Bloggang.com : weblog for you and your gang
คำพูดที่ได้ฟัง ตัวอักษรที่ได้ยล บทเพลงที่แผ้วพาล...อาจทำให้ความรู้สึกของวันเปลี่ยนไป
Group Blog
เรื่องราวดีๆ ในวันฟ้าใส
เรื่องราวขำขัน ในวันฟ้าเป็นใจ
เรื่องราวลับสมอง ประลองปัญญา
All blogs
ทำไมบิล เกตส์ จึงศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์
แขวนปัญหา
ไอเดียการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ สำหรับบ้านหรือห้องที่มีพื้นที่จำกัด
สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าลบ
ความสุขที่ถูกมองข้าม
ปรัชญาของมด
พ่อแม่ควรสอนลูกเรื่องเงินอย่างไร
การเดินทางของชีวิต มิวสิควีดีโอเพลงนี้อาจเป็นเรื่องจริงของใคร หรือหลายๆ คน
ของขวัญแห่งความสุขที่ต้องค้นหาเอง
Think good & live happily
ส้ม...กับคุณค่าที่แตกต่าง
Formular for Success
เรื่ื่องเล่าของความสุข
พุทธิปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
คุณกำลัง กำ อะไรไว้ในชีวิตบ้าง
ดีหรือไม่ดี...ยากที่จะบอก
เรียนรู้ที่จะฝัน แล้วจะรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่ - All I Have To Do Is Dream
บทเรียนสำหรับงานบริการ
ชีวิตที่ไม่มียางลบ
โปรดอย่าเก็บสิ่งใดๆ ไว้ใช้ในโอกาสพิเศษ
สิ่งที่มีค่ากับสิ่งที่มองเห็น
ในวันที่คิดว่าไม่เหลือใคร คุณยังมีเพื่อนคนนี้ - You've got a friend
25 วิธีมีความสุขกับสิ่งรอบตัว
ลิงกับลา - Monkey & Donkey
แง่คิดจากผีเสื้อ
นิทรรศการภาพครั้งที่ 1 - People & Nature
ดินสอกับยางลบ
ทางที่ยังไม่ได้เดิน
สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเสมอไป
ทุกนาทีมีความหมาย
จะลองรักผู้หญิงคนนี้ดูบ้างได้ไหม
ความรักกับความผูกพันธ์
ผมและเธอบนเส้นขนาน
นิทานความรัก
คนเรามักจะยึดติดและไม่ยอมปล่อยผลประโยชน์ตรงหน้า
มีกี่ครั้งในชีวิตที่เราขาดความไว้วางใจผู้อื่น?
มหาเศรษฐีกับชาวนา
คุณหาปลาฉลามมาใส่ในชีวิตคุณบ้างหรือยัง??
เลื่อนตัวเองขึ้น แต่อย่าลดคนอื่นลง
Money is not everything!
บ่อยครั้ง..สิ่งที่ทำ อาจไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ
แด่ทุกท่านที่กำลังทำงานหนัก เพื่ออะไรบางอย่างในชีวิต
พ่อแม่ควรสอนลูกเรื่องเงินอย่างไร
วันนี้ขอนำอีกบทของ “รู้จักใช้ เข้าใจเงิน” หนังสือที่ธนาคารไทยพาณิชย์จัดทำขึ้นเพื่อเป็น วิทยาทานในโอกาสครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้งธนาคารในปี 2550 ผู้เขียนคือ อาจารย์ วรากรณ์ สามโกเศศ ใครที่อยากได้ขอให้ติดต่อธนาคารไทยพาณิชย์ ครับ
ส่วนหนึ่งของบทสำหรับพ่อแม่โดยเฉพาะมีดังนี้ “พ่อและแม่เป็นผู้ร่วมกันนำลูกมาสู่ โลก ดังนั้นความรับผิดชอบในชีวิตของลูกจึงตกอยู่ทั้งพ่อและแม่อย่างไม่อาจหลีก เลี่ยงได้ ชีวิตของลูกจะเป็นไปอย่างไร พ่อและแม่เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลที่สุด พ่อแม่ไม่อาจผลักภาระและความรับผิดชอบ ในการอบรมบ่มเพาะลูก ให้แก่ครู พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก และจะเป็นครูที่สำคัญที่สุดของลูกเสมอ การอบรมสั่งสอนลูกระหว่างวัยแรกเกิดจนถึง 6 ขวบ เป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดของการเข้าใจ โลกของลูก” การสอนลูกให้เข้าใจเรื่องเงินอย่างถ่องแท้ ตลอดจนการเข้าใจกลไกในการสร้างอนาคตที่ มั่นคงให้ลูก จึงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องดิ้นรนขวนขวายเรียนรู้อย่างจริงจังและรวดเร็ว เพื่อให้ ทันกับการเติบโตของลูก
มีเรื่องเล่ามานานแล้วในสหรัฐอเมริกา ว่าเมื่อ จอห์น ร็อกกี้เฟลเลอร์ มหาเศรษฐีผู้พ่อเข้าไป พักในโรงแรม เขาขอห้องพักราคาถูกที่สุด ผู้จัดการโรงแรมก็ถามว่า "ทำไมเล่า เวลาลูกท่าน มาพักที่นี่ยังขอห้องดีที่สุดเลย" เขาตอบว่า "มันต่างกัน เขาเป็นลูกมหาเศรษฐี ส่วนฉันเป็นลูกชาวนา"
เรื่องเล่านี้สะท้อนให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างการมองโลกของพ่อและลูกผู้ เติบโตภายใต้สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งเรื่องนี้เข้า ลักษณะเดียวกันกับคนชั้นกลางจำนวนไม่น้อยในสังคม ไทยปัจจุบัน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็น อย่างยิ่ง ที่จะต้องสอนลูกอย่างถูกต้องเกี่ยวกับเรื่อง เงิน ในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเรื่อง ของบริโภคนิยมและการไม่ใส่ใจในจริยธรรมคุณธรรมซึ่งแตกต่างไปจากยุคของพ่อแม่
การสอนเรื่องการเงินให้แก่ลูกมีหลายประเด็นที่ ควรพิจารณาดังต่อไปนี้ เป็นเรื่องปกติที่เด็กทุกคนอยากได้ทุกอย่างที่ เห็นในโทรทัศน์จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องอธิบาย และสอนให้ลูกเข้าใจว่า ไม่มีใครที่ได้ หรือมีทุกอย่างในโลก ทุกคนมีเงินจำกัด ที่ต้องจ่ายในสิ่งต่างๆ มากมายด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้น จึงต้องเลือกซื้อเฉพาะสิ่งที่คิดว่าจำเป็นและให้คุณค่า การโฆษณาทางโทรทัศน์ถือว่า เป็นการให้ข้อมูลของสินค้า ที่ผู้ซื้อต้องใคร่ครวญให้ดี เพราะผู้ขายเป็นผู้ให้ข้อมูล และมีวัตถุประสงค์ในการชักชวนให้ซื้อสินค้านั้นการทำงานหาเงินอย่างหนักจนมีเงินมาก นับ เป็นของดี แต่การมุ่งหาเงินอย่างปราศจากคุณ ค่า (value) ที่เหมาะสมกำกับอยู่ด้วย เช่น หาเงินด้วยความเจ้าเล่ห์เจ้ากล บ้าคลั่งบริโภคนิยม บูชาเงินเป็นพระเจ้า สิ่งเหล่านี้เป็นของไม่ดี
พ่อแม่จะต้องพยายามสร้างคุณค่าที่เหมาะสม เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความสมถะ ความศรัทธาในความดีงาม ใส่เข้าไปในสมองลูกด้วยการกระทำสิ่งต่อไปนี้ พ่อแม่ควรทำตนเป็นตัวอย่างโดยแสดงให้เห็น พฤติกรรมที่มีความสมดุลในการใช้จ่ายเงิน สำหรับสิ่งที่จำเป็น (needs) และสำหรับสิ่งที่ต้องการเพื่อช่วยให้เกิดความสะดวกสบายใน ชีวิต (wants) เช่น ไม่บ้าคลั่งซื้อของต่างๆ อย่างไร้สาระจนทำให้ลูกสับสน หรือมองเห็นว่า ทุกสิ่งเป็นสิ่งจำเป็นไปหมด นอกจากนี้ต้องส่งเสริมให้ลูกคิดเป็น และมีวิจารณญาณว่าอะไร เป็น needs อะไรเป็น wants โดยเริ่มสอนไปทีละน้อย ให้เงินลูกเป็นรายอาทิตย์ หรือรายเดือนตั้งแต่ยังเล็กเมื่อเริ่มใช้เงินเป็น เพื่อสอนให้ลูกรู้จัก วางแผนการใช้เงิน และรู้จักอยู่กินไม่เกินรายได้ที่ตนเองได้รับ
เงินที่ให้นี้บอกลูกให้ชัดเจนว่าเป็นเงินสำหรับสิ่งใด เช่น กินขนม ดูหนัง ซื้อหนังสืออ่านเล่น ซื้อซีดี หรืออะไรอื่นๆ แต่สำหรับสิ่งของบางอย่าง เช่น เสื้อผ้า หนังสือเรียน รองเท้า นาฬิกา นั้น พ่อแม่จะจัดหาให้การกำหนดชัดเจนเช่นนี้จะช่วยทำให้ลูกสามารถจัดการเรื่องเงินได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งเสริมให้ลูกรู้จักการให้การสอนลูกในยามเป็นเด็กที่ใจเปิดรับ จะทำให้เกิดความคิดในการช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคหรืองานอาสาสมัคร พ่อแม่อาจจัดหากระป๋องออมสิน 2 ใบ แต่ละใบใช้ใส่เงินสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น ใบหนึ่งสำหรับการออม และอีกใบสำหรับการบริจาค
การแบ่งเช่นนี้จะช่วยให้เด็กเห็นการออมและการให้ที่ ชัดเจนและช่วยให้จัดการเรื่องการเงินได้สะดวกขึ้น พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกมีอำนาจเหนือเงิน (power over money) กล่าวคือ ให้เป็นคนที่มีความอดกลั้น สามารถบังคับความต้องการของตนเองได้ จนไม่เป็นทาส ของบริโภคนิยมที่เห็นอะไรก็อยากซื้อไปหมด ซึ่งจะทำให้ตลอดชีวิตมีแต่การหา เงินมาใช้จ่ายอย่างไร้สาระ พ่อแม่ต้องเน้นเรื่องคุณค่าของการออม และการมีความมั่นคงในด้านการเงินตลอดชีวิต การออมจะเกิดขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอ ก็เพราะลูกมีความสามารถที่จะให้ตนมี อำนาจเหนือเงินเท่านั้น การออมอุปมาเหมือนกับปริมาณน้ำในถังที่เพิ่มขึ้นหรือลด ลงได้ ขึ้นอยู่กับการไหลเข้า(รายได้) และการไหลออกของน้ำ (รายจ่าย)
ถ้าในช่วงเวลาหนึ่งน้ำไหลเข้ามากกว่าไหลออกปริมาณน้ำในถัง (การออม) ก็จะเพิ่มขึ้น การมีอำนาจเหนือเงิน จะทำให้การไหลออกของน้ำเป็นไปอย่างมีเหตุมีผล น้ำไม่ไหลออกมากเกินไปอย่างขาดระเบียบ และถ้ามีน้ำไหลเข้า ถึงในปริมาณพอควรอย่างต่อเนื่องแล้ว ปริมาณน้ำในถังหรือการออมอาจเพิ่มขึ้น อย่างสม่ำเสมอได้ พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน โดยแสดงให้เห็นว่า เงินทุกบาททุกสตางค์มีความหมาย (พ่อแม่ประหยัดพลังงานให้ดูเป็นตัวอย่าง) ไม่ดูถูกเงินไม่ว่าจะมีจำนวนน้อยเพียงใด
ลูกต้องรู้ว่าเงินได้มาจากการทำงานซึ่งเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน เงินไม่ได้ลอยมาจากฟ้าหรืออยู่ๆ ก็มีใครให้ ทุกคนต้องใช้น้ำพักน้ำแรงของตนเองเข้าแลกจึงจะมีเงิน สิ่งที่จะทำให้ได้เงินมากกว่า ถึงแม้จะออกแรงทำงานเท่ากันก็คือการศึกษา
สิ่งที่ต้องห้ามสำหรับพ่อแม่คือ การพูดจาชี้แนะแต่ยังเยาว์วัยว่าปู่ย่าตายาย หรือพ่อแม่มีมรดกไว้ให้ถึงไม่ทำงานก็ไม่ลำบาก การพูดเช่นนี้ให้ทัศนคติในการดำเนิน ชีวิตที่ผิดแก่ลูกและบั่นทอนศักยภาพของลูก ในการเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคตอย่างสำคัญ
Create Date : 30 ตุลาคม 2553
Last Update : 30 ตุลาคม 2553 13:01:45 น.
2 comments
Counter : 295 Pageviews.
Share
Tweet
ผมเนี้ยชอบพูดประจำเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วมันพักแพง มันชอบบอกว่า "พ่อแม่มิงก็รวย อย่าเลือกมากเลย"
ผมตอบว่า "พ่อแม่กุรวย แต่กุไม่รวย"
โดย:
นายแมมมอส
วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:15:01:30 น.
ถ้าเรารู้วิธีหาปลา วันนึงเราก็จะรวยครับ
ถ้านั่งคอยให้คนจับปลามาให้ วันไหนเราจะรวย
โดย: คนหาปลา (
youringmybell
) วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:22:16:15 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
youringmybell
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
วันว่าง จาก วันงาน เลยเอา เวลา มา ใช้จ่าย ในโลก cyber
เพื่อ หลบลี้ จาก โลก แห่ง ความเป็นจริง บ้าง..ในบางเวลา
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add youringmybell's blog to your web]
Links
thaidvd.net รีวิว ดีวีดี
youtube.com คลิบวีดีโอจากทุกมุมโลก
dhammadelivery.com ธรรมมะดิลิเวอร์รี่
thaiware.com ดาวน์โหลดฟรีโปรแกรม
andrewbiggs.com ภาษาอังกฤษกับแอนดรูว์ บิ๊กส์
muangthai.com ข้อมูลท่องเที่ยว กิน ที่พัก
facebook.com สังคมคนออนไลน์
manager.co.th ข่าวสารการเมือง
thaisecondhand.com แหล่งซื้อขายของมือสอง
flickr.com สร้างแกลอรี่ภาพในโลกไซเบอร์
yourhealthyguide.com การดูแลสุขภาพ
ihostplayer.com เว็บดีไซน์ ทำเว็บ
Online Shopping Women Shoes
Online Shopping Beauty Hall
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ผมเนี้ยชอบพูดประจำเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วมันพักแพง มันชอบบอกว่า "พ่อแม่มิงก็รวย อย่าเลือกมากเลย"
ผมตอบว่า "พ่อแม่กุรวย แต่กุไม่รวย"