|
โ ย ค า ส น ะ-ปวันมุกตาสนะ ท่าขับลม ง่ายๆแต่มีประโยชน์
สวัสดีค่ะ ได้ฤกษ์เขียนเรื่องอาสนะมาให้อ่านกันสักที
ก่อนอื่นขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามบล็อกและให้กำลังใจนะคะ
ปวันมุกตาสนะ - ท่าขับลม ท่านี้จะช่วยขับลมออกจากลำไส้ใหญ่ ลมในลำไส้เป็นเรื่องปกติหากมีเพียงเล็กน้อย แต่การมีลมในลำไส้มากเกินไปทำให้ขัดขวางการทำงานของลำไส้ ทั้งยังแสดงถึงการย่อยที่ไม่สมบูรณ์ ดื่มน้ำน้อย ลมที่อยู่ในลำไส้ใหญ่เป็นแก๊สมีเทนเจือจาง แสดงถึงการหมักหมมของกากอาหารที่เกิดจากอาการท้องผูกจนเกิดแก๊สขึ้น หากแก๊สเหล่านี้ไม่ถูกขับออกก็มีโอกาสที่จะดูดซึมกลับเข้ากระแสเลือดและไปสะสมยังเซลล์ทั่วร่างกายทำให้เซลล์ผิดปกติและเซลล์นั้นก็มีโอกาสผิดปกติและก่อให้เกิดมะเร็งได้ ท่าขับลมจะช่วยให้ลมในลำไส้เคลื่อนออก รวมถึงทำให้กากอาหารหรืออุจจาระเคลื่อนตัวด้วย
วิธีปฏิบัติ -เริ่มจากท่านอนหงาย -หายใจเข้า ยกขาข้างขวา ขาตรง ไม่งอเข่า ยกขึ้นไปตั้งฉากกับพื้น - หายใจออก พับหัวเข่าขาข้างขวา แล้วใช้มือดึงหัวเข่าให้มาชิดกับอกให้มากที่สุด - ค่อยยกศรีษะขึ้นมา ให้คางจรดเข่า - ค้างในท่าประมาณ 30 วินาที ถึง 1 นาที -ค่อยๆออกจากท่า ด้วยการย้อนกลับวิธีข้างต้น - ทำซ้ำอีกข้างหนึ่ง หมายเหตุ หากมีอาการปวดต้นคอ ก็ให้งดเว้นการยกศรีษะ หากมีปัษหาหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทที่ L4-L5 ให้หาผ้าขนหนูมาทบ รองไว้ และผู้มีปัญหาไส้เลื่อนก็ควรทำด้วยความระมัดระวัง และควรปฏิบัติช้าๆด้วยความผ่อนคลาย ไม่ควรฝืน ควรทำเท่าที่ทำได้ อ้อ!! การทานอาหารที่เหมาะสมและดื่มน้ำให้เพียงพอก็สามารถลดการเกิดแก๊สในลำไส้ได้นะคะ
ในการเรียนรู้แบบโยคะคีตา โดยหลักพื้นฐานที่ยึดเป็นแนวทางนั้นจะเป็นโยคะดั้งเดิมจากโยคะวิทยากูรูคูล เมืองนาสิก แต่ด้วยประสบการณ์ที่เรียนมาหลายคอร์สบวกกับความชอบในแนวทางอายุรเวทและธรรมะ(ชาติ) จึงนำหลักการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเข้ามาผสมผสาน ด้วยแนวคิดที่ว่า ทุกคนมีความเป็นปัจเจก อันขึ้นอยู่กับ ธาตุ อายุ สิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิต ที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ในคอร์สครูโยคะของโยคะคีตาจะต้องมีการศึกษาแบบองค์รวม เพื่อเสริมให้ท่าอาสนะมีการปฏิบัติที่ได้ผลมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ท่าขับลมนี้ นอกจากจะช่วยในการขับลมในลำไส้ทำให้กากอาหารมีการเคลื่อนตัวออกไปเร็วขึ้น นี่คือประโยชน์ของท่า แต่สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้ต่อคือ.... ถ้าปฏิบัติท่าขับลมและเกิดการผายลมออกมาบ่อยครั้งก็แปลว่ามีการคั่งค้างของกากอาหารในลำไส้อยู่มาก และยังหมายถึงการดื่มน้ำที่ไม่เพียงพอ ทำให้อุจจาระแข็ง อาการเหล่านี้มักจะเกิดบ่อยในหน้าหนาวหรือในช่วงอากาศเย็นๆ จะสังเกตุได้จากผิวแห้ง เป็นขุย ฯลฯ ก็ควรจะจิบน้ำให้บ่อยขึ้น และนอกจากนี้คนที่ท้องผูกก็มีแนวโน้มจะปวดหลัง เพราะเวลาที่ต้องเบ่งถ่ายก็จะต้องเกร็งหน้าท้องเข้าไปมากและบ่อยๆ จนกว่าจะถ่ายหมด ทำให้แรงดันที่ถูกสร้างขึ้นจากการเกร็งหน้าท้องดันไปที่กระดูกสันหลังโดยตรง ซึ่งก็มีแนวโน้มทำให้หมอนรองกระดูกถูกดันออกจากแนวไปดันเส้นประสาทด้านหลัง ทำให้เกิดอาการปวดหลัง หากเป็นบ่อยๆ และไม่ได้มีการปรับพฤติกรรมก็อาจทำให้หมอนรองกระดูกไม่กลับเข้าที่ ทำให้ปลิ้นออกมาอย่างถาวร ก็จะเจ็บอย่างถาวร และอาจจะมีอาการของริดสีดวงทวารร่วมด้วย ซึ่งถ้าใครมีริดสีดวงทวารอยู่แล้ว การแบ่งถ่ายอาจทำให้ปุ่มของริดสีดวงปลิ้นออกมาด้านนอก ก็จะนั่งไม่ได้ เพราะจะเจ็บ ดังนั้นคนที่มีลมในลำไส้มากๆ อาจจะเริ่มจากการทานอาหารที่มีกากใยเยอะๆ ดื่มน้ำบ่อยๆให้เพียงพอ และทานอาหารที่ย่อยง่ายค่ะ ทั้งหมดนี้เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของสิ่งที่หมวยวิเคราะห์ให้ฟังได้ (จริงๆจะอธิบายเพิ่มอีกแต่ท่าจะยาวเป็นหน้า -_- ) นี่เป็นเสี้ยวหนึ่งที่จะมีการเรียนการสอนในคอร์สครูโยคะของโยคะคีตาค่ะ ดังนั้นอาสนะที่สอนที่โยคะคีตาจึงเป็นอะไรที่มากกว่าที่คุณคิด ดังนั้นการเรียนจึงจะยึดหลักตามแนวโยคะดั้งเดิม เพื่อให้เข้าใจหลักของท่าอาสนะอย่างแท้จริงซะก่อน จากนั้นจึงเป็นการนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับนักเรียนหรือกลุ่มของนักเรียน ซึ่งมีทั้งท่าอาสนะที่เหมาะกับฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว มีทั้งการหยุดนิ่งและการเคลื่อนไหว ซึ่งครูจะต้องวิเคราะห์ได้ว่าควรสอนอะไร ก็เป็นฉะนี้แล.... ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นการสอนโยคะในแบบองค์รวมก็ได้ค่ะ หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถโทรมาสอบถามกันได้นะคะ ที่ 085-1420201 หรือ yogagitabangkok@gmail.com หริโอมตัสสัส -/|-
Create Date : 15 มกราคม 2556 |
Last Update : 15 มกราคม 2556 16:12:25 น. |
|
1 comments
|
Counter : 4719 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]
|
สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง
ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ
วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย) ที่ Yoga Vidya Gurukul ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549
ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว
ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D
ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร ก็ติดต่อมาได้นะคะ Tel.+66 (0)85 1420201
|
|
|
|
|
|
|