:: คู่มือและขั้นตอนการทาสีที่ควรทราบ ::
เพื่อให้สีที่ทาคงสภาพที่ดี ใช้งานได้หลายปี ควรปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักการทาสี ดังนี้
การเตรียมพื้นผิวที่ทา ไม่ว่าจะเป็นผิวปูน ไม้ โลหะ ต้องเตรียมผิวให้แห้ง เรียบ และปราศจากฝุ่น สนิม คราบไขมัน การทาสีนั้น ต้องปฏิบัติตามระบบการทาสีที่ผู้ผลิตแนะนำ เช่น ผนังปูน ต้องทาสีรองพื้นป้องกันด่างเสียก่อนที่จะทาสีทับหน้า เพราะผนังปูนเป็นสารผสมระหว่างทรายกับซีเมนต์ เมื่อรวมกับน้ำจะเกิดเป็นน้ำปูนใสที่มีความเป็นด่างสูงพอที่จะเกิดปฏิกิริยากับผงสีในชั้นสีทับหน้าได้ ทำให้เกิดรอยด่าง สีตกไม่สม่ำเสมอได้ หรือถ้าเป็นผิวเหล็กก็จะต้องทาสีรองพื้นเหล็ก ป้องกันการเกิดสนิมเสียก่อนแล้วจึงทาสีทับหน้า สีคือส่วนสำคัญที่จะเพิ่มความสวยงามให้กับอาคาร บ้าน และที่อยู่อาศัยอื่นๆ แต่ปัญหาที่มักเกิดขึ้นเสมอคือ เมื่อทาสีไประยะหนึ่งสีจะซีดจาง หลุดร่อน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเตรียมพื้นผิวที่ไม่ถูกต้อง การทาสีไม่ครบระบบ การเลือกใช้สีผิดประเภท หรือใช้สีที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อให้การทาสีเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆให้ครบ ดังนี้ ขั้นแรก : การเตรียมผิว เพื่อให้สียึดเกาะกับพื้นผิวปูน ไม้ โลหะได้ดี อีกทั้งยังสวยงามและคงทน ก่อนทาสีทุกครั้งต้องทำความสะอาดพื้นผิวให้เรียบร้อยเสียก่อน โดยขจัดฝุ่น คราบไขมัน สนิม รา ตะไคร่น้ำออกให้หมด พื้นผิวที่จะทาสีต้องแห้งสนิทและอยู่ในสภาพเรียบร้อย สำหรับผิวยิปซั่ม ต้องทำการฉาบเรียบและทิ้งไว้ให้แห้ง ขัดด้วยกระดาษทราย หลังจากนั้นปัดฝุ่นออก ทั้งนี้ในส่วนที่มีงานระบบเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น โคมไฟ ปลั๊ก สวิตซ์ เป็นต้น จะต้องติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและสามารถใช้งานได้ดี หลังจากนั้นจึงทาสีได้ สำหรับผิวไม้ต้องผ่านการอบแห้ง หรือตากจนแห้งสนิท หากผิวมีรอยชำรุด ต้องซ่อมก่อนโดยใช้สีโป๊ว หรือดินสอพองทิ้งไว้ให้แห้งสนิท จากนั้นขัดด้วยกระดาษทรายให้เรียบ ปัดฝุ่นออกให้หมด แล้วจึงทาสีต่อไป ขั้นที่สอง : ทาสีรองพื้น สีรองพื้นคือสีที่ใช้ทาบนผิวชนิดต่างๆ ก่อนทาสีทับหน้า ทำหน้าที่เสริมให้สีทับหน้ายึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี และป้องกันการเกิดปฏิกิริยาระหว่างพื้นผิวกับสีทับหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ พื้นผิวปูน : สีรองพื้นจะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ความเป็นด่างของผนังปูน ทำปฏิกิริยากับสีทับหน้า สีจึงสวย ทนทาน ไม่หลุดล่อนง่าย
พื้นผิวไม้ : สีรองพื้นช่วยป้องกันยางไม้หรือน้ำยารักษาเนื้อไม้ที่เคยทาไว้ ไม่ให้ซึมออกมาผสมกับสีทับหน้า สีจึงไม่เป็นรอยด่าง
พื้นผิวเหล็ก : สีรองพื้นช่วยป้องกันการเกิดสนิม และเสริมการยึดเกาะของสีทับหน้า สีจึงสวยทนนาน ขั้นที่สาม : ทาสีทับหน้า สีทับหน้ามีสีให้เลือกมากมาย โดยทั่วไปมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สีน้ำ และสีน้ำมัน ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันดังนี้
สีน้ำ ( EMULSION ) : ใช้ทาบนพื้นผิวปูน ,เนื้อสีด้าน กึ่งเงา ,แห็งเร็ว ( 20 นาที - 1 ชั่วโมง ) ,กลิ่นไม่แรง ,ตัวทำละลายเป็นน้ำ ,ราคาถูก สีน้ำมัน ( ENAMEL ) : ใช้ทาบนพื้นผิวไม้ ,โลหะ ,เนื้อสีเงามาก ,แห้งช้า ( อย่างน้อย 6 ชั่วโมง ) ,กลิ่นแรง ,ตัวทำละลายเป็นน้ำมัน , ราคาแพงกว่า หรือ ทินเนอร์ นอกจากนี้สีน้ำและสีน้ำมันยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ สีภายใน และสีภายนอก โดยสีที่ใช้ทาภายนอกมีความทนทานต่อทุกสภาพดินฟ้าอากาศ ขณะที่สีภายในจะใช้ภายในอาคารเท่านั้น แต่สีทาภายในจะให้ความเนียน สวย และทำความสะอาดได้ง่าย ดังนั้นจึงควรเลือกใช้สีให้เหมาะกับสถานที่ที่จะใช้งาน การทาสีทับหน้าควรทาอย่างน้อย 2 เที่ยว โดยทิ้งระยะให้สีที่ทาเที่ยวแรกแห้งสนิท แล้วจึงทาทับอีกครั้ง หมายเหตุ : การเลือกใช้สีรองพื้นและสีทับหน้านั้น ควรเลือกใช้สีให้ถูกประเภทของงาน ควรเลือกใช้สีจากผู้ผลิตเดียวกันทั้งระบบ ที่มาจาก //www.konbaan.com ค้นหาทุกเรื่องที่เกี่ยวกับบ้าน
Create Date : 25 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 25 มิถุนายน 2552 11:40:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1620 Pageviews. |
|
|