โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 
๑ กุมภาพันธ์ ๕๒ รูปถ่ายบนเขาของเพื่อนๆ กับอาหารเย็นนานาชาติ

๑ กุมภาพันธ์ ๕๒

วันนี้ก็ตื่นแต่เช้าเช่นเคยเพื่อไปฝึกส่วนตัวก่อนมีคลาสปราณยามะกับมุทรา มิสเตอร์ชามาเตือนว่าให้เก็บเทปที่บันทึกไว้เอาไว้ฝึกกับตัวเท่านั้นเพราะว่าถ้าเอาไปเผยแพร่และถูกฝึกโดยไม่เข้าใจมันจะทำให้อันตรายมาก จากนั้นฉันนึกว่าจะมีใครมาฝึกวาสตราเดาติก็เลยต้มน้ำไว้ แต่ว่าไม่มีใครมาฉันเลยคิดว่าจะเอาน้ำนั้นไปทำเนติแทน พอฉันเดินขึ้นไปที่โถงเพื่อเก็บของ เฮเลนก็บอกว่าเพื่อนๆบางคนกำลังจะไปถ่ายรูปอาสนะด้านบนเขา ฉันจึงรีบตามไปก็พอดีทันกับเจนนี่และอิงค์วิลพอดี
เรายืนรอซาร่าเพราะเธอจะเป็นคนถ่ายภาพอาสนะในคลาสขั้นสูง พวกเขาเลือกท่าที่คิดว่าตัวเองทำได้ดีออกมา ฉันรู้สึกว่าฉันควรจะฝึกเพิ่มขึ้นอีกเพราะหน้าท้องและหลังยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ หลังจากเสร็จการถ่ายภาพ เราก็ทยอยกันลงมา



หลังจากคลาสแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรทำนอกจากเก็บเลคเชอร์ที่เหลือ หลายคนคิดว่ามันเสียเวลาและอยากเที่ยวมากกว่าก็พากันออกเดินทางไปแล้ว แต่ฉันคิดว่ามันสำคัญเสมอ แต่กานดาเห็นหลายคนเริ่มล้มตัวลงนอนจึงได้บอกว่าเขาจะไม่บรรยายจนกว่าพวกเราจะแน่ใจว่าทุกคนจะตั้งใจฟังด้วยพลังงานที่เต็มที่ และเขาไม่ชอบให้มีการนอนขณะที่บรรยาย ตอนแรกเราต้องการจะฟังต่อ แต่เขาบอกว่าให้ตกลงกันว่าจะทำอะไรเมื่อไหร่ และพร้อมเมื่อไหร่ เมื่อทุกคนพร้อมเขาก็จะมา
ฉันเขาไปหัดทำจะปาตีหวานตอนกลางวัน ตอนแรกคิดว่าจะยาก แต่ก็ไม่ยากเท่าไหร่แต่ต้องทบทวนสูตรอีกทีก่อนจะได้เอาไปทำให้น้องเฌอกินเผื่อจะทำให้อยากอาหารมากขึ้น
ตอนบ่ายสามเราก็ได้ฟังเลคเชอร์กุณฑาลินีอีกครั้ง ตอนจบกานดาบอกว่าพวกเรานั้นฟังมาเยอะแล้วสมควรที่จะเริ่มหาความรู้และฝึกฝนด้วยตัวเอง ไม่ใช่มีความรู้แต่ไม่ฝึก จากนั้นฉันก็รีบวิ่งไปที่ครัวเพื่อทำอาหารไทย ต้มยำและลาบโปรตีนเกษตร ซึ่งก็ได้อนันต์ช่วยชิมด้วยทำให้อาหารดูดีขึ้น เพราะลิ้นฉันพิการนั้นพิการเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าฉันจะเสียเวลาในการทำอาหารมากเลย ทำให้เราไม่มีการเรียนอาสนะ แต่อิงค์วิลเห็นว่าฉันไม่ควรที่จะกดดันตัวเองให้ต้องสอน ควรจะผ่อนคลายและดูตามเวลาที่เหมาะสม ระหว่างที่ทำอาหารฉันเหลือบไปเห็นเคตจึงเข้าไปทักเธอ เธอดูแปลกใจเล็กน้อย เรายังไม่มีเวลาคุยกันมากนักเพราะฉันต้องการทำให้ทุกอย่างเสร็จก่อนที่ทุกคนจะพากันมาใช้เตา ซึ่งฉันจะไม่เสียเวลามาหั่นผักก่อนแล้วค่อยต้มน้ำหรอก ฉันก็ทำมันพร้อมๆกันนะแหละเลยเสร็จก่อนคนอื่น มีเวลาไปเดินพักฉันจึงเดินไปที่ร้านค้าและคุยกับเคตแทนเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องโยคะและอื่นๆ เราเห็นตรงกันว่าการได้มาที่อาศรมนั้นทำให้เราระลึกถึงพื้นฐานของโยคะได้ตลอด ฉันจึงมีความคิดว่าจะมาที่นี่ทุกปีถ้าเป็นไปได้
พอฉันได้ยินเสียงกระดิ่งดังขึ้นก็รีบกระเด้งไปที่ห้องอาหารทันที ฉันไปถึงเป็นคนแรกๆ และแม้ว่าฉันพยายามตักอาหารอย่างละนิด แต่ชนิดของอาหารที่มีมากเกินกว่าสิบอย่างนั้นก็ทำให้ปริมาณน้อยๆรวมกันเป็นมากๆได้ บางอย่างฉันก็ต้องแชร์กันคนอื่นๆแม้ว่าจะตักมาน้อยแล้วก็ตาม ขอบอกเลยว่าไม่ไหวแล้ว ..เยอะมาก มันช่างเป็นมื้ออาหารที่มีความสุขมาก ระหว่างนั้นเราก็มีการขอบคุณผู้ที่ทำอาหารแต่ละจานในวันนี้


หลังทานอาหารฉันก็นึกว่าจะมีโชว์ แต่เนื่องจากมันดึกแล้วจึงต้องยกเลิกไปเป็นพรุ่งนี้ แต่คลาสขั้นสูงนั้นมีการมอบประกาศกันเพราะบางคนจะออกเดินทางตอนเช้ามืดพรุ่งนี้แล้ว ฉันรู้สึกดีแม้ว่าเราจะไม่ได้มีคนที่สำคัญจากมหาวิทยาลัยมนเมืองมามอบให้แต่ว่าใครจะมาสำคัญกับเราเท่ามิสเตอร์ชามาและมิสเตอร์ชามาผู้อยู้กับเราตลอกทั้งเดือนไปได้ เขาคนเดียวที่ให้พวกเรามากเหลือเกิน แม้ในวันสุดท้ายก็ยังมีการทำเลคเชอร์ท่าอาสนะมาให้อีก
หลังจากนั้นพวกนักเรียนTTCก็มีโชว์เล็กๆกัน และมีการร้องเพลงให้มิสซิสชามาด้วย รู้สึกใจหายจังที่ทุกคนนั้นกำลังแยกย้ายไป แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราไม่สามารถปฏิเสธมันได้ เมื่อมีพบก็มีพราก แต่เราก็อยู่บนโลกในนี้ไม่ใช่หรือ สักวันเราคงจะพบกันที่โมกษะพร้อมกับความสุขในนิรันดร์นั้น




Hari Om



Create Date : 10 มีนาคม 2552
Last Update : 10 มีนาคม 2552 12:44:24 น. 0 comments
Counter : 573 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.