ยังดีที่มีใจ
ความวุ่นวาย โกลาหล ความสับสน หรือแม้แต่ความนิ่งเงียบ แท้จริงแล้วมันไม่ได้แตกต่างกันเลย เพราะต่างก็ทำให้เรารู้สึกไม่มีความสุขในทุก ๆ ขณะที่เคลื่อนไหว อย่างเช่นวันนี้ ในที่แห่งนี้เงียบมาก สงบ ไร้สิ่งใดรบกวน ไม่มีเสียงรถวิ่งไปมาเหมือนในเมืองใหญ่ แต่แทนที่จะรู้สึกสงบสุข แต่ทำไมใจกลับดูทุรนทุราย ฟุ้งซ่าน "อยู่อย่างโดดเดี่ยวตรงนี้ ก็ยังคงมีหัวใจ แต่อยู่อย่างคนไม่มีวิญญาณ อยู่อย่างโดดเดี่ยวมันเหงา และใจมันทรมาน อยากอยู่ตรงนี้ อยากมีเพียงเธอ ไม่รู้ทำไม" เครดิต: เพลงอยู่คนเดียว โบว์ สุนิตา แล้วจู่ๆ เพลงนี้ก็ดังขึ้นมา ยิ่งกระแทกใจให้รู้สึกแห้งลงไปอีก ขอบคุณสติที่ยังพอมีอยู่บ้าง ที่คอยเตือนตัวเองว่าทุกอย่างอยู่ที่ "ใจ" บอกตัวเอง เตือนตัวเองบ่อย ๆ บอกไปเรื่อย ๆ ทั้งที่มันยังไม่ได้ลงไปใน "ใจ" จริงๆ สุดท้ายได้รู้ว่าถึงแม้ได้รู้ทางออกของปัญหาใด ๆ แต่ใช่ว่ามันจะแสดงผลลัพธ์ออกมาได้ทันที บางอย่างต้องใช้เวลา ต้องใช้การฝึกฝน ต้องใช้ความอดทน เฉกเช่นวันนี้เช่นกัน แม้นรู้ว่า "ทุกอย่างอยู่ที่ใจ" แต่ความรู้สึกมันยังไปไม่ถึง "ใจ" มันก็คงต้องอดทนและเจริญสติต่อไป ซึ่งหากมองกันในแง่ดี ก็ยังดีกว่าที่เราไม่รู้หนทางที่จะเดินไปให้สัมผัส "ใจ" จนทำให้เดินหลงทางพบสิ่งมืดมนต์ไปอีกนาน "สู้สู้นะ ชนะชัวร์" หลานรักกล่าวไว้ ปีชง?
ปีชง 2556 นี่ใกล้จะหมดปี 2556 แล้ว อยากขอแชร์ประสบการณ์ชีวิตในปีนี้กับทุกคน เมื่อต้นปีตอนตรุษจีนเค้าบอกว่าคนเกิดปีหมู ปีนี้จะชง ให้ไปแก้ชงซะเพื่อผ่อนหนักเป็นเบา ไอ้เราก็ไปนะแต่ไปหลังตรุษจีนหลายเดือนล่ะ
ช่วง 1-2 เดือนแรกหลังตรุษจีน.......ไม่ว่าจะทำอะไร รายงานอะไรกับเจ้านาย เหมือนไม่เข้าหู ไม่ถูกใจ ไม่ใช่ไปซะทุกอย่าง เรียกว่าประสาทเสียทุกรอบที่ต้องไปพบหน้าเจ้านาย หลังจากเดือนเมษายนเป็นต้นมา ชีวิตเริ่มผกผันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ต้องบอกว่าค่อย ๆ เลวร้ายลงเป็นลำดับ พฤษภาคม.....อยู่ ๆ ก็โดนบอกให้ออกจากงานในข้อหาผลงานไม่ดี ไอ้เราก็ว่าไม่เป็นไรทำงานมานานมากแล้ว คงได้ค่าตอบแทนหลายเดือนอยู่ แต่หลังจากนั้น 3-4 วัน ที่ทำงานก็โทรบอกให้ทำงานต่อ...ลึกๆแล้วแอบเซ็ง มิถุนายน.....อยู่ทำงานต่อแต่เปลี่ยนโครงสร้างใหม่ มีหัวหน้าคนใหม่ที่ไม่มีอะไรให้เราได้เรียนรู้ ไม่มีอะไรที่เราจะพึ่งได้ในเวลาที่มีปัญหาเรื่องงาน หัวหน้าที่ไม่รู้ว่าเราควรจะทำงานอย่างไร......อึม! บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร ถือว่าพักผ่อน กรกฎาคม - สิงหาคม......มานั่งทำงานแบบไม่มีงานให้ทำ อันเนื่องมาจากไม่ได้รับการมอบหมายงาน นานๆ จะมีงานยากหลุดมาซักชิ้นสองชิ้น..... กันยายน....อยู่ ๆ ก็ได้รับจดหมายเตือนในข้อหาไม่เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา โดยไม่ได้รับการเตือนด้วยวาจามาก่อน.....อ้าวล่ะเข้าใจว่าจะบีบกัน ก็ไม่เป็นไร ตุลาคม.....อยู่แผนกเดิมอยู่ดี ๆ ให้ย้ายไปอยู่แผนกอื่นอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งก็ไม่รู้ว่า JOB เป็นอะไร ไปนั่งลอย ๆ สวย ๆ หายใจทิ้งไปวันๆ พฤศจิกายน....นั่งมองคนรอบข้างวิ่งวุ่นวาย ทำงาน ในขณะที่ตัวเองนั่งเลย Facebook 555+.....แล้วก็นึกในใจ ไม่เป็นไร จ้างให้มานั่งเฉย ๆ ก็ไม่เป็นไร ธันวาคม....เตรียมปรับโครงสร้างใหญ่อีกครั้ง ด้วยการให้ไปรายงานตรงกับลูกน้องเดิม....หากเริ่มเมื่อไหร่ ฟิวขาดแน่นอน
แล้วปี 2557 จะเกิดอะไรขึ้นอีก????
สิ่งที่คิดได้ตอนนี้ ที่ยังไม่รู้ว่าทางเลือกไหนดีสุด 1. กล้าพอจะทิ้งรายได้หลายหมื่นบาท แล้วนำเงินเก็บที่มีอยู่ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนเอง โดยที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือไม่???? 2. ก้าวออกไปจากที่เดิม เพื่อหลุดจากปัญหาเดิม สู่ที่ใหม่ที่ยังหาไม่ได้และพบกับปัญหาใหม่? 3. อยู่ที่เดิม อดทนให้มันผ่านไป เดี๋ยวอะไรมันก็เปลี่ยนไปเอง? 4. หยุดพักสักพักก่อนไปต่อ เผื่อว่าจะได้ทางออกในช่วงพัก?
แต่ที่แน่ที่สุด.....ทุกอย่าง เกิดขึ้น.........ตั้งอยู่.........ดับไป
อันนี้เรียกว่า...พุง...
พักหลังนี้หากสังเกตุแฟชั่นทันสมัย จะต้องใส่เสื้อที่ดูเหมือนเป็นเสื้อคลุม พอง ๆ ตัวยาวเลยเอวลงไป
ว่าแล้ว ไอ้เราก็อยากสวย ใส ทันสมัย อินเทรนด์ ก็ไปหาซื้อมาบ้าง หลายตัวอยู่เหมือนกัน พอลองใส่แล้วก็....เออแฮะ เข้าท่า ใส่สบาย หลวม ๆ และที่สำคัญกินได้ไม่ต้องกลัวว่าจะพุงยื่น หนำใจสุดๆ ผ่านไปเกือบเดือน มีข่าวลือ กระซิบ กระซาบ ไปทั่วแคว้นแดนทำมาหากิน ว่ายัยคนนี้....ท้อง? หรือป่าว ครั้นพอได้ยินแทนที่จะรู้สึกเจ็บใจ มันกลายเป็นขำไป โธ่เอ๊ย แฟนก็ไม่มีเป็นตัวเป็นตน แถมผู้ชายรอบตัวก็ดูจะไม่ใช่ผู้ชายซะทีเดียว แล้วมันจะท้องได้อย่างไรเนี๊ยะ ก็บอกไว้ตรงนี้เลยแล้วกัน ไอ้ที่เห็นยื่น ๆ อ่ะ...พุง...ค่ะ...พุง....พุงล้วน ๆ เลย One Two Three.....Go (Start)
ในที่สุด ฉันก็มี Blog ใน Pantip กับเขาเสียที ทั้ง ๆ ที่ก็ตั้งใจมานานโขแล้วล่ะนะ ฤกษ์ดีมากเที่ยงคืนครึ่งของเช้าวันอาทิตย์ แต่เอาเถอะบอกไป ใคร ๆ ก็จะขำเอานะว่ายัยคนนี้มัวไปทำอะไรที่ไหน เชยจริง ๆ จะว่าไปวันนี้ถือเป็นวันดีมากนะ เป็นวันที่ได้เริ่มอะไรใหม่ ๆ หลายสิ่งอย่าง ไม่เฉพาะจะเป็นวันแรกของการเริ่มเขียน Blodg เท่านั้น แต่วันนี้เป็นวันแรกที่ใช้ Air Card ได้ work สุด ๆ อีกด้วย หลังจากลองผิดลองถูกกับหลายซิม หลายระบบ ว่าแล้วก็ขอพูดถึงระบบโทรศัพท์ซะกะหน่อยนะ โดยส่วนตัวประมาณแปดหรือเก้าปีที่ผ่านมา จะเป็นคนจงรักภักดีต่อระบบโทรศัพท์ระบบนี้มาก แบบเป็นลูกค้าประจำเหนียวแน่น จ่ายตังกันทุกเดือน แต่เมื่อถึงเวลาได้ Air Card มาใช้กับ Sim โทรศัพท์ ก็ไม่รู้ทำไม Sim ชาวบ้าน ชาวช่อง ทั้งระบบเดียวกันและต่างระบบใช้ได้หมด ยกเว้นไอ้อันที่ใช้กันมาแปด เก้า ปี นี่แหละ ที่มันไม่ยอมตอบสนอง เราก็เลยโทรไปถาม Call Center หรืออะไรที่เค้าให้โทรไปปรึกษาหรือแม้กระทั่งไปเองที่ shop ปรากฎว่า เราได้คำแนะนำดีมากเลย "ซื้อ Aircard ใหม่ดีกว่าค่ะ เผื่อว่าจะใช้ได้กับ Sim ของคุณ" อ้าววววววว zzzzz งง มากๆ เลยกลับมานั่งคิด นอนคิด ซื้อ Simcard เปลี่ยนระบบใหม่ มันคงจะดีกว่าหรือป่าวหว่า? แต่ในที่สุดก็ได้เรียนรู้ถึงสัจธรรมของการบริการด้วยใจจากผู้หญิงคนหนึ่งของ Call Center ของระบบโทรศัพท์รายหนึ่ง...... |
กักตะวัน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ปัจเจกบุคคล Group Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |