ดู ดม อม กลืน
Group Blog
 
All Blogs
 

ตอน 4 ให้แต้มไวน์

...ตอนที่แล้วชวนให้ลองจดบันทึกไวน์ที่ชิม...เพื่อนฝูงบ่นมาว่าไม่ง่ายอย่างที่บอกเลย...เขียนบรรยายตามจินตนาการมันประดักประเดิดชอบกล....กว่าจะเสร็จสักประโยค จินตนาการมันลอยหายไปแล้ว....เสียเวลา เสียสมาธิ ที่จดจ่อกับไวน์อีกต่างหาก....ยากเหมือนข้อสอบอัตนัย...แบบปรนัยไม่มีหรือ....ต้องคอยปลอบว่า...ฝึกไปเถอะ ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็คล่องปรื๋อ...แรก ๆ ก็ช้าตอนจินตนาการว่าคล้ายอะไร...ไม่นานมันจะออกมาเองจนจดแทบไม่ทันเลยแหละ...

...บอกเพื่อนไปว่า จะเอาแบบปรนัยก่อนก็ได้นะ...มีข้อแม้ว่าถ้าปรนัยคล่องแล้วต้องทำอัตนัยด้วยจึงจะครบเครื่องเรื่องชิมไวน์...คำตอบคือ..ได้เลย..แล้วไงต่อ...

...เอาอย่างนี้...แม้จะแบบง่าย ๆ...แต่ก่อนดื่มก็ต้องหากระดาษมาจดอยู่ดี...ไวน์ที่ดื่มชื่ออะไร มาจากไหน องุ่นอะไร ปีไหน...จะได้เอาไปเทียบกันทีหลัง...ส่วนวันดื่ม สถานที่ เพื่อนร่วมวง หรือราคา ที่ผมแนะให้จดตอนที่แล้ว...ถ้าขี้เกียจ ไม่ต้องก็ได้...คราวนี้ไม่เน้นจินตนาการ....แต่ใช้วิธีฟันธง

จดรายละเอียดเสร็จ...ก็ ดู ดม อม กลืน เลยตามถนัด...แล้วให้คะแนนโป้งทันทีว่าเท่าไหร่จากเต็มร้อย...เป็นอันเสร็จพิธี...แค่นี้แหละ....ไวน์ตัวต่อไปก็ทำเหมือนกัน...แผล็บเดียว ไวน์สิบตัวผ่านไปไม่รู้ตัว

...ดูเหมือนง่ายนะ....แต่จริงแล้วไม่ง่ายอย่างนั้น....เพราะหัวใจการให้คะแนนอยู่ที่ทำยังไงจึงจะมีมาตรฐานการให้อย่างสม่ำเสมอ...ต้องยึดอะไรสักอย่างเป็นบรรทัดฐาน...ขอบอกว่า...ต้องจากความพอใจของเราเป็นหลักครับ...

...บางครั้ง คนดื่มไวน์หรือที่ติดตามเรื่องไวน์มาพอสมควร...จะถูกอิทธิพลของยี่ห้อไวน์หรือราคาครอบงำตั้งแต่ยังไม่ทันดื่ม....เช่นกำลังดื่มมูตอง แต่ไม่ชอบ...จะให้ต่ำกว่า 80 ก็ถูกศักดิ์ศรีของมูตองข่ม....หรือดื่มไวน์ขวดละ 300 บาท ถูกใจเป็นที่สุด จะให้คะแนน 97 ก็เกรงว่าเว่อร์ไป... ทำให้การให้คะแนน ไม่ออกมาจากความพอใจจริง ๆ

สถาบันและเซียนไวน์ระดับโลกมีการกำหนดวิธีให้คะแนนในกรอบที่ต่างกัน...บางเจ้าคะแนนเต็ม 20 บางเจ้าเต็ม 100 บางเจ้าให้เป็นดาวไม่เกิน 5...การให้น้ำหนักต่อคุณลักษณะไวน์ของแต่ละเจ้าก็ต่างกัน...ถ้าตามเรื่องไวน์จากหนังสือหรืออินเตอร์เน็ต จะเห็นความต่างนี้

...ส่วนแบบของผม...ตอนหัดใหม่ ๆ นึกถึงตอนเป็นนักเรียน...สอบเสร็จลุ้นผลว่าได้กี่เปอร์เซ็นต์...คนได้ที่หนึ่งของโรงเรียนจะได้เกือบร้อย...ที่พอไปไหว ไม่ถึงกับตกก็แถว ๆ 60 - 70 (เดี๋ยวนี้เขาให้เป็นเกรดกันแล้ว คนโบราณจึงจะนึกออก)

....ให้คะแนนไวน์ก็เหมือนกัน...เลวสุดไม่น่าจะต่ำกว่า 50....ถ้าต่ำกว่าต้องเป็นไวน์เสียดื่มไม่ได้แล้ว...ตัวไหนชอบใจพอควรก็อยู่แถว 80 - 90 เหมือนเพื่อนที่เรียนดี...ตัวไหนชอบมากเหมือนเพื่อนที่เราชื่นชมว่าเก่งก็ให้ 90 ขึ้น...ถ้าสุดยอดจริง ๆ คิดว่าไม่น่าจะมีอีกแล้ว...ให้เต็ม 100 ไปเลย

...ในก๊วนผม...ใครให้คะแนนสูงมาก จะโดนแซวว่า...ถ้าเจอที่ดีกว่านี้แล้วไม่ต้องให้เกินร้อยหรือ...ผมเองตั้งแต่ดื่มไวน์มาเสียท่าหลงรักให้เต็มร้อยไปแล้ว 2 ตัว...ขณะที่เพื่อนผม ยังไม่มีใครให้เต็มร้อยเกิน 5 ตัวเลย

หมายเหตุ: เรื่องนี้เล่ามาสิบปีแล้ว...ที่ผ่านมา ผมให้เต็มร้อยเพิ่มอีกหลายตัว แต่รวมแล้วยังไม่ถึงสองหลักอยู่ดี...




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2549 16:06:42 น.
Counter : 439 Pageviews.  

ตอน 3 ชิมแล้วจด

...เคยรู้สึกไหม...บางครั้งไวน์ที่กำลังดื่มมันคุ้น ๆ คล้ายเคยดื่มมาก่อน...แต่นึกไม่ออกว่าดื่มที่ไหนและเป็นไวน์อะไร...ที่แน่ ๆ คือไม่ใช่ตัวเดียวกัน...บางทีจำได้ว่ากลิ่นและรสมันแถว ๆ นี้...แต่ให้พูดก็พูดไม่ถูก

...คนที่เคยดื่มไวน์กว่าร้อยตัวขึ้น...ลองไล่ดูสิ...ว่ามีไวน์อะไรบ้าง จำกลิ่นและรสแต่ละตัวได้ไหม...เชื่อว่านึกได้ไม่ถึงครึ่ง...ยิ่งพวกอายุเกินสี่สิบ...ลืมไปได้เลย

...จึงเชิญชวนให้มาลองจดบันทึกความทรงจำของไวน์ที่ดื่มกัน...เอาไว้มาเทียบเคียงกันในภายหลัง...ถ้ามีเวลาว่าง จะเอามาอ่านแล้วจินตนาการถึงไวน์ที่เคยดื่ม...ก็ไม่ผิดกติกาอันใด

...เริ่มง่าย ๆ ด้วยการจดยี่ห้อไวน์ แหล่งผลิต ผู้ผลิต พันธุ์องุ่น และปีที่ผลิต...อ้อ..อย่าลืมวันที่ดื่ม สถานที่และเพื่อนร่วมวงด้วยนะครับ เมื่อดื่มแล้ว...ก็จดว่าไวน์ที่ดื่มเป็นอย่างไรทั้ง สี กลิ่น รส...นึกถึงอะไรก็เขียนไปอย่างนั้น....อย่าไปเรียนแบบคนอื่น...เพราะประสาทความรู้สึกและประสบการณ์รับรู้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

...ยกผมเป็นตัวอย่าง อ่านและฟังเรื่องกลิ่นแบล้คเคอร์แรนบ่อยมาก ความที่ไม่ใช่นักเรียนนอก...จินตนาการยังไงก็นึกไม่ออก เพื่อนบอกเป็นผลไม้ดำเข้มลูกเล็ก...ผมก็นึกได้แค่ลูกหว้าสุก ถึงบางอ้อตอนได้ไปเมืองนอก...หาน้ำแบล้คเคอร์แรนมาดื่ม...จึงรู้ว่าเป็นไอ้กลิ่นนี่เอง...ตอนที่พวกคุยกันว่าไวน์นี้มันพลัมมี่นะ ผมได้แต่กลิ่นบ๊วยแห้ง...เคยกินพลัมสดที่ไหน....บ้านเราหายากจะตาย

...จะดื่มไวน์ให้สมราคา...สมกับความเพียรในการปรุงไวน์ของผู้ผลิต...ไม่ใช่สักแต่เทเข้าปาก...กลืนลงท้อง...แล้วบอกแค่ว่าอร่อยดีนะ....ถ้าจะให้คุ้มค่า...ต้องดูดซึมลักษณะเฉพาะของไวน์แต่ละตัวในตอน ดู ดม อม กลืน ให้ครบถ้วน...แล้วเทียบว่าเหมือนกับอะไรในประสบการณ์ของเรา...ไวน์ดี จะมีความซับซ้อนมาก...ยิ่งจินตนาการได้ลึก

จินตนาการในไวน์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน...อย่างเซียนวิโรจน์แห่งไวน์คู่เอก เวลาชิมได้ที่...จะออกทางดาราอินเตอร์ เช่น มันมาตรง ๆ ไม่เสแสร้ง มีพลัง ไม่สวยแต่มีเสน่ห์อย่างแรงแบบ แซนดร้า บุลล้อก....ส่วนอาจารย์กมลศักดิ์ที่กำลังคร่ำเคร่งกับไวน์อิตาลี...ขานี้ออกแนวดาราไทย...กลิ่นเหมือนผ้าซิ่นนังทองกวาวอะไรอย่างนี้...บางทีแถมโคลงกลอนโบราณมาอีกต่างหาก

...บางคนหนักไปทางพืชผัก ผลไม้ ใบไม้ ดอกไม้ ดอกใหญ่ดอกเล็ก สีขาว สีเขียว สีแดง สดบ้างแห้งบ้าง...บางคนถนัดไปทางของใกล้ตัว กลิ่นหนังรองเท้าบัลลี่ใช้แล้วสองเดือน ไหน้ำปลา อานม้าเก่า ซีอิ๊ว ฟางแห้ง ฟางสด น้ำครำ ท้องร่อง แป้งเด็ก ไส้ดินสอ แป๊ะฮวยอิ๊ว..ก็ยังมี

...บางคนเน้นบรรยากาศ...สดชื่นเหมือนยามเช้าหน้าหนาวในเชียงใหม่...ก็ไม่รู้ต่างกับที่อื่นตรงไหน...หรือ...หนัก อึดอัด อึมครึมเหมือนอาทิตย์กำลังตกดิน...ส่วน ดร.ไพศาลเพื่อนผมเจ้าของวลี "เลเยอร์อัพออนเลเยอร์" ตอนจดต้องอังกฤษล้วน...ค่าที่แกไปโตเมืองนอกเพิ่งกลับมาไม่นาน...เวลาถูกแซวจะแก้ตัวว่าอยากเขียนเป็นไทยเหมือนกัน แต่นึกไม่ทันว่ะ...

...ลองดูสิครับ...ไม่ต้องเขิน ไม่ต้องอาย...บันทึกนี้เราเก็บไว้คนเดียว...คนอื่นไม่เกี่ยว...จะผิดจะถูกยังไงก็เรื่องของฉัน...แต่สิ่งที่ได้แน่ ๆ คือช่วยกระตุ้นให้เรานึกถึงเวลาที่ได้ดื่มไวน์ตัวนั้น ๆ ในภายหลัง...เชื่อไหมครับ...บางทีแค่เอาบันทึกมาดู...ความทรงจำดี ๆ ก็จะไหลกลับมาเหมือนกำลังดื่มไวน์ตัวนั้นอยู่เลยทีเดียว....

"เอ้า...เตรียมสมุดดินสอ...พร้อม"




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 28 พฤษภาคม 2549 18:15:30 น.
Counter : 319 Pageviews.  

ตอน 2 ก๊วนไวน์

...สมชาย เทสติ้งมูตองที่โอเรียนเต็ล 29 นี้ก๊วนเราไปเปล่า ถ้าไปจองให้ผมที่ด้วยนะ...หรือไม่ก็...เฮ้ย สมศักดิ์ ก๊วนเราเวอร์ติเคิลโดมินุสพฤหัสหน้ากันไหม...อะไรทำนองนี้

ถ้าได้ยินสำนวนแปลก ๆ เหมือนส่งโค้ดลับอะไรกันดังว่า ก็ให้รู้เลยว่าคนดื่มไวน์ประเภทงมงายกลุ่มหนึ่งกำลังนัดแนะจะทำอะไรมัน ๆ กันอีกแล้ว

คำว่า "ก๊วนเรา" ซึ่งใช้เป็นสรรพนามแทนคำว่าพวกเรา ให้ความรู้สึกหนักแน่นและเน้น ๆ มากกว่า....

"ก๊วน" ไม่ใช่คำใหม่ เขาใช้มาตั้งนมนานกาเลแล้ว พวกเล่นกอล์ฟใช้กันมากเรียกว่า "ก๊วนกอล์ฟ" ไม่เคยเห็นใครเรียกว่า "กลุ่มคนเล่นกอล์ฟ" เลย พวกดื่มเหล้ากันประจำก็เรียกพวกเดียวกันว่า "ก๊วนเหล้า" อย่างนี้เป็นต้น

ครับ...ผมกำลังจะพูดถึง "ก๊วนไวน์" ซึ่งความหมายไม่ต่างจากก๊วนประเภทอื่นเลย เป็นการรวมตัวของคนรสนิยมเดียวกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อทำอะไรด้วยกันและบ่อย ๆ อีกต่างหาก

คนที่ไม่เคยจอยก๊วนอะไรเลย คงไม่รู้ว่าจะได้อะไรจากก๊วน ส่วนคนมีก๊วนเป็นต้องร้องอ๋อ...ยิ่งพวกก๊วนกอล์ฟประจำ จะรู้กันดีว่า นอกจากตีกอล์ฟให้ครบ 18 หลุมแล้ว...ก่อน...หลัง...และระหว่างการเล่น ความมันอยู่ที่ได้ต่อรอง ใส่ไข่ เยาะเย้ย ถากถาง บลั๊ฟกันเป็นที่ครึกครื้น ต่างจากการเดินดุ่ยเล่นกอล์ฟคนเดียวเป็นหนังคนละเรื่อง

ก๊วนไวน์...ก็เหมือนกัน ความมันไม่อยู่แค่ได้ดื่มไวน์ การวิจารณ์ไวน์ที่เพิ่งดื่มไป แลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ ยิ่งถ้าใครได้ข้อมูลใหม่ที่พรรคพวกไม่รู้...เป็นได้โม้อร่อย...มันเป็นอย่างนี้...จึงทำให้แต่ละคนทำการบ้าน ค้นคว้าหาข้อมูลมาประชันกันตอนเข้าก๊วน ไม่งั้น...ได้เฉาปาก นั่งตาปริบ ๆ ฟังแต่คนอื่นเขาว่ากัน

ก๊วนประเภทบ้าไวน์เก่า ผลิตน้อย หรือไวน์ประหลาด จะช่วยกันเสาะหามาลองลิ้มชิมกัน ใครได้ตัวดีมาก่อน...ก็เอาเข้าก๊วนทำพิธีชำแหละ ถ้าขวดไหนเข้าท่า...คนเอามาก็ยืดได้ตลอดงาน

บางก๊วน...ถ้าได้ข่าวว่ามีไวน์เทสติ้งที่ไหนเด็ด...เป็นได้ยกก๊วนเฮโลไปสร้างความครึกครื้น บางทีถึงขั้นข้ามน้ำข้ามทะเลไปตะลุยถึงแหล่งผลิตกันเลย

คนที่อยากรู้เรื่องไวน์อย่างกว้าง ตั้งเป้าจะลิ้มชิมไวน์ให้ได้มาก ๆ ชนิด...ขอแนะนำให้หาก๊วนไวน์อย่างเร่งด่วน เพราะดื่มคนเดียวได้แค่ครั้งละขวดก็เมาแล้ว...หรืออย่างเก่งไม่เกินสอง จะให้ได้ตามเป้า...ไม่รู้เวลาที่เหลือในชีวิตจะพอหรือเปล่า แต่ถ้าเข้าก๊วนไวน์...เอามาคนละขวดสองขวด...กว่าจะเมาก็ได้สิบตัวขึ้น...

สิ่งสำคัญที่สุดของก๊วนไวน์...อยู่ที่คนในก๊วนต้องมีใจตรงกัน..บ้าไวน์ในระดับใกล้เคียงกัน....รสนิยมทางเดียวกัน...เรียกว่าไปไหนไปกันไม่ฝืนใจ

เวลาพวกก๊วนไวน์เขาเจอกัน...เขาไม่เอาเรื่องงานเรื่องธุรกิจมาคุย...เพราะจะทำให้ไวน์มีรสเปรี้ยว จะคุยกันก็แต่เรื่องไวน์นั่นแหละ....มีเรื่องอาหารมาเสริมบ้าง ระยะหลังเห็นบางก๊วนเอาซิการ์มาปน...อย่างนี้บางก๊วนเขารับไม่ได้เพราะกลิ่นซิการ์ไปกลบกลิ่นไวน์หมด

มีคำถามที่ตอบยาก...รู้ว่าต้องมีก๊วนไวน์...แต่จะไปหาได้จากไหนกัน...อันนี้มันแล้วแต่บุญกรรมปางก่อนของแต่ละคน...นานแค่ไหนจึงจะได้ก๊วนถูกใจ

ก๊วนผมนี่..ไม่เคยรู้จักกันมาเลย เจอในงานเทสติ้งนี่แหละ...เจอหลายครั้งจนคุ้น...ก็หันหน้ามาคุยภาษาไวน์กัน...เออ...คิดเหมือนกันแฮะ...เลยว่ากันยาว...นัดทำเทสติ้งกันเองยิ่งมันกันใหญ่...บ่อยเข้าถึงขั้นยกก๊วนไปชิมไวน์ลูบต้นองุ่นถึงบอร์โดซ์กันเลย...

...แล้วคุณละครับ "วันนี้มีก๊วนไวน์แล้วหรือยัง"




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 28 พฤษภาคม 2549 2:07:34 น.
Counter : 389 Pageviews.  

ตอน 1 คนดื่มไวน์

เริ่มตอนที่หนึ่งด้วยเรื่อง "คนดื่มไวน์" ดูแล้วเชยนะ...แต่เคยสังเกตไหมว่าจริง ๆ แล้วประชากรคนดื่มไวน์มีหลายประเภท ต่างมีปรัชญาและจุดมุ่งหมายไม่เหมือนกัน จะยกตัวอย่างให้ดู แล้วลองเทียบกับตัวเองหรือคนใกล้ตัวว่าเข้าข่ายหรือเปล่า

พวกแรก พวก "อะไรก็ได้" คืออะไรก็ได้จริง ๆ ขอให้เป็นน้ำองุ่นมีแอลกอฮอล์เป็นพอ ดื่มได้ทั้งนั้น ไม่พิถีพิถันร่ำไรถึงที่มา เทือกเขาเหล่ากอ อายุอานาม บางคนชื่อยังไม่สนด้วยซ้ำเพราะจำยาก ขอฉลากสวย ขวดแบบมาตรฐาน ราคาระดับทำใจได้ก็เข้าล็อคแล้ว วงไหนเปิดไวน์ต้องขอเอี่ยวด้วยเสมอ ถือไวน์เป็นแอลกอฮอลชนิดหนึ่ง ดื่มเอามัน เฮฮาสนุกสนานบันเทิง

พวกที่สอง ประเภท "วันนี้คุณดื่มนมแล้วหรือยัง" พวกนี้ดี่มเป็นประจำทุกวัน วันละแก้วสองแก้ว ถือไวน์เป็นยา เชื่อว่าทำให้เจริญอาหารและลดไขมันในเส้นเลือด จะเลือกไวน์ที่ถูกปากตัวเองและมีเก็บไว้มากพอไม่ให้ขาดมือ ราคาขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของแต่ละคน จะได้ไวน์ตัวใหม่ก็จากพวกคอเดียวกันแนะนำ หรือร้านเจ้าประจำชวนให้ชิม

พวกที่สาม ประเภทเจอกันแล้วต้อง "ผมได้มูตอง'45 มาจากร้านเล็ก ๆ ที่ฮ่องกง โชคดีเป็นบ้าเลย" หรือ "คุณมี เลอแปง'95 ไหม ผมกำลังเจาะทางโควต้าสิงคโปร์" พวกนี้ต้องมีฐานะ ถือไวน์เป็นของมีค่าเอาไว้สะสมเหมือนของเก่า ยิ่งไวน์เก่าหรือผลิตน้อย หายาก ราคาแพงหูฉี่ นั่นแหละต้องมีให้ได้ จะดูแลเก็บไวน์อย่างประณีตพิถีพิถันดั่งแก้วตาดวงใจ ถ้าได้อวดคนอื่นจะยืดสุด ถ้าในพวกเดียวกันจะเกทับบลั๊ฟแหลกถึงไวน์ในกรุของตัว เป็นความสุขนะนั่น แต่ละคนมีวิธีหาไวน์เข้าเซลล่าร์ได้อย่างสลับซับซ้อนไม่ซ้ำกัน

พวกที่สี่ ประเภท เวอร์ติเคิล พิชอง ลาลอง 5 ปียังไม่ถึงแก้วสุดท้ายเลย ก็ "เฮ้ย คราวต่อไปเอาพวกตัวใหญ่ชีราชออสเตรเลียชนกับโรนเหนือไหม" พวกนี้ผมว่ามีกรรมนะ ไม่ถือไวน์เป็นเครื่องดื่มแต่เป็นศิลปวิทยาการ หนังจีนกำลังภายในเขาเรียกว่าพวกชาวยุทธที่อุทิศตนให้แก่มรรคาวิชาบู๊ไปแล้ว ชอบหาเคล็ดวิชาใหม่ ๆ มาเสริมวิทยายุทธ หนังสือไวน์กี่เล่มกี่เล่มมีหมด รู้จักไวน์แต่ละตัวอย่างลึกซึ้ง ไปสืบเสาะโคตรเหง้ามาหมดว่าทำจากองุ่นอะไร ใครทำ ทำเมื่อไหร่ ทำอย่างไร ทำมากไหม และอะไรอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะรู้ว่าองุ่นแต่ละพวงที่เอามาทำไวน์แต่ละขวดมีขนาดเล็กใหญ่ต่างกันอย่างไร พวกนี้ชอบถกเถียงในหมู่ชาวยุทธด้วยกัน ถ้าคุยถูกคอว่ากันได้ทั้งวันทั้งคืน ดื่มไวน์แต่ละครั้งมีความหมายเหมือนการประลองยุทธ ต้องมีรูปแบบ ขั้นตอน วิธีการ ต้องจดบันทึก ให้คะแนน ทำสถิติ ชอบจับไวน์มาชกกันทั้ง Horizontal บ้าง Vertical บ้าง Blind บ้าง บางทีก็ยกไวน์สองพวกมาลุยกัน อย่างนี้เป็นต้น ดื่มเสร็จจะวิพากษ์วิจารณ์หาจุดอ่อนจุดแข็งของไวน์แต่ละตัวอย่างละเอียด โอ๊ย...อะไรจะยุ่งยากปานนี้ ถึงว่า...ก็เป็นพวกมีกรรมไง...จะรวมตัวทำกิจกรรมเป็นกลุ่มเรียกว่า ก๊วนไวน์ ไม่ชอบดื่มไวน์คนเดียวเพราะเหมือนออกรอบตีกอล์ฟคนเดียวนั่นแหละ จะหาความมันได้ที่ไหน...

พวกที่ห้า ไม่พูดไม่จาเรื่องไวน์เท่าไหร่ เว้นแต่ต้องพูดตอนปฏิบัติหน้าที่ พวกนี้เรียกว่า "มืออาชีพ" นี่แหละครับเซียนไวน์ตัวจริง เพราะมีอาชีพเกี่ยวกับไวน์โดยตรง ขืนไม่เป็นเซียนก็ตกงานสิครับ ความรู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับไวน์ไม่ต้องพูดถึง ครบเครื่อง สอนคนอื่นได้ด้วย เช่น พวกซอมเมอริเยร์ พวกพ่อค้าไวน์ (แม่ค้าด้วย) คนทำหนังสือไวน์ เป็นต้น พวกนี้จะมีใจรักพิศวาสไวน์แค่ไหน ตอบไม่ได้ แต่ที่แน่ ๆ คือต้องคลุกกับไวน์ทุกวัน ทั้ง ชิม ดื่ม หาข้อมูลเรื่องไวน์และคนดื่มตลอดเวลา

และพวกสุดท้ายคือพวก "มือใหม่หัดขับ" พวกนี้ให้คำจำกัดความง่าย เป็นพวกที่เพิ่งดื่มไวน์ได้ไม่นาน มาจากพวกดื่มเหล้าดื่มเบียร์มาก่อน พวกไม่เคยแตะแอลกอฮอล์เลยก็มี พวกตามชาวบ้านเพราะเห็นคนอื่นดื่มกันมากก็ใช่ พวกนี้จะใช้เวลาสักพักเพื่อบ่มเพาะพัฒนาให้เป็นพวกใดพวกหนึ่งข้างต้น หรือไม่ก็เลิกดื่มไวน์ไปเลย

...เห็นไหมครับ....ประชากรคนดื่มไวน์ก็มีห้าร้อยจำพวกเหมือนกัน.....แล้วคุณละครับเป็นพวกไหน....เล่าให้ฟังหน่อยสิ




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 28 พฤษภาคม 2549 8:16:06 น.
Counter : 478 Pageviews.  


ปีบ เมืองกาญจน์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ปีบ เมืองกาญจน์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.