เราอาจจะฉลาดในโลกของเราก็เป็นได้นะเออ

เรื่องตลกก็คือ

เรื่องลำบากของการเขียนบทความคือ บางทีเราก็ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการใช้ชีวิต บางทีเราก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตอย่างไร อย่างอยู่ดีมีสุข สงบ เรียบง่าย สมถะ ครั้นแล้วก็รู้สึกเบื่อขึ้นมาอีก
พ่อเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง ชายในงานเลี้ยงแต่งงานที่พ่อบังเอิญพบ เล่าว่าหลังเกรีษณได้ทำงานขสมก. ผมก็รับว่า ดีนะ ทำงานขนส่งมวลชนอะไรสักอย่างนี่ เพราะผมไม่รู้ว่าทั้งหมดมันย่อมาจากอะไร พ่อเล่าต่อ ขสมก. ขนส่งเมียกู พ่อยิ้มหัวเราะ
ก็แค่นั้นแหละชีวิต เรื่องตลกเรื่องหนึ่ง สะท้อนชีวิตได้หลายแง่มุม คนแก่ๆมักว่างงาน กระทั้งมีเวลาเอาใจใส่เมียได้ขนาดไปรับส่ง แต่ผมงงอยู่ว่าเมียของชายคนนั้นเขายังทำงานอยู่ หรือเมียเขาอายุน้อยกว่าเขาจึงยังไม่เกษียณ หรือเมียเขามีงานทำที่ไม่ต้องเกษียณประเภทธุรกิจส่วนตัว งั้นก็หมายความว่าชายคนนั้นเกาะเมียกินน่ะสิ อย่างไรก็ตาม เรื่องเล่านี้บอกได้แน่ๆสองอย่างคือ ชายคนที่เล่าเรื่องนี้เป็นคนว่างงานซึ่งน่าจะเป็นสัจธรรมของคนวัยทอง อย่างพ่อกับแม่ผมก็ไม่รอดพ้นจากสัจธรรมนี้ อีกอย่างคือชายคนนั้นมีอารมณ์ที่ใช้ตักน้ำอาบ ... อารมณ์ขันครับ ฮา! สังเกตว่าจะเห็นจุดสาม มันคือเงียบกริบไง โทษทีมุกฮาสู้ท่านพ่อไม่ได้
แม่ก็เล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง คนข้างบ้าน ลูกชายเขาไม่ดี วันหนึ่งก็ได้ยินเสียงคนข้างบ้านด่าลูกว่า ไอ้ลูกอนาคต เพราะว่าเขาพูดคำว่าลูกอนาฐานไม่เป็น เลยต้องทู่ซี้ด่ามันไปว่าลูกอนาคต แม่ไม่ตลกเท่าพ่อ แต่แม่มักบอกว่าพ่อไม่ตลกซึ่งผมไม่เห็นด้วย ก็พ่อไม่ค่อยมีข้อดี ทั้งแก่ อ้วน หัวล้าน ไม่มีตังว์ แปลกที่แม่ยังหึงพ่อ ดังนั้นข้อดีที่มีไม่มากหนึ่งในนั้นก็คือ เป็นคนมีอารมณ์ดาบนี่แหละ .... อารมณ์ขัน หวังว่าคงตามมุกทันนะครับ ถ้ามันฝืดก็หาจาระบีมาหยอดกันเอง
ก็แค่นั้นแหละชีวิต เรื่องตลกเรื่องหนึ่ง จริงแล้วเรื่องนี้บอกได้ว่าคนเราจริงๆก็จดจำเรื่องดีๆไว้เหมือนกัน ใช่คำที่ว่าคนเรามักจะจดจำแต่เรื่องแย่ๆมันจะจริงเสมอไป อย่างเรื่องที่พ่อแม่ผมเอ่ยว่าด่าทอกัน มีบ่อยแต่มันมากครั้งจนไม่รู้จะเอาครั้งไหนหยิบยกมาให้จำจด เหมือนการเมืองยิงกันช่วงนี้ บ่อยๆเข้านักเรียนที่ต้องเรียนประวัติการเมืองก็ไม่รู้จะจำเอาวันไหนมาทำข้อสอบแล้ว อย่างไรเสียการจำเรื่องตลกได้ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างหนึ่งเลยว่า เรื่องตลกเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งของชีวิตคนเรา
ให้ผมนึกเรื่องตลก เรื่องแรกๆที่นึกได้คือเรื่องขี้ที่เขาชนไก่ ถ้าใครได้มีโอกาสไปเข้าค่ายรด.ที่เขาชนไก่ พอบอกว่าได้มีโอกาสไปไหนมาไหนมันเหมือนเป็นการบอกว่าการได้ไปค่ายที่เขาชนไก่นี่มันเป็นเรื่องดีมากในชีวิตเลยเชียว ผมก็ตั้งใจให้ฟังดูเหมือนแบบนั้นอยู่ เสียดายแต่ว่าตอนนั้นก็บอกแบบนั้นจริงๆไม่ได้ ใครไม่ได้ไปก็ดีแล้ว ไปค่ายทหารของจริงตอนเกณฑ์ทหารเลยดีกว่า น่าสนุกกว่าเยอะ แต่หากใครอดไปทั้งสองที่ ก็ไม่เป็นไรชีวิตคนเราหาเรื่องใส่ชีวิตได้อีกมากมายในหนทางข้างหน้าต่อไป
เรื่องขี้ที่เขาชนไก่มีอยู่ว่า ในวันที่สองของการเข้าค่าย ผมได้พลาดพลั้งด้วยอาหารบางจำพวกไปทำปะติกิริยากับบางจำพวกในท้อง ทำให้เกิดปั่นป่วยประสาทในท้อง ผมจึงรีบลิ้วตรงดิ่งไปเข้าห้องน้ำในช่วงพัก ปืนหนึ่งกระบอกกับเด็กหนุ่มว่าที่ร้อยตรี พอเสร็จการสงครามปราบปรามปั่นป่วนในท้องจบสิ้น ทันใด ผมมองไปรอบตัว เงื่อนตก รู้สึกพลาดท่าเสียทีข้าศึก ด้วยผมไม่รู้จะจัดการกับซากศพข้าศึกที่ทิ้งร่างคาอยู่ที่เบื้องก้นของผมอย่างไรดี มองไปรอบก็พบเพียงปืนกระบอกยาวปาบ ผมได้แต่ส่ายหน้ารู้สึกชอกช้ำหรือจะต้องเอาตูดไปขูดหัวปืนก็กระไร เกิดลั้นดาลคงได้ตายดับดิ้นอับอายด้วยตายแบบโดนระเบิดถังขี้ของจริง เห็นทีจะมีชื่อเสียเอาก็คราวนี้ ผมได้แต่นั่งยอง ลองล้วงลองคลำในกระเป๋ากางเกงได้ออกมาก็เป็นเงิน แบกส์ร้อยทั้งนั้น ห้าสิบ ยี่สิบมีอยู่ใบ นอกนั้นก็นามบัตร พลิกไปเจอบัตรประจำตัวนักเรียน นี่หรือผมต้องรูดบัตร ก่อนหน้าก็เคยมีที่แกล้งเอานิ้วรูดตูดชาวเพื่อนเขาแล้วเรียกว่ารูดบัตรอยู่บ้าง ไม่นึกฝันว่าวันนี้ต้องมารูดบัตรตนเอง พระเจ้า ห้วงคำนึกมีแต่ความสิ้นหวัง ปืน แบงส์ บัตร
ท้ายที่สุด ผมไม่ขอบอกว่าตอบจบของเรื่องเป็นอย่างไร หลายคนได้ฟังเรื่องนี้แล้ว เพราะเป็นเรื่องตลกที่มักนึกออก หากได้ผูกสัมพันธ์กันนานวันก็มักมีเรื่องนี้หลุดจากปากผม ใครสงสัยมากมาถามกับตัวได้ผมจะเฉลยให้ แต่ผมบอกไว้นะ จินตนาการคำตอบกันไว้ก่อนเลยจะสนุกกว่า
เรื่องนี้แฝงปรัชญาคติชั้นไว้เลยว่า บางครั้ง ปืนกับเงินก็ไม่ช่วยอะไร เหลือเชื่อ แม่งเกิดคติแบบนี้จากเรื่องที่ป่วงขนาดนี้ได้ คงขึ้นอยู่กับคนตีความ บังเอิญที่ผมมันนักยกย่องตัวเองตัวยงด้วยสิ
นึกย้อนไปช่วงเวลาคุยกับพวกเพื่อน เรื่องตลกมันก็มีมาบ่อยๆ เรื่องรับมุกเล่นมุกบางทีเลยสงสัยอยู่บ้างว่าทำไมคนถึงชอบดูรายการตลกหรือหนังตลก ผมคิดว่าบางทีคนที่ชอบดูเรื่องตลกอาจเพราะความคิดถึงเพื่อนก็เป็นได้ ดังนั้นบางทีเราอาจตีค่าความสำคัญของเรื่องตลกน้อยกว่าที่มันเป็นอยู่
ครั้งหนึ่งในช่วงมัธยมของชีวิต ผมเคยประสบเหตุประหลาดอย่างหนึ่ง ในห้องประชุม ช่วงช่องว่างของบางอย่างบนเวที พวกเราเหล่านักเรียนนั่งเรียงแถว อยู่ๆในแถวนั่งของชั้นผมก็มีเสียงหัวเราะเล็ดลอดดังขึ้นจากบริเวณเบื้องหน้า เสียงขำค่อยขยายกระจายเป็นวงกว้าง กระทั่งเพื่อนนั่งข้างผมขำ แล้วผมก็ขำ แล้วก็ขำกันไปทั้งหมด ผมถามเพื่อนที่นั่งข้างว่าเขาขำอะไร เขาไม่รู้ หลังจากนั้นด้วยได้ทราบข่าวลือว่ามีคนเล่นมุกที่ฮามาก และด้วยออร่าความฮาที่ขนาดไม่ได้เห็นมุกไม่ได้ยินมุกยังขำ ผมอยากรู้นักว่ามันมุกอะไรแล้วจากใคร แล้วก็รู้ความจริงขนได้ว่าเป็นฝีมือเพื่อนในกลุ่มกับผมนั่นเอง ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะผมทราบดีว่าเขาเป็นคนตลก จึงได้มีโอกาสถามไถ่และขอให้เขาเล่นมุกให้ดู ปรากฏว่าโครตฮาตามคาด ต้องเท้าความถึงโฆษณาเบรกเกอร์ในยุคที่ภราดร สีชาพันธุ์หรือพี่กระโฮ้ของเราโด่งดัง ประโยคเด็ดคือ เบรกเกอร์สั่งได้ดั่งใจ มาถึงตรงนี้หลายคนที่ยังไม่รู้มุกหรือไม่เคยได้เจอกับมุกนี้ตรงๆคงเดากันว่า คงแปลงคำอะไรให้ดูฮาๆ อย่างเบรกเกอร์ตุ๋ยได้ดั่งใจที่ออกแนวเกย์ไป หรือจะเป็น เบอเกอร์สั่งกินได้ดั่งใจ ที่ออกแนวเล่นคำคล้าย อะไรประมาณนี้
แต่ไม่ใช่
มุกของเพื่อนผมมันล้ำลึกกว่านั้นหลายขุมนัก
เบรกเกอร์สั่งได้ดั่งใจ นี่แหละมุกมัน ถ้าไม่สังเกตดีๆจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วภราดรเขาเป็นคนที่เสียงอู้ๆอี้ๆหน่อย พอเพื่อนคนนี้เอาจุดนี้มาล้อเลียนเสียงให้เสียงสูงขึ้นหน่อย มันเลยทั้งดูเหมือนและออกขำ นอกนั้นก็เพิ่มท่าทางโอเว่อร์แอ็กติ้งตามแบบฉบับโฆษณาเข้าไปอีก ประสานรวมกับการเบ้หน้าให้คล้ายปลากระโฮ้ที่สุด เท่านี้ก็ยังผลให้ฮาไปได้ทุกหย่อมย่านแล้ว
การขำ มันน่าแปลกที่ทำให้รู้สึกดี การขำที่ทำให้รู้สึกแย่ก็มีอยู่ แต่คนที่ขำย่อมเป็นคนที่รู้สึกดีอยู่แล้ว มีสัจธรรมอยู่ข้อหนึ่ง บอกว่าในโลกนี้ไม่ว่าจะอย่างไรท้ายสุดแล้วคนที่รู้สึกดีนั่นแหละคือผู้ชนะ ตัวอย่างเช่นถ้าทีมชาติไทยได้เข้าบอกโลก(ถ้านะ) แล้วเจอบราซิล ปรากฏว่าโดนไปยี่สิบประตู ทว่านาทีสุดท้ายทีมชาติไทยกลับยิงได้หนึ่งประตู หากมองจากสัจธรรมข้อนี้ ทีมชาติไทยก็เป็นฝ่ายชนะ ใครก็ต้องรู้สึกยิงบราซิลได้ อย่างน้อยคนที่ยิงมันก็ต้องแบบนั้น
การรู้สึกดีเหมือนจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเรื่องตลก คนตลกๆก็เลยจดจำเรื่องตลกไว้ ลืมเรื่องเศร้าๆ เรื่องน่าเบื้อที่ไม่น่าเล่า ทั้งที่เรื่องเหล่าก็มีคุณค่าในตัวของมันอยู่ แค่มันไม่บันเทิงให้ได้รู้สึกดีเท่านั้นเอง
ชีวิตอาจจะแค่นี้ หรือคนเราอยากให้มันมีแค่นี้กันแน่ แค่เรื่องตลก รับรู้ความรู้สึกดีเอาไว้ มองข้าม เก็บงำเรื่องเศร้าเสีย ทั้งที่หารู้ไม่ว่าเรื่องเศร้ามันก็ขายได้เหมือนกัน
หลังจากแม่เล่าเรื่องตลกจบ ผมก็ถามต่อไปถึงเรื่องอื่น คนถามบ้านนั้นมันบ้านไหน ไปๆมาๆสืบสาวราวไปถึงว่าแม่กับแม่ของแม่ไปอยู่กับพี่สาว กระทั้งออกมาอยู่คนเดียวตอนทำงาน จากนั้นไม่ต้องสงสัยให้มากความ แม่มาอยู่กับพ่อแน่นอน ผมรู้สึกตะหงิดๆตรงที่น้ำเสียงของแม่ตอนเล่าเรื่องตัวเอง น้ำเสียงไม่มั่นใจเหมือนตอนเล่าตลก ทั้งที่ผมก็อยากฟัง
ข้อนี้ผมจึงเอากลับมามองพิจารณาดูตัวเอง บางทีเรื่องพวกนี้มันคงเป็นเรื่องที่อยู่หมวดหมู่ของเรื่องที่เรียกกันว่าเรื่องส่วนตัว ไอ้ผมมันก็ไม่มีปัญหาในเรื่องจะฟังเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ที่จะมีปัญหาก็เคยการซักถามนี่แหละ เคยมีครั้งหนึ่งเท่านั้นที่เพื่อนบอกว่า มันเป็นส่วน(ด้วยความหมายว่าอย่าถามได้มั้ย) จากนั้นมาผมติดนิสัยที่จะไม่ถามเรื่องส่วนตัวของคนอื่นมาตลอด มีบางอารมณ์ที่อยู่ๆก็ถามบ้างแต่กรณีว่าต้องสนิทกันพอควรแล้ว คำถามเด็ดของผมในการถามเรื่องส่วนตัวเลยสำหรับแรกเริ่มรู้จักคือ มีพี่น้องมั้ยครับ เมื่อวิเคระห์ดูแล้ว มันเป็นคำถามที่สามารถแตกประเด็นไปยังเรื่องส่วนอื่นได้เยอะ กระนั้นคงดูเป็นคำถามที่ไม่ลุกล้ำเรื่องส่วนตัวมากเกินไป แต่ก็ไม่บ่อยที่ผมใช้คำถามนี้ เพราะไม่มีเหตุต้องอยู่กับผู้คนไหนนานบ่อยๆ แต่ก็คิดว่าขอแนะนำไว้คงไม่เสียหาย คำถามนี้เป็นคำถามสำหรับคนที่เพิ่งเข้าทำงานใหม่ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับคนใกล้ตัว ข้อควรระวังคือตอนที่ใช้คำถามนี้ต้องมีเวลาอยู่คุยกันสองต่อสองนานๆ ดูแปลกอยู่ที่ต้องมาสอนให้ถามคำถามแบบนี้กัน แต่สำหรับผมแล้วมันช่วยได้ในการจะปรับตัวเข้าหาคนอื่น อย่างน้อยก็ทำให้มีโอกาสได้บอกว่าเราเป็นใครและได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เพราะบางทีเวลาไม่คุ้นชินจะเกิดความเงียบแบบบรรยากาศอาคุขึ้น คำถามนี้แนะนำเลยพอจะกำจัดมาคุได้บ้าง
แล้วเรื่องที่สำคัญ ให้เลือกระหว่างเรื่องตลกกับเรื่องส่วนตัว หลายใครคงไม่เลือกเรื่องส่วนตัว เพราะดูยังไงคำว่าเรื่องส่วนตัวมันก็ฟังดูเห็นแก่ตัว เรื่องส่วนตัวมันจะถูกหยิบยกมาคู่กับเรื่องงาน
ยากนะที่จะคุยเรื่องงานกับกลุ่มที่เพื่อนคุยแต่เรื่องอื่น แค่คิดว่าจะคุยเรื่องนี้มันจะลำบาก ในส่วนหนึ่งคือลักษณะมันต่างกัน เรื่องตลกมันมีเป้าหมายชัดเจนว่าเอาไร้สาระ ไม่เอาเรื่อง เรื่องตลกคือเรื่องไม่เอาเรื่อง ขณะที่เรื่องงานมันเป็นขั่วตรงข้ามกันเลย หากไม่เตรียมหรือไม่อยู่ในสภาพพร้อมมันก็ยากเลย
กระนั้นผมก็พอจะสันนิษฐานสาเหตุได้ ท้ายที่สุดของชีวิต หากงานนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรื่องใฝ่ฝัน เรื่องงานคงเป็นเรื่องสุดท้ายหรือไม่ก็จะไม่เป็นเรื่องที่เราคิดถึงเลยก่อนเราจากโลกนี้ไป ดังนั้นไม่แปลกที่พอทราบว่าเป็นเรื่องตลก เอาโน๊ตอุดมมาเล่าเรื่องตลกแล้ว ทุกคนจะตั้งใจฟัง ขณะที่เอาดร.จมานบูกมาเล่าเรื่องการทำตัวเตรียมอนาคตสู่ชีวิตในโลกอุตสาหกรรมแรงงานไทยไปแรงงานโลกจึงมีคนหลับฝันถึงทอร์คโชว์โน๊ตอุดมที่เพิ่งดูเมือ่คืนแทน
นี่คือข้อพิสูจน์ที่ว่าเรื่องตลกเป็นสิ่งสำคัญ การเรียนสมัยนี้ยังต้องมีติดตลก ต้องมีมุก ไม่งั้นเด็กหลับตาย พอมาถึงตรงนี้ แม้แต่ตัวผมที่เป็นคนเขียนยังคิดเลยว่าเรื่องตลกที่แม่งชักจะโครตสำคัญขึ้นมากกว่าที่คิดๆไว้ตอนแรกก่อนเขียนแล้วว่ะ
ชีวิตหากไม่คิดมากอาจจะแค่นั้นจริงๆ แค่เรื่องตลก แต่การให้ความสำคัญกับเรื่องตลกมากเกินไป ก็ไม่เป็นการดี อย่างการพูดที่ดีต้องให้ได้เนื้อหาชัดแจ้งและต้องมีน้ำด้วย น้ำท่วมทุ่งอย่างที่ว่ากันมันก็ไม่ดี ทว่าสมัยนี้คนมันเคลียด ยังไงมีน้ำมากหน่อยก็ดี แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเนื้อ
เรื่องตลก เรื่องเศร้า เรื่องส่วนตัว เรื่องงาน ชีวิตมองในแง่วรรณกรรมบอกได้ว่าคือเรื่องราว มักมีเรื่องตลกในเรื่องเศร้า มักมีเรื่องส่วนตัวในเรื่องตลก มักมีเรื่องตลกในเรื่องงาน ทุกเรื่องราวร้อยโยงถกทอก่อเกี่ยวกันเป็นชีวิต
เหลือเชื่อแล้ว รวบยอดเรื่องสุดป่วงสิบย่อหน้าในใจความของย่อหน้าเดียว ฮา!
รู้สึกดีจัง พอเขียนมาได้ถึงนี่ แค่นี้ก็พอจะแก้ไข้อาการไม่รู้จะเขียนอะไรได้แล้ว ความหมายของชีวิต ค้นหามันเรื่อยๆก็สนุกดี แต่อย่าคิดมากดราม่าจัดจนรู้สึกแย่ไปนะครับ เพราะที่สุดแล้ว คนที่รู้สึกดีกว่าก็เป็นฝ่ายชนะ กับคนที่แข่งกับเรา หรือกับชีวิตก็เหมือนกัน




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2553   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2553 11:39:41 น.   
Counter : 452 Pageviews.  

ในโลกนี้ มีใครที่ไม่มีทุกข์บ้าง

ในโลก มีใครที่ไม่มีความทุกข์
ไม่ใช่ไม่เคยมีความทุกข์ แต่ ณ เวลานี้ที่ธำรงอยู่
ใครบ้างมีแต่ความสุข ไม่มีข้อทุกข์เลยแม้ประการ

ไม่มีงานเขียนใดสมบูรณ์พร้อม เฉกเช่นไม่มีความสิ้นหวังสัมบูรณ์
ข้อยกคำของใครก็ไม่รู้ที่มูราคามิยกขึ้นมาอีกที
ความสุขก็เช่นกัน ย่อมมีความทุกข์แฝงปน

เหมือนเหรียนย่อมต้องมีสองด้านเสมอ

หลายคนอาจปฏิเสธความทุกข์
นั้นคือก็ไม่ยอมรับตน
หรือก็ปลงอย่างหลุดพ้นกันแน่

คนรวยย่อมเกิดทุกข์จากการขวนขวาย หรือการรักษา
คนจนย่อนทุกข์จากการไม่มี
คนมีรักย่อนทุกข์จากรัก
คนไม่มีรักย่อมทุกข์จากการค้นหา
บางคนอาจปฏิเศธ
ตนไม่รักอาจไม่เดือดเฉกเช่นการหลดพ้น
แต่โดนธรรมชาติของมนุษย์ย่อมต้องการ

ธรรมชาติของเรา ทำให้เราทุกข์ และสุข

ผู้ที่ไร้ความสุขโดยสมบูรณ์ คงไร้ความทุกข์ เฉกเช่นทุกคำกล่าวอ้าง




 

Create Date : 04 ธันวาคม 2550   
Last Update : 4 ธันวาคม 2550 9:24:15 น.   
Counter : 268 Pageviews.  


AJ88
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบเตะบอล ชอบกินข้าว ชอบฟังเพลง ชอบอ่านหนังสือ ชอบตบยุง ชอบไปโรงเรียน ชอบนั่งรถไกลๆ ชอบคิดถึงเรื่องเก่าๆ ชอบดูละคร ชอบดูหนัง ชอบวาดรูป ชอบเล่นเกมส์ แต่ยังรู้สึกว่า ยังพอมีเวลาว่างอีกเยอะ
[Add AJ88's blog to your web]