เรื่องต่าง ๆ ของเสี่ยวป้างจื่อ ^_^
Group Blog
 
All Blogs
 

คำสาปดอกเบญจมาศ

ผลพวงจากการไปดูภาพยนตร์จีนซึ่งกำกับการแสดงโดยผู้กำกับชื่อดัง จางอี้โหมว นำแสดงโดยโจวเหวินฟะ กงลี่และโจวเจี๋ยหลุน





ชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ Curse of the Golden Flower หรือ ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง (ซึ่งจริง ๆ แล้ว อยากจะให้ชื่อไทยว่า "การแก้แค้นของสามีภรรยา" มากกว่า แต่ก็นะ ว่าอย่างไรก็ว่าตามกัน)





ก่อนอื่นขอสารภาพว่า ตอนแรกที่จะไปดูนั้น เป็นเพราะโจวเหวินฟะค่ะ ก็เฮียแกแสดงได้สุดยอดตั้งแต่ไหนแต่ไร กงลี่ไม่ค่อยอยู่ในความสนใจเท่าไหร่ แถมยังแอบคิดด้วยว่า ไม่มีใครแล้วใช่มั้ย ผู้กำกับถึงนำกิ๊กเก่าของตัวเองมาแสดง ส่วนโจวเจี๋ยหลุนนั้น เฉย ๆ ไม่อยู่ในสมองเลย









หลังจากที่ดูหนังจบแล้ว ก็ชอบนะคะ แม้ว่าบางครั้งจะดูไปคิดไปพูดไปว่า เค้าเล่นอะไรกันเนี่ย เล่นอารายกาน

ก็เพราะสงครามการสะสางความแค้นระหว่างสามีภรรยาคู่หนึ่ง ได้นำมาสู่ความตายของคนเป็นจำนวนมากซึ่งถูกใช้เป็นเครื่องมือของการแก้แค้นนั้น ไม่เว้นแม้แต่ลูกของตัวเอง







แน่นอน สิ่งที่จะได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากโฟรโมสท์ของสาว ๆ ซึ่งล้นไปล้นมาเพราะชุดที่แสนจะรัดติ้วนั้น คือ เลือด เลือดแดงฉานที่หลั่งบนลานซึ่งเต็มไปด้วยดอกเบญจมาศของผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ต้องทิ้งชีวิตของตนเองให้กับฮ่องเต้สุดอำมหิตและฮองเฮาสุดเก็บกด





โจวเหวินฟะ..ไม่ผิดหวัง เค้าเคยยอดเยี่ยมอย่างไรก็ยังยอดเยี่ยมอยู่อย่างนั้นเสมอ

กงลี่..ไม่แปลกใจว่าทำไมจางอี้โหมวถึงเลือกเธอมาแสดง ไม่มีใครเหมาะสมกับบทนี้เท่าเธออีกแล้ว

โจวเจี๋ยหลุน..แปลกใจและเซอร์ไพร์สมาก เค้าสามารถสวมบทบาทเป็นองค์ชายรองผู้น่าสงสารที่รักแม่อย่างสุดหัวใจแต่ก็ไม่ทรยศพ่อตัวเอง ได้ดีจริง ๆ


แต่ที่ชอบที่สุดกลับกลายเป็นเพลง ending title ซึ่งชื่อว่า Ju Hua Tai หรือ ลานเบญจมาศ ที่บรรเลงขึ้นมาได้อย่างถูกจังหวะจะโคนและกลมกลืนกับอารมณ์ของหนังได้เป็นอย่างดี จนทำให้หนังเรื่องนี้จบอย่างสมบูรณ์ ไม่ทำให้เกิดอารมณ์ค้าง แต่กลับยิ่งทำให้ดื่มด่ำกับเสียงดนตรีและเสียงคนร้องไปอีกหลายวัน ^_^


Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


周杰倫 - 菊花台




ทำนองโดย โจวเจี๋ยหลุน
คำร้องโดย ฟางเหวินซาน


หยาดน้ำตาเจ้า
วาววับด้วยความปวดร้าว
จันทร์เสี้ยวเมื่อครั้งอดีต
ดูซีดเซียวด้วยความหม่นหมอง
คืนหนาวที่ยาวนาน
พาลแปรเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง
ใครเล่าบนหอสูง
แน่นิ่งมิไหวติงด้วยความสิ้นหวัง

สายฝนโปรยร่างบางเบา
บนบานกระจกสีแดงชาด
ชะตาข้าถูกเขียนบนกระดาษ
แกว่งไกวกลางสายลม
ฝันอันไกลห่าง
เลือนลางดุจควันธูป
ระเหยหายในราตรี
เฉกเช่นมโนภาพของเจ้า

กลีบเบญจมาศร่วงหล่น
เกลื่อนกล่นบนผืนดิน
ดุจรอยยิ้มเจ้าบนม้วนจารึกเก่าคร่ำ
บัดนี้ใจเจ้าว่างเปล่า
ความนึกคิดของข้าหยุดนิ่ง
สายลมเหนือแผ่วพลิ้ว
ยังไม่ถึงยามรุ่งสาง
เงาของเจ้าที่ใกล้ชิดและเด่นชัด
คือสหายผู้เดียวแห่งวิญญาณข้า
เหนือทะเลสาป เงาคู่รักปรากฏ

กลิ่นหอมสดของสายลมยามค่ำ
ความงามอันมิสลัวเลือนลาง
กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง
ชะตาอันยากจะกลืนกล้ำ
ความเศร้าเอ๋ย อย่าได้ข้ามผืนน้ำ
ใจอันช้ำและอ่อนล้าอาจจมลง
ด้วยโหยหาอาวรณ์
เจ้าจะจรไปไม่ถึงอีกฟากฝั่ง

ขุนเขาและธารน้ำของใคร
ที่ส่งเสียงสะท้อนไหวดังกึกก้อง
เกราะของข้านั้นแหว่งวิ่น
สิ้นด้วยโมงยามที่ถูกแบ่งแยก
ท้องฟ้าค่อย ๆ เรืองแสง
เสียงเพรียกร้องที่นุ่มดุจแพรไหม
ถักทอสายใยราตรีแห่งความระทม
ช่างเปราะบางอีกทั้งริบหรี่

กลีบเบญจมาศร่วงหล่น
เกลื่อนกล่นบนผืนดิน
ดุจรอยยิ้มเจ้าบนม้วนจารึกเก่าคร่ำ
บัดนี้ใจเจ้าว่างเปล่า
ความนึกคิดของข้าหยุดนิ่ง
สายลมเหนือแผ่วพลิ้ว
ยังไม่ถึงยามรุ่งสาง
เงาของเจ้าที่ใกล้ชิดและเด่นชัด
คือสหายผู้เดียวแห่งวิญญาณข้า
เหนือทะเลสาป เงาคู่รักปรากฏ

เบญจมาศเอ๋ย เจ้าเพรียกร้อง
กลางค่ำคืนอันเย็นเหยียบ
ดุจรอยยิ้มเจ้าบนม้วนจารึกเก่าคร่ำ
บัดนี้ใจเจ้าว่างเปล่า
ความนึกคิดของข้าหยุดนิ่ง
สายลมเหนือพริ้วแผ่ว
จวนรุ่งสางแล้ว
เงาของเจ้าที่ใกล้ชิดและเด่นชัด
คือสหายผู้เดียวแห่งวิญญาณข้า
เงาเหนือทะเลสาปนั้น คือสองเรา


หมายเหตุ ขออภัยที่ไม่สามารถให้เครดิตแก่ผู้แปลได้ เนื่องจากเนื้อร้องซึ่งคัดมาจากดีวีดีไม่ได้ระบุไว้ค่ะ




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 19 มีนาคม 2551 11:45:57 น.
Counter : 1051 Pageviews.  

หิ่งห้อย

หิ่งห้อยจ้า หิ่งห้อย!!


แหม คงนึกในใจกันอยู่ใช่มะว่าตื่นเต้นอะไรนักหนา หิ่งห้อยก็หิ่งห้อยดิ แล้วงัย


เรื่องของเรื่องก็คือ คนมันไม่เคยเห็นอ่ะ แม้เพลาจะผ่านไปหลายหนาวแล้ว


เรื่องของเรื่อง (อีก) ตามตำนาน (ของโกคุงกะสาวอัง) หิ่งห้อยต้องอยู่ใต้ต้นลำพูใช่ป่ะ แต่ที่เห็นเนี่ย มันอยู่ใต้ต้นมะม่วง!!


เรื่องของเรื่อง (อีกนั่นแหละ) คือ ในขณะที่พรรคพวกกำลังโย้ว โย้วกะคอนเสิร์ตอยู่นั้น ข้าเจ้าได้รับมอบหมายให้ไปเฝ้าบ้านสวนของคุณย่าผู้มีพระคุณท่านหนึ่งซึ่งหลานท่านไปสวรรค์เสียแล้ว ขณะที่กำลังคิดกรอด กรอดอยู่ในใจว่า ตรูมาทำอารายอยู่ที่นีเนี่ย น่าจะไปเอ็นจอยคอนเสิร์ตกะชาวบ้านเค้าที่อิมแพคมากกว่า ฉับพลันทันใดนั้นเอง หิ่งห้อยตัวน้อยตัวหนึ่ง (ตั้งหนึ่งตัวแน่ะ เห็นทั้งที) ก็บินเข้ามาใกล้หน้าต่างที่กำลังยืนอยู่


หิ่งห้อยตัวน้อย บินเวียนวนขึ้นลงอยู่พักเล็ก ๆ ใต้ต้นมะม่วง (ใจอยากจะบอกเหลือเกินว่าเป็นต้นลำพูเพื่อความโรแมนติก แต่ก็หักห้ามใจไม่อาจกระทำได้เนื่องจากไม่มีโกโบริคุงมาอยู่ใกล้ ๆ T_T ) หมายจะอวดความสวยงามให้เห็น (ซึ่งก็สวยจริง ๆ ทำเอาตะลึงไปเลย)


เหมือนกับตกอยู่ในพวัง ข้าเจ้ายืนชื่นชมดื่มด่ำกับความสวยงามของสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งซึ่งธรรมชาติได้สร้างมา ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่ข้าเจ้ามากกว่าคอนเสิร์ตซะอีก


'ขอบคุณค่ะ คุณย่า' คำ ๆ แรกที่แว่บขึ้นมาในสมอง พร้อมกับรอยยิ้มเมื่อหิ่งห้อยตัวน้อยค่อย ๆ บินจากไป




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2550    
Last Update : 2 สิงหาคม 2550 13:59:59 น.
Counter : 436 Pageviews.  

อาหารเกาหลี

นัดกับพี่ เพื่อนและน้อง ๆ ที่ทำงานไปทานอาหารเกาหลีกัน ก็ร้านประจำอ่ะนะ "คุณคิม" (Korean Barbeque) ที่ตึก Time Square เพราะว่าอยากกินหมูย่าง (บุลโกกิ) พิซซ่าเกาหลี (พาจอน) ข้าวยำ (พีพิมผับ) และซุปกิมจิ (กิมจิชิเกะ) จริง ๆ แล้วร้านประจำยังมีอีกร้านที่สุขุมวิทพลาซ่า ชื่อร้านดูเร ดูเร แต่คราวนี้ยังไม่ได้ไปเพราะอยากกินหมูย่างอร่อย ๆ และพวกที่ไปก็ยังไม่เคยกินอาหารเกาหลีเลย ยกเว้นน้องคนนึงที่เคยไปแล้วและติดใจอยากกินพิซซ่าและพีพิมผับมั่ก ๆ เนี่ยแหละ ร้านคุณคิมดีที่สุด


ไหน ๆ ก็สนองนี้ดทั้งทีเลยกินไปเยอะมากก เสียดายที่ลืมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ทั้งคนไปกินและอาหารที่กินทั้งก่อนและหลังกินแล้ว แต่คิดอีกทีว่าลืมถ่ายก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าใครมาเห็นคงสยองและคิดว่า กินหรือนั่น! แหมก็นะ ไม่ได้ไปกินนานนมากก ไปถึงที่แล้วจะไม่กินให้หายอยากได้อย่างไร หนุ่ม ๆ ก็ปาเข้าไปตั้ง 3 คน ไม่เคยกินอาหารเกาหลีเลยซักกะคน คนนึงไม่ชอบข้าวยำ อีกคนนึงก็กินได้เรื่อย ๆ แต่ชอบเอาไปเปรียบกับอาหารญี่ปุ่น (เพราะแกสนใจญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม เรียนภาษาญี่ปุ่น ไปทำงานที่ญี่ปุ่น โอ้ว เกือบจะกระซิบบอกแล้วว่า อย่าพูดในร้านเกาหลีซิเฟ้ย มันเป็น sensitive issue ถ้าอยากมีชีวิตรอดกลับบ้านก็ควรเงียบ ๆ ไว้) ส่วนพี่ที่อาวุโสที่สุดได้แต่ทานเงียบ ๆ ผิดปกติทำเอาคนพาไปเครียดว่ากินได้รึมะด้ายเนี่ย (แกรก แกรก)


ขนาดกินเรื่อย ๆ และเงียบ ๆ นะ มีสั่งเพิ่มคร้าบ (เซทแรกไม่เครือท้องหนุ่ม ๆ เค้าหรอก) คือ หมูสามชั้นย่างกะคอหมูย่าง (ฟังแล้วไม่เหมือนกินอาหารเกาหลีเลยแฮะ) แล้วก็ซุปสาหร่าย (เลยถือโอกาส Happy Birthday ให้ตัวเองซะเลย อิอิ เพราะคนเกาหลีจะทำซุปนี้ในวันเกิดน่ะ เชื่อว่าจะทำให้มีสุขภาพดีตลอดปี)


กิน กิน กินและกินจนหมด..ทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ผัก (ไว้กินกะหมูย่าง) หรือแม้แต่กิมจิ (โอ้ กินนะเนี่ย) ขณะที่กำลังลูบพุง (ที่กาง) อยู่นั้น น้องอีก 2 คนก็โทรมาบอกว่าจะมา join ตอนนี้อยู่บนรถไฟฟ้า ใกล้ถึงอโศกแล้ว เอ๋ยย ไม่ไหวแล้วเฟ้ย ทำไมเอ็งไม่มาเร็วว่านี้ฟระ เอ จาเอายังงัยดีเนี่ย สงสารน้อง อุตส่าห์ตามมา (ตอนแรกคิดว่าจะไม่มาซะแล้ว) เออ ๆ กินอีกรอบก็ได้ (อ้าวว)


ปิ้ง! ไอเดียเด็ด ๆ เกิดขึ้นมาแว้ว ฮ่าฮ่า พาไปกินบะหมี่ดีก่า อร่อยด้วย อยากกิน (อีก) ด้วย โชคดีที่น้องเค้าอยากกินบะหมี่พอดี ได้เลย เสร็จเรา ก็เลยออกจากร้านคุณคิมประมาณทุ่มนึง เดินข้ามฟากไปในซอยวัฒนา จาจังมยอน (บะหมี่ซีอิ๊วดำ) จาจังมยอน อยากกินจัง แต่ตรูไม่มีท้องจะใส่แล้ว!


พอมาถึงร้านก็โชว์พาวด้วยการพูดเกาหลีกะเจ้าของร้านเพราะคิดว่าเค้าพูดไทยไม่ได้ (ที่ไหนได้กลับพูดได้มากกว่าครั้งที่แล้วที่ไปกินอีก) ทำเอาเพื่อนกะน้องมองด้วยความประทับใจ โห (พี่) เก่งสุด ๆ พูดกะเค้าได้ด้วยเหรอ เหอ เหอ ได้นิดเดียวเอง (น้อง) เค้าพูดอารายต่อ (พี่) ก็ไม่รู้เรื่องแล้วแต่พอเดา ๆ ได้นิดโหน่ย


เอ้า! สั่ง สั่ง จาจังมยอน (บะหมี่ซีอิ๊วดำอันเลื่องลือ) จัมปง (คล้ายบะหมี่ซีฟู้ดต้มยำน้ำข้นบ้านเรา) แน่อยู่แล้น แต่ไอ้จานตรงกลางจะเอาอะไรดีเนี่ย เคยกินแต่อาหารในเมนูเบอร์ 8 ตอนมากับอาจารย์และเพื่อน ๆ คลาสเกาหลีสมัยโน้น จำได้ว่าเหมือนหมูชุบแป้งทอดผัดเปรี้ยวหวาน ก็อร่อยดีแต่หวานไปหน่อย แต่ตอนนี้เมนูเค้าพัฒนาแล้วนะคร้าบ มีรูปประกอบด้วย "เอา ไอ้นี่ละกันพี่" อาราย ไอ้นี่คือไรเหรอ เอ๋อ meat ball แหมเรียกซะหะรูหะรา ก็คล้าย ๆ หมูก้อนผัดน้ำแดงอ่ะนะ จะอร่อยมั๊ยเนี่ย เออ กินก็ได้ ลองดู ก็โอเคนะ อร่อยใช้ได้เลย มีเห็ดหอมด้วย


แม้จะอิ่มมากแล้ว แต่ก็ยังกินเข้าไป (ได้อีก) จาจังมยอนหน่อยนึง จัมปงอีกนิด pork ball อีกหน่อย ตบท้ายด้วยแตงโมแช่เย็นหวานกรอบ โอ๊ยย ท้องช้านจาแตกแล้ว ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี โห ยิ่งกว่ากิน Sizzler กะเพื่อนอีก ตอนนั่งไม่เท่าไหร่ แต่ตอนเดินออกจากร้านไปขึ้นรถไฟฟ้าเนี่ยดิ โคตะระอึดอัด หนังท้องตึงมั่ก ๆ


ถึงเวลาแยกกับทุกคนประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง อารายจามาราธอนขนาดนั้น กินตั้งแต่ 6 โมงเย็นยัน 2 ทุ่ม ทำได้งัยเนี่ยตรู แต่ก็ดีใจนะที่ทุกคนบอกว่าชอบ บอกว่าอร่อย ติดใจอยากกินอีก ทำเอาคนที่พามาชื่นใจ


แล้วจะพาไปกินอีกจ๊ะ สัญญา ๆ ^_^




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2550    
Last Update : 2 สิงหาคม 2550 13:43:18 น.
Counter : 399 Pageviews.  

เทสต์ เทสต์

เย้ มีพื้นที่ของตัวเองในบล็อคแกงแล้วน้า ดีใจจัง ^O^

ยังทำอะไร ๆ ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ เพราะยังเป็นมือใหม่อยู่อ่ะค่ะ แต่ก็จะพยายามเต็มที่เลย

ใครอยากจะแนะนำอะไรก็เชิญได้นะคะ




 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 24 กันยายน 2551 16:08:32 น.
Counter : 387 Pageviews.  

1  2  3  

เสี่ยวป้างจื่อ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"Yesterday is History. Tomorrow is Mystery. Today is a Gift. That is why it is called Present."
Friends' blogs
[Add เสี่ยวป้างจื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.