|
พิศวาสฆาตกรรมกับ...การกินผัก
โอยยยยย ทำไมชื่อเรื่องมันถึงได้ดูโหดนักละเนี่ยยยย นมัสเตค่ะ
คือว่าพักนี้มีแต่คนเอาเรื่องโหดๆมาเล่าให้ฟัง เรื่องแรก น้องสาวมาเล่าให้ฟังว่า ร้านอาหารชื่อดังในห้างแห่งหนึ่ง (ขอปิดไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวของร้าน-จะบ้าเหรอเนี่ย ส่วนตัวอะไรล่ะแค่กลัวเขาฟ้องเอาเท่านั้นเอง) มีคนถูกข่มขืนและฆ่า หมกอยู่ในถังน้ำแข็งของร้านค่ะ แล้วเอาน้ำแข็งกลบ ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วันแล้วน้ำแข็งที่ซื้อมาก็ถูกเททับใหม่ด้านบน จนเด็กเสิร์ฟตักไปโดนเส้นผมเข้า เรื่องจึงเปิดขึ้นมา แต่ว่าร้านได้ใช้อำนาจ ปกปิดสื่อไว้ จึงเป็นเรื่องที่รู้แต่ภายใน โห!!!ดีนะที่ไม่ค่อยกินน้ำแข็งเนี่ย!!
เรื่องถัดมา แม่เล่าให้ฟังเมื่อคืนว่ามีคนถูกฆ่าหมกในถังน้ำคอนโด(รึตึกอาพาร์ตเม้นท์ซักอย่าง) ก็อีกละค่ะ หลายวันผ่านไป ชาวบ้านก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่าน้ำมีกลิ่น แต่ก็ยังคงแปรงฟันอาบน้ำกันตามปกติ จนกระทั่งทนไม่ได้ ถึงได้รู้ว่ามีคนตายอยู่ เท่านั้นเองทั้งตึกก็ย้ายออกไปหมดภายในวันเดียว แหวะะะะะ
นั่นก็แทบไม่ไหวแล้วนะ ดันมีอีกเรื่อง เช้านี้ดันนั่งดูหนังเรื่อง SWEENEY TODD ของ TIM BURTON ที่มี Johnny Depp แสดง เป็นหนังเพลงด้วย ตอนแรกก็นึกว่าโหดธรรมดา แต่เรื่องมีเริ่มจากว่า
มีช่างตัดผมคนหนึ่ง ถูกท่านผู้พิพากษาจับขังอยู่ 15 ปี ฐานที่มีเมียสวยเกินเหตุ ท่านพยายามอ้อนวอนให้เธอแต่งงานกับท่าน แต่เธอก็ไม่ใจอ่อน ท่านจึงล่อลวงเธอมาข่มขืน เธอจึงฆ่าตัวตาย ทิ้งลูกสาวตัวน้อยๆไว้ ท่านผู้พิพากษาได้เอาไปเลี้ยงไว้ ด้วยหวังว่าเธอจะสวยเหมือนแม่และจะได้เคลมเธอซะ (ก็ทำนองเลี้ยงต้อยละวา)
เมื่อเวลาผ่านไป ช่างตัดผมกลับมาพร้อมกับความแค้น และยิ่งแค้นหนักเมื่อพบว่าภรรยาตายเสียแล้ว ช่างตัดผมหัวใจสลาย มีเพียงหญิงสาวเจ้าของร้านขายพายเนื้อเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเป็นใคร และเธอก็หลงรักช่างตัดผมซะด้วย เธอจึงให้เขากลับมาเปิดร้านในห้องว่างบนร้านขายพายเนื้อของเธอ
ขณะที่เขากำลังคิดหาทางแก้แค้น เขาก็เผลอ(บวกตั้งใจ)ฆ่าคนไปในห้องที่เป็นร้านของเขา สาวขายพายขึ้นมาพบเข้า ด้วยรักบังตาและเศรษฐกิจที่ยากเข็น ทำให้ไม่มีปัญญาซื้อเนื้อมาทำพายให้อร่อยได้ เมื่อเห็นดังนั้น เธอจึงคิดว่าไม่ควรปล่อยเนื้อทิ้งเสียปล่าว จึงอาสากำจัดเพื่อประโยชน์ของสองเรา เผื่อว่าเขาจะเห็นในความเป็นหุ้นส่วนและแต่งงานกับเธอ
และแล้วพายรสเลิศสูตรคุณนายมาเองก็สร้างชื่อ ทำรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ แหวะะะะะะกว่าาาาาา ทำกันไปได้ เขาเสนอภาพมาได้โหดถึงใจจริงๆ เสียงหัวที่กะโหลกที่ตกลงมากระแทกพื้นดัง "โพ๊ละ" ทำเอาขวัญผวาทุกครั้งไป
ดีนะที่เริ่มเปลี่ยนไปทานผัก ไม่งั้นคงแหวะไปอีกหลายวัน
จริงๆที่จะบอกในวันนี้เนี่ยเป็นเรื่องที่หมวยหันมาทานผักช่วงเข้าพรรษาค่ะ ทำแบบนี้มาเป็นปี่ที่สี่แล้ว ปีแรกก็ทำไปได้หนึ่งเดือน ตบะแตกเดือนที่สองค่ะ ปี่ที่สอง ก็ผ่านไปอีกเดือนค่ะ แต่เจอเบรกด้วยลูกจึงอนุโลมทานอาหารที่เป็นเนื้อกับลูก อาทิตย์ละหน ปี่ที่แล้ว ก็เป็นว่า ทานเนื้อสัตว์กะลูกเดือนละสองหน ปีนี้กะว่า พยายามไม่ทานเนื้อสัตว์เลยในช่วงสามเดือน จะพยายามค่ะ
แม้ว่าปกติหมวยจะทำตามด้านอายุรเวทเป็นส่วนใหญ่ แต่อันนี้ก็เป็นหนึ่งในการฝึกตนในหนทางของโยคะค่ะ มันคือ ปรัตยาหาร การสำรวมอินทรีย์ทั้งห้า ตา หู จมูก ลิ้น และกายค่ะ
1. ตา การมองเห็นสิ่งต่างๆที่สวยงาม จิตใจจะปรุงแต่งอยากจะได้ ถ้าไม่ได้ก็ทุกข์ และต้องแสวงหา 2. หู เสียงที่ชอบหรือไม่ชอบ ถ้าชอบก็เกิดความสุขใจ ไม่ชอบก็ทุกข์ใจ นำไปสู่ความเดือดร้อน 3.จมูก สูดกลิ่นเหม็นหรือหอม ก็ทุกข์ได้อีกเหมือนกัน 4. ลิ้น ถ้าถูกลิ้นก็ทำให้เราอยากจะแสวงหาอยู่ร่ำไป เราต้องกินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกินค่ะ
5. กาย ที่รับสัมผัส ร้อน เย็น เจ็บปวดต่างๆ
เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดทุกข์ หากเราไม่เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ไม่คงทนถาวร สิ่งที่คงทนถาวรนั้นคือความดีต่างหาก
หมวยเองก็ไม่สามารถทำได้ตลอดเวลาหรอกค่ะ แค่บางครั้งเห็นอาหารที่อยู่ข้างหน้าหรือได้กลิ่น มันก็ทำใจยากเหมือนกัน แต่ก็พยายามต่อไปละกัน
555 Hari Om
Create Date : 21 กรกฎาคม 2551 | | |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2551 19:20:00 น. |
Counter : 1240 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
yahoo!!..my frist yoga teaching after I came back
Namaste
อันนี้เป็นโปสเตอร์ที่ออกแบบไว้จ้าก็เอามาบอกข่าวกัน สำหรับคนที่อยู่แถบสุขุมวิท 49 แร๊กเก็ตคลับ ใกล้ๆกับโรงพยาบาลสมิตเวชนะคะ ก็โทรเข้ามาถามรายละเอียดได้
ตอนนี้หมวยมีคลาสสอน วันเสาร์และอาทิตย์ 10โมงเช้าถึง11 โมงเช้า ที่นั่น แต่เป็นสถานที่สอนเทควันโดนะคะ อันนี้ก็ราคา 2000 บาท ต่อ8ครั้ง ก็หนึ่งเดือนพอดี เป็นHatha Yoga ค่ะ
ส่วนถ้าใครเป็นสมาชิกแร็กเก็ตคลับ ก็สามารถติดต่อมาให้สอนที่คลับได้เช่นกัน ตอนนี้กำลังเซ็ทคลาสอยู่ ไม่ให้ไปตรงกับตารางการใช้ห้องของคลับอยู่ เพราะที่คลับก็จะมีช่วงสอนอยู่เหมือนกัน แต่เป็นคนละสไตล์กัน
หรือจะติดต่อให้ไปสอนที่บ้านรึว่าสอนที่บริษัทก็ได้คะ เรียกว่ามาก่อนด้ก่อนจ้า
วันนี้ก็เอาข่าวมาบอกกันประมาณนี้ก่อนค่ะ หลักๆก็จะสิงอยู่ซอย 49นี่หละ เพราะจะปีนหน้าผาจำลองด้วย อิอิ
แล้วก็หมวยมีโครงการว่าจะทำวีดีโอความรู้สั้นๆแจก แบบว่า... ออนไลน์บนเวปเนี่ยแหละ แต่คงต้องรอสักพัก ตอนนี้กำลังไล่ทำงานให้เสร็จเป็นอย่างๆไปอยู้ นี่ก็ว่าจะอัพรูปขึ้นเวปแต่ละหน้าซะหน่อย แล้วถ้าเรียบร้อยก็จะได้บอกกันต่อไปละกา
Namaste everyone
I just would like you know...now I teach yoga in Bangkok. If you came to visit Thailand and wanna take some classes...you can call me also.
Hari OM
Create Date : 16 มิถุนายน 2551 | | |
Last Update : 21 กรกฎาคม 2551 6:21:30 น. |
Counter : 893 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
โยคีสาวกลับบ้านเกิดแล้วค่า
นมัสเตค่ะทุกคน
กลับมาถึงเมืองไทยเมื่อวันอาทิตย์นี้เองค่ะ หลังจากพักเหนื่อยได้สักพักจึงเข้ามารายงานตัว
เวลาหนึ่งเดือนที่ไม่ได้เขียนเรื่องราวต่างๆ มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นบางส่วนได้ขึ้นไปอยู่บนเวป Youtube แล้วค่ะ สามารถหาดูโดยค้นคำว่า yogapoint นะคะ เป็นวีดีโอที่หมวยถ่ายทำและตัดต่อเองทั้งหมดค่ะ
ตอนแรกก็นึกว่าจะไปเป็นอาสาสมัครธรรมดา ช่วยงานเล็กน้อยๆพร้อมกับศึกษาชีวิตของโยคี และเรียนรู้โยคะให้มากขึ้นด้วย แต่กลับต้องมาช่วยงานที่เป็นงานเดิม แถมไม่ใช่แค่ถ่ายทำ ต้องคิดและตัดต่อด้วย ไอ้ที่ร้างมานานเลยต้องมาขุดค้นอยู่นาน วีดีโอที่ได้อาจจะไม่สมบูรณ์มาก แต่ก็ดีที่สุดเท่าที่เวลาจำกัดจะทำได้แล้วละค่ะ เลยแอบใส่ตัวเองลงในงานด้วย 555
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของความรักและมิตรภาพที่เกิดขึ้นภายใต้ร่มเงาของโยคะ และการที่ทดลองฝึกแบบผิดๆด้วยลำพองใจว่าเป็นครูสอนโยคะนะ ทำเอากระอักออกมาเป็นเลือด แบบว่า...ธาตุไฟกำเริบ(อันนี้ไม่ใช่หนังจีนนะ) เลยต้องนอนซมเป็นอาทิตย์ กินอะไรไม่ได้นอกจากข้าวต้มใส่เนยเป็นอาทิตย์ จนกลายเป็นอาหารโปรดไปซะแล้ว แต่ก็ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เขาสอนมาเป็นจริงทุกประการ และที่ต้องผ่านการแนะนำของคนที่เรียนรู้มานั้นก็ใช่ทุกอย่าง
แล้วจะเอามาเล่าให้ฟังนะคะ
Hari Om
Create Date : 27 พฤษภาคม 2551 | | |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2551 19:21:35 น. |
Counter : 646 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]
|
สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง
ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ
วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย) ที่ Yoga Vidya Gurukul ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549
ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว
ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D
ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร ก็ติดต่อมาได้นะคะ Tel.+66 (0)85 1420201
|
|
|
|
|
|
|