านเป็นผู้ฟังที่ดี ผู้พูดจะรู้สึกได้รับเกียรติได้รับความอบอุ่นใจและรู้สึกพอใจท่านอีกด้วย
วิธีฟังที่ดี
หยุดพูด ฟังอย่างตั้งใจ มีอากัปกิริยาท่าทางกระตือรือร้นที่จะฟัง
สบสายตาผู้พูดอย่างเป็นมิตร
ขณะที่ฟังอยู่ อย่าใจลอยคิดเรื่องอื่น อย่าเพิ่งรีบพูดแทรก
อย่าเพิ่งรีบสอบถาม อย่าเพิ่งรีบพูดตัดบทว่าเข้าใจแล้ว โปรดปิดปาก
ฟังผู้พูดพูดอย่างตั้งใจจริงๆ
ขณะฟังอย่างตั้งใจนั้น อย่าก้มหน้าหรือเสไปมองที่อื่น
อย่าทำงานอื่นไปด้วย มือ เท้า ไหล่ ใบหน้าอยู่นิ่ง สบสายตาผู้พูด
อย่างเป็นธรรมชาติและเป็นมิตร
นอกจากนิ่งฟังเนื้อหาของผู้พูดแล้ว ควร สังเกตความจริงใจ
จากสายตาและอากัปกิริยาของผู้พูดด้วย
เช่น ผู้พูดสนใจท่านจริงหรือไม่ รักเป็นห่วงท่านจริงหรือไม่
หากสายตาของผู้พูด ไม่ได้มองสบตาท่านเลย และไม่ได้มีอากัปกิริยา
จับมือหรือโอบไหล่อย่างทะนุถนอมตัวท่านเลย ถึงแม้จะพูดคำว่า รัก
ผู้พูดก็ไม่ได้รักท่านจริง ตามข้อความที่พูดหรอกครับ
สายตาและอากัปกิริยาของผู้พูดยังจะบอกให้ท่านทราบว่า
ผู้พูดรู้จริงหรือไม่ โกหกหรือไม่ เบื่อหน่ายที่จะพูดหรือไม่
เหนื่อยหรือง่วงในขณะนั้นหรือไม่ด้วย
หรืออากัปกิริยาของผู้พูดที่พูดไปพร้อมกับยิ้มชวนขันหรือโยกเยกตัว
ไปด้วย ก็แปลว่า ที่เขาพูดไปนั้น เขาหวังเพื่อสนุกไม่ได้คิดเป็นเรื่องจริงจัง ซีเรียส
หรือสายตาของผู้พูดที่ดู ดุดันและอากัปกิริยาที่มีอาการฟึดฟัดปึงปัง
ก็แปลว่า ที่ผู้พูดพูดว่าจะให้ยืมสิ่งของหรือให้ยืมเงินนั้น จริงๆแล้ว
เขาไม่อยากจะให้ยืมสิ่งของหรือเงินจริง ตามที่เขาพูดหรอกครับ
สังเกตเนื้อความจากท่าทาง ผู้พูดบางคนจะใช้อากัปกิริยา เสริมบอกเนื้อความในขณะพูดไปด้วย เช่น ใช้มือชี้บอกทิศทาง ใช้มือบอกขนาดบอกจำนวน กวักมือเรียกให้เข้าไปใกล้เร็วๆ ใช้ใบหน้าพยักหน้ายืนยันหรือสั่นศีรษะเป็นการคอนเฟิร์มสิ่งที่พูดว่าใช่หรือไม่ใช่
หรือหากผู้พูดพูดพร้อมขยิบตาข้างเดียวเป็นนัยๆเพื่อจะบอกว่า
ความหมายจริงๆแล้วไม่ได้เป็นไปอย่างที่พูดนะ
ท่านยังจะต้องสังเกตอารมณ์ความรู้สึกของผู้พูดในขณะนั้นด้วย เช่น เนื้อความที่เขาพูด ที่เปลี่ยนจากคำพูดสุภาพ เป็นคำพูดหยาบคาย ถ้อยคำที่ปกติเคยพูดมีหางเสียง แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเขาพูดห้วน ไม่มีหางเสียง
ก็แปลว่าผู้พูดเริ่มจะมีอารมณ์โกรธและไม่พอใจท่านแล้ว
หรือหากสังเกตว่า ผู้พูดเริ่มพูดมีสำเนียงปนสะอื้น มีน้ำตาปริ่ม หรือผู้พูดมีอาการสะกดอารมณ์ไม่อาจจะพูดจาอะไรอีกต่อไปได้ ก็แปลว่า
ผู้พูดเริ่มกระทบกระเทือนจิตใจ อัดอั้นใจ และโศกเศร้า
หรือหากสังเกตว่า ผู้พูดพูดเสียงชัดเจนช้า ยินดีพูดย้อนต้นเรื่องเดิมใหม่ให้ ยินดียกตัวอย่างที่สองที่สามให้ ก็แปลว่า ผู้พูดมีความตั้งใจ
จะอธิบาย ใจเย็น ไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียวในขณะนั้น
ท่านมีกำไรกว่าคนตาไม่ดีก็เรื่องนี้ละครับ
.. ฉะนั้น จึงควรจะใช้ ข้อดี
ที่ท่านมีอยู่ หัดสังเกตผู้พูดในขณะฟังไปด้วย
อดกลั้นต่อปัญหาอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะฟัง จะเป็นฝุ่น ควัน กลิ่น เสียงรบกวน หรือลมพัดแรง หรือฝนตก โดยอาจจะหาทางป้องกัน
หรือตัวท่าน ขยับเข้าไปใกล้ผู้พูด แล้วอดกลั้นฟัง
อดกลั้นแม้ว่าจะต้องทนฟังเรื่องที่ท่านถูกว่าร้าย เรื่องที่ท่านไม่ชอบฟัง เรื่องที่ท่านเคยฟังมาแล้ว
อดกลั้นแม้ว่าท่านจะเหนื่อยล้า จะง่วงนอน จะมีธุระที่ต้องทำต่อ
อดกลั้นต่ออากัปกิริยาที่น่ารำคาญของผู้พูด การแต่งกายที่สกปรก
ไม่เรียบร้อยของผู้พูด กลิ่นตัวของผู้พูด
อดกลั้นต่อน้ำเสียงที่เบาเกินไปของผู้พูด ใช้ภาษาไทยปนภาษาต่างประเทศ ใช้สำนวนวกไปวนมา
จนเข้าใจยาก
พูดยาวเกินไป พูดเรื่องสำคัญไว้ตอนท้าย ใช้คำพูดบางคำ..พร่ำเพรื่อ
หรือชอบซักถามเป็นระยะว่า
เข้าใจมั้ย? โอเคมั้ย?
อดกลั้นต่อการที่ท่านจะต้องแสดงอากัปกิริยาเป็นบางครั้งหรือพูดเป็นบางครั้ง เพื่อที่จะให้ผู้พูดทราบว่าท่านกำลังสนใจฟังอยู่
อดกลั้นต่อการไม่แสดงสีหน้าเบื่อหน่าย ถอนใจ เฉยเมย ดูหมิ่น
หรือใช้คำพูดประชด เร่งเร้า สั่งการ ให้ผู้พูด
พูดให้ดีขึ้นกว่าเดิม
เร็วขึ้นกว่าเดิม
เพราะถ้าท่านอดกลั้นไม่ได้ ท่านก็จะอดฟัง
.หรือฟังไม่ได้เต็มที่
และไม่ได้ให้เกียรติผู้พูด
ขณะกำลังฟัง ท่านควรจะนำข้อมูลและประสบการณ์ของท่านมาจับประเด็นเรื่องที่ฟังเพื่อให้เข้าใจให้ได้ อาจจะต้องแยกประเด็นหรืออาจจะต้องรวมประเด็น อาจจะต้องเชื่อมความสัมพันธ์ของประเด็นต่างๆ
หากไม่เข้าใจในประเด็นใด หรือไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของประเด็นใดกับประเด็นใด ท่านก็สามารถจะสอบถามได้ โดยรอจังหวะที่เหมาะสม
สอบถามโดยใช้คำถามที่เข้าใจง่ายและสุภาพ เช่น
ที่พูดมาเมื่อครู่ หมายความถึงเรื่องนี้ ใช่ไหมครับ
ขณะกำลังฟัง ท่านอาจจะจดไปด้วย ก็เปรียบคล้ายกับ จดข้อความขณะฟังการประชุม จดข้อความขณะรับโทรศัพท์ เพื่อช่วยความจำของท่านขณะกำลังฟัง และทบทวนได้ง่ายเมื่อท่านต้องการ
ข้อมูลที่ควรจด เช่น จำนวนเงิน วันที่ เวลา บ้านเลขที่ สถานที่
เบอร์โทรศัพท์ ชื่อคน ชื่อข้อความสำคัญ ลำดับขั้นตอนที่ระบุให้
เป็นไปตามลำดับที่แน่นอน เป็นต้น
ขณะกำลังฟัง หากผู้พูดสอบถามความเข้าใจของท่าน ก็ยินดีที่จะตอบตามที่เขาถาม
เมื่อผู้พูดพูดจบ หากท่านต้องการจะตรวจสอบว่าท่านเข้าใจตรงกับผู้พูดหรือไม่ ก็อาจจะเสนอตัว ขอพูดทวนย้ำ ให้ผู้พูดฟังบ้างก็ได้
ฟังดีดี มีประโยชน์
.ลาภต่างๆได้จากการฟัง
ไม่ใช่ได้จากการพูด
.
| Create Date : 12 กรกฎาคม 2548 |
| Last Update : 12 กรกฎาคม 2548 21:01:30 น. |
|
13 comments
|
| Counter : 902 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [
